ตอนที่433 ไม่อยากให้คุณเหนื่อยเกินไป   1/    
已经是第一章了
ตอนที่433 ไม่อยากให้คุณเหนื่อยเกินไป
ตอนที่433 ไม่อยากให้คุณเหนื่อยเกินไป “ใครครับ?” ผู้กำกับชนุดมละสายตาออกมาจากบท แล้วพอดีกับที่เห็นเบื้องหลังของจิรภาสและจิดาภาที่เดินเคียงคู่กันออกไป “อ๋อ นั่นคือประธานบริษัทเค.เอฟ แล้วก็เป็นผู้จัดการส่วนตัว และสามีของเธอน่ะครับ” “อะไรนะ?” แดนนี่ราวกับถูกฟ้าผ่าอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาทันที เมื่อครู่นี้เขาทำอะไรลงไปกัน? ไม่คิดเลยว่าจะพูดคำพูดแบบนั้นออกไปต่อหน้าคนที่เป็นสามีของเธอ..... และที่สำคัญที่สุด คือเขายังกล้ายั่วยุเขาอีกต่างหาก! จิรภาสที่พาภรรยาของตัวเองออกมาจากกองถ่ายนั้น ด้วยอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากว่าพอคิดว่าจิดาภาจะต้องได้รับการก่อกวนจากแมลงวันพวกนั้นแล้ว เขาก็รู้สึกโมโหขึ้นมา เพียงแต่แมลงวันตัวนั้นดันเป็นตัวที่เขาพาข้ามน้ำข้ามทะเลมาเสียอย่างนั้น........ “ทำไม่ดูไม่ดีใจแบบนั้นล่ะคะ? เมื่อกี้นี้คุณเจอกับแดนนี่แล้วใช่ไหม?” จิดาภานึกถึงตอนที่อยู่ในกองถ่าย แล้วมองดูสีหน้าของจิรภาส “ได้ค่ะ ครั้งหน้าถ้าฉันเจอเขา ฉันจะระบายความแค้นให้คุณเองนะ” “จะระบายความแค้นนี้ให้ผมอย่างไรกันครับ?” “ใช้หมัดที่คุณสอนฉันไงคะ ใช้มันตอนที่ฉันถ่ายเข้าฉากกับเขาไง! แม้ว่าจะต่อยให้เขาหน้าบวมจมูกช้ำแบบนั้นได้ ก็จะทำให้เขาปวดเอวปวดหลังไปบ้างล่ะค่ะ ฉันติดต่อไปหาผู้กำกับตอนนี้เลยดีกว่า ให้เขาจัดฉากต่อสู้ให้ฉันเร็วๆ” จิรภาสเห็นจิดาภาหยิบโทรศัพท์มือถือออกแล้วจะกดโทรจริงๆ จึงดึงมือเธอเอาไว้เสียก่อน “ไม่ต้องหรอกครับ คุณมักจะหาวิธีทำให้ผมคลายความโมโหนี้ลงได้อยู่แล้ว” “ฉันมักจะเจอคนที่ร่วมงานด้วยที่หลากหลาย ฉันเจอเรื่องแปลกๆแบบนี้จนชินแล้วล่ะค่ะ ฉันจะปกป้องตัวเองให้ดี อีกอย่างอีกแค่เดือนกว่าๆก็จะปิดกล้องแล้วด้วย ต่อไปทุกคนก็กลายเป็นคนแปลกหน้า ไม่มีอะไรให้ต้องแคร์อยู่แล้ว” จิรภาสพยักหน้า แล้วเหยียบคันเร่งออกไป ราวกับเวลาผ่านไปเร็วมาก พวกเขาแต่งงานกันมาเกือบหนึ่งปีแล้ว วันนั้นที่จิดาภาอยู่ตรงหน้าประตูสำนักงานกิจการพลเรือนแล้วขวางทางเขาไว้บอกว่าต้องการจะแต่งงานกับเขา เรื่องนี้ราวกับเพิ่งจะเกิดขึ้นไปเมื่อวานอย่างไรอย่างนั้น “คุณผู้หญิงครับ ใกล้จะถึงวันครบรอบแต่งงานของเราแล้วนะ” จิดาภากระพริบตา แล้วเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆหูข้องเขา พลางกระซิบพูดกับเขา “เร็วไปหรือเปล่าครับ? ตอนนี้ผมยังไม่ได้ช่วยคุณเช็คตารางงานหลังจากนี้เลย แต่เพิ่งจะถ่ายละครเสร็จมาแบบนี้ คุณอยากจะมีลูกเลยแบบนี้ ร่างกายของคุณจะรับไหวหรือเปล่าครับ?” “ฉันไม่รู้สึกเหนื่อยเลยค่ะ ถ้าหากปีหน้าเรายังไม่มีลูกกันล่ะก็ คุณต้องรอเป็นคุณพ่อคนตอนอายุสามสิบกว่าเลยนะ?” จิรภาสพยักหน้าตกลง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ แต่ในชีวิตจริงตอนนี้ เขายอมปฏิบัติตามที่จิดาภาบอกอยู่แล้ว “ฟังคุณอยู่แล้วครับ” “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันไม่หยุดแล้วนะคะ ฉันจะเก็บวันหยุดไว้ในวันครบรอบแต่งงานของเรา!” จิรภาสตอบรับกลับไป คิดไปคิดมาแล้วจึงเอ่ยถามเธอขึ้น “ให้ผมจัดเวลาพาคุณไปตรวจร่างกายหน่อยดีกว่าไหมครับ? ผมไม่อยากเห็นคุณเหนื่อยเกินไป” ในใจของจิรภาส เขารู้สึกกังวลที่สุดก็คือเรื่องสุขภาพของเธอ “ได้ค่ะ” จู่ๆจิรภาสก็รู้สึกว่าเรื่องจะมีลูกนั้นเป็นเรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ในที่สุดเขาและเธอก็กำลังเตรียมตัวที่จะต้อนรับชีวิตเล็กๆชีวิตหนึ่งที่เป็นของพวกเขาทั้งสองคน ไม่รู้ว่าหากได้เจอหน้าลูกของพวกเขาจริงๆแล้วนั้น จะมีความรู้สึกอย่างไร? ............ ระหว่างที่จิดาภาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ชั่วฟ้าดินสลายอยู่นั้น ญาณิดาที่ถูกไล่ออกมาจากบ้านตระกูลวีรภัทรเมธีก็ประสบพบเจอกับความยากลำบาก เพราะเธอเองก็กำลังตั้งครรภ์ด้วยเช่นกัน เธอนอนอยู่ที่แผนกสูติในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม เธอรอเวลานี้มานานมากแล้ว เพื่อที่จะได้กลับมายังบ้านตระกูลวีรภัทรเมธีได้อีกครั้ง เธอยอมทำทุกอย่าง ทุกครั้งที่ได้เห็นข่าวของจิดาภา เธอจะรู้สึกโมโหทุกครั้ง อดใจไม่ไหวที่อยากจะพุ่งเข้าไปฉีกหน้าเธอ เธอบอกกับตัวเองอยู่ในใจเสมอว่า จะต้องมีซักวันที่เธอจะทำให้จิดาภามาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอให้ได้! “คุณญาณิดา ยินดีด้วยนะคะ ตอนนี้เด็กแข็งแรงมากค่ะ กลับไปแล้วต้องดูแลเรื่องอาหารการกินด้วยนะคะ” คุณหมอกล่าว ช่วงเวลานี้ ญาณิดาคิดอยากจะมีลูกมาโดยตลอด ต่อให้ต้องดื่มยาที่ขมมากขนาดไหนเธอก็ยินยอม พยายามมานานขนาดนี้ ในที่สุดเธอก็มีข่าวดี เธอรู้สึกดีใจมากกว่าใครทั้งนั้น เพียงแต่มีอีกหนึ่งปัญหา ที่เธอจำเป็นจะต้องถาม “คุณหมอคะ ตอนนี้พอจะดูออกไหมคะว่าลูกฉันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?” “เรื่องนี้.....” คุณหมอมองหน้าญาณิดา ดูลังเลบ้างเล็กน้อย “ตอนนี้ยังดูไม่ออกค่ะ อย่างเร็วที่สุดก็น่าจะอีกประมาณหนึ่งเดือน นี่เป็นเทคโนโลยีที่ล่าสุดของโรงพยาบาลเราแล้วนะคะ” ญาณิดาถอนหายใจออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก การที่เธอตั้งครรภ์เช่นนี้นั้น นั่นก็เท่ากับว่าเธอได้รับบัตรผ่านที่จะสามารถกลับไปที่ตระกูลวีรภัทรเมธีได้อีกครั้ง หลังจากที่ตรวจอีกรายการเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ญาณิดาจึงเดินไปยังลิฟต์ เห็นตฤณเดินอยู่ตรงระเบียง เธอรู้ว่าตฤณคือผู้ช่วยของจิรภาส แต่เขามาทำอะไรที่โรงพยาบาลสูตินารีเวช? ญาณิดาก้าวเดินไปข้างหน้า แล้วรู้สึกแปลกๆ ดังนั้นจึงหันกลับไปเพื่อตามเขา หลังจากที่เขาออกไปแล้วนั้น จึงไปหาคนเพื่อสอบถาม มีเงินก็สามารถทำอะไรก็ได้ และไม่นานเธอก็สอบถามจนได้เรื่องมา ตฤณมาที่โรงพยาบาลก็เพื่อที่จะจัดเวลาให้จิดาภาได้มาตรวจสุขภาพที่นี่นั่นเอง “ตรวจอะไรกัน จะต้องมาที่โรงพยาบาลนี้?” “ก็ต้องมาตรวจแผนกนรีเวชสิคะ!” ทันใดนั้นสีหน้าของญาณิดาก็เปลี่ยนไปทันที เธอรีบร้อนออกมาจากโรงพยาบาล แล้วรีบนำเรื่องนี้ไปบอกแม่สามีของเธอ “ถึงแม้ว่าจิดาภาจะแต่งงานเข้าตระกูลปรีดาอัครกุลแล้ว ทางคนของตระกูลนั้นก็ดูเหมือนจะยอมรับในตัวเธอ แต่ในเมื่อเธอเป็นนักแสดง อยากจะยืนหยัดในบ้านหลังนั้นให้ได้ ก็คงจะต้องอาศัยลูกเหมือนกัน” “แม่คะ ฉัน....ฉันยอมเห็นจิดาภามีลูกไม่ได้! ฉันจะต้องเอาชนะเธอให้ได้” สำหรับญาณิดาแล้ว เธอต้องการจะกลับไปที่ตระกูลวีรภัทรเมธี นี่ถือว่าเป็นทางลัดที่เร็วที่สุด เธอไม่สามารถยอมให้จิดาภามาทำเรื่องนี้พังได้ “เธอจะร้อนใจไปทำไม?” แม่สามีของเธอเหลือบมองเธอ “ตอนนี้เธอก็แซงหน้าไปแล้วก้าวนึงนี่ไง รู้เรื่องข่าวที่เขาจะไปตรวจร่างกาย พระเจ้าก็บอกเธอเป็นนัยๆแล้ว เธอจะต้องใจเย็นๆ แล้วคว้าเอาโอกาสนี้ไว้ให้ได้ เปลี่ยนความพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชนะ” “แม่หมายความว่ายังไงคะ?” ญาณิดาสงบลง “ตอนนี้จิดาภายังไม่รู้ว่าเธอรู้เรื่องนี้แล้ว ดังนั้นเขาก็จะไม่สงสัยการตรวจวินิจฉัยโรคของโรงพยาบาลอยู่แล้ว เธอก็เพียงแค่ไปซื้อตัวคนในนั้น แล้วก็ลงมือทำอะไรบางอย่างกับรายงานผลการตรวจนั่นของเขา” “สร้างเรื่องขึ้นมาว่าเป็นโรคอะไรก็ได้ ทำให้เขาคิดว่าตัวเองไม่สามารถมีลูกได้ หรือไม่ก็บอกเขาไปว่า ร่างกายของเขามีปัญหา ถ้าหากไม่ตัดมดลูกออก ก็จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้” ญาณิดาได้ยินดังนั้นแล้ว ก็รู้สึกได้ถึงความเยือกเย็นที่แทรกซึมขึ้นมา ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดจิดาภามากจนเข้ากระดูกดำ แต่แม่สามีของเธอที่เสนอความคิดนี้มานั้นทำให้เธอเองก็รู้สึกกลัว เป็นความรู้สึกกลัวเสียจนทำให้ร่างกายของเธอนั้นรู้สึกขนลุกขนพอง แต่....... เธอจะต้องไม่กลัวหัวหดแบบนี้ เธอจำเป็นจะต้องคว้าโอกาสครั้งนี้ไว้ พระเจ้าได้ประทานโอกาสที่จะเอาชนะจิดาภาได้มาให้เธอแล้ว เวลานี้จิดาภาเองก็ยังคงไม่รู้ว่าจะมีคนที่วางแผนร้ายนั้นรอเธออยู่ ............ นับตั้งแต่ที่ได้เจอกับจิรภาส หลังจากที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองคนแล้วนั้น แดนนี่ก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เนื่องจากว่านอกจากเรื่องอายุแล้ว เขาก็ไม่มีอะไรเทียบจิรภาสได้เลย เขาไม่ได้ดูประมาทเหมือนก่อนหน้านี้อีก อยู่ในกองถ่ายก็มักจะนั่งเงียบๆอยู่คนเดียว ทั้งยังพยายามจะหลีกเลี่ยงที่จะเจอจิดาภาอีกด้วย เรื่องนี้หลายๆคนต่างก็สังเกตเห็น รวมทั้งชนุดมด้วย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้สึกว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับจิดาภาอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงจะหาโอกาสแอบถามจิดาภา “คุณสั่งสอนแดนนี่อย่างไรหรือครับ ทำไมเขาถึงได้ดูหลบหน้าคุณแบบนี้?”
已经是最新一章了
加载中