ตอนที่ 9 Beautiful Vampire (2)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 9 Beautiful Vampire (2)
หลังเลิกเรียนวันนี้ชมรมว่ายน้ำมีนัดซ้อมล่ะ ฉันอยู่ในชมรมว่ายน้ำมาตั้งแต่เรียนปีแรกแล้ว และฉันก็คว้าเหรียญทองแดงให้โรงเรียนบ่อยๆ ด้วย แต่ที่จริงฉันอยากได้เหรียญทองมากกว่า กว่าพวกเราจะซ้อมเสร็จก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้ว โรงเรียนร้างผู้คน และนักกีฬาว่ายน้ำทุกคนรีบกลับบ้าน แต่ฉันที่กำลังจะขึ้นจากสระเป็นคนเกือบสุดท้ายกลับเห็นชินจิเข้า ร่างสูงที่ดูนิ่งราวกับเงานั้นยืนอยู่ไกลๆ ในความมืด “ซ้อมหนักแบบนี้จะดีเหรอ ?” เขาถามเมื่อฉันว่ายน้ำเข้ามาเขาที่ริมสระ และเขาเองก็เดินเข้ามา “กลัวฉันหน้ามืดเหรอ ? ไม่หรอกน่า” “ฉันบอกให้พักเยอะๆ ไม่ใช่เหรอ ? อะไรที่ฉันทำแทนได้ก็บอกฉัน ฉันจะทำให้” เขานั่งลงริมสระ “ถ้าเธอถึงกับเดินกลับบ้านไม่ไหว ฉันอุ้มไปส่งยังได้เลย” “ใจดีเกินไปรึเปล่า นายนี่เป็นเสือร้ายในคราบลูกแกะจริงๆ” ชินจินิ่งไป เขามองฉันที่อยู่ในน้ำจากขอบสระสูงเหนือขึ้นไป “คืนนี้ฉันไปส่งนะ ค่ำแล้ว” “ให้นายไปส่งน่ะอันตรายกว่าไปคนเดียวอีก” “ก็ใช่” เขาหัวเราะแผ่ว ดวงตาคมงดงามราวกับภาพวาดลากจากดวงตาของฉันลงไปที่ลำคอของฉัน แต่ฉันกำลังคิดอีกเรื่องหนึ่ง “ชินจิ” ฉันเรียกเขา “?” “มีผู้หญิงคนนึงแอบชอบนายอยู่ล่ะ” แต่เขากลับส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย “ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงทั้งโรงเรียนที่คลั่งไคล้นายอยู่หรอกนะ แต่ฉันหมายถึงคนคนเดียวเท่านั้น” ฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา รู้สึกกึ่งๆ ไม่สบายใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร “ฟูมิชอบนายอยู่ล่ะ” “ฟูมิ ?” ชินจิทวนชื่อเพื่อนของฉัน “แล้วไง ?” “คือฉันไม่รู้ว่ามนุษย์กับแวมไพร์เดทกันได้หรือเปล่า ?” “ไม่ได้” เขาตอบในทันที “อ้อ” ฉันเหมือนกึ่งๆ โล่งใจ ไม่รู้เพราะอะไร อาจจะเพราะฉันกลัวฟูมิจะถูกกัดคอเหมือนฉันก็ได้...ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ “แล้วทำไมเธอต้องทำหน้าเศร้าด้วยล่ะ ?” ชินจิถาม “ฉัน ?” ฉันชี้จมูกตัวเอง “ฉันไม่ได้หน้าเศร้านะ” “ยูกะ ฉันจะบอกอะไรให้ แวมไพร์ก็คือแวมไพร์ และมนุษย์ก็คือมนุษย์ คืออาหาร” คำตอบนั่นชัดมากเลย มนุษย์เป็นแค่อาหาร ทุกอย่างที่ผ่านมาระหว่างฉันกับชินจิเป็นแค่เรื่องอาหาร “แต่เพราะฉันเป็นแวมไพร์ที่ใจดีกว่าแวมไพร์ตัวอื่นๆ ที่กระหายเลือดและการฆ่า ฉันถึงไม่อยากอยู่ในสังคมแวมไพร์ และเพราะแบบนั้นฉันถึงออกมาอยู่ร่วมกับมนุษย์ไงล่ะ” เจ็บที่หัวใจจัง ทำไมนะ ? “แล้วฉันก็ชอบมากด้วย ตั้งแต่วันแรกที่ฉันมาที่นี่” ชินจิจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของฉัน และทำให้ฉันหายใจติดขัดขึ้นมา “อาจจะเพราะฉันยังมีหัวใจแบบมนุษย์หลงเหลืออยู่ก็ได้ เพราะฉันเคยมีหัวใจแบบนั้นเมื่อนานมาแล้ว” ดวงตาของชินจิแฝงไว้ด้วยความเศร้าเช่นกัน ราวกับเขาได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญและเป็นที่รักไป “แวมไพร์ก็เข้าใจยากแบบนี้ล่ะ” แล้วชินจิก็หยักยิ้มให้ฉัน และมันเป็นยิ้มที่เปลี่ยวเหงา “แต่ตอนนี้ฉันหิวแล้ว” “...!?” ฉันเกร็งเมื่อมือและนิ้วเรียวสวยของชินจิเคลื่อนเข้ามารั้งที่ใบหน้าของฉัน ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้น เขากำลังจ้องมองลำคอของฉัน “ชินจิ” “ขอฉันนะ” เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ขอเลือดของเธอให้ฉันอีกครั้ง” คำขอของชินจิอ่อนหวานราวกับเสียงเล่าเรื่องเทพนิยายหรือนิทานชวนฝัน ทว่าฉันก็ยังอดเกร็งไม่ได้ “ชินรึยัง ? ถ้าเธอไม่เกร็ง คมเขี้ยวของฉันก็แทบจะไม่สร้างความเจ็บปวดอะไรเลย” คำพูดของชินจิทำให้ฉันผ่อนคลายความเกร็งลงได้บ้าง “ลองดูไหมล่ะ ?” เขารั้งใบหน้าฉันให้สูงขึ้นอีก ทำให้ฉันต้องยันร่างขึ้นจากบันใดใต้น้ำ เพื่อที่เขาที่อยู่บนขอบสระจะได้โน้มตัวลงมาดื่มเลือดของฉันได้ ฉึก...ก... ฉันได้ยินเสียงคมเขี้ยวฝังลงบนคอของฉันอย่างแผ่วเบา ...ลำคอและร่างที่พราวไปด้วยหยดน้ำของฉัน “อะ...” ฉันเกือบจะร้องออกมา แต่ก็กลั้นไว้ หวังว่าคงไม่มีใครอื่นอยู่แถวนี้ด้วยหรอกนะ แล้วชินจิก็ดื่มเลือดจากฉัน มืองดงามประคองลำคอของฉันไว้อย่างอ่อนหวาน และความเจ็บปวดนั้น...น่าแปลกเหลือเกินที่ฉันเริ่มคุ้นชินกับมันแล้ว... ฉันเริ่มคุ้นเคยกับการฝังคมเขี้ยวของชินจิ ถึงเส้นขนทั่วร่างจะยังลุกเกรียว และทั้งร่างก็สะท้านและหวั่นไหวไม่ต่างจากครั้งแรก แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้น สิ่งนั้นก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในหัวใจของฉัน ราวกับดอกไม้ที่แอบเบ่งบานในความเงียบใต้แสงเย็นเยียบของดวงจันทร์ มันคือความรู้สึกของฉัน หัวใจของฉันรู้สึกอบอุ่น เพราะฉันรู้ว่าชินจิจะไม่ทำร้ายฉัน เขาจะไม่ฆ่าฉัน ฉันเป็นเพื่อนคนเดียวของเขา และเขาเพียงแค่ต้องการเลือดเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตของตัวเองเท่านั้น และแม้แต่ดอกไม้ที่งดงามที่สุดก็ยังต้องทำให้คนอื่นเจ็บปวดไม่ใช่เหรอ ? ชีวิตอื่นต้องตาย เปื่อยเน่า และผุพังเพื่อที่จะเป็นอาหารให้กับดอกไม้ และนั่นก็คือวิธีเกิดใหม่ของชีวิตพวกนั้น ชินจิ...ฉันแค่อยากจะช่วยนาย ใครล่ะจะอยากให้นายตายหรือหิวจนทรมาน ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก เพราะฉันเป็นเพื่อนที่ดีของนายไงล่ะ แล้วเขาก็ดื่มเลือดจากฉัน...อีกครั้ง ร่างของเราอยู่ชิดกัน ชิดจนฉันเชื่อว่าหูที่ไวกว่ามนุษย์ของแวมไพร์จะต้องได้ยินเสียงหัวใจของฉันแน่ๆ ทว่าฉันรู้สึกยังไงกันนะ ? ผู้หญิงทั้งโลกก็อยากให้แวมไพร์กัดกันทั้งนั้นจริงๆ เหรอ ? ทำไมล่ะ ? “แบบนั่นล่ะ เด็กน้อย” ชินจิถอนคมเขี้ยวชั่วครู่เพื่อบอกกับฉัน ก่อนที่เขาจะฝังคมเขี้ยวลงไปในรอยเดิมและเสพย์เลือดของฉันอย่างหลงใหล ทำให้ฉันรู้สึกราวกับดอกไม้กลีบบางที่ถูกปลิดออกมา เพื่อที่จะถูกปล่อยให้ปลิวคว้างไปในสายลมของเวลากลางคืน ว่าแต่เขาเรียกฉันว่า ‘เด็กน้อย’ งั้นเหรอ ? ทั้งที่อายุเท่ากันแต่เขากลับเรียกฉันแบบนั้น ? แต่ก็ไม่ผิดเลย แวมไพร์อย่างเขาถึงจะดูอายุอ่อนเหมือนฉัน ทว่าเขาก็มีชีวิตอยู่มาเป็นร้อยปีแล้วนี่นะ แต่ถ้าจะให้เรียกเขาหรือว่าปู่หรือทวดเพื่อให้สมกับอายุของเขา มันก็ไม่ใช่อีกนั่นล่ะ เพราะเขาดูอายุเท่าๆ ฉันจริงๆ และที่สำคัญยังหน้าตาหล่อเหลาแบบเกินธรรมดาอีกด้วย ชีวิตยาวนานชั่วนิรันดร์ของแวมไพร์ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงดอกหญ้า ดอกหญ้าน่ะเบ่งบานอยู่ในทุ่งหญ้าเพียงแค่สองสามวัน แล้วเมื่อมันร่วงโรยไปสถานที่นั้นก็ไม่รู้จักมันอีก แม้แต่สายลมสายเดิมก็ยังจำดอกหญ้าดอกนั้นไม่ได้ ฉันเป็นแค่ดอกหญ้า เป็นแค่เวลาแสนสั้นเมื่อเทียบกับชีวิตแวมไพร์ที่ราวกับจะเป็นนิรันดร์ ...ได้ยินเสียงกลืนเลือด... ...แวมไพร์กำลังดื่มเลือดของฉัน... “ชิน...จิ...” ฉันเรียกเขาด้วยเสียงขาดห้วง วันนี้ฉันคงไม่ควรมาซ้อมว่ายน้ำจริงๆ เพราะแค่เขาดื่มเลือดฉันไปได้นิดเดียว ฉันก็มึนตื้อไปหมดแล้ว ร่างกายก็ไร้เรี่ยวแรง จนในที่สุดแขนของชินจิก็ต้องเคลื่อนมารั้งร่างของฉันไว้จากใต้น้ำ “ฉันชอบเลือดของเธอเหลือเกิน” เขากระซิบบอกฉัน “ชอบสี ชอบกลิ่น ชอบความอบอุ่นของมัน และทุกอย่าง” ฉันหลับตาลงแล้ว ก่อนปิดเปลือกตาฉันเห็นแววตาอ่อนโยนของชินจิที่มองมาราวกับส่งฉันเข้านอน “ ขอมอบเลือดของเธอให้กับฉันตลอดไปนะ” ...ส่งฉันให้หลับฝันถึงสิ่งที่สวยงาม… ...ดินแดนที่อยู่ห่างไกลออกไป... “ยูกะ”
已经是最新一章了
加载中