บทที่ 4 ถอด
บทที่ 4 ถอด
“......”
หย่งเหยนงงไปครู่นึง ถึงรู้ตัวว่าคำที่ลี่ถิงเชินพูดหมายความว่าอะไร สีหน้าเธอขาวซีดทันที
ลี่ถิงเชินควบคุมรถเข็นขยับมาตรงหน้าเธอ
“ดูแล้วอยากให้ฉันลงมือถอดให้เธอเองสินะ” พูดแล้วก็ยื่นมือไปจะจับเธอ
หย่งเหยนตกใจจนหันหลังหนี แต่ปรากฏว่า ไม่รู้เมื่อไหร เจียงสุนออกไปแล้ว ประตูห้องถูกปิดเอาไว้ เปิดยังไงก็เปิดไม่ออก
เธอหันหลังด้วยความตื่นกลัว เห็นลี่ถิงเชินตามหลังเธอมาติดๆ มือนึงจับแขนเธอแล้วดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอด อีกมือนึงฉีกชุดแต่งงานบนตัวเธอ
ฝันร้ายเมื่อเดือนที่แล้วได้ฉายซ้ำอีกรอบนึง หย่งเหยนกรีดร้องด้วยความกลัว:“คุณปล่อยฉันนะ! ช่วยด้วยๆ!”
ถึงยังไงลี่ถิงเชินก็เป็นคนป่วยที่นั่งอยู่บนรถเข็น ภายใต้การดิ้นขัดขืนของเธอ แป๊บเดียวหย่งเหยนก็หลุดจากเงื้อมมือของเขาได้ แล้วหยิบจับชุดแต่งงานมาบางร่างกายของตัวเองไว้และไปหลบอยู่ที่มุมห้อง หายใจด้วยความกลัว
“มีควาสามารถแค่นี้ ยังกล้ามาเป็นภรรยาฉันอีกหรือ? รับไสหัวไปซะตอนนี้จะดีกว่าน่ะ”
พูดจบก็ควบคุมรถเข็นแล้วออกไปด้านนอก
คืนนี้หย่งเหยนนอนไม่หลับทั้งคืน มุดตัวอยู่ในหัวมุมจนถึงวันรุ่งขึ้น
จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แค่คืนนี้เท่านั้น ตลอดหนึ่งเดือนมานี้ เธอไม่กล้าหลับเกือบทุกคืน หากง่วงจนหลับไปแล้วจริงๆ ก็จะตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายทันที
อาศัยแสงที่ส่องมาจากนอกหน้าต่าง หย่งเหยนขยับขาที่นั่งจนเมื่อยชาเบาๆ แล้วไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ เห็นในตู้เสื้อผ้ามีชุดที่เธอพอใส่ได้ แล้วเลือกชุดที่ดูธรรมดาที่สุดชุดนึงมาสวมใส่ หลังจากนั้นเธอเดินไปที่หน้าต่าง ได้มองเห็นป่าและภูเขาที่กว้างใหญ่
บ้านตระกูลลี่อยู่ที่ภูเขาเหมยของเมืองเหมย แค่บ้านก็กินพื้นที่ไปครึ่งภูเขาแล้ว ที่จริงจะเรียกว่าบ้านก็คงไม่ใช่ น่าจะเรียกว่าคฤหาสน์จะถูกเหมาะสมกว่า
ข้างในคฤหาสน์ตระกูลลี่ได้ออกแบบดีไซน์ตามสไตร์โบราณจีนแบบโบราณ ด้านในมีศาลาและห้องใต้หลังคา ก้อนหินใหญ่กองเหมือนภูเขา ดอกไม้หายาก สัตว์แปลกๆที่เห็นได้ยาก จนนับไม่ถ้วน
สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในนี้ ก็คือตึกหูซานอีหลั่งที่หย่งเหยนยืนอยู่
ชั้นที่สี่ในตึก เป็นที่พักสำหรับคุณปู่ลี่ หลังจากนั้นคุณปู่ลี่อ้างว่าเพื่อความคึกคัก ก็เลยให้หลานชายทั้งสองคนมาอยู่กับเขาที่นี่
เรือนหอของหย่งเหยนกับลี่ถิงเชินอยู่ชั้นสองของตึกนี้
“คุณหญิงน้อยคะ ลงไปทานอาหารเช้าได้แล้วคะ” สาวรับใช้มาเคาะประตู(**คุณหญิงน้อยเป็นคำที่คนรับใช้เรียกภรรยาของคุณชายใหญ่)
“ค่ะ ฉันลงไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
หย่งเหยนจัดเสื้อให้เรียบร้อย แล้วไปที่โต๊ะเครื่องแป้งทาคอนซีลเลอร์ปิดรอยช้ำใต้ตาไว้ เห็นใบหน้าดูไม่ออกอะไรแล้ว ถึงได้เดินออกจากห้อง
เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบน ก็เห็นชายวัยรุ่นที่รูปร่างสง่ามีรอยยิ้มเดินเข้ามา ท่าทีในการเดิน ช่างสง่าดูดีและมีบุคลิกภาพ
เห็นหย่งเหยนแล้ว เขาก็เดินเข้ามายื่นมือออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน:“พี่สะใภ้ใหญ่ใช่มั้ยครับ? สวัสดีครับพี่สะใภ้ใหญ่ ผมเป็นน้องชายของลี่ถิงเชินผมชื่อว่าลี่จิ่งหวยครับ”
“เมื่อวานเป็นพิธีงานแต่งของพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ ผมติดธุระที่บริษัทเลยกลับมาไม่ทัน ก็เลยเตรียมของขวัญเล็กๆน้อยๆไว้ขอโทษพี่สะใภ้ใหญ่ หวังว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะไม่ถือสานะครับ”
“คุณเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ”
หย่งเหยนรีบพูด เธอลังเลไปครู่นึง แล้วยื่นมือไปรับของขวัญ ตอนที่คิดจะเก็บมือกลับมา ปรากฏว่ามือที่อยู่ใต้กล่องของตัวเองถูกคนจับเอาไว้
หย่งเหยน:“........”
หย่งเหยนดึงมือกลับมาแรงๆสองที แต่ก็ดึงไม่ออก เธอขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ลี่จิ่งหวย ในสายตาเต็มไปด้วยความเกรงกลัว
ลี่จิ่งหวยยิ่งมีรอยยิ้มที่เข้มข้น บีบนิ้วเธอแรงๆแล้วถึงได้ปล่อยมือออก แล้วเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ กระซิบข้างหูเธอ:“มือของพี่สะใภ้ใหญ่นุ่มจริงๆ”