ตอนที่426 แท้จริงแล้วใครพูดจริงกันแน่

ตอนที่426 แท้จริงแล้วใครพูดจริงกันแน่ “ที่ผ่านมาฉันกับคุณปรียสไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนค่ะ แต่นับตั้งแต่ที่ฉันผ่านการคัดเลือกให้มาเป็นนางเอกของเรื่อง ชั่วฟ้าดินสลาย และได้มาเป็นนักแสดงนำหญิงของภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาก็มีเหตุผลให้ทำกับฉันแบบนี้แล้ว” “เป็นเพราะว่านักแสดงสมทบหญิงคุณนวาระที่เคยเป็นผู้เข้าร่วมชิงบทของนางเอก.....เธอและคุณปรียสได้คบหากันเป็นเวลาปีกว่าแล้วค่ะ” “นั่นก็หมายความว่า หากเป็นเพราะฉันไม่สามารถแบกรับกับอะไรบางอย่างได้ แล้วถอนตัวออกจากเรื่องนี้ไป เช่นนั้นแล้วคนที่จะได้มารับบทเป็นนางเอกของเรื่องก็คือคุณนวาระนั่นเองอย่างไรล่ะคะ!” จิดาภาพูดออกมาอย่างช้าๆ ด้วยความสงบนิ่ง เสียงของเธอนั้นส่งผ่านไมโครโฟนให้ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน บรรดานักข่าวต่างพากันตกตะลึง แท้ที่จริงแล้วมีเหตุการณ์ภายในอยู่เช่นนี้นี่เองหรือ? หากเป็นเช่นนี้จริง ปรียสเองก็คงจะมีเหตุผลมากพอที่จะทำเช่นนั้นกับจิดาภาแล้ว จริงๆแล้วตอนนี้ลองกลับมาคิดดู ถ้าหากจิดาภาต้องการจะให้ใครซักคนออกไปจากกองถ่ายล่ะก็ เพียงแค่เธอบอกกับทางเค.เอฟนั้น ก็จะมีคนจัดการเรื่องนี้แทนเธอหลายคน เธอไม่จำเป็นที่จะต้องทำเรื่องโง่ๆในการไปจ้างใครให้มาทำร้ายเขาเลยเสียด้วยซ้ำ..... เธอเป็นถึงภรรยาของประธานบริษัทเค.เอฟ ต้องการให้นักแสดงคนหนึ่งออกไปนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย เมื่อเห็นว่านักข่าวเชื่อคำพูดของจิดาภา ปรียสกำหมัดแน่น เขาไม่คาดคิดเลยว่าจิดาภาจะรู้เรื่องระหว่างเขากับนวาระ ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงตะโกนด่าว่าจิดาภาออกไป “ผมอยู่ในวงการนี้มาหลายปี ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนไร้ยางอายเท่าคุณมาก่อนเลย เพื่อชื่อเสียงของตัวเอง กลับดึงคนที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยมาแบบนี้” “ผมกับคุณนวาระเราไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบที่คุณพูด คุณอย่ามาใส่ร้ายผมแบบนี้” “คุณมีหลักฐานไหม? ที่มาใส่ร้ายผมแบบนี้ ผมจะให้บริษัทต้นสังกัดดำเนินการทางกฎหมายให้คุณต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้” ทุกๆคำพูด ปรียสกัดฟันพูดออกมาด้วยความโกรธแค้น เขาถูกบีบเสียจนไม่มีทางให้ถอยแล้ว ทำได้เพียงใช้ท่าทางข่มขู่เธอออกไปเพื่อกลบเกลื่อนความลุกลี้ลุกลนที่เกิดขึ้นภายในใจ “คุณต้องการหลักฐานใช่ไหมคะ? หลังจากที่เห็นหลักฐานพวกนี้แล้ว คุณยอมที่จะพูดความจริงทุกอย่างออกมาให้หมดไหมคะ?” จิดาภาไม่ได้ตอบคำถามของเขาออกไปตรงๆ แต่กลับใช้วิธีที่ฉลาดหลักแหลมในการย้อมถามเขากลับไป แววตาของเธอนั้นดูไม่สะทกสะท้านใดๆ ดูแล้วเธอมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน ปฏิกิริยาตอบกลับของปรียสเองนั้นราวกับจะดูรุนแรงด้วยเช่นกัน..... ปรียสถูกบรรดานักข่าวเหล่านั้นจ้องมอง เขาไม่มีทางถอยกลับแล้ว จึงกัดฟังแล้วเอ่ยกับเธอต่อ “ได้! ไม่มีหลักฐานก็อย่ามาพูดอะไรไปทั่วที่นี่เลยครับ” จิดาภายหยุดไปซักพัก หลังจากนั้น จึงกล่าวพูดกับทุกคนที่อยู่ทางด้านล่างเวที “ในระหว่างความสัมพันธ์ของพวกเขา ฉันเองก็เป็นคนนอก ในเมื่อคุณปรียสไม่ยอมรับ ก็ให้คุณนวาระมาพูดเองแล้วกันนะคะ แบบนี้จะได้ดูมีแรงโน้มน้าวใจได้ดีกว่า” “นวาระมาด้วยหรือ?” นักข่าวต่างพากันมองยังประตูทางเข้า “คุณจิดาภาคะ คุณกับคุณนวาระมาด้วยกันหรือคะ?” ปรียสที่ได้ยินนักข่าวถามเช่นนั้น รู้สึกขบขันยิ่งนัก ถึงแม้ว่านวาระจะมา ก็เป็นการถูกจิดาภาบังคับอยู่ดี จะสามารถช่วยจิดาภาพูดเรื่องนี้ได้อย่างไร! จะดูอย่างไร เขาก็ชนะ จิดาภาเพียงแค่ดิ้นรนอย่างยากลำบากเท่านั้นเอง..... แต่เวลานี้เอง จิดาภากลับหัวเราะขึ้นมา รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความยั่วยุและดูอันตราย บรรดานักข่าวต่างพากันนั่งไม่ติด ไม่รู้ว่าจิดากำลังจะเล่นอะไรกันแน่ เนื่องจากผ่านไปแล้วครึ่งนาที แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของนวาระ “คุณจิดาภาคะ คุณนวาระอยู่ที่ไหนคะ?” “สรุปแล้วในมือของคุณมีหลักฐานอะไรอยู่กันแน่คะ?” จิดาภารู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องเปิดเผยความจริงออกมาแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรออกหมายเลขหนึ่ง “เข้ามาเถอะค่ะ” หลังจากนั้นประตูห้องโถงใหญ่นั้นก็ได้ถูกใครบางคนผลักเปิดออกอีกครั้ง เพียงแต่คนที่เดินเข้ามานั้นไม่ได้มีเพียงแค่นวาระเท่านั้น ทั้งยังมีชนุดมและรองผู้กำกับของกองถ่ายเรื่องนี้ด้วย นวาระเห็นนักข่าวที่นั่งกันอยู่มากมายหลายคนนั้น ในใจรู้สึกชะงักไปซักพักหนึ่ง ทั้งที่ชนุดมนัดเธอมาคุยเรื่องบทละคร แต่ทำไมถึงได้มีนักข่าวเต็มไปหมดแบบนี้! อีกทั้งจิดาภาและปรียสอยู่บนเวทีนั้นด้วย สรุปแล้วนี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ครั้งนี้ นักข่าวต่างพากันยกกล้องเพื่อจับภาพ และถ่ายคนของกองถ่ายนี้กันอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เรื่องราวได้ทวีความตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆแล้ว ผู้กำกับและนักแสดงหลักมาอยู่ที่งานแถลงข่าวกันหมด เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไรกัน? ผลสุดท้ายแล้วจะใช่ว่าเป็นเพราะพระเอกของเราจะทำเพื่อนักแสดงสมทบที่ตัวเองรัก แล้ววางแผนกำกับเล่นละครในฉากที่ได้รับบาดเจ็บนี้ เพื่อเป็นจัดการกับนางเอกของเรื่องหรือเปล่ากัน และนางเอกของเรื่องก็อยู่ตรงนี้แล้ว เธอจะเปิดเผยความจริงของเรื่องนี้ สรุปแล้วที่พวกเขาพูดออกมานั้น ใครกันแน่ที่พูดความจริง? “คุณนวาระคะ สรุปแล้วคุณกับคุณปรียสกำลังคบหาดูใจกันอยู่หรือเปล่าคะ?” “เป็นเพราะคุณจึงทำให้คุณปรียสวางแผนทั้งหมดนี่ขึ้นมาใช่ไหมคะ?” “ขอให้คุณตอบคำถามด้วยค่ะ ที่คุณมาที่นี่ก็เพื่อที่จะมาทำให้ความจริงกระจ่างออกมาใช่ไหมคะ?” “…..ฉัน!” นวาระเซถอยหลังไป เธอมองชนุดมที่อยู่ข้างๆอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ได้ผล สายตาของเธอมองไปยังจิดาภาที่อยู่บนเวที คนหนึ่งมีสีหน้าเรียบเฉย อีกคนหนึ่งมีสีหน้าเคร่งขรึม หลังจากการพิจารณาสถานการณ์แล้ว เธอมีคำตอบอยู่แล้ว ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะดำเนินไปอย่างไร เธอก็จะปกป้องปรียสให้ถึงที่สุด เนื่องจากทุกอย่างที่ผู้ชายคนนี้ทำก็เพื่อเธอ เพื่อความรักของพวกเธอ ดังนั้น ภายใต้แสงแฟลตที่กระพริบอย่างต่อเนื่องนั้น เธอจึงพูดคำตอบเหล่านั้นออกมา “ฉันไม่รู้นะคะว่าทำไมพวกคุณถึงถามออกมาเช่นนี้? ฉันกับคุณปรียสเราเป็นแค่เพื่อนกันค่ะ แม้กระทั่งเบอร์โทรศัพท์ของอีกฝ่าย ฉันก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ” “ข่าวนี้ใครเป็นคนพูดคะ? คุณจิดาภาอย่างนั้นหรือ?” “ทำไมจะต้องดึงฉันให้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ หรือจะเป็นเพราะว่าคุณจิดาภาต้องการจะทำตัวเองให้หลุดพ้นความผิดทางกฎหมาย ดังนั้นจึงโยนระเบิดควันแบบนี้ออกมากันคะ?” “ขอให้คุณรับผิดชอบกับคำพูดของตัวคุณเองด้วยนะคะ หรือบางทีฉันจะให้ผู้จัดการส่วนตัวของฉันให้ทางเค.เอฟออกมาอธิบายเรื่องนี้ดี คุณมีสิทธิอะไรมาใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงของฉันแบบนี้?” ทุกคำพูด พูดออกมาอย่างมั่นใจ..... คำพูดเหล่านี้คล้ายกับที่ปรียสพูดออกมาในเมื่อครู่นี้มาก เมื่อเผชิญกับการตอบโต้ของนวาระ จิดาภาไม่ได้มีอาการตกใจแต่อย่างใด แต่กลับมีรอยยิ้มปรากฏออกมา การแสดงออกมาแบบนั้นทำให้นวาระรู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก ทำไมเธอถึงยังยิ้มออกมาได้อีก? “คุณจิดาภาคะ คุณนวาระปฏิเสธแล้ว!” “สรุปแล้วในมือของคุณไม่หลักฐานอยู่จริงๆใช่ไหมคะ?” บรรดานักข่าวต่างพากันควบคุมความอยากรู้นี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากตอนนี้สถานการณ์ตรงหน้าพวกเขาดำเนินไปอย่างน่าตื่นเต้นเหลือเกิน แม้กระทั่งดูซับซ้อนมากกว่าละครในราชวังเสียอีก เวลานี้เอง ชนุดมเดินขึ้นไปยังด้านบนเวที แล้วหยิบไมโครโฟนขึ้นมา “ทุกท่านครับ ในฐานะที่ผมเป็นผู้กำกับของทีมงานกองถ่ายเรื่องนี้ ผมขอใช้งานแถลงข่าวในวันนี้ เพื่อแจ้งข่าวเรื่องหนึ่งให้กับทุกท่านได้ทราบ” “หลังจากที่ผมและรองผู้กำกับได้ปรึกษาหารือกับทางด้านของผู้ลงทุนภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ทางเราตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวนักแสดงครับ เนื่องจากว่าเราไม่สามารถทนยอมรับกับคนที่วางแผนเลวร้ายแบบนั้นให้มามีผลกระทบกับคุณภาพของภาพยนตร์ของเราได้ครับ” เวลานี้เอง จิดาภายืนอยู่ข้างๆชนุดม ด้วยอารมณ์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ บรรดานักข่าวทางด้านล่างเวทีนั้นพากันฮือฮาขึ้นมา ที่ชนุดมพานวาระมาด้วย ก็เพื่อที่จะเปิดโปงจิดาภาอย่างนั้นหรือ? ทั้งยังเปลี่ยนตัวนางเองอีกด้วย? เวลานี้เอง ปรียสถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขารู้อยู่แล้วว่าจิดาภาไม่มีโอกาสได้หายใจอย่างแน่นอน ตอนนี้เพียงแค่ชนุดมพูดถึงการตัดสินใจสุดท้ายนี้ออกมา เขาก็ไม่เหนื่อยเปล่าแล้ว “ผู้กำกับชนุดมคะ หลังจากที่เปลี่ยนตัวคุณจิดาภาแล้ว คุณวางแผนว่าจะให้ใครมารับบทนางเองนี้แทนคะ เป็นคุณนวาระหรือเปล่า?” “ผู้กำกับคะ คุณเปลี่ยนตัวคุณจิดาภากะทันหันแบบนี้ มีการเตรียมตัวที่จะตอบคำถามของทางบริษัทเค.เอฟอย่างไรบ้างคะ?”