ตอนที่422 จริงหรือเท็จ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่422 จริงหรือเท็จ
ตอนที่422 จริงหรือเท็จ “สรุปแล้วนี่มันเรื่องอะไรกันแน่!” ตอนที่ชนุดมรีบมายังโรงพยาบาลนั้น เขาเห็นผู้จัดการส่วนตัวของปรียสนั่งอยู่ตรงระเบียง เสื้อคลุมและกางเกงของเขาเต็มไปด้วยเลือด ดูแล้วเขากำลังตกอยู่ที่นั่งลำบากเป็นอย่างมาก ราวกับว่าไปทะเลาะกับใครมาอย่างไรอย่างนั้น “ผมไปส่งปรียสกลับบ้าน เดิมทีก็ใกล้จะถึงแล้วล่ะครับ แต่จู่ๆมีคนพุ่งตรงเข้ามาจู่โจมพวกเราเข้าเสียก่อน คุณก็รู้ว่าฝีมืออย่างปรียสสามารถรับมือกับคนธรรมดาได้สบายๆ แต่เพื่อปกป้องผม เขาก็เลยถูกคนนั้นแทง ตอนนี้ยังอยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่เลยครับ........” “อะไรนะ?” ชนุดมรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้ว “มองเห็นชัดไหมว่าคนนั้นรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร?” “ไม่ครับ มันมืดมาก เพียงแต่....ตอนที่เขาวิ่งหนีไปนั้นทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ ในเครื่องมีเพียงแค่เบอร์ติดต่อเดียวคือของจิดาภา” ผู้ช่วยหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ด้านบนยังคงมีรอยเลือดเปื้อนอยู่ ที่แท้ก็...... ชนุดมหยิบมือถือเครื่องนั้นมา แล้วกระจ่างทุกอย่างแล้ว คาดไม่ถึงว่าปรียสจะใช้ร่างกายของตัวเองมาวางเดิมพันเช่นนี้ แสดงแผนทรมานร่างกายตัวเองนี้มาก็เพื่อจะใส่ความจิดาภา “ผมทราบแล้วครับ ผมจะรีบไปตรวจสอบให้แน่ชัด ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่คงที่เท่าไหร่ เดี๋ยวคุณไปตรวจร่างกายเสียหน่อยก่อนนะครับ แล้วก็ ถ้าหากมีนักข่าวมาที่นี่ คุณอย่าเพิ่งหลุดพูดเรื่องข่าวอะไรพวกนี้ออกไปนะ เพราะถึงอย่างไรคุณปรียสเองก็เป็นผู้เสียหายด้วย” ผู้ช่วยของตรีภพพยักหน้ารับอย่างงงๆ ราวกับยังตั้งสติไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น “ผู้กำกับชนุดม ผมจะไม่พูดไปทั่วครับ แต่เรื่องนี้เป็นการทำร้ายปรียสขนาดนี้แล้ว ผมในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของเขา ผมไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยไม่พูดอะไรออกมาได้เลยหรอกครับ ผมคงยืนมองดูเขาถูกคนอื่นมารังแกแบบนี้ไม่ได้ ในวงการนี้ย่ำแย่ถึงขั้นนี้แล้วจริงๆหรือ ทั้งหมดนี้เพียงแค่พวกเขาเป็นคนของตระกูลอัครปรีดากุลก็จะไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือครับ?” ชนุดมได้ยินที่ผู้ช่วยคนนี้ฟ้องดังนั้น แววตาของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น แล้วตบบ่าของเขาพลางเอ่ยบอกกับเขา “คุณวางใจได้ ผมจะตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน จะให้ความยุติธรรมกับคนที่ได้รับความเสียหายแน่นอน” “หวังว่าจะตรวจสอบกันเร็วหน่อยนะครับ! ถึงแม้ว่าบริษัทของเราจะไม่ได้มีอำนาจอิทธิพลอย่างเค.เอฟ แต่พวกเราก็จะไม่ยอมทนเห็นศิลปินในสังกัดต้องถูกรังแกเช่นนี้หรอกนะครับ” ชนุดมพูดปลอบผู้ช่วยคนนี้อีกสองสามประโยค หลังจากนั้นให้รองผู้กำกับพาทีมงานของกองถ่ายที่มาด้วยกันอยู่เผ้าที่โรงพยาบาล อย่างแรกก็เพื่อที่จะคอยสังเกตสภาพร่างกายของปรียส และอย่างที่สองคือกลัวว่าจะมีนักข่าวเข้ามา หากมีทางทีมงานอยู่ด้วย ปรียสจะไม่กล้าพูดอะไรเกินไป หลังจากนั้นชนุดมจึงรีบรายงานเรื่องนี้ให้กับจิรภาสและท่านเดชได้รับรู้ เพื่อให้ทางเค.เอฟได้มีการเตรียมตัวเองไว้ “นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล้าใช้ร่างกายตัวเองเป็นเดิมพันแบบนี้”ท่านเดชพึมพำ ช่างน่าเหยียดหยามเสียจริงๆ “เลวเสียจนเกินจะเยียวยาจริงๆ” “เขาคิดจะใส่ร้ายจิดาภา จึงแต่งละครและแสดงละครเองแบบนี้ แต่เพียงแค่เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดียวเท่านั้น ราวกับจะไปไม่ถึงกับเป้าหมายของเขา หรือบางทีในมือของเขานั้นยังคงมีอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้ครับ” “เมื่อวานตอนอยู่ที่กองคุณจิดาภาได้บอกทางให้กับคนๆหนึ่ง คนนี้เห็นว่าเป็นคนจากบริษัทต้นสังกัดของปรียส ว่าจะมาส่งของให้เขา เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ จึงให้โรศนีมาบอกผม ผมจึงส่งให้ตฤณไปสืบมาแล้ว ถ้าหากเรื่องนี้เกี่ยวกับคนๆนั้นจริงๆ บางทีเขาอาจจะเป็นทางผ่านเพียงเท่านั้น” น้ำเสียงของจิรภาสนั้นเย็นชาเป็นอย่างมาก แววตาแสดงออกถึงความเยือกเย็น “คุณจิดาภาระมัดระวังตัวเองอยู่ตลอด บางทีลางสังหรณ์ของเธออาจจะเป็นจริง ตอนนี้ปัญหาที่สำคัญอยู่ตรงที่ว่าจะสามารถหาตัวผู้ชายคนนั้นเจอได้หรือเปล่า” “ปรียสเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมากคนหนึ่งก็จริงอยู่ เพียงแต่เขาถูกลาภยศเข้าครอบงำเสียจนหน้ามืดตามัว ใช้วิธีแย่ๆแบบนี้เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ ตอนนี้ดูแล้ว หากไม่ใช่ว่าคุณจิดาภาระมัดระวังตัวเองดีล่ะก็ เกรงว่าจะต้องติดกับดักพวกเขาตั้งแต่แรกแล้วล่ะครับ เรื่องนี้ผมเองก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ ที่มองโฉมหน้าที่แท้ของปรียสไม่ออกตั้งแต่แรก” ชนุดมกล่าวตำหนิตัวเอง “หวังว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อคุณจิดาภานะครับ.....” “เธอไม่ได้เก็บเอามาคิดหรอกครับ เธอมักจะเจอเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยๆ จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอไปแล้ว” ตอนที่จิรภาสเอ่ยถึงจิดาภานั้น ใบหน้าของเขาจึงปรากฏรอยยิ้มขึ้น “ผมยังกังวลว่าคุณจิดาภาจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้จริงๆครับ ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ความคิดของเธอนั้นช่างน่าชื่นชมมากจริงๆครับ” ชนุดมที่อยู่ในวงการมานานขนาดนี้เห็นนักแสดงหญิงหลายต่อหลายคนที่เป็นเพราะตกเป็นข่าวลืออื้อฉาว จนสุดท้ายแล้วก็คับแค้นใจจนต้องถอนตัวออกไป แต่คนที่มีความสงบนิ่งเช่นจิดาภานี้ เขาเห็นน้อยมาก จะไม่กล่าวไม่ได้เลยว่าจิดาภาเป็นคนที่มีความพยายาม ทั้งยังมีความตั้งใจ ไม่เพียงแค่รับผิดชอบต่อบทบาทที่ได้รับเพียงเท่านั้น เธอยังใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจให้ถูกต้องได้ดีอีกด้วย หรือบางทีนี่ก็คงจะเป็นสาเหตุที่จิรภาสถึงได้รักเธอคนเดียวมากเช่นนี้ “พรุ่งนี้คงจะมีบทสรุปที่แน่นอนแล้วล่ะครับ” จิรภาสมั่นใจในความสามารถของตฤณ เรื่องนี้ก็ควรจะจบลงได้แล้ว ชนุดมพยักหน้ารับ ในใจของเขาเองก็อยากจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็ว หากยังยืดเยื้อต่อไปอีก ทั้งกองถ่ายก็คงจะต้องพังลงด้วยเช่นกัน ท่านเดชที่อยู่ฟังทั้งสองคนคุยกันอยู่ข้างๆนั้น ราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา ตอนนั้นที่เขายกบริษัทเค.เอฟให้กับจิรภาสดูแลนั้น ก็เป็นเพราะเบื่อหน่ายกับการหลอกลวงกันของวงการนี้ ตอนนี้วงการบันเทิงเป็นราวกับแอ่งน้ำที่สกปรก หลุดออกมาจากโคลนดินเหล่านั้นได้โดยไม่แปดเปื้อนอะไรนั้นมีน้อยคนมาก คอยคิดแต่จะวางแผนทำร้ายคนอื่น ใช้วิธีสกปรกเพื่อแย่งชิงแหล่งสนับสนุน คนแบบนี้จะประสบความสำเร็จได้อย่างไรกัน? คิดไปคิดมาแล้ว หลานสะใภ้ของเขามีคุณสมบัติที่ดี! จะทำเรื่องอะไรก็ต้องรู้จักบันยะบันยัง เป็นคนก็จะต้องรู้จักขอบเขตที่จำกัด ถูกคนรังแกก็ไม่ควรจะมาหลบแอบร้องไห้ ควรจะต้องมีความมุ่งมั่นที่จะโต้ตอบกลับไป ใช้เสื้อเกราะที่แหลมคมที่สุดมาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง........ จิดาภาบรรลุตามเป้าหมายของเขาแล้ว99% ส่วนอีกเพียง1%นั้นยังขาดอยู่ที่ตรงไหนกัน? เรื่องราววุ่นวายในค่ำคืนนี้ไม่นานก็หายไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าชนุดมจะบอกกับผู้ช่วยของปรียสไว้แล้วว่าไม่ให้พูดอะไรกับนักข่าวมากไป ทางทีมงานของกองถ่ายเองก็จะพยายามเลี่ยงการพูดคุยเรื่องที่ปรียสได้รับบาดเจ็บ แต่ข่าวที่ปรียสได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลนั้นก็เผยแพร่ออกไปอยู่ดี ไม่ต้องคิดมากเลย นอกจากเจ้าตัวแล้ว ใครจะสามารถบรรยายเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนเช่นนี้อีก? เขาต้องการให้ทุกคนรู้ ว่าจิดาภาเป็นคนทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้ บริษัทต้นสังกัดของปรียสได้เปิดเผยโทรศัพท์มือถือเครื่องที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุว่ามีเบอร์โทรศัพท์ของจิดาภาอยู่ เช่นนี้ ก็เท่ากับว่าได้ประกาศออกมาแล้วว่าจิดาภาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ "เรื่องที่ปรียสได้รับบาดเจ็บไม่ควรเปิดเผยออกมา แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตของเขา เพื่อศิลปินในสังกัดของบริษัทเรา เราตัดสินใจที่จะแจ้งตำรวจ ให้ทางฝ่ายนั้นได้ตรวจสอบหาความจริง!" ช่วงบ่ายวันนั้น ปรียสให้ผู้ช่วยของเขาเรียกนักข่าวมาที่ห้องพักผู้ป่วย เป็นเขาที่เรียกร้องที่จะให้สัมภาษณ์เอง! ภายในห้องพักผู้ป่วย ศีรษะและช่วงเอวของเขานั้นมีผ้าพันแผลพันไว้หนามาก เขาดูอ่อนเพลียและเจ็บปวดมาก ประกอบกับสีหน้าที่ขาวซีดนั้นอีกด้วย..... "ผมคิดไม่ถึงเลยว่าฝ่ายนั้นกะจะเล่นงานผมถึงตาย!" "ลำพังเพียงผมคนเดียวก็คงไม่เป็นไรหรอกครับ แต่นี่มีผู้ช่วยของผมอีก เขาไม่ได้มีทักษะเรื่องพวกนี้ ผม...แค่ก ๆ...." "ผมหวังว่าทางตำรวจจะรีบจับตัวฆาตกรให้ได้โดยเร็วนะครับ วงการบันเทิงไม่ควรจะวุ่นวายแบบนี้" บรรดานักข่าวต่างก็พากันพยักหน้ารับ รู้สึกว่าสิ่งที่ปรียสพูดนั้นถูกต้องแล้ว ผู้รับผิดชอบทางต้นสังกัดของปรียสดูเวลา "เอาล่ะค่ะ นักข่าวทุกท่านก็ได้เห็นแล้ว ว่าตอนนี้สภาพร่างกายของคุณปรียสไม่เหมาะกับการที่ได้รับการสัมภาษณ์เป็นเวลานานๆ รอให้เขาได้พักฟื้นร่างกายซักระยะนึงก่อน แล้วเราจะเปิดเผยถึงเรื่องที่ไปประสบกับการถูกโจมตีครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจนะคะ วันนี้การสัมภาษณ์ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ"
已经是最新一章了
加载中