已经是第一章了
ตอนที่409 หยั่งเชิง
ตอนที่409 หยั่งเชิง
เธอสามารถที่จะยังไม่ต้องเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาในตอนนี้ได้ แล้วก็ยอมที่จะสละบทนางเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ เนื่องจากเธอรู้แล้วว่าไม่เพียงแค่จิดาภาที่ฉลาดและไม่สามารถหาเรื่องได้ง่ายๆเพียงเท่านั้น จิรภาสที่อยู่เบื้องหลังจิดาภานั้นเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดที่จะสามารถคุกคามชีวิตของเธอได้เช่นกัน
ถ้าหากจิดาภาโดนพวกเธอทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ จิรภาสคงจะไม่ยอมยุติเรื่องนี้ง่ายๆแน่ เขาคงจะไม่คำนึงถึงเรื่องใดๆเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมนี้กลับคืนมาให้จิดาภาอย่างแน่นอน
นวาระนึกตอนที่ตัวเองอยู่ในฉากสายตาที่เย็นชานั้นที่มองมายังตัวเอง ทำให้เธอรู้สึกหนาวจนตัวสั่น ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวมากจริงๆ
หลังจากที่ปรียสได้อ่านข้อความที่นวาระส่งมาให้เขาแล้วนั้น จึงหัวเราะออกมาอย่างไม่ใส่ใจอะไร
นวาระไม่ได้รับการตอบกลับของปรียส ในใจยิ่งรู้สึกร้อนรนยิ่งขึ้น เธอเข้าใจนิสัยของเขาดี หากทำไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็จะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรจิดาภาได้จริงๆ มิเช่นนั้นจะทำให้พวกเธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่าเดิม หรือเธอควรจะไปทำดีกับจิดาภาดี หากเกิดอะไรขึ้น เธอก็อาจจะยังสามารถพอช่วยพูดได้บ้าง
“พี่จิดาภา ยังจะต้องจับตามองพวกเขาต่อไหมคะ?”
“นวาระทางนั้นคงจะไม่มีเรื่องอะไรแล้วล่ะ ส่วนทางปรียส....ฉันขอคิดก่อนแล้วกัน” ตอนนี้จิดาภาเคยเจอปรียสเพียงแค่สองครั้ง ทุกครั้งที่เจอเขาเธอจะรู้สึกไม่เบิกบานใจซักเท่าไหร่นัก ทั้งยังให้ความรู้สึกคาดเดาอะไรไม่ได้เลย ราวกับว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว จะต้องระวังเขาเอาไว้ให้มาก
อย่างน้อยก็จะต้องหาจุดอ่อนของเขาให้เจอ......
เดิมทีแล้วจิดาภานั้นเป็นม้ามืด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนางเอกของชนุดม ทำให้นวาระต้องกลายมาเป็นเพียงนักแสดงสมทบ หลายๆคนในกองถ่ายต่างก็พากันแอบวิพากษ์วิจารณ์ รู้สึกว่าจิดาภาไม่มีคุณสมบัติมากพอ อีกทั้งที่นวาระไม่ได้เป็นนางเอกเรื่องนี้ กลับได้รับบทเพียงนักแสดงสมทบ กลับทำให้เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่แสนดีให้กับคนที่มองมาจากข้างนอกเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้นั้นทุกคนต่างก็พากันมองจิดาภาไปในทางที่ไม่ดี แต่เพียงแค่สองสามวันที่ถ่ายทำกันมานี้ ทุกคนต่างก็พากันชื่นชมและตกใจในทักษะการแสดงของเธอด้วยกันทั้งสิ้น และชื่นชมในคุณสมบัติประจำตัวเธออีกด้วย คนในกองล้วนแต่พากันยอมรับเธอเป็นเสียงเดียวกัน
โดยเฉพาะตอนที่จิดาภาถ่ายฉากสู้กันกับนวาระ คุณสมบัติที่อยู่บนตัวเธอนั้นเมื่อเทียบกับนวาระแล้วนั้นเธอชนะขาด ทุกคนก็เริ่มค่อยๆเข้าใจแล้ว ว่าทำไมระหว่างเธอทั้งสองคนชนุดมจึงเลือกจิดาภาเป็นนางเอกของเรื่อง
และทุกครั้งที่ยืนอยู่ตรงหน้าจิดาภา นวาระที่แสดงฉากแอ็คชั่นกับเธอนั้นจะรับรู้ได้อย่างชัดเจน ตอนแรกเธอเองก็ไม่เชื่อ แต่หลังจากที่ถ่ายกับเธอไปสองฉากแล้วนั้น ในที่สุดเธอก็รู้แล้วว่าเมื่อก่อนตัวเองพลาดอะไรหลายๆอย่างไร้เหตุผลเหลือเกิน จิดาภาไม่ใช่เพียงแค่อาศัยรูปร่างหน้าตาแล้วพึ่งพาเบื้องหลังของตัวเองเพียงเท่านั้น เธอมีความสามารถที่เหมาะสมกับการเป็นนางเอกมากจริงๆ
อีกทั้งเธอไม่เพียงแค่แสดงดีเท่านั้น เธอยังสุภาพอ่อนโยนกับทีมงานในกองถ่ายทุกคนอีกด้วย ทุกครั้งที่ผู้กับกำและรองผู้กำกับเสนอแนะความคิดวิธีการออกมา เธอก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ได้มาร่วมงานกับเธอ ได้รับแรงกดดันก็จริงอยู่ แต่ก็นับว่าโชคดีมากเช่นกัน
อีกอย่าง เธอก็ไม่ได้ใช้ตัวแสดงแทนเลย ฉากแอ็คชั่นในทุกๆฉากเธอจะเป็นคนแสดงเอง ท่าทางตรงไหนที่แสดงออกมาอย่างติดขัดไม่ราบรื่น เธอก็จะหาเวลาไปฝึกกับโค้ช ความตั้งใจนี้ของเธอ เป็นสิ่งที่นวาระไม่เคยมีเลยตั้งแต่เข้าวงการมา
นวาระยืนมองจิดาภาจากทางด้านหลังอยู่ไม่ไกล มองเธอเช็ดเหงื่อตัวเอง แล้วหลังจากนั้นก็ฝึกฝนต่อ......
เนื่องจากคิวต่อไปจะต้องถ่ายฉากต่อสู้นี้ จิรภาสมาถึงสถานที่ถ่ายทำอย่างตรงเวลา มีทางทีมงานเอ่ยทักทายเขาขึ้น “ประธานจิรภาสครับ มาดูงานอีกหรือครับ?”
ตอนนี้ทุกคนเคยชินไปกับการปรากฏตัวมายังกองถ่ายของเขาไปเสียแล้ว เนื่องจากทุกครั้งเขาไม่เคยหายไปเลยแม้แต่ครั้งเดียวในฉากที่จิดาภาแสดงฉากต่อสู้นี้ คนที่รักภรรยามากขนาดนี้คงจะไม่มีใครอีกแล้ว.......
“ทางด้านนอกมีรถขายอาหารอยู่ เดี๋ยวทุกคนเลิกกองแล้วไปทานอาหารกันนะครับ ถือว่าผมเลี้ยงขอบคุณแทนคุณจิดาภาแล้วกันครับที่ทุกคนดูแลเธอเป็นอย่างดี”
“ขอบคุณค่ะคุณจิรภาส!”
จิรภาสยิ้มออกมาอย่างมีความหมาย เขาหันกลับมา พบว่าสายตาของนวาระที่กำลังมองจิดาภาอยู่ดูมีความซับซ้อน สายตาเขาจึงเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที
และวินาทีต่อไปนั้น นวาระส่ายหน้าอย่างใจลอย แล้วจึงรีบเดินกลับออกไป
เธอกลัวว่าจะถูกจิรภาสจับได้ถึงความผิดปกตินี้ และยิ่งกลัวว่าปรียสจะยังไม่ยอมรามือลง ซึ่งเป็นการเสี่ยงหากจะต้องอยู่ในสายตาของเขา
เธอหลบเข้ามายังห้องแต่งหน้า โทรศัพท์มือถือของเธอสั่น เป็นข้อความจากปรียสนั่นเอง
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ คืนนี้รอผมอยู่ที่ห้องนะ”
ไม่ต้องการให้คนรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้มาเจอกันเป็นการส่วนตัวเช่นนี้ เวลาปกติอยู่ในกองถ่ายพวกเขาก็แทบจะไม่ได้คุยอะไรกันอยู่แล้ว
เมื่อได้อ่านข้อความนี้ของเขาแล้ว นวาระรู้สึกสับสน เธอจึงตอบโอเคกลับไปเพียงเท่านั้น แล้วจึงปิดโทรศัพท์มือถือลง
ทางด้านหนึ่ง หลังจากที่นวาระเห็นจิดาภามาเติมหน้าเพื่อเตรียมตัวไปถ่ายทำต่อแล้วนั้น
“จิดาภา.....” นวาระที่จู่ๆก็เรียกเธอขึ้นมานั้น เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าจิดาภา “ฉากนี้อันตรายมาก คุณระวังตัวด้วยนะคะ โดยเฉพาะตอนที่จะปล่อยตัวลงพื้น”
ตอนแรกจิดาภาเองก็รู้สึกสงสัย เนื่องจากว่านี่เป็นครั้งแรกที่นวาระเข้ามาพูดกับเธอก่อน อีกทั้งยังดูเป็นห่วงเธออีกด้วย!
แต่เพียงแค่ชั่วครู่เดียว จิดาภาก็ยิ้มออกมา “ขอบคุณนะคะพี่นวาระ ฉันจะจำไว้ค่ะ”
ความคิดที่อยู่ในใจของเธอนั้น นวาระไม่มีทางมองออกอย่างแน่นอน
หลังจากที่รอจนนวาระเดินออกไปแล้ว โรศนีจึงเอ่ยถามเธอขึ้นมา “เธอใจดีขนาดนี้เชียวหรือคะ?” หลังจากตั้งแต่ที่เข้ากองมานั้น โรศนีเองก็ต้องคอยระวังตัวในทุกๆวัน กลัวว่าจิดาภาจะตกอยู่ในอันตราย แต่จิดาภานั้นมีท่าทางที่ดูสบายๆ ทำให้ไม่สามารถรับรู้อะไรในตัวเธอได้เลย
“เธอรู้แล้วน่ะว่าถ้าทำร้ายพี่ เธอก็จะไม่สามารถเป็นอิสระได้ ดังนั้นจึงไม่เลือกทำเรื่องโง่ๆแบบนั้น สร้างศัตรูก็คงไม่ดีเท่ากับผูกมิตรไว้หรอกใช่ไหมล่ะ เธอกำลังเอาใจพี่น่ะ” จิดาภามองตัวเองที่อยู่ในกระจก “ในเมื่อเธอพูดมาแบบนี้แล้ว ระวังตัวเสียหน่อยก็คงไม่แย่อะไรมั้ง”
“ค่ะ” โรศนีจำไว้
“ใกล้จะถึงวันเกิดของคุณจิรภาสแล้ว พี่ไม่อยากให้เรื่องพวกนี้มารบกวน ตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดคือพี่ต้องโจมตีเอง”
“พี่คิดว่าจะทำอย่างไรคะ?”
..........
เนื่องจากว่าจิรภาสเตรียมรถอาหารไว้ ทุกคนจึงไม่ต้องทานข้าวกล่องกันอีก ทุกคนต่างพากันดีใจเป็นอย่างมาก ที่มีร้านอาหารเรียบง่ายมาอยู่ที่กองถ่ายแบบนี้
หลังจากที่จิดาภาทานเสร็จแล้วนั้น จึงหาโอกาส มานั่งข้างๆชนุดมและรองผู้กำกับ
“คุณจิดาภา เมื่อก่อนผมไม่เคยเห็นเลย ว่าคุณเป็นหยกที่ไม่ได้ผ่านการเจียระไน จึงเข้าใจคุณผิดไป ผมขอโทษนะครับ” ชนุดมเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง
“ฉันเข้าใจค่ะ ไม่เป็นไรนะคะ เรื่องผ่านมาแล้ว”
อีกทั้งตอนนั้นพวกเขายังไม่รู้จักกัน ชนุดมจะเข้าใจผิด ก็ไม่เป็นเรื่องแปลกอะไร
"ผู้กำกับชนุดมคะ ฉันเห็นตารางคิวถ่ายทำที่ทางทีมจัดให้แล้ว อีกสองวันจะมีฉากแอ็คชั่นที่ฉันต้องถ่ายกับคุณปรียส ฉากที่รถชนน่ะค่ะ ฉันอยากจะปรับเปลี่ยนลำดับหน่อยได้ไหมคะ เพราะว่าทุกครั้งที่ฉันถ่ายฉากอันตรายคุณจิรภาสจะต้องมากำกับงานเองตลอดเลย ฉันอยากจะรวมฉากเข้าไว้ด้วยกันหน่อยน่ะค่ะ เขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยวิ่งไปวิ่งมาแบบนี้"
ชนุดมได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้ารับ "ไม่มีปัญหาครับ ติณห์ จัดการด้วยนะ"
"วางใจเถอะครับ อุปกรณ์ทางนั้นไม่มีปัญหาหรอก พรุ่งนี้ก็เริ่มถ่ายได้แล้วครับ"
จิดาภาพยักหน้า ส่งยิ้มพลางลุกขึ้น "ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอขอบคุณผู้กำกับไว้ก่อนเลยนะคะ"
ชนุดมมองจิดาภาที่เดินกลับไปหาจิรภาส เขาดื่มน้ำไปหมดแล้ว รู้ว่าในใจของเขานั้นยังมีความรู้สึกละอายใจต่อจิดาภาอยู่ เนื่องจากว่าเขารับปากกับท่านเดชไว้ ว่าผ่านไปอีกสองสามวันยังจะต้องทำให้เธอลำบากอีก แต่ตอนนี้รับปากความต้องการของเธอไปแบบนี้ ถือเสียว่าเป็นการชดเชยคืนให้เธอแล้วกัน
จิรภาสเป็นคนใจกว้าง พ่อครัวที่เขาเชิญมานั้นล้วนแต่มีระดับทั้งนั้น ทุกคนในกองถ่ายพากันทานอาหารกันอย่างมีความสุข ยกเว้นอยู่เพียงสองคน คือปรียสและนวาระ
ใบหน้าของปรียสแสดงออกด้วยความดีใจ แต่ในสายตาของเขานั้นกลับมีความโมโหนั้นแฝงอยู่ แต่นวาระเข้าใจเขาที่สุด หลังจากที่เห็นอาการที่แสดงออกมาเช่นนั้นของเขาแล้วนั้น เธอจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล
ชนุดมได้แลกเปลี่ยนความคิดกับทางรองผู้กำกับอีกครั้งหนึ่ง จึงได้แจ้งออกมาในช่วงหลังอาหารมื้อเย็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแผนงานในวันพรุ่งนี้ จะมีการถ่ายทำฉากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ของวันอังคารหน้าก่อน ซึ่งก็เป็นฉากแอ็คชั่นฉากแรกระหว่างจิดาภาและปรียส และยิ่งไปกว่านั้นเป็นฉากที่อันตรายที่สุดของการถ่ายทำตั้งแต่วันเปิดกล้องมา
已经是最新一章了
加载中
