ตอนที่429 ละครตลกจบลงแล้ว
1/
ตอนที่429 ละครตลกจบลงแล้ว
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่429 ละครตลกจบลงแล้ว
ตอนที่429 ละครตลกจบลงแล้ว ผู้จัดการของปรียสและผู้ช่วยของเขาสงบลงจากการกระทำนี้ของท่านเดช ตอนที่คิดอยากจะเข้าไปช่วยนั้น เนื่องจากอำนาจของตระกูลปรีดาอัครกุลและท่าทางที่น่าเกรงขามของท่านเดชนั้น จึงทำให้พวกเขาหยุดเท้าที่จะก้าวเข้าไปเสียก่อน ท่านนี้เป็นถึงคุณปู่ของจิรภาสเชียว และยิ่งไปกว่านั้นคือเขาเป็นคนสร้างกรุ๊ปบริษัทเค.เอฟขึ้นมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคนใหญ่คนโตของวงการค้า หรือวงการทางการเมืองต่างก็พากันให้เกียรติเพื่อเห็นแก่หน้าเขากันทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเองก็เป็นแค่คนได้รับบทบาทเล็กๆน้อยๆเพียงเท่านั้น..... ปึง! ท่านเดชเตะขาของเขาอีกทีหนึ่ง สไตล์การจัดการเรื่องต่างๆของท่านเดชนั้นจะดูโหดร้ายเสมอ ไม่ว่าคนที่ถูกเขาตีจะเป็นใคร ก็จะเป็นที่ยอมรับว่าคนๆนี้สมควรถูกตีจริงๆ “ไม่ยอมใช่ไหม? ฉันจะทำให้เธอยอมเอง!” พูดจบแล้ว ท่านเดชจึงส่งสายตาไปยังบอร์ดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลัง บอร์ดี้การ์ดจึงรีบเดินออกจากห้องโถงไปทันที แล้วพาตัวผู้ชายคนหนึ่งเข้ามา ซึ่งคนๆนั้นก็คือคนที่มาถามทางกับจิดาภานั่นเอง ทันทีที่ได้เห็นบุคคลคนนี้แล้ว สีหน้าของปรียสเปลี่ยนเป็นซีดขาวขึ้นมาทันที ทำไมเขานึกไม่ถึง ว่าท่านเดชจะตามหาตัวคนนี้จนเจอ บรรดานักข่าวต่างก็พากันยกเลนส์กระหน่ำถ่ายไปยังใบหน้าของผู้ชายคนนั้น “พูดสิ ใครที่เป็นคนจ้างแกมา” ท่านเดชมองไปยังผู้ต้องสงสัยคนร้ายคนนี้ แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆ มองนักข่าวที่อยู่ในงาน สายตามองไปยังจิดาภาและปรียสที่ยืนอยู่บนเวที แล้วยังไม่พูดอะไรออกมา “พูด!” ท่านเดชตะคอกออกมาอย่างมีอารมณ์ “คือคุณ....คุณปรียสครับ” ผู้ชายคนนั้นคุกเข่าลงไปที่พื้น “เขาให้เงินผมห้าแสน ให้ผมร่วมมือในการใส่ร้ายคุณจิดาภา ผม....ผมไม่คิดว่าเรื่องจะกลายมาเป็นแบบนี้” “สาเหตุที่เขาทำแบบนี้คืออะไร?” “เพื่อให้คนรักของเขา คุณนวาระได้เป็นนางเอกครับ เขาต้องการจะบีบให้คุณจิดาภาออกไปจากกอง” ผู้ชายคนนั้นรู้ว่าตัวเองเดินเข้ามาสู่ทางตันแล้ว จึงจำต้องพูดสิ่งที่เขารู้ทั้งหมดออกมา “ที่ผมรู้ก็ประมาณนี้แหล่ะครับ เงินก้อนนั้นผมยังไม่ได้ทำอะไรกันมัน” “คนที่ทำร้ายเขานั้นเป็นคนที่ผมติดต่อเองครับ ถูกทำร้ายถูกตีแบบนั้นล้วนแต่เป็นคุณปรียสที่วางแผนเองทั้งนั้นครับ” “ได้ยินกันชัดเจนแล้วนะ? นี่คือความจริง โชคดีที่คนสารเลวคนนี้ไม่ใช่คนในตระกูลปรีดาอัครกุลของฉัน มิเช่นนั้น ฉันจะต้องเป็นคนตีเขาตายแน่ๆ” ท่านเดชรู้สึกโมโห สถานการณ์นี้ถูกท่านเดชทำให้รู้สึกตกใจกันไปหมด ท่าทางที่ดูน่าเกรงขามของเขาทำให้บรรดานักข่าวในงานนั้นแทบจะลืมหายใจ “ปรียสเสร็จแน่ๆ วางแผนเลวร้ายแบบนั้นมากมาย ถูกเปลี่ยนตัวนักแสดง แล้วนี่ยังถูกท่านเดชตำหนิเสียจนไม่สามารถตอบโต้กลับได้อีก วางแผนทำร้ายจิดาภาอย่างนั้นหรือ? ไม่ได้ดูความสามารถของตัวเองเลย” “เขาถูกตอกหน้ากลับไปครั้งนี้ ถูกเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงไปแบบนั้น ต่อไปคงจะไม่มีหน้าอยู่ในวงการนี้แล้วล่ะ” “ต่อไปก็คงไม่มีผู้กำกับหรือผู้สร้างละครคนไหนที่จะให้เขาแสดงละครแล้วล่ะ ความคิดร้ายกาจเกินไปแบบนี้” “อีกนิดเดียวเราก็จะโดนเขาหลอกอยู่แล้วนะ โชคดีที่ความจริงปรากฏออกมาเสียก่อน ทุกคนรู้ความจริงกันหมดแล้ว คงจะไม่มีใครต้องโทษจิดาภาอีกแล้ว” การกระทำทุกอย่างของปรียสนั้นถูกนักข่าวบันทึกไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดิมทีที่คิดว่าเขาเป็นผู้เสียหายในเรื่องนี้ ช่างดูน่าสงสารยิ่งนัก ตอนนี้ความจริงได้ทำให้เขากลายเป็นเพียงหนูข้างทางเพียงเท่านั้น การวางแผนทำรายคนอื่นเหล่านั้นได้ถูกเปิดโปงหมดแล้ว ปรียสก้มหน้าลงอย่างไร้ความรู้สึกใดๆ “ให้เขาเป็นคนไปอธิบายกับตำรวจเองดีกว่า” ท่านเดชโบกมือ แล้วปรียสก็ถูกบอร์ดี้การ์ดของเขาพาตัวไปให้ตำรวจ ส่วนเก้าอี้รถเข็นนั้น ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาตั้งแต่แรกเลย นวาระยืนอยู่ตรงนั้น มองปรียสที่ถูกคนพาตนไปอย่างจนตรอกเช่นนั้น ขอบตาเธอเอ่อล้นเต็มไปด้วยน้ำตา แล้วหันกลับไปอีกทาง แสร้างทำเป็นเหมือนมองไม่เห็นอะไร เธออยากจะใช้วิธีนี้เพื่อรักษาเกียรติและฐานะของเขาเอาไว้บ้าง รอจนหลังจากที่เรื่องตลกนี้มาถึงจุดจบนั้น นักข่าวต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กระแสของวงการบันเทิงนี้ “คนอย่างปรียสยังเป็นราชาแห่งภาพยนตร์ได้อีกหรือ ได้รับรางวัล? ช่างตลกจริงๆ!” นักข่าวทั้งรู้สึกโมโหและหงุดหงิด รู้สึกว่าปรียสเคยหลอกลวงไว้มากเกินไปแล้ว “โชคดีที่เค.เอฟได้รับความนิยมมาก สามารถสืบหาเรื่องราวนี้ได้อย่างเคลียร์และชัดเจน มิเช่นนั้นแล้วก็คงจะยังไม่รู้ว่าจะต้องลากคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้อีกตั้งกี่คน” “แต่คนที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยมากที่สุดก็คือจิดาภา ทั้งๆที่พยายามในการแสดงละครมากขนาดนั้น กลับถูกคนใส่ร้ายไปต่างๆนานา ดูๆแล้ว เป็นนักแสดงหญิงที่ก็ลำบากมากจริงๆเหมือนกันนะ จิตใจจะต้องแบกรับความกดดันมากขนาดนั้น” บรรดานักข่าวที่เคยโทรไปหาจิดาภา นักข่าวคนที่เคยประณามกล่าวหาเธอ ต่างก็มีสีหน้าที่รู้สึกผิด เพียงแต่จิดาภาไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากพวกเขา เธอเพียงแค่ทำในสิ่งที่เธอควรทำเท่านั้น เธอโค้งตัวให้กับทุกคน แล้วหลังจากนั้นจึงเดินไปหาท่านเดช หลังจากที่ท่านเดชให้ชนุดมจัดการกับปัญหาเหล่านั้นแล้ว ก็พาตัวจิดาภาออกไปในฐานะที่เป็นคุณปู่ของจิรภาส หลังจากที่เรื่องราวได้ถูกแก้ไขจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จิดาภาก็ไม่ได้เป็นเหมือนกับดารานักแสดงหญิงส่วนใหญ่ ที่มักจะร้องไห้เพื่อเรียกความสงสาร เธอยังคงรักษาความสงบนิ่งและเคร่งขรึมของตัวเองไว้เป็นอย่างดี ยิ่งทำให้คนภายนอกรู้สึกผิดกับเธอมากขึ้นไปอีก “จิดาภาได้รับความทุกข์ขนาดนี้ ยังคงนิ่งได้แบบนั้น ฉันล่ะยอมเธอเลยจริงๆ” “จิดาภาไม่เคยทำให้พวกเราที่เป็นแฟนคลับผิดหวังเลย เธอมีความสง่างาม และสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ” “ดูเถอะ นี่เป็นความจริง ปรียสเป็นคนที่ปลิ้นปล้อนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แบบนี้ หวังว่าคนแบบเขาจะออกไปจากวงการนี้เร็วๆ” “ไม่นานหรอกเขาจะต้องได้รับการลงโทษและต้องชดใช้กรรมที่เขาทำไว้แน่!” …………. หลังจากที่งานแถลงข่าวเสร็จสิ้นแล้ว ข่าวมากมายจนนับไม่ถ้วนที่ออกมาอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ไม่ได้เป็นการประณามจิดาภา แต่ลบล้างมลทินนี้ให้กับจิดาภา “ทั้งหมดนี้เป็นปรียสที่วางแผนและแสดงเองทั้งหมดเลย!” “5เรื่องใหญ่จิดาภาถูกทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม!” “ในที่สุดวงการบันเทิงก็ยังคงมีความยุติอยู่ใช่ไหม?” เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ส่งผลกระทบไปในวงกว้าง และคนที่ได้รับผลกระทบนี้ก็มีหลายคนด้วยเช่นกัน ดังนั้นบรรดานักข่าวต่างก็พากันให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ความจริงปรากฏออกมาแล้ว ทุกคนต่างก็ชื่นชมในการแสดงออกที่สงบนิ่งเช่นนั้นของเธอยิ่งขึ้นไปด้วย ชื่นชมที่เธอเป็นนักแสดงที่ทุ่มเทและตั้งใจมากคนหนึ่ง ในขณะเดียวกันปฏิกิริยาในการรับมือจัดการกับการถูกใส่ร้ายก็มีคุณค่ามากที่จะให้คนในวงการทุกคนได้เรียนรู้และเอาเป็นแบบอย่างที่ดี คนที่บริสุทธิ์ จิดาภาใช้ความสงบนี้ของเธอเอาชนะใจและได้รับความสนับสนุนจากผู้คนไปได้ไม่น้อย จริงๆแล้วจิรภาสอยู่ทางด้านหลังแถวท้ายๆของงานแถลงข่าวอยู่ตลอด ไม่ได้ขึ้นไปปรากฏตัวบนเวทีก็เป็นเพราะเขาไม่สามารถควบคุมความเกลียดชังที่มีต่อปรียสได้ อาจจะได้ทำร้ายเขาไปต่อหน้าคนทั้งงาน ดังนั้นหลังจากที่ท่านเดชได้พาจิดาภาออกไปจากงานนั้น เขาก็ไปขับรถออกมาจากที่จอดรถเพื่อรับทั้งสองคนกลับไป ระหว่างทางกลับบ้านนั้น จิดาภานั่งอยู่ที่นั่งด้านข้างคนขับ และยังคงไม่เอ่ยถามอะไรออกมา จิรภาสสังเกตอาการของเธอ แล้วมองไปยังท่านเดชที่นั่งอยู่ทางด้านหลัง จึงเอ่ยขึ้นมา “จริงๆแล้วฐานะของคุณปู่.....” “เป็นฉันเองที่ไม่ให้เขาพูด! แล้วก็เป็นฉันเองที่อยากจะเข้าไปอยู่ในกองถ่าย” ท่านเดชที่นั่งอยู่ทางด้านหลังเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ไม่รู้ว่ากำลังอธิบายกับใครด้วยเช่นกัน ในใจของเขานั้นรู้สึกว่าจิดาภาเป็นหลานสะใภ้ที่ไม่เลวเลย แต่เหมือนจะยังขาดอะไรไป..... ทันใดนั้นเองท่านเดชก็นึกขึ้นมาได้ เขาไอขึ้นมาเล็กน้อย “พวกเธอแต่งงานกันมาซักระยะนึงแล้ว เมื่อไหร่จะมีลูกกันซักที?” เรื่องนี้........ เมื่อสิ้นเสียงของท่านเดชแล้วนั้น ทำเอาจิดาภาถึงกับอึ้งไป หลังจากนั้นจึงเอ่ยตอบกลับไป “พวกเราวางแผนกันไว้แล้วค่ะ รอให้ฉันถ่ายเรื่องนี้เสร็จก่อนค่ะ” “จริงหรือ!” ท่านเดชรู้สึกเป็นสุขใจขึ้นมาในทันที แล้วตีขาตัวเองพึมพำออกมาอย่างดีใจ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่429 ละครตลกจบลงแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A