ตอนที่ 12 เลือดประหลาด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 12 เลือดประหลาด
ตอนที่ 12 เลือดประหลาด ริมฝีปากบางของผู้ชาย จูบลงบนริมฝีปากของตัวเอง สองริมฝีปากเย็นคืบคลานเข้าหากันอย่างนุ่มนวล หากเปรียบเทียบกับครั้งแรกที่เขาจูบอย่างดุดันแล้ว ครั้งนี้เขากลับอ่อนโยนขึ้นมาก ความรู้สึกนั้นช่างดีจริงๆ กลิ่นจางๆของยาสูบจากบนเรือนร่างของผู้ชายคนนี้ ทำให้ป๋ายปิงเวยตื่นขึ้นจากความฝันในทันที สองมือเล็ก ๆ ผลักหน้าอกกว้างของหลินจื๋อซีให้ห่างออกจากตัว เมื่อสัมผัสได้ว่าคนที่อยู่ด้านล่างเริ่มขัดขืน หลินจื๋อซีก็เปลี่ยนเป็นแกล้งป๋ายปิงเวย เขาเริ่มจูบอย่างเร่าร้อนขึ้นมา จูบของหลินจื๋อซีนั้นยิ่งนานเข้าก็ยิ่งเราร้อนขึ้น ป๋ายปิงเวยเริ่มค่อยๆหายใจไม่ออก เธอรู้สึกเศร้าโศกในใจเป็นอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้วป๋ายปิงเวยก็ยังเป็นสาวพรหมจรรย์ที่รับไม่ได้กับผู้ชายที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆกับเธอแล้วจะมาพรากสิ่งล้ำค่าอย่างพรหมจรรย์ของเธอไป น้ำตาเอ่อล้นจนท่วมดวงตา หลินจื๋อซีสังเกตเห็นอารมณ์ของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของตน เห็นความโศกเศร้าของป๋ายปิงเวยผ่านสายตาของเธอ ในใจของหลินจื๋อซีเองก็เจ็บปวด แท้จริงแล้วเธอก็ยังคงเป็นเด็กสาวที่ดี ถึงแม้ว่าเธอจะหัวเสียอยู่ในตอนนี้ เปรียบเทียบกับติงมั่นลี่แล้วช่างไม่เหมือนกันจริง ๆ หลินจื๋อซีรู้สึกหงุดหงิดตัวเองอย่างมากที่เขาแกล้งเธอมากเกินไป เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปอาบน้ำเย็นในห้องอาบน้ำทันที หลังจูบกับผู้หญิงคนนั้น ความรู้สึกช่างไม่เหมือนกันจริง ๆ เพียงแค่จูบก็ทำให้ตนรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ คืนนี้คงถึงคราวที่จะนอนหลับไวได้ยากแล้วกระมัง หลังจากอาบน้ำเสร็จหลินจื๋อซีก็พันผ้าเช็ดตัวรอบเอวของเขาอย่างลวกๆแล้วจึงเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ป๋ายปิงเวยเองเธอก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าปกติแล้วเช่นกัน หลินจื๋อซีเปิดประตูห้องนอน “เสี่ยวชุ่ย ไปเอาไวน์กับแก้วเปล่าสองใบมาให้ฉันหน่อย” เสี่ยวชุ่ยรีบหยิบขวดไวน์และแก้วไวน์ส่งให้กับหลินจื๋อซีอย่างนอบน้อม แม่หลินที่กำลังอ่านหนังสือและยังไม่หลับอยู่นั้น ได้ยินเสียงหลินจื๋อซีให้สาวรับใช้ไปหยิบไวน์ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เด็กวัยหนุ่มสาวนี่ไฟแรงกันเสียจริง พึ่งจะเสร็จภารกิจก็พากันดื่มเหล้าสนุกสนานเชียว ดูท่าแล้วตนเองคงได้อุ้มหลานเร็วๆนี้เป็นแน่ แม่หลินวางหนังสือลงอย่างมีความสุข ในขณะเดียวกันก็ปิดไฟลงนอน ป๋ายปิงเวยมองดูหลินจื๋อซีอย่างประหลาดใจ “ดึกขนาดนี้แล้วยังจะดื่มเหล้าอีกหรอ” หลินจื๋อซีเทไวน์หนึ่งแก้วให้กับป๋ายปิงเวย “ดื่มสักแก้วสิ” ป๋ายปิงเวยชะงักไปครู่หนึ่ง “นี่คือ…การขอโทษหรอ” หลินจื๋อซีไม่ตอบอะไร เพียงแค่จิบไวน์ชั้นเลิศที่อยู่ในแก้วเบาๆ ป๋ายปิงเวยแทบอาเจียนออกมาจริงๆพอคิดว่าสิ่งที่พูดออกไปคงเป็นไปไม่ได้ เขาเป็นถึงเจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจขนาดนี้จะมาขอโทษได้อย่างไร อาจจะเพราะนอนไม่หลับเสียมากกว่า ดื่มกับเขาสักสองแก้วก็ดี ถ้าเขาดื่มเยอะแล้วเดี๋ยวก็คงหลับไปเอง คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองหรอก “ขอบคุณประธานหลินมากที่ดูแลอย่างดีมาตลอด ฉันขอดื่มให้กับคุณ!” ป๋ายปิงเวยหยิบแก้วไวน์ไปชนกับแก้วของหลินจื๋อซีอย่างไม่ลังเล หลินจื๋อซีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเรียบๆว่า “พวกเราก็แค่มีผลประโยชน์ร่วมกันก็เท่านั้น” ป๋ายปิงเวยโน้มหัวลงแล้วจิบไวน์ต่อ “ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ฉันก็ยังรู้สึกขอบคุณประธานหลินอยู่ดี ถ้าหากไม่ใช่คุณ…บางทีแล้วฉัน…” ดูใบหน้าของป๋ายปิงเวยแสดงออกได้ว่ากำลังเสียใจ ในใจหลินจื๋อซีเองก็รู้สึกแปลกไปเช่นกัน เขาเอื้อมมือไปดึงป๋ายปิงเวยมาไว้ในอ้อมกอดแล้วปลอบประโลมเธอ “ไม่เป็นไรนะ” เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำไมจู่ๆถึงได้พูดปลอบใจป๋ายปิงเวยเช่นนั้น แค่รู้สึกว่าป๋ายปิงเวยในตอนนี้เธอช่างน่าสงสารเสียจริง จู่ๆก็ถูกหลินจื๋อซีดึงเข้าไปกอดในไว้อ้อมอก ป๋ายปิงเวยรู้สึกไม่ทันได้ตั้งตัว หลินจื๋อซีในตอนนี้นั้นช่างอบอุ่นและทำให้อุ่นใจได้จริงๆ แต่ทว่าความเป็นจริงดึงให้ตัวเธอเองกลับออกมาจากความคิดเหล่านั้น เธอไม่อยากเสียเวลากับเขาจนมากเกินไป ซาบซึ้งใจก็จริงอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่เธอชักชวนให้เขาดื่มเยอะด้วยเช่นกัน “ประธานหลิน เรามาดื่มกันอีกสักแก้วเถอะ” ป๋ายปิงเวยลุกยืนขึ้นยื่นแก้วไวน์ที่ถูกรินไว้อย่างเต็มแก้วให้กับหลินจื๋อซี รอยยิ้มอันอ่อนโยนนั้นเหมือนชักชวนให้หลินจื๋อซีดื่มอยู่อย่างนั้นไม่รู้จบ โดยปกติแล้ว ไม่บ่อยนักที่หลินจื๋อซีจะถูกชักชวนให้ดื่ม อาจเพราะเมื่อครู่นี้อารมณ์ของเขาถูกป๋ายปิงเวยครอบงำ นึกไม่ถึงเลยว่าความรู้สึกจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ดื่มหมดหนึ่งแก้วก็ยังดื่มต่ออีกหนึ่งแก้ว หลินจื๋อซีรู้สึกมึนเมาเล็กน้อย เขาจ้องมองไปที่ป๋ายปิงเวยโดยที่เรือนร่างท่อนบนของเขานั้นเปลือยเปล่า ป๋ายปิงเวยรู้สึกได้ถึงสายตาของชายคนนี้ที่มองมาที่เธอ ป๋ายปิงเวยเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขากลับไป เธอนึกไม่ถึงเลยว่าหลินจื๋อซีในแบบนี้นั้นจะดูหล่อเหลาได้ถึงเพียงนี้ รูปร่างหน้าตาของเขาราวกับเป็นภาพจิตรกรรมที่รังสรรค์จากพระเจ้า สายตาเหยี่ยวคู่นั้นจับจ้องมองมาที่ตัวเธอ เขาน่าจะยังไม่ขาดสติหลงเสน่ห์ของเราเพราะดื่มเยอะไปหรอก ต้องเป็นเพราะว่าเขาดื่มน้อยไปจนทำให้ยังมีสติดีอยู่เป็นแน่ ป๋ายปิงเวยลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องอย่างรวดเร็วเพื่อเรียกเสียวชุ่ยให้ไปนำไวน์มาเพิ่มอีกหนึ่งขวด เธอมองไปที่หลินจื๋อซีแล้วหัวเราะคิกคักเบาๆ “หายากนะที่จะมีความสุขได้อย่างวันนี้ งั้นเราก็สนุกกับการดื่มกันต่อเถอะ” หลินจื๋อซีเลิกคิ้วสูงขึ้น “ได้สิ แต่ว่า….” หลินจื๋อซีลุกจากเตียงเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หาชุดนอนสุดเซ็กซี่ที่ป๋ายปิงเวยพึ่งใส่ไป “เธอต้องเปลี่ยนเป็นใส่ชุดนี้ก่อน” “เอ่อ……ได้สิ” ป๋ายปิงเวยเดินเข้าไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเปลี่ยนเป็นใส่ชุดนอนตัวนั้น ในใจคิดว่ายังไงซะ ชุดนี้ก็ถูกเขาเห็นมาตั้งแต่แรกแล้ว สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือให้เขาดื่มเยอะอีกสักหน่อยแล้วรีบเข้านอน แล้วคืนนี้ก็จะผ่านพ้นไป หลังจากป๋ายปิงเวยเปิดประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาก็ถูกสองมือใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอดไว้ในอ้อมอก หลินจื๋อซีล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วกอดป๋ายปิงเวยไว้ในอ้อมกอดของเขา มือนึงโอบกอดสาวงามเอาไว้ อีกมือนึงก็ถือแก้วไวน์ไว้ด้วยเช่นกัน ปราศจากคราบหนุ่มสุดเท่ห์หรือแม้แต่ภาพลักษณ์ของราชาแห่งวงการธุรกิจโดยสิ้นเชิง แต่กลับเป็นเหมือนหนุ่มหล่อเพลบอยที่หลงใหลในความงามของผู้หญิงเสียมากกว่า หลินจื๋อซีกอดป๋ายปิงเวยไว้แล้วดื่มต่อไปแก้วแล้วแก้วเล่า…… วันรุ่งขึ้น ป๋ายปิงเวยตื่นขึ้นมาด้วยดวงตาที่ยังงัวเงีย คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะนอนหลับไปในอ้อมกอดของหลินจื๋อซี เธอยกมือใหญ่ๆของหลินจื๋อซีออก เมื่อคืนคงดื่มเยอะเกินไปจริงๆ รู้สึกปวดหัวมาก แต่ทำไมช่วงเอวถึงได้รู้สึกปวดด้วยเหมือนกันนะ เธอสัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นๆที่ไหลออกจากร่างกายส่วนล่าง ป๋ายปิงเวยเปิดผ้าห่มออกดู แล้วพบว่าบนผ้าปูที่นอนสีขาวมีรอยเลือดเล็กๆอยู่ เธอเตรียมตัวจะลุกตื่นขึ้นไปเปลี่ยนชุดนอน แต่ก็ถูกหลินจื๋อซีที่ครี่งหลับครึ่งตื่นกอดเอาไว้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของป๋ายปิงเวย จากนั้นเธอก็บีบหน้าขาของตัวเองอย่างแรงแล้วเริ่มบีบน้ำตาร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา ในขณะที่หลินจื๋อซีกำลังหลับฝันอยู่นั้น เขารู้สึกราวกับว่ามีคนกำลังร้องไห้อยู่ข้างเขาจนทำให้เขาไม่สามารถที่จะนอนหลับต่อได้ พอตื่นขึ้นมาก็เห็นป๋ายปิงเวยร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ “เธอเป็นอะไรไปหรือ” น้ำเสียงของหลินจื๋อซีนั้นค่อนข้างงัวเงียปนเซ็กซี่เล็กน้อย เนื่องจากเขาดื่มไปเยอะมากเมื่อคืนนี้ ป๋ายปิงเวยไม่พูดอะไร ได้แต่สะอึกสะอื้นเบาๆ เธอร้องไห้ไปด้วย ดึงผ้าห่มเข้ามาคลุมตัวเธอไปด้วย หลินจื๋อซีรีบเปิดผ้าห่มออกอย่างใจร้อน เขาสังเกตเห็นว่าบนผ้าปูที่นอนมีประกายสีแดงแปดเปื้อนอยู่ หลังจากนั้นเขาเองก็รู้สึกคิดอะไรไม่ออกไปในทันที หรือว่าเมื่อคืน ดูท่าทีตกตะลึงของหลินจื๋อซีแล้ว ป๋ายปิงเวยรู้ได้ในทันทีว่าตัวเองทำสำเร็จแล้ว เธอแกล้งร้องไห้เสียใจหนักขึ้นอีก ส่ายหัวไปมาคล้ายไม่อยากเห็นหน้าหลินจื๋อซีอีกต่อไป หลินจื๋อซีเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่ใช่น้อย เขาจำได้เพียงแต่ว่าเมื่อคืนดื่มไปเยอะมาก หลังจากนั้นก็จำไม่ได้อีกเลย เห็นรอยเลือดบนร่างกายส่วนล่างของป๋ายปิงเวยและท่าทีที่ดูลำบากใจของป๋ายปิงเวยนั้น ก็ทำให้หลินจื๋อซีคอแห้งผากจนพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน อยากจะเข้าไปปลอบประโลมป๋ายปิงเวยเสียจริง มือของเขานั้นกำลังจะเข้าไปแตะตัวป๋ายปิงเวยแต่ก็ถูกป๋ายปิงเวยปฏิเสธ “ประธานหลิน คุณปล่อยฉันเถอะ ถือซะว่าฉันขอร้องคุณก็แล้วกัน” เสียงคล้ายกับจะร้องไห้ของป๋ายปิงเวยนั้นทำให้หลินจื๋อซีเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี “ฉัน…ฉันไปบริษัทก่อนนะ เธอก็พักผ่อนเยอะๆ เย็นนี้ค่อยคุยกัน” หลินจื๋อซีมองไปยังป๋ายปิงเวยด้วยสีหน้าที่จริงจัง แต่ทว่าในใจก็รู้สึกสับสนไปหมด เขารีบเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วอาบน้ำอย่างรวดเร็ว สวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงรีบออกไป เมื่อแน่ใจว่าหลินจื๋อซีได้ออกไปแล้วจริงๆ ป๋ายปิงเวยก็เปิดผ้าห่มออก เธอกระโดดโลดเต้นบนเตียงอย่างดีใจ คราวนี้แหละที่หลินจื๋อซีควรจะรู้ว่า เขาไม่ควรทำไม่ดีกับเธอ นึกถึงตรงนี้ขึ้นมาป๋ายปิงเวยก็รีบไปเข้าห้องน้ำแล้วอาบน้ำอย่างมีความสุข…
已经是最新一章了
加载中