ปักปิ่น
ลี่เซียนมองดูแล้วก็นึกได้ว่า เฮ้อ! คนเราไม่ควรหลงคำคนสินะ คงจะตกหลุมรักนางแล้วสินะ เอาเถอะนางจะได้ไปแบบไม่มีอะไรติดค้าง แค่เรื่องทุกอย่างลงตัวนางก็สามารถเดินทางไปได้แบบไม่ต้องกังวลสิ่งใด ดีนะที่นางยังยั้งใจไว้แค่ให้ไป 50 50 เท่านั้น \"เกือบไปแล้วไหมล่ะไอ้แววเอ้ยยยย\" เอาเถอะเรามาทำหน้าที่กันต่อในฐานะหมอ เมื่อคิดเช่นนั้นนางก็ไม่หันไปมองหยางจิ้นเฟยอีกเลย นางเป่าขลุ่ยเพลงคนนิสัยเสีย โดยเริ่มจาก \"ถ้าว่าหากว่ารักกันมีนยากขนาดนี้จบๆกันไปจะดีกว่าไหมเธอบอกฉันที\" พอจบเพลงจึงลืมตามอง ก็เห็นบางคนแอบเช็ดน้ำตา ทีคนรำพึงว่า \"มันช่างเศร้าเหลือเกิน\" เสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหว เมื่องานเลี้ยงใกล้จะจบขณะฑูตกำลังจะขึ้นมากล่าว ลี่เซียนก็ขอตัวกลับโดยอ้างว่ามีธุีะด่วน เดินออกจากงานไป โดยไม่ได้หันไปมองหยางจิ้นเฟยแม้เพียงน้อย
หยางจิ้นเฟยพอเห็นลี่เซียนไม่สนใจตนก็รีบจะลุกขึ้นทันที แต่ถูกองค์หญิงทักไว้ว่า \"ท่านอ๋องจะไปไหนรึเพคะ ไม่อยู่...\" ยังกล่าวไม่จบหยางจิ้นอ๋องก็กล่าว่า \"ไม่\" แล้วเดินออกจากงานไป
ลี่เซียน ออกมาโดยไม่ได้กลับจวน ไม่ได้ไปที่หุบเขา แต่นางกลับไปที่แคว้นเว่ย นางส่งสัญญาณให้เสี่ยวเป่ย บอกเสี่ยวอินว่าพอถึงวันงานนางจะกลับไป ให้เตรียมงานตามปกติ
ผิดกับหยางจิ้นเฟยที่ออกตามหาลี่เซียนไปทั่ว ทั้งแคว้น ขึ้นไปหุบเขาปีศาจ ไปบ้านเก่านาง สุดท้ายกลับมาถามที่จวนอานฉวน แต่ไม่มีผู้ใดตอบได้รู้เพียงแต่ว่าให้เตรีนมงานปักปิ่นตามปกติ ในวันที่ 12 จิ่วเยว่ ปีหู่ (12 กันยายน ปีขาล) ทำให้หยางจิ้นอ๋องคอตกกลับจวน พอดีกับที่หมิงหลงฮ่องเต้เสด็จมา \"ตามหานางไม่เจอรึ\"
หยางจิ้นเฟย\"...\"
\"องค์หญิงซีซานพึงใจเจ้า ลี่เซียนคงรู้ แล้วเจ้ายังไปคุยกับนางอีกยิ่งทำให้นางไม่พอใจ ที่จริงเจ้าต้องอธิบายกับนางก่อน ถ้ายังไม่ฟังเหตุผลค่อยประชด เฮ้อ!!!\" \"แล้วเจ้าจะทำเยี่ยงไร\"
หยางจิ้นเฟยไม่ตอบสิ่งใดมีแต่ใช้วิชาตัวเบาออกไปทางหน้าต่าง ไปที่ห้องลับของเขา เขารู้ว่าตนผิดที่ไม่พยายามอธิบายกับนาง ที่นางกล่าวเช่นนั้นคงเป็นการลองใจเขาสินะว่าพร้อมจะเป็นคนของนางจริงรึเปล่า แล้วเขาจะทำเช่นไรๆ คิดๆพร้อมกับดื่มสุราจนเมาหลับไป
จนถึงวันปักปิ่นลี่เซียนก็กลับมาพร้อมกับปิ่นที่เสด็จพ่อนางปักให้ตั้งแต่แคว้นเว่ย พอมาถึงจึงไม่มีการเอาออกแต่มีแค่จัดทรงผมบ้างเล็กน้อยเพราะที่วังจัดมาให้แล้ว โดยนางเอาชุดที่เสด็จพ่อนางให้มาสวมในวันนี้ด้วย ชุดที่ใส่วันนี้เป็นสีฟ้าอมเขียวคลุมด้วยเสื้อสีชมภูดอกเหม่ยสวยงามมากช่วยขับให้ผิวที่ขาวผ่องยิ่งดูขาวใส่ขึ้นไปอีก แต่งหน้าบางๆพร้อมกับริมฝีปากที่ทาชาดสีเหมือนชุด
ฮูหยินหวังก็เดินทางมาที่นี่ด้วยพร้อมกับหวังเหวินชวนบุตร
แต่ผู้ที่มาพานางเดินออกไปคือฟางเหม่ยเอิน ที่เป็นท่านแม่บุญธรรมของนาง \"แม่ดีใจเหลือเกินที่ได้มีโอกาสนี้ กล่าวพลางรอยยิ้มและน้ำตาคลอ ชิงหลินเดินข้างๆกล่าวว่า \"ท่านน้าสะใภ้อย่าร้องเชียวนะเจ้าคะ เดี๋ยวลี่เซียนจะไม่พบความสุข\" ทำเอาฟางเหม่ยเอินรีบกลืนก้อนน้ำตาลงคอไปทันที
ลี่เซียนจึงเอ่ยว่า \"ท่านพี่ชิงหลิน อย่าแกล้งท่านแม่บุญธรรมข้าสิเจ้าคะ\" ทำให้ทุกคนหัวเราะทั้งห้องเมื่อเดินออกมาถึงลานห้องโถงจวนผิงอาน ฟางเหม่ยเอินจึงหยิบปิ่นไม้ที่เป็นของท่านแม่แท้ๆนางขึ้นมากำลังจะปักลงไป ไป๋เฟิ้งก็รีบเข้ารายงานว่า \"หยางจิ้นอ๋องเสด็จจจจจ\" ทุกคนที่มาร่วมงานไม่มีใครแปลกใจ แต่ลี่เซียนกลับบอกว่า \"ท่านแม่ปักปิ่นให้ข้าเถอะ มิต้องไปสนใจ\" ฟางเหม่ยเอินกำลังจะเอ่ย แต่ก็มิเอ่ย จึงลงมือปักปิ่นทีนที
หยางจิ้นเฟยเดินเข้ามาก็เห็นนางปักปิ่นแล้วก็ปวดใจยิ่งนัก นางรับปากเขาแล้วว่าจะรับปิ่นจากเขา
ลี่เซียนรู้ว่าหยางจิ้นเฟยคิดสิ่งใดจึงพูดขึ้นว่า \"ข้ามิได้ผิดคำสัญญา จะรับปิ่นจากท่านแต่ว่าข้าจะปักหรือไม่นั้นข้าไม่ได้รับปากท่าน ข้าถือว่าข้าไม่ผิดสัญญา\" ว่าพลางยื่นมืออกไป เพื่อรับปิ่นจากหยางจิ้นเฟย
หยางจิ้นเฟยไม่รู้ว่าปิ่นบนศรีษะนางนั้นเป็นของผู้ใด ทั้งที่เป็นแค่ปิ่นไม้ธรรมดาแต่ได้ปักบนศรีษะนางนั้น ปิ่นหยกของเขาจะมีประโยชน์อะไร ไม่ทันที่จะถามไถ่ หยางจิ้นอ๋องก็ล่วงเอาปิ่นหยิกในแขนเสื้อออกมาหักเสียง \"แคร๊ก\"แล้วทิ้งลงพื้นไปทันที พร้อมกับกล่าวว่า \"ถือว่าไม่มีสัญญาใดๆต่อกัน\" กล่าวจบก็เดินจากไป
ลี่เซียนที่คิดว่าทำใจได้ก็น้ำตาไหลลงมาทันทีที่หยางจิ้นเฟยเดินจากไป ไป๋เฟิ้งมองดูปิ่นแล้วมองลี่เซียนกำลังจะกล่าวแต่ ฟางเหม่ยเอินก็กล่าวขึ้นมาก่อนว่า \"พวกท่านไม่ถามสิ่งใด รู้ไม่ว่าปิ่นสองอันนี้ คือของผู้ใด อันหนึ่งคือของบิดาแท้ๆของนาง อีกอันคือของมารดาแท้ๆนาง พวกท่านทำร้ายจิตใจนางยิ่งนัก\" กล่าวจบหันมากอดปลอบลี่เซียนแล้วพยุงนางเข้าห้องไปทันที
เมื่อไป๋ดฟิ้งได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งครู่นึงจากนั้นก็รีบตามผู้เป็นนายของตนไปทันที
เมื่อตามไม่ทันก็ไม่ได้บอกเรื่องที่ตนรับรู้มา เพราะไม่รู้ว่าท่านอ๋องไปที่ใด
ผ่านไป 5 วัน หยางจิ้นดฟยก็กลับมาในสภาพที่เหมือนกับซากศพเดินได้ ไป๋เฟิ้งก็รีบเข้าไปหาทันที \"ท่านอ๋องเรื่องปิ่นองค์.....\"
\"ข้าไม่อยากฟัง ออกไป!!!\" ไป๋ดฟิ้งจึงออกไปเมื่อตกค่ำตนก็ได้คิดว่าเป็นตายก็ต้องบอกให้ได้ จึงเดินเข้าไปในห้องอักษรอีกทีแล้วกล่าว่า \"ขอแค่ให้ข้าได้พูด ส่วนท่านอ๋องจะตัดสินใจเช่นไรก็แล้วแต่เถิด ปิ่นที่อยู่บนศรีษะองค์หญิงลี่เซียนนั้น 1 ของฮ่องเต้แคว้นเว่ยที่เป็นบิดาแท้ๆ 2 ของพระสนมซูเสียนเฟยมารดาแท้ๆ พะยะค่ะ\"กล่าวจบก็ยืนนิ่งรอดูว่าตนจะโดนสิ่งใด
หยางจิ้นเฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็แทบล้มทั้งนั่ง นี่เขาทำอะไรลงไป ทำไมเขาไม่ถามนาง
เมื่อเห็นไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นไป๋เฟิ้งจึงกล่าวต่อว่า \"ในวันนั้นองค์หญิงทรงร้องไห้หนักมากพะยะค่ะ\" พูดจบก็เดินจากไป เพราะนั้นก็แสดงว่านางเสียใจมากเช่นไร
หยางจิ้นเฟยรีบใช้วิชาตัวเบามุ้งไปที่จวนผิงอานทันที แต่สายไปเสียแล้ว เมื่อพบเริ่นเจินบอกเขาว่าลี่เซียนออกเดินทางตั้งแต่เข้าตรู่ ไม่ได้แจ้งว่าจะไปที่ใด ไม่ได้บอกว่าจะกลับเมื่อไหร่ เขาก็เข่าทรุดฮวบทันที หลังออกจากจวนผิงอานก็เดินทางไปที่ห้องลับหน้าผา ก็พบว่ามี ปิ่นหักอันหนึ่งวางอยู่บนที่นอน ไม่มีจดหมาย ไม่มีสิ่งใดนอกจากปิ่นหยกอันนั้น อันที่เขาหักไว้ นางเคยบอกว่า \"ข้าจะรับปิ่นจากท่านแต่ว่าข้าจะปักหรือไม่นั้นข้าไม่ได้รับปากท่าน\" หยางจิ้นเฟยเอ่ยจึ้นมาว่า \"นั้นสินะเจ้ารับปิ่นจากข้าแล้ว แต่มันคงปักมิได้แล้วเช่นกัน\" เว้นวรรคคิดครู่นึง \"ข้าขอโทษไม่ว่าเจ้าจะอภัยให้ข้าหรือไม่ ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด ข้าสัญญาว่าข้าจะมินอกใจเจ้า ข้าจะมีแต่เจ้า ชั่วชีวิตนี้\" ว่าแล้วก็ใช้มีดสั้นกีดเอาผ้าห้าตรงที่ลี่เซียนเอาปิ่นวางไว้ห่อปิ่นที่หักขึ้นห่อด้วยผ้าผูกผมที่เคยเก็บได้อีกที่มาเก็บไว้ที่อกเสื้อ แล้วเดินออกจากห้องไปมุ่งหน้าไปวังหลวงเพื่อปรึกษากับหยางจิ้นหมิงหลงฮ่องเต้เรื่ององค์หญิงจากทะเลใต้ทันที