บทที่3.จบตอน   1/    
已经是第一章了
บทที่3.จบตอน
อัคนีนั่งนิ่งอยู่ในห้องประชุมโอ่อ่าโดยไม่สนใจว่าปล่อยให้คนรอรอนานแค่ไหนแล้ว หลังจากที่เขาประชุมเสร็จเลขาคู่ใจก็โทร. มารายงานว่า บารมีมาขอพบเขา ซึ่งการมาของเธอนั้นเร็วกว่าที่คิดไว้เสียอีก จากที่มารดาโทร. มาบอกให้เขากลับไปหย่าให้เธอมันก็เมื่อสองวันที่ผ่านมานี้เอง แต่ตอนนี้บารนีก็มาอยู่ที่นี่แล้วนั่นแสดงให้เห็นถึงความต้องการอันแรงกล้าของเธอสินะ... “หึ รอมาสี่ปีแล้ว ก็รอไปอีกสี่ชั่วโมงก็แล้วกัน” ชายหนุ่มเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างสะใจเมื่อคิดว่าป่านนี้บารนีคงกลับไปรอเขาที่บ้านหลังงามแล้ว เพราะนี่มันก็ครบสี่ชั่วโมงพอดีตั้งแต่เธอเข้าไปรอเขาในห้องทำงาน... ร่างสูงลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องประชุมตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานในส่วนของฝ่ายบริหารแต่จะมีพนักงานเพียงห้าคนเท่านั้นรวมทั้งตัวเขาด้วย และบางคนที่มีงานติดค้างทำงานอยู่บ้างแต่จะไม่เกินสองทุ่มในทุกๆ วัน แต่วันนี้เขาสั่งให้ทุกคนกลับและไม่ต้องอยู่ในส่วนงานนี้ ดังนั้นวันนี้ทั้งชั้นส่วนผู้บริหารจึงมีเพียงเขาเท่านั้น... ชายหนุ่มผลักประตูห้องทำงานของตนช้าๆ หัวใจหนุ่มเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนน่าโมโหที่แค่คิดว่าบารนีมารอพบเขาอยู่ข้างในก็ทำให้เขารู้สึกหัวใจบีบรัดจนแน่นหน้าอกทั้งหายใจก็อึดอัดราวกับว่าเขากำลังเดินเข้าไปในห้องที่ไม่มีอากาศหายใจอย่างไรอย่างนั้น แต่ในที่สุดเขาก็ผลักประตูเข้าไป ร่างสูงเดินเข้าไปยืนอยู่กลางห้องทำงานหรูหราโอ่อ่าของตนด้วยความรู้สึกหนักอึ้งเล็กน้อย.... ร่างหญิงสาวอรชรที่นอนตะแคงหันหน้าเข้าหาพนักของโซฟาตัวใหญ่ซึ่งปรับนอนได้ที่เรียกว่าโซฟาเบดนั้นเต็มไปด้วยส่วนเค้าส่วนโค้งที่ดูยั่วยวนใจ เอวบางดูเล็กคอดจนมือเดียวน่าจะกำรอบรับกับสะโพกมนกลมกลึงเรียวขายาวเสลาในถุงน่องสีดำนั้นเป็นเรียวขาที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา ชุดเดรสชีฟองสีหวานสั้นแค่เข่าแบบทันสมัยนั้นแนบไปกับเรือนกายอรชรดูน่าทะนุถนอม เรือนผมดำขลับเงางามน่าสัมผัสคลอเคลียอยู่กับไหล่มนที่สะท้อนขึ้นลงสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเธอหลับสนิท ให้ตายสิแค่เห็นเพียงด้านหลังของเธอก็ทำให้เขาใจเต้นแรงขนาดนี้... แล้วถ้าเขาได้เห็นใบหน้าของเธอล่ะ เธอจะแตกต่างจากสี่ปีที่แล้วมากแค่ไหนกันนะ... อัคนีเดินช้าๆ เข้าไปหาร่างบอบบางเหมือนต้องมนต์สะกดซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอขยับพลิกกายกลับมา ใบหน้าที่เขายังจำได้มาตลอดสี่ปีก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าชัดเจนแม้จะมีปอยผมบางส่วนระปิดแก้มใสเปล่งปลั่งปราศจากเครื่องสำอางของคนที่หลับพริ้มอยู่ด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนทำให้เขาใจเต้นระส่ำราวหนุ่มน้อยแรกพบสาวในดวงใจอย่างไรอย่างนั้น... “บ้าจริง... บัดซบเอ๊ย ไร้เหตุผลสิ้นดี...” อัคนีสบถกับตัวเองร่างสูงหันหลังกลับไปทั้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่อย่างหงุดหงิด แค่เธอหลับก็ปั่นป่วนอารมณ์เขาได้ขนาดนี้มันใช่ที่ไหนกัน เขาไม่ควรจะหวั่นไหวไปกับบารนี เขาต้องหย่าให้เธอ เธอมาที่นี่เพื่อจะขอหย่ากับเขา เพราะฉะนั้นเขากับเธอก็ไม่มีอะไรจะเกี่ยวข้องกันแล้ว บารนีก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง น้องสาวของคนที่แย่งคนรักของเขาไป หลังจากนี้เขาก็เป็นอิสระเขาจะนอนกับผู้หญิงที่สวยสะเด็ดกว่าเธอเป็นสิบคนก็ยังได้ อัคนีหาเหตุผลมากมายมาเตือนตัวเองไม่ให้หวั่นไหวไปกับเธอ หญิงสาวที่เป็นภรรยาของเขาแค่เพียงแต่ในนามมาสี่ปีแล้ว... ในขณะเดียวกันเทเรซ่าก็กระทืบเท้าอยู่หน้าลอบบี้ด้วยความไม่พอใจเมื่อพนักงานสาวไม่อนุญาตให้เธอขึ้นไปยังชั้นผู้บริหารทั้งที่เธอเป็นแขกที่ใครๆ รู้ว่าพิเศษแค่ไหน แต่สิ่งที่ทุกคนในโรงแรมแห่งนี้รู้อีกอย่างก็คือ เทเรซ่านิสัยแตกต่างจากหน้าตางดงามของเธอโดยสิ้นเชิงและหากไม่จำเป็นพนักงานทุกคนจะไม่อยากพบเจอหรือบริการเธอ ต่างจะแยกย้ายกันไปทำงานเหมือนว่างานยุ่งเสียนักหนา เหมือนตอนนี้ที่พนักงานต้อนรับทั้งสองทำทีเหมือนติดสายคุยอยู่กับลูกค้าที่จะจองห้องพักโดยไม่สนใจท่าทางฉุนเฉียวของเทเรซ่า “นังพวกขี้ข้า แกกล้าดียังไงถึงไม่สนใจฉัน...” เทเรซ่าหงุดหงิดที่ไม่มีใครสนใจจะให้ความสำคัญตน แต่หญิงสาวก็ตาโตอย่างนึกขึ้นได้เมื่อมองไปยังลิฟต์ส่วนตัวของอัคนี ที่เธอยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสหรือใช้ร่วมกับเขา หญิงสาวปรายตามองพนักงานสาวทั้งสองที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่แล้วค่อยๆ เดินย่องไปยังลิฟต์ผู้บริหารจนเกือบจะถึงแล้วเธอก็เกือบจะผวาล้มเมื่อจู่ๆ ก็มีบอดีการ์ดหน้าเข้มผิวดำของอัคนีเดินมาขวางไว้ ซ้ำหน้าตาท่าทางขึงขังจนเธอต้องกลืนน้ำลายลงคืออย่างหวั่นๆ “เชิญคุณเทเรซ่ากลับไปได้แล้วครับ วันนี้เจ้านายผมไม่รับแขก” “ทำไมไม่รับแขกยะ ฉันเป็นใครพวกแกก็รู้ไม่ใช่เหรอ” “วันนี้ เมีย เจ้านายมา เจ้านายไม่ว่าง” บอดีการ์ดผิวขาวเผือกอีกคนตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่คำว่า เมียเจ้านาย นั้นทำให้เทเรซ่าแทบจะถลันขึ้นไปดูให้เห็นกับตาว่าอัคนีมีเมียจริงๆ อย่างที่บอดีการ์ดของเขาพูดหรือไม่ แต่สิ่งที่ทำได้คือยอมถอยกลับเท่านั้น... อัคนีนั่งทอดสายตามองทิวทัศน์ของมิวนิคที่เต็มไปด้วยดวงไฟหลากสีที่ประดับตามอาคารและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามท้องถนนสว่างไสวหนุ่มสาวหลายคู่จูงมือกันเดินเล่นอิ่มเอมกับบรรยากาศยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยร้านรวงที่ประดับไฟแสงสีงดงามและร้านอาหารภัตตาคารต่างๆ แล้วหันกลับมายังร่างบางที่หลับสนิทมาหลายชั่วโมงเมื่อได้ยินเสียงขยับตัวเบาๆ ของบารนี “อืม อุ้ย นี่มันกี่โมงแล้วนี่..” เสียงหวานตื่นตระหนกรีบลุกขึ้นนั่ง บารนีลูบใบหน้าของตัวเองเบาๆ แล้วใช้นิ้วเรียวสางเส้นผมนุ่มสลวยของตนให้เข้าที่กวาดสายตามองรอบห้องทำงานโอ่อ่าและสะดุดที่ร่างสูงของคนที่เธอมาหาซึ่งกำลังยืนมองเธอด้วยแววตาที่เธออ่านไม่ออก... “คุ คุณ อัคนี... เอ่อ...” “เธอหลับไปนานมาก และฉันก็ไม่อยากปลุก” “ฉัน...” บารนีรู้สึกลำคอแห้งผากสมองมึนงงคิดอะไรไม่ออก พูดอะไรไม่ได้ชั่วขณะริมฝีปากแห้งผากเหมือนคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำมานานปี หญิงสาวหลับตาลงแล้วตวัดลิ้นเล็กเลียริมฝีปากของตนเพื่อให้ความชุ่มชุ่มชื้นแก่มัน แต่การกระทำของเธอกลับทำให้คนมองใจเต้นแรงรู้สึกปวดหนึบที่ใจกลางร่างหนุ่มจนแทบแตกปริด้วยความต้องการ บางอย่าง... “ฉันจะกลับแล้วมีอะไรก็ค่อยคุยกันวันหลัง” อัคนีก็รีบพูดขึ้นเมื่อเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง เพราะหากเขาอยู่ตรงนี้นานไปคงไม่ดีต่อตัวเขาเป็นแน่ “ค่ะ เอาอย่างนั้นก็ได้นี่ก็สี่ทุ่มแล้วฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้เช้าฉันจะมาหาคุณแต่เช้า” บารนีลุกขึ้นเผชิญหน้ากับเขาด้วยแววตาที่มั่นใจมากขึ้นไม่เหมือนสาวน้อยในวันวานที่เอาแต่หลบตาเขาอย่างขลาดกลัว และคำพูดของเธอทำให้อัคนีขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “เธอหมายความว่าอย่างไร ที่ว่าพรุ่งนี้จะมาหาฉันแต่เช้า” “คือ ฉันเปิดห้องพักไว้ที่นี่ค่ะ และฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ฉันจะกลับไปพักผ่อนที่ห้องของฉัน และพรุ่งนี้ฉันก็จะมาหาคุณเพื่อคุยธุระของเราให้เรียบร้อยเพราะเมื่อทุกอย่างจบแล้วฉันก็จะกลับเมืองไทยเลยค่ะ...” อัคนีกัดกรามกรอดด้วยความไม่พอใจ นี่เธอคิดอะไรอยู่ มาหาเขาเพื่อจะหย่าและยังทำเหมือนกับว่าเขาเป็นคนอื่นที่เธอไม่อยากแม้แต่จะกลับไปพักร่วมชายคาด้วย แววตาถือดีและมั่นใจใจตัวเองของบารนียิ่งทำให้เขาแทบอยากจะหักคอสวยๆ นั่นนัก มันจะมากไปแล้ว บารนี...
已经是最新一章了
加载中