ตอนที่424 ควบคุมหลักฐาน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่424 ควบคุมหลักฐาน
ตอนที่424 ควบคุมหลักฐาน เธอหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน สิ่งที่เธอไม่อยากเห็นมากที่สุดก็คือเรื่องแดงออกมา ปรียสเกิดอุบัติเหตุ....... เนื่องจากว่าปรียสไม่เคยบอกถึงแผนการเรื่องนี้กับเธอ ดังนั้นนวาระจึงทำได้เพียงอาศัยการคาดเดาของตัวเองไป และก็เพราะเป็นเช่นนี้ เธอจึงไม่ได้รู้สึกสงสัยในความจริงเท็จของสายที่โทรเข้ามาเมื่อครู่นี้ คืนนี้เอง นวาระได้ออกมาจากโรงแรมเพียงลำพัง เธอขับรถไปยังผับแห่งหนึ่งในช่วงกลางดึก แต่รออยู่ซักพักหนึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นปรียส และตอนที่เธอกำลังจะกลับออกไปนั่นเอง เธอก็ได้รับสายจากสมภพที่โทรเข้ามาหาเธอเสียก่อน “ถูกนักข่าวล้อมไว้อยู่ ไปไม่ได้เลย คุณกลับไปก่อน แล้วรอผมโทรไปหาอีกนะครับ” นวาระได้ยินดังนั้น ในใจก็รู้สึกหวาดกลัว ไม่ได้มีความสงสัยใดๆกับสายที่โทรเข้ามา จึงรีบกลับไปยังโรงแรมเลยในทันที แม้แต่มีคนที่คอยตามเธออยู่ทางด้านหลังนั้น เธอไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย คนที่จิรภาสส่งไปให้คอยสะกดรอยตามนวาระนั้นมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก หลังจากที่เช็คจนมั่นใจว่าเธอกลับถึงโรงแรมแล้วนั้น พวกเขาทั้งสองคนจึงกลับไปยังผับนั้นในช่วงดึก และไม่นานก็ได้รู้ข้อมูลว่าปรียสและนวาระมักจะมาเดทกันที่นี่อยู่บ่อยๆ อีกทั้งยังได้รับบันทึกข้อมูลที่พวกเขามักจะชอบไปเปิดห้องกันที่โรงแรมบริเวณใกล้ๆนี้อีกด้วย โรงแรมนั้นจะเปิดห้องให้กับคนที่เป็นสมาชิกเพียงเท่านั้น ทั้งมีการรักษาเก็บความลับกันอย่างรัดกุม แต่แค่เพียงมีเงิน หรือมีพนักงานที่ยอมจะเอารูปถ่ายเหล่านั้นมาแลกเปลี่ยน ถึงอย่างไรก็ไม่มีความลับในโลกอยู่แล้ว รูปถ่ายเหล่านั้นจะต้องมีคนเปิดเผยออกมาเข้าซักวันอยู่ดี และเวลานี้เอง ตฤณได้เจอตัวคนร้ายที่ต้องสงสัยปรากฏตัวอยู่บริเวณใกล้ เชื่อว่าจะจับตัวเขาได้ภายในหนึ่งวัน เมื่อได้หลักฐานเหล่านั้นแล้ว จิดาภาถึงได้รู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้ “พี่จิดาภาฉลาดจริงๆค่ะ!” เจนจิราที่อยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นด้วยความนับถือ “ไม่ได้ทักษะการแสดงของผม จะเอาหลักฐานมาได้ไหมล่ะ?” สมภพขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “ตอนนี้ก็รอให้คุณตฤณจับตัวคนนั้นได้” เจนจิราไม่อยากเถียงกับเขา สองมือประสานกัน ภาวนาออกมาอย่างจริงใจ สมภพจึงดึงมือเธอเดินออกมา “เอาล่ะ ที่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับผมแล้ว ผมขอตัวกลับก่อน” เจนจิราจึงโบกมือให้กับจิดาภา “พี่จิดาภาคะ มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วย โทรหาฉันได้ตลอดเลยนะคะ! อา....คุณ ช้าๆหน่อยสิ” สมภพช่วงนี้อยู่ในช่วงที่เขากำลังพักผ่อน เขาจะหาวิธีเพื่อให้เจนจิรามาอยู่ด้วยกันกับเขาในทุกๆวัน พอนานเข้า เจนจิราเองก็ชินกับรูปแบบการปฏิบัติต่อกันแบบนี้ไปแล้ว อีกอย่างจิดาภาทางนี้ก็มีจิรภาสคอยปกป้องเธออยู่ด้วยแล้ว เรื่องราวนี้จะต้องถูกแก้ไขไปได้อย่างราบรื่นแน่นอน ตั้งแต่วันที่ถูกทำร้ายในคืนนั้นจนถึงตอนนี้ เวลาผ่านไป3วันแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นกังวลว่าจิดาภาจะหาหลักฐานอะไรได้มากขึ้นหรือเปล่า ทางปรียสจึงมีการจัดงานแถลงข่าวขึ้น เพื่อเปิดเผยเรื่องที่เขาถูกจู่โจมทำร้ายในวันนั้น เนื่องจากเรื่องนี้พัวพันกับบุคคลหลายคน ทั้งจิดาภาและเค.เอฟด้วยแล้วนั้น ดังนั้นนักข่าวจึงพากันรู้สึกสงสัยในความจริงของเรื่องนี้ ยังไม่ทันได้ถึงเวลาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ที่จัดงานแน่นขนัดเต็มไปด้วยนักข่าวจากสื่อต่างๆที่มากันอย่างล้นหลาม หลังจากที่ผู้ช่วยเข็นรถเข็นที่มีปรียสนั่งอยู่เข้ามาด้านในแล้วนั้น กล้องนับไม่ถ้วนได้โฟกัสมายังใบหน้าของเขา จริงๆแล้วเขาเพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้น ก็สามารถพอที่จะพิสูจน์ทุกอย่างได้แล้ว ผู้จัดการของปรียสได้เริ่มพูดแถลงออกมาก่อน “ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณนักข่าวทุกท่านที่มีร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้ จริงๆแล้วที่เราตัดสินใจจัดการแถลงข่าวนี้ขึ้นมาเป็นการกระทำที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ ความจริงเรื่องที่คุณปรียสถูกทำร้ายทำให้พวกเรารู้สึกเจ็บปวดมาก!” “ตอนนี้ทางตำรวจกำลังสืบหาความจริง พวกเราเองก็ไม่อาจคาดเดาได้ ทางด้านล่างให้คุณปรียสเจ้าตัวเขาได้เล่าถึงสิ่งที่เขาได้ประสบพบเจอมากับตัวเองในตอนที่ถูกทำร้ายตอนนั้นให้กับทุกท่านได้ฟัง” ขณะนั้นปรียสนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น ศีรษะยังคงมีผ้าพันแผลไว้ ร่างกายของเขานั้นดูไม่เหมือนเมื่อก่อน ดูไม่มีชีวิตชีวา และหลังจากที่เขาหยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วนั้น เขาดูเหมือนกับว่ากำลังลังเล ตอนที่เผชิญหน้ากับแสงไฟ ใบหน้าของเขาถึงได้ฝืนให้มีรอยยิ้มออกมา “จริงๆแล้ว ตอนนี้ผมเหมือนกับกำลังอยู่ในความฝัน” “แม้กระทั่งผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองทำผิดอะไร ถึงได้ถูกทำร้ายกะทันหันแบบนี้” “ตอนที่เกิดเรื่อง ผู้ช่วยของผมกำลังไปส่งผมกลับบ้าน ยังไม่ทันถึงหน้าประตูบ้านเลยครับ ก็ถูกผู้ชายที่สวมใส่ผ้าปิดจมูกอยู่ล้อมเอาไว้ ในมือของพวกเขานั้นมีแต่อาวุธเต็มไปหมด ด้วยท่าทางก้าวร้าว แต่เนื่องจากว่าผมเองได้ฝึกศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก จึงยังสามารถรับมือกับพวกนั้นได้ แต่ผู้ช่วยของผมนั้นก็อยู่ข้างๆผม เขาไม่สามารถต้านทานกับความสามารถของอีกฝ่ายได้ และเพื่อปกป้องเขา ด้วยร่างกายที่อ่อนแรง จึงทำให้ถูกอีกฝ่ายใช้มีดสั้นแทง แล้วใช้ท่อนไม้ตีลงมาตรงบริเวรศีรษะครับ” “และหลังจากที่ผู้ช่วยของผมได้พยายามหลบจากการถูกจู่โจมจากพวกนั้น ก็เก็บโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งได้ ซึ่งในนั้นมีเพียงเบอร์ติดต่อเพียงแค่เบอร์เดียว นั่นก็คือเบอร์ของศิลปินเค.เอฟ คุณจิดาภานั่นเอง” “ผมไม่สามารถใส่ร้ายกล่าวหาใครได้โดยไม่มีหลักฐาน ผมเชื่อว่าทางตำรวจจะให้คำตอบนี้กับผมได้” “เพียงแต่ว่ามีคนเห็นบุคคลนี้เคยไปหาคุณจิดาภาที่ห้องพักผ่อน.....ผมไม่รู้ว่าระหว่างพวกเขามีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันหรือเปล่า? และก็ไม่สามารถตัดสินชี้ขาดได้ว่าที่ผมได้รับบาดเจ็บในตอนนี้จะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้นจริง” ปรียสจับไมโครโฟนแน่น ราวกับกำลังรู้สึกโกรธแค้น ผู้จัดการส่วนตัวและผู้ช่วยอยู่ข้างๆเขา ฉากนี้ได้ถูกบรรดานักข่าวบันทึกเอาไว้แล้ว ผู้จัดการของปรียสหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูดต่อ “ถ้าหากทางตำรวจได้บทสรุปออกมาแล้วยังไม่สามารถทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ออกมายอมรับผิดได้นั้น ทางบริษัทของเราก็จะไม่ยอมให้อิทธิพลใดๆในวงการนี้ ต้องมาทนรับกล้ำกลืนกับความทุกข์ใจเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน!” “ถ้าหากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณจิดาภาจริง ต่อให้เค.เอฟจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิง พวกเราก็จะต้องเจรจากับพวกเขา ให้คุณจิดาภาออกมาขอโทษต่อหน้าสาธารณชน” “ไม่ว่าพวกเขาจะแตกแยกกันแล้วหรือไม่ คุณจิดาภาควรจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เธอทำ! การบาดเจ็บของคุณปรียสพวกเราต่างก็เห็นกันอยู่แล้ว หรือเป็นเพราะการได้รับการสัมภาษณ์จากนักข่าว แล้วพูดความจริงบางอย่างออกมาที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อใครบางคน เขาก็จะต้องถูกทำร้าย หรือแม้กระทั่งต้องชดใช้ด้วยชีวิตเชียวหรือ?” ปรียสนั่งอยู่ข้างๆผู้จัดการส่วนตัวของเขา รู้สึกพอใจกับคำพูดนี้เป็นอย่างมาก ที่พวกเขาต้องการนั้นไม่ใช่เพียงให้จิดาภาออกมาขอโทษเพียงคนเดียวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นคือต้องการเห็นท่าทีของเค.เอฟด้วยเช่นกัน ทั้งยังระบุถึงสาเหตุที่เขาทำไปทั้งหมดแล้วอาจจะถูกจิดาภาว่าจ้างให้คนมาจู่โจมเขา เป็นเพราะเขาพูดในสิ่งที่เขาเห็นในกองถ่ายออกไป ดังนั้นจึงทำให้จิดาภามีเจตนาร้ายต่อเขา อีกทั้งที่จิดาภากล้ากำเริบเสิบสานเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะจิรภาสที่คอยปกป้องให้ท้ายเธออยู่นั่นเอง! บรรดานักข่าวต่างพากันยกไมโครโฟนขึ้น ต้องการจะสัมภาษณ์ปรียส ตอนนี้ปรียสจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงปัญหาสำคัญๆ ก็สามารถทำให้สถานการณ์พัฒนาไปได้เป็นอย่างดี โดยที่เขากลายเป็นผู้เสียหายเต็มๆ ใครจะสามารถเอาคนร้ายมาเกี่ยวข้องกับตัวเขาได้กัน? แผนทรมานร่างกายตัวเองเช่นนี้ ก็ถือว่าคุ้ม แต่ตอนนี้ทุกคนมองเข้าไปเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือปรียสที่เป็นนักแสดงที่มีทักษะการแสดงที่ดีคนหนึ่ง จะแสดงท่าทางได้รับบาดเจ็บน่าสงสาร ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก...... “นี่เป็นเรื่องใหญ่มากจริงๆ ตอนนี้ทางเค.เอฟมีท่าทีเป็นอย่างไรกัน หรือยังจะปกป้องจิดาภาอีกหรือ?” “มีอำนาจ มีอิทธิพลก็คิดที่จะทำร้ายชีวิตใครก็ได้อย่างนั้นหรือ? เมื่อก่อนเค.เอฟมีกระแสที่ดีมาก ทำไมพอตั้งแต่เซ็นสัญญากับจิดาภาแล้ว เนื้อหาข่าวถึงได้เปลี่ยนไปจนแทบจะทนดูไม่ได้แบบนี้” “ทั้งยังมีเรื่องที่จิดาภาแตกแยกกันกับสามีแล้วเอาตัวเข้าแลกเปิดเผยออกมาอีก ตอนนี้ก็ว่าจ้างให้คนไปทำร้ายเพื่อนร่วมวงการเดียวกัน วงการดารานี่เละเทะมากจริงๆ!” “ตอนแรกเธอคงอาศัยวิธีการที่ไม่โปร่งใส ถึงได้ทำให้คุณจิรภาสแต่งงานกับเธอล่ะสิ? กาลเวลาทำให้รู้ใจคน พวกเขาเพิ่งจะเปิดเผยเรื่องแต่งงานไปได้ไม่นานเอง....”
已经是最新一章了
加载中