ตอนที่405 การสื่อสารพูดคุยกันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ตอนที่405 การสื่อสารพูดคุยกันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หลังจากที่จิดาภาเซ็นสัญญาแล้วนั้น เธอยิ่งมีความตั้งใจในการเตรียมตัวเองมากขึ้น ตั้งแต่บทจนถึงฉากแอ็คชั่น เธอตั้งใจในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก อีกทั้งเพื่อให้เข้าถึงบทบาทได้นั้น จิรภาสได้ให้ครูฝึกศิลปะการต่อสู้มาสอนจิดาภาที่ห้องฟิตเนสที่บ้านของพวกเขาอีกด้วย ฝึกฝนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน พยายามให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นมาตรฐานมากที่สุด หลังจากที่จิดาภาฝึกฝนเพียงไม่กี่ครั้งนั้น คุณสมบัติเฉพาะตัวของเธอนั้นก็ยิ่งดูมีความชำนาญมากขึ้น อีกทั้งท่วงท่าในการจับปืนและฉากต่อสู้ต่างๆนั้นก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองแล้ว การพัฒนาเช่นนี้นับว่าไปได้ไกลมากแล้ว พี่นัฎที่มาดูจิดาภาฝึกซ้อมนั้นล้วนแต่เอ่ยชื่นชมจิดาภาอย่างไม่ขาดปาก “ทางทีมผู้กำกับตาถึงจริงๆ เธอตั้งใจฝึกซ้อมขนาดนี้ ผลที่ออกมาจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน” “คาดว่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ” จิดาภาใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อ เธอเองก็จะพยายามให้เต็มที่ หวังว่าจะไม่ทำให้คนที่ชื่นชอบเธอต้องผิดหวัง “เอาล่ะ ช่วงเช้าฝึกแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ พี่เตรียมอาหารกลางวันที่เสริมสร้างร่างกายไว้ ทานด้วยกันนะ” จิดาภาพยักหน้า ทั้งสองคนจึงเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร แล้วจู่ๆพี่นัฎก็หยุดชะงักไป “จริงสิ วันนั้นพี่เห็นว่าพระเอกของเรื่องคือปรียส จะให้พี่ไปสืบข้อมูลของเขาเสียหน่อยไหม ยังมีนวาระนั่นอีก ตอนแรกเธออยากจะได้ตำแหน่งนางเอกของเรื่องนะ ตอนนี้กลับมากลายเป็นนักแสดงสมทบ เธอจะเต็มใจหรือเปล่า?” “ดูเหมือนว่าช่วงนี้คุณตฤณจะสอนพี่มาเป็นอย่างดีเลยนะคะ รู้จักระวังตัวขึ้นเยอะเลย ถ้าหากพี่มีเวลาก็หาข้อมูลไว้ก็ได้ค่ะ” “พี่นัฎพยักหน้า เพียงแต่เพิ่งจะนั่งลงได้ไม่นาน สีหน้าของเธอก็มีความลังเลขึ้นมา ตอนที่ทานข้าวกันนั้นสติดูไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ช่วงนี้ที่บริษัทฝึกอบรมหนักเลยหรือ?” จิดาภาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่ใช่เรื่องที่บริษัทหรอก คือพี่กับคุณตฤณ.....เราวางแผนจะมีลูกกัน แต่เตรียมพร้อมร่างกายเพื่อจะมีลูกกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ดูจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย พี่กังวลน่ะ ว่าจะเป็นเพราะพี่อายุมากเกินไปหรือเปล่า จึงตั้งท้องไม่ได้ง่ายๆแบบนั้น?” จิดาภาวางตะเกียบลง “หลังจากตรวจแล้วคงถึงจะรู้หรือเปล่าคะ? พี่อย่าเพิ่งคิดไปเองเลยนะ ลองคุยเรื่องนี้กับคุณตฤณดูก่อน” เรื่องระหว่างสามีภรรยาก็ต้องต้องร่วมกันเผชิญอยู่แล้ว ถ้าหากเจอเรื่องราวหรือปัญหาแล้วไม่คุยกัน ยังจะเรียกว่าสามีภรรยากันได้อยู่อีกหรือ? เมื่อได้ยินจิดาภาพูดดังนั้น พี่นัฎจึงพยักหน้ารับ “อืม เดี๋ยวกลับไปพี่จะคุยกับคุณตฤณดู” จิดาภาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดโทรออกหาจิรภาส เธอเข้าใจพี่นัฎดี หากให้เธอกลับไปพูดนั้น เธอจะต้องพยายามจะหลีกเลี่ยงแล้วก็ยืดเวลาออกไปอีกอย่างแน่นอน หลังจากนั้นตัวเองก็เก็บเอามาคิดไปเอง “ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ?” “ไม่ครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ว่ามาเถอะครับ” ทุกครั้งที่จิรภาสได้รับสายจากจิดาภานั้น แววตาของเขานั้นจะดูอบอุ่นขึ้นมาเป็นอย่างมาก “คุณตฤณอยู่ไหมคะ? พี่นัฎอยู่ทานเข้าเป็นเพื่อนฉันที่บ้านของเรา พอดีว่ามีเรื่องจะคุยกับคุณตฤณน่ะค่ะ” จิรภาสยื่นโทรศัพท์มือถือส่งให้กับตฤณ “หาคุณน่ะ” ตฤณรู้สึกอึ้งไป ทำไมภรรยาของประธานของเขาต้องการจะหาเขากัน? จิดาภาเองก็ส่งโทรศัพท์มือถือของตัวเองส่งให้กับพี่นัฎเช่นกัน พี่นัฎตื่นเต้นเสียจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร จิดาภาลุกขึ้น “โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้วนะคะ รักษามันไว้ให้ดีๆ ฉันไปห้องน้ำก่อน” ถ้าหากเธออยู่ พี่นัฎคงจะไม่กล้าพูดอะไรออกมา หลังจากที่ตฤณกับพี่นัฎคุยกันแล้วนั้น สีหน้าดูจริงจังขึ้น แล้วจึงเอ่ยบอกกับเธอไปว่า “ผมรู้แล้วครับ เรากลับไปคุยกันที่บ้านนะ คุณวางใจได้ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง” บางครั้งการได้พูดสิ่งที่ผูกกันอยู่ในใจออกมานั้น คนสองคนได้พูดคุยกัน จะทำให้การแก้ปัญหานั้นรวดเร็วยิ่งขึ้น ตฤณเอาโทรศัพท์มือถือของจิรภาสวางกลับคืนให้เขาบนโต๊ะ แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องลูกจะทำให้พี่นัฎต้องรู้สึกกดดันถึงเพียงนี้ ดูๆแล้วเขาคงจะต้องคุยกับพ่อแม่ของเขาก่อน แล้วค่อยมาคุยกับพี่นัฎอีกที ไม่ใช่ว่าเขาจะต้องการในทันที เพียงแต่อยากจะเอาเรื่องนี้ให้อยู่ในแผนของพวกเขาเพียงเท่านั้น ....... ตกกลางคืน ตอนที่จิรภาสกลับมาบ้านนั้น จิดาภาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ หลังจากที่ฝึกฝนมาหนึ่งวันนั้น เธออยากจะล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับให้สบายยิ่งนัก แต่จิรภาสพาเธอออกมายังห้องรับประทานอาหารเสียจนได้ “ถึงจะเหนื่อยก็ต้องทานอะไรก่อนนะครับแล้วค่อยนอน ไม่อย่างนั้นกระเพาะคุณจะมีปัญหาเอาได้นะ” จิดาภาจึงนั่งลงตรงโต๊ะอาหารอย่างว่าง่าย “วันนี้ฉันโทรหาคุณตฤณ เขามีอาการเป็นอย่างไรบ้างคะ?” “ก็เหมือนกับตอนทำงานนะครับ” จิรภาสตอบกลับไป “อ่อ.....” จิดาภาพยักหน้ารับ “จริงๆแล้วพี่นัฎเล่าเรื่องของพวกเขาให้ฉันฟังค่ะ ฉันไม่ต้องยื่นมือเข้าไปก็ได้ เพียงแต่รู้สึกว่าในเรื่องของความรู้สึกพี่นัฎมักจะมองว่าตัวเองต่ำต้อย แต่บางทีคำพูดบางอย่างถ้าไม่พูดออกมาให้เข้าใจ ก็อาจจะทำให้เกิดความแตกต่างกันทางความคิดได้ไปตามเวลา ฉันไม่อยากเห็นพวกเขาเป็นแบบนั้นค่ะ” “ผมเข้าใจครับ” จิรภาสจับมือเธอ แต่ช่วงนี้เธอฝึกจับปืนและการต่อสู้ ทำให้ปลายนิ้วของเธอนั้นด้านขึ้นมาเล็กน้อย เขาจับปลายนิ้วเธอด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ แล้วจูบลงไปบนริมฝีปากเธอเบาๆ “ผมไม่อยากให้คุณจริงจังกับการซ้อมขนาดนี้เลยครับ” จิดาภาพิงอยู่ตรงหน้าอกของเขา “ถ้าฉันไม่พยายามแบบนี้ คุณจะยังรักฉันแบบนี้ไหมคะ?” “รักสิครับ.....” “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะพยายามให้มากขึ้น พิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็น ว่าภรรยาของคุณไม่ได้มีดีเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก แบบนี้ถึงคุ้มค่ากับความรักของคุณอย่างไรล่ะคะ” หลังจากที่เห็นจิดาภาทานข้าวต้มไปหนึ่งถ้วย แล้วตามด้วยของหวานอีกเล็กน้อยแล้วนั้น จิรภาสถึงได้รู้สึกว่าเธอจะไม่หิวแล้ว “ต่อไปอยู่ที่กองถ่าย ก็ต้องทานข้าวให้ตรงเวลานะครับ ไม่อย่างนั้นผมจะไม่ยอมให้คุณถ่ายอีกแล้วจริงๆด้วย” “รับทราบค่ะ!” จิดาภาหัวเราะออกมา ไม่ว่าโลกภายนอกจะตั้งข้อสงสัยในตัวเธออย่างไร เธอก็จะยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวเดินออกไปในทุกๆก้าวให้ดีที่สุด เพื่อตัวเธอเอง และก็เพื่อจิรภาสด้วยเช่นกัน จิรภาสลูบผมยาวๆของเธอ ภรรยาของเขาจะใช้เส้นสายอย่างนั้นหรือ? ดูเหมือนว่าเขาจำเป็นต้องลบล้างคำครหาพวกนี้ให้กับเธอเสียแล้ว รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จะต้องเป็นของเธอ และไม่นาน พิธีการบวงสรวงเปิดกล้องเรื่องชั่วฟ้าดินสลายก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ แฟนคลับของจิดาภาต่างก็พากันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มีแฟนคลับหลายๆคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อรีบมาให้ทัน เพียงเพื่อที่จะได้มาสัมผัสตัวศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบใกล้ๆแบบนี้ซักครั้ง ตั้งแต่จิดาภากลับเข้ามาในวงการจนถึงตอนนี้ ผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับแฟนคลับของเธอหลายๆคนด้วยเช่นกัน สำหรับแฟนคลับจิดาภาแล้ว ในโลกนี้จะไม่มีความยากลำบากใดๆที่จะมาทำให้พวกเธอล้มลงได้ เพียงแค่จิดาภายังอยู่ในวงการบันเทิงนี้ ความมั่นใจและความศรัทธานี้จะไม่มีวันลบเลือนไปอย่างแน่นอน ในช่วงพิธีเปิดกล้องนั้น นักแสดงหลักของเรื่องอยู่ในงานกันทุกคน นั่นก็คือ จิดาภาจะได้พบกับพระเอกของเรื่องอย่างปรียสและนักแสดงหญิงสมทบอย่างนวาระอย่างเป็นทางการนั่นเอง เหลือเวลาอีกประมาณยี่สิบกว่านาทีจะถึงเวลาเริ่มพิธีเปิดกล้อง บรรดานักแสดงทยอยกันเดินเข้าไปยังห้องพักผ่อนเพื่อเติมเครื่องสำอาง ปรียสโด่งดังมาจากรายการประกวด หน้าตาคมเข้ม ทำให้เป็นที่น่าประทับใจ หากเวลาที่เขาไม่ยิ้มนั้น จะให้ความรู้สึกทำให้คนต้องเว้นระยะห่างออกจากเขาแบบนั้น ดูจากลักษณะรูปลักษณ์ภายนอกแล้วนั้น เขาคล้ายกับพระเอกในเรื่องเป็นอย่างมาก ดูแล้วนี่คงจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชนุดมเลือกเขานั่นเอง ส่วนทางด้านนวาระนั้นเธอปรากฏตัวด้วยชุดกระโปรงยาว ดูมีรสนิยมไม่เลวเลยทีเดียว คนที่มาพูดคุยหรือทักทายเธอนั้น เธอจะตอบพร้อมมีรอยยิ้มตอบกลับไป ราวกับเป็นคนที่เข้าหาได้ง่ายอย่างไรอย่างนั้น “ยินดีด้วยนะคะ เชื่อว่าพวกเราจะร่วมมือกันด้วยความราบรื่นค่ะ” นวาระยื่นมือออกไปหาจิดาภาก่อน แล้วเอ่ยกับเธอ จิดาภาจับมือเธอกลับพร้อมทั้งยิ้มและตอบกลับไปด้วยเช่นกัน “ฉันก็เชื่อแบบนั้นค่ะ” “เอาล่ะค่ะ ใกล้เวลาแล้ว เดี๋ยวจะมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ด้วย ขอเชิญนักแสดงทุกท่านเตรียมตัวขึ้นเวทีนะคะ” ทางทีมงานตะโกนขึ้นมา “ไม่ว่านักข่าวจะถามคำถามที่ดุเดือนขนาดไหน ขอให้ทุกคนผ่อนคลายไว้นะครับ” ชนุดมเองก็เดินเข้ามาเช่นกัน แล้วเอ่ยพูดกับเหล่าบรรดานักแสดงของเขา