บทที่ 5 ตรงๆและอ้อมค้อม   1/    
已经是第一章了
บทที่ 5 ตรงๆและอ้อมค้อม
บทที่ 5 ตรงๆและอ้อมค้อม บนโลกนี้ไม่มีของฟรี ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ถ้าคุณไม่มีประโยชน์ต่อเขา ประโยคนี้ใช้กับตัวหมี่โยว เหมาะสมที่สุดแล้ว ขนตายาวงอน หมี่โยวพูดจาหวานๆ: “เราเป็นเพื่อนกัน ถ้างั้นรวมโต๊ะดีไหม?” หนานกงห้าวฉียังไม่ทันตอบ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่มาด้วยกันพูดว่า: “ทำไมต้องรวมโต๊ะกับเธอด้วย จะกินก็สั่งเองสิ” ถ้าสั่งได้ ก็สั่งไปตั้งนานแล้ว เธอมองหน้าชายที่ใส่แว่นตาอย่างน่าเบื่อ หมี่โยวพูดอย่างไม่อายและไม่สนใจ: “กินด้วยกัน คึกคักกว่าไง” “ดี มาสิครับ” หนานกงห้าวฉีตอบอย่างง่ายดาย หันไปมองเธอและโบกมือให้มา หมี่โยวดีใจจนจะกระโดด และไปนั่งที่นั่งข้างๆเขา เห็นมีจานชุดหนึ่งพอดี หมี่โยวก็เริ่มกินอย่างไม่เกรงใจ ผู้ชายที่ใส่แว่นตาเห็นท่าทางมูมมามของเธอ ขมวดคิ้วแล้วพูดเตือนเธอ: “คุณหมี่ ทานข้าวระวังภาพพจน์ด้วยครับ.....” หิวจนท้องแบนตั้งนานแล้ว หมี่โยวไม่มีเวลาสนใจอะไรทั้งนั้น หนานกงห้าวฉียื่นน้ำให้เธอหนึ่งแก้ว แล้วตอบเธออย่างไม่คิด: “ปกติเธอก็ไม่เคยห่วงภาพพจน์อยู่แล้ว” ข้าวติดคอเลย หมี่โยวเอามือตบๆหน้าอกเหมือนจะกลืนลำบาก เห็นไวน์ที่วางบนโต๊ะ จึงหยิบยกขึ้นมาดื่ม หญิงคนนั้นเห็นแล้วกล่าวว่าเธอด้วยความโมโห: “เห้ย นั่นมันแก้วของห้าวฉี! แก้มแดงทั้งหน้า หมี่โยว ก้มหน้าพูดอย่างเขินอาย: “คุณชาย เมื่อกี้รีบร้อนไปหน่อย ขอโทษด้วยนะ” สองมือกอดอก หนานกงห้าวฉีทำหน้านิ่งๆปกติและเปิดปากพูด สายตามองไปที่ชายใส่แว่นตา: “จูบยังเคยจูบจริงมาแล้ว จูบทางอ้อมไม่เห็นจะเป็นอะไร” ชายที่ใส่แว่นตารีบถอดแว่นตาออก แล้วมองหน้าหมี่โยวเหมือนมีคำถามลึกๆในใจ แก้มเธอแดงๆและเหลือบไปมองชายที่ใส่แว่น “ฉันทานอิ่มแล้ว ถ้างั้น วันนี้เราคุยกันแค่นี้ ฉันคิดว่า เราสองคนไม่เหมาะสมกัน” ใครจะรู้ว่าชายที่ใส่แว่นตาได้ยินแล้วกลับยิ้มตอบไปว่า: “คุณหมี่โยวครับ ผมว่าคุณเป็นคนดีนะ เราสามารถทำความรู้จักกันมากกว่านี้” เธอยะแสยิ้ม ถ้าได้อยู่ด้วยกันกับผู้ชายขี้งกคนนี้ล่ะก็ เธอคงต้องหิวตาย! “ฉันคิดว่าเรามีอะไรเข้าใจผิดกันหน่อย เพื่อนของฉันบอกว่าหาผู้ชายเพื่อมาคบหาดูใจกันก่อน แต่ไม่ใช่คบเพื่อจะต้องแต่งงานเป็นจุดมุ่งหมาย ฉันยังสาวอายุยังน้อย ยังไม่มีความคิดแบบนี้ในสมอง” หมี่โยวตอบด้วยความเป็นจริง ชายที่ใส่แว่นตาเข้าใจความหมายที่เธอพูด และตอบกลับอย่างมีมารยาท: “ก็ดี แต่ก็ดีใจมากครับ ที่วันนี้ได้เจอคุณหมี่ ชานมแก้วนี้ผมเลี้ยงนะครับ” แล้วก่อนหน้านี้ เขายังคิดที่จะจ่ายคนละครึ่งหรือ.....คิดถึงความเป็นไปได้แล้ว หมี่โยวปาดเหงื่อ กำลังคิดอยู่ ก็เห็นเขาเอาบัตรส่วนลดออกมาส่งให้พนักงาน: “นี่คือบัตรส่วนลดชานมครับ” เธอยกมือกุมหัว หมี่โยวอยากจะรีบหารูมุดเข้าไปทันที ชายคนนี้ สุดยอดเลย! ในที่สุดก็ส่งชายที่ใส่แว่นกลับไปแล้ว หมี่โยวพูดด้วยความรู้สึกขอบคุณหนานกงห้าวฉี: “คุณชาย วันนี้ขอบใจนายมากนะที่เลี้ยงข้าว ไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปก่อนนะ” เท้ายังไม่ทันเดินก้าว ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนพูดอย่างประชด: “คราวหน้าหาผู้ชาย เช็ดตาให้สว่าง อย่าไม่มีรสนิยมแบบนี้” เธอพยักหน้าแรงๆ และรู้สึก... “วันหลังฉันจะไม่ยอมเชื่อเว็บไซต์อะไรนั่นอีก” พูดจบหมี่โยวก็รีบวิ่งหนีออกไป เห็นเธอวิ่งหนีออกไป สายตาของหนานกงห้าวฉีรู้สึกตลกและยิ้ม ลุกขึ้นยืน และเดินออกไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ห้าวฉี คุณจะไปไหนคะ?” ผู้หญิงที่ถูกลืมไม่มีใครสนใจที่นั่งข้างๆ ร้องถามด้วยความร้อนใจ หนานกงห้าวฉีใช้สายตาเหลือบมองเธอและใบหน้าไม่มีความรู้สึกอะไร: “นี่มันเป็นเรื่องของผม” ทิ้งคำนี้ไว้ แล้วเดินก้าวออกไปกว้างๆ ด้านนอกของร้านอาหาร หมี่โยวถือโทรศัพท์ด้วยความใจร้อนกระวนกระวาย: “เหยาเหยา เธอหาคนอะไรมาให้ฉันเนี่ย เธอคงไม่รู้ เขางกมาก ปล่อยให้ฉันหิวมาตั้งหลายชั่วโมง.....” ทั้งโมโหและกำลังบ่นอยู่ ไม่ได้สังเกตเลย ว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลัง “ช่างมันเถอะ ฉันไม่หาแล้ว ก็แค่อกหัก ไอ้ผู้ชายเลวๆคนนั้น ฉันก็จะไม่มีวันนึกถึงอีก” หมี่โยวพูดด้วยความโมโห “แต่เธออย่าลืมนะ พ่อแม่ของเธอจะมาเมืองN เธอลืมไปแล้วเหรอ ตกลงกับท่านไว้ ว่าจะให้พวกเค้าเจอแฟนของเธอ?” ยูนเหยาเหยาเตือนเธอด้วยความหวังดี หมี่โยวเอามือตบหัวและเครียดคิดไม่ออก: “รู้อย่างนี้ตอนนั้นไม่น่าบอกพ่อแม่เลย ตอนนี้ให้ฉันไปหาแฟนที่ไหน” เธอหันหลังไปช้าๆ ตกตะลึงที่สังเกตเห็นมีคนยืนอยู่ “คุณทำไมมาอยู่นี่?” หมี่โยวถามอย่างตกตะลึง
已经是最新一章了
加载中