ตอนที่432 ปล่อยไปตามธรรมชาติ

ตอนที่432 ปล่อยไปตามธรรมชาติ จิดาภาค่อยๆเดินเบาๆเข้าไปในห้องนอน แล้วล้มตัวลงนอนข้างๆจิรภาส แต่เธอยังไม่ทันได้เอื้อมมือไปกดปิดไฟตรงหัวเตียง จิรภาสก็พลิกตัวกลับมากอดเธอเอาไว้เสียก่อน ไม่ใช่ว่าเขาตื่น แต่เป็นเพราะเขาชอบทำแบบนี้อยู่บ่อยๆ เพราะเขาเคยชินกับการนอนที่จะกอดผู้หญิงข้างๆเธอคนนี้ไว้อยู่ตลอด ต่อให้เขาจะดูสูงส่งขนาดไหนเมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน แต่อยู่ที่บ้าน เขาเป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่รักเธอมากแบบนี้เสมอ จิดาภาเม้มปากเล็กน้อย มองดูท่าทางเวลานอนหลับของเขา นี่แหล่ะสามีของเธอ ผู้ชายที่เธอจะเดินจูงมือกับเขาไปตลอดชีวิต.. ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง ในใจของเธอนั้นจู่ๆก็รู้สึกถึงอารมณ์บางอย่าง เธอไม่มีเวลาที่จะมัวแต่คิดว่าจะเป็นการรบกวนเวลานอนของเขาหรือเปล่า เธอก้มตัวลงไป แล้วจูบลงที่ริมฝีปากบางของเขา หลังจากนั้น จิรภาสจึงลืมตาขึ้น จากความประหลาดใจในตอนแรก ก็เปลี่ยนเป็นแรงกระตุ้นให้เขารุกหน้าจูบเธอด้วยความลึกซึ้ง “ทำไมกลับมาล่ะครับ?” เขาคิดว่าวันนี้ถ่ายทำเสร็จแล้วเธอจะอยู่พักที่โรงแรมที่ทางกองถ่ายจัดไว้ให้เสียอีก “คิดถึงคุณค่ะ” จิดาภาตอบกลับไปเพียงสองคำ แล้วก็ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง “ต้องการคุณ.....” เธอใช้เพียงแค่สามคำนี้ และจูบของเธอแค่นั้น ก็จุดไฟในใจของผู้ชายคนนี้ได้แล้ว ผู้หญิงคนที่เขารักที่สุดมาอยู่ข้างๆเขาแบบนี้ เขาไม่อยากรอเลยแม้แต่นิดเดียว ต่อจากนั้นพวกเขาก็พลิกไปพลิกมาราวกับอยู่ท่ามกลางพายุฝนที่รุนแรง พวกเขายอมที่จะมอบทุกอย่างที่ดีที่สุดของตัวเองให้กับอีกฝ่าย ให้อารมณ์นี้ร้อนแรงเหมือนเปลวไฟ ยิ่งร้อนแรงยิ่งคึกคักขึ้น...... “คุณจิรภาสคะ.....” เธอที่อยู่ภายใต้แสงไฟที่สะท้อนมานั้น กอดหลังของเขาไว้แน่น แล้วตะโกนร้องเรียกชื่อเขาออกมา “ผมอยู่นี่ครับ” เขาก้มลงจูบเธอ ไม่รอให้เหลือที่ว่างใดๆ กอดเธอไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ซึมซับบรรยากาศเช่นนี้กันอยู่ซักพักแล้วนั้น เขาดึงจิดาภามาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง เอาผ้าห่มคลุมร่างเธอเอาไว้ และยังไม่ลืมที่จะเหลือบมองดูเวลา เพราะพรุ่งนี้เธอจะต้องกลับไปถ่ายละครต่อ “คิดอะไรอยู่ครับ ยังไม่นอนหรือ?” จิรภาสยิ้มออกมา แล้วใช้มือแตะลงที่ปลายจมูกเธอ เขาจะรักเธอแบบนี้ไปตลอดชีวิตนี้ ดีจริงๆ “กำลังคิดถึงคำพูดวันนี้ของคุณปู่ค่ะ” จิดาภาเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แล้วปรับท่าทางตัวเองให้อยู่ในท่าทางที่สบายๆในอ้อมกอดของเขา “คำพูดอะไรหรือครับ?” “ท่านบอกว่า คุณคือความภูมิใจมากที่สุดของท่าน เพราะมีคุณอยู่ ตระกูลปรีดาอัครกุลนับวันถึงได้เจริญขึ้นขนาดนี้ ฉันอยากรู้ค่ะ ว่าสำหรับคุณแล้ว อะไรที่เป็นสิ่งที่ทำให้คุณภูมิใจมากที่สุดคะ? บริษัทเค.เอฟหรือเปล่า?” หลังจากที่ท่านเดชมอบกิจการของตระกูลให้กับจิรภาสแล้วนั้น เขาถึงได้ส่งเสริมทำให้เค.เอฟเจริญรุ่งเรืองขึ้น จนกระทั่งมาถึงอย่างทุกวันนี้ได้ จิดาภารู้สึกว่าสำหรับเขาแล้ว การได้สร้างอาณาจักรแห่งวงการบันเทิงด้วยมือของตัวเองเช่นนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจเป็นอย่างมาก แต่ผู้ชายคนนี้กลับตอบคำถามนี้ข้างๆหูเธอออกมาโดยไม่ลังเล “คุณครับ” “ฉัน?” “คุณคือของขวัญที่ดีที่สุดที่เทพเจ้าประทานลงมาให้ผม ได้แต่งงานกับคุณ เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกภูมิใจมากที่สุดในชีวิตแล้วครับ” ............ เช้าวันรุ่งขึ้น จิดาภาและจิรภาสเริ่มออกกำลังกายตอนเช้า เพื่อให้การเคลื่อนไหวในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นคล่องขึ้น จิดาภาจะต้องคงรักษารวบรวมแรงและกำลังของเธอไว้ ก่อนที่เธอจะถ่ายฉากสำคัญๆนั้น จะให้จิรภาสมาฝึกซ้อมเป็นเพื่อนเธอก่อน เพื่อจดจำการเคลื่อนไหวบางส่วนที่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หลังจากที่ทางกองถ่ายได้แจ้งเนื้อหาในการถ่ายทำของวันถัดไปก่อนล่วงหน้าแล้วนั้น จิดาภาจะกลับบ้านมาเพื่อพูดคุย ฝึกซ้อมกับจิรภาส ความสามารถในการเรียนรู้ของเธอนั้นรวดเร็วมาก ดังนั้นการเคลื่อนไหวเหล่านั้นถึงได้เป็นการเตรียมพร้อมได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ในกองถ่ายล้วนแต่คิดว่าจิดาภามีความอดทนพากเพียร ฝึกซ้อมข้ามคืน และเวลาที่จิดาภาถ่ายทำฉากต่อสู้นั้น เธอมักจะทำออกมาได้อย่างราบรื่น นอกจากความมุ่งมั่นและความพยายามของเธอเองแล้ว ยังจะต้องขอบคุณจิรภาสผู้จัดการส่วนตัวของเธออีกด้วย ช่วงนี้ ท่านเดชอยู่ที่กองถ่ายตลอด ซึ่งตั้งแต่ที่ได้เปิดเผยฐานะของเขาแล้วนั้น เขาก็ไม่มีความคิดที่จะออกจากกองถ่ายนี้เลย จะมีบางครั้งที่เขาอยู่ดูจิดาภาถ่าย หลังจากนั้นก็จะให้คำแนะนำบ้างเป็นครั้งคราว แม้ว่าเขาจะเข้มงวดขนาดนี้ ก็ต้องชื่นชมในความก้าวหน้าได้เร็วนี้ของจิดาภา เนื่องจากว่าเขาชื่นชมคนที่ทำอะไรเด็ดเดี่ยวมาโดยตลอด ยิ่งรู้จักจิดาภามากขึ้น เขาก็ยิ่งยอมรับในตัวหลานสะใภ้คนนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน เวลาเผชิญหน้ากับแดนนี่ที่มีลูกเล่นหลากหลายแพรวพราวอย่างเขา จิดาภาก็ไม่เปลี่ยนไป โดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ไม่ว่าจะเป็นต่อหน้าหรือลับหลัง ในใจของเธอมีเพียงแค่จิรภาสเพียงคนเดียวเท่านั้น ในวงการบันเทิง คนที่สามารถรักษาความมุ่งมั่นความปรารถนาเดิมไว้ได้นั้น น่ารักษาทะนุถนอมไว้จริงๆ หลังจากที่เร่งถ่ายทำกันเป็นเวลาหนึ่งเดือนนั้น ในที่สุดภาพยนตร์เรื่องชั่วฟ้าดินสลายก็เร่งถ่ายทำกันได้ทัน อีกทั้งบทบาทของนวาระนั้นก็มีนักแสดงหญิงคนอื่นมาแทนที่ วันนี้ จิรภาสที่ประชุมเสร็จแล้วนั้น เขาก็มารับจิดาภาที่กองถ่าย รอบข้างไม่ได้มีทีมงานอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปในกองถ่าย แล้วยืนมองดูจิดาภาอยู่เงียบๆ สายตาของเขามองไปยังจิดาภาเพียงแค่คนเดียว อีกทั้งสายตาของเขายังแสดงออกถึงความรักและความชื่นชมเธออกมาอย่างไม่ปิดบังอีกด้วย ก่อนหน้านี้แดนนี่ไม่เคยเจอกับจิรภาสมาก่อน และเขาก็ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขาทั้งสองคนด้วย จึงเดินถือแก้วน้ำเข้าไปหาจิรภาส “ถูกใจเธอหรือครับ?” จิรภาสหันไปมองเขา แล้วใช้ภาษาอังกฤษตอบกลับไป “เกี่ยวกับอะไรกับคุณด้วยงั้นหรือ?” “ใช่ เธอเป็นคนของผม เพราะฉะนั้นทางที่ดีคุณควรเลิกคิดเพ้อเจ้อไปได้แล้ว” แดนนี่กล่าวออกมาอย่างโอ้อวด “ใช่หรือครับ? เธอยอมคบกับคุณแล้ว?” “แม้ว่าตอนนี้จะยัง แต่ในไม่ช้าก็ต้องยอมอยู่ดี ในโลกนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธผมได้” แดนนี่ยิ่งพูดก็ยิ่งก็ยิ่งดูมากเกินไปแล้ว แววตาของจิรภาสนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา เวลานี้เองที่จิดาภาเพิ่งจะเติมหน้าเสร็จ มองมาทางด้านนี้พอดี แล้วส่งยิ้มให้กับจิรภาส ในสายตาของจิดาภานั้น เธอไม่ได้สนใจแดนนี่เลยแม้แต่นิดเดียว แต่แดนนี่กลับเข้าใจผิดคิดว่าเธอส่งยิ้มมาให้เขา จึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เนื่องจากปกติแล้วจิดาภามักจะทำเหมือนเขาเป็นอากาศ ไม่ตีเขาก็ไม่สนใจเขา ตอนนี้เธอยิ้มให้เขาแล้ว! “เห็นรึเปล่า? เธอกำลังยิ้มให้ผม!” จิรภาสมองเขากลับไปแวบหนึ่ง แล้วจู่ๆก็อยากจะทำเรื่องอะไรขึ้นมา เขารอจนจิดาภาหันกลับมาแล้วเดินมาทางเขา จิรภาสจึงอ้าแขนต้อนรับเธอทันที แดนนี่เองก็ยืนตัวตรง เพื่อรอต้อนรับเธอเช่นกัน จิดาภาพุ่งตรงเข้าไปหาอ้อมกอดของจิรภาส “มาได้ยังไงคะ?” จิรภาสก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยพูดข้างๆหูเธออย่างอ่อนโยน “ผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณนี่ครับ ต้องมาอยู่ข้างๆคนทุกเวลาอยู่แล้ว” “โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณรอฉันก่อนนะ ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเรากลับบ้านกัน” จิดาภาเอ่ยบอกกับเขาอย่างอ่อนโยน “พรุ่งนี้ไม่มีคิวถ่ายของฉันด้วย ฉันจะได้พักผ่อนหนึ่งวันเพื่ออยู่เป็นเพื่อนคุณด้วยนะคะ” “ครับ” จิรภาสมองเธออย่างเอ็นดู แล้วจูงมือเธอเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกัน ตอนที่เขาหันกลับมานั้น จึงส่งยิ้มที่มีความหมายนั้นให้กับแดนนี่ แดนนี่รู้สึกตะลึงกับฉากที่ได้เห็นตรงหน้า หญิงสาวที่แสนเย็นชาที่คอยรักษาระยะห่างเวลาอยู่ต่อหน้าเขา นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนได้ขนาดนั้น! เขาเดินไปหาชนุดมอย่างทำตัวไม่ถูก “พวกเขามีความสัมพันธ์กันอย่างไรครับ?” ไม่คิดว่าจะมีผู้ชายที่ดูสนิทสนมกับจิดาภาได้มากขนาดนี้ ทั้งยังในขณะที่อยู่ในกองถ่ายเสียด้วย! ไม่กลัวว่าจะถูกนักข่าวถ่ายรูปไปเลยหรืออย่างไรกัน? หรือว่า ทุกคนในกองถ่ายนี้จะรู้ถึงเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคน แล้วพร้อมใจช่วยกันปิดบังเรื่องนี้?