3   1/    
已经是第一章了
3
“เอายายบ้านี่!!! ออกจากที่นี่ เดี๋ยวนี่!!!” คริสต์พูดเพียงแค่นั้นและเดินจากไปโดยที่ไม่หันมามองกอหญ้าที่เบิกตาโพลงอย่างไม่อยากเชื่อว่า นี้คือการ กระทำของคนที่เรียกว่าผู้ชาย แต่ขาดความเป็นสุภาพบุรุษ เจ้าหน้าที่หน้าเค้าเตอร์ ที่รีบลุกออกมายืนมอง ‘อุบัติเหตุ’ ได้สักพัก แต่เธอไม่กล้าที่จะเข้าไป เพราะที่นี่ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์ และอารมณ์ของชายหนุ่มคนนี้ว่าน่ากลัวเพียงใด และนี้ก็เป็นบุญตาที่เธอได้เห็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าต่อปากกับเจ้านายหนุ่มเลือดร้อน “คุณกอหญ้า เจ็บตรงไหนมั้ยคะ?” เจ้าหน้าที่หน้าเค้าเตอร์ ขยับไปหากอหญ้าทันทีเมื่อคริสต์เดินจากไป “เอ่อ!...ไม่ค่ะ...หญ้าต้องขอโทษด้วยนะคะ...” กอหญ้าพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาไหว้เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาถามเธออย่างห่วงใย และเธอก็ยกมือไหว้แม่บ้านที่รีบเข้ามาเคลียทำความสะอาดพื้นที่ ที่เกิด ‘อุบัติเหตุ’ ทันที ซึ่งทุกคนก็ต่างบอกว่า ไม่เป็นไร มันเป็นอุบัติเหตุ !!!!…นั้นสิ!!!... มันเป็น ‘อุบัติเหตุ’ ทำไมทุกคนที่นี่ถึงเข้าใจว่าเป็น ‘อุบัติเหตุ’ แต่ทำไม เขาคนนั้นถึงไม่รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ “อ๊ะ!...คุณเขมิกา มาถึงแล้ว” กอหญ้าหันไปมองตามสายตาของ เจ้าหน้าที่เค้าเตอร์ที่เอ่ยออกมา... “ สวัสดีค่ะคุณเขม...” “สวัสดีจ๊ะ...” เขมิกาทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง “คุณเขมค่ะ...คุณกอหญ้าค่ะ เธอมาถึงสักพักแล้วค่ะ” “สวัสดีค่ะ....คุณกอหญ้า?....” เขมิกาทักทาย แต่ที่เธอไม่เข้าใจคือ... “สวัสดีค่ะ....เรียกว่ากอหญ้า ตามนามปากกาก็ได้ค่ะ...” เขมิกาพยักหน้าเข้าใจทันที เพราะเธอไม่เคยเห็นตัวจริงเจ้าของบทประพันธ์ ‘พ่ายกลซาตาน’ อายุน้อยกว่าที่คิดไว้อีก “ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ให้คุณกอหญ้าต้องรอ...” เขมิกา ตอบกลับอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไรค่ะ...หญ้ามาก่อนเวลานัดเองค่ะ...” เขมิกายิ้มและเธอคิดว่า รู้สึกถูกชะตากับนักเขียนคนนี้ซะแล้ว “…งั้นเราไปคุยกันต่อที่ห้องประชุมกันค่ะ...เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าห้องประชุมได้เลย” ประโยคแรกเขมิกาพูดกับกอหญ้า ประโยคหลังเธอหันไปบอกกับพนักงานของตน กอหญ้าเดินไปพร้อมกับเขมิกาตามคำเชิญ ลืมเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่เรียกมาก่อนหน้านี้ เธอยังไม่ได้หยิบขึ้นมาดูก็เกิด ‘อุบัติเหตุ’ เสียก่อน ‘ ทางด้านคริสต์...ในเวลาเดียวกัน...ณ ห้องทำงานประธานกรรมการใหญ่’ “ตาคริสต์...เกิดอะไรขึ้นเนี๊ยะ!” คุณหญิงศศิธร ทักบุตรชายเพียงคนเดียวที่เดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยสภาพเลอะเทอะเปียกปอน “สวัสดีครับคุณแม่...” คริสต์เดินเข้ามาพร้อมหอมแก้มคุณหญิงศศิธร ตามปกติ “...ผมเจอยายเด็กซุ่มซ่าม เดินมาชนครับ” “ไปๆ เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านในก่อน...นี้ก็ได้เวลาประชุมแล้ว” คริสต์พยักหน้าและขอตัวเข้าไปในห้องด้านใน ที่ห้องทำงานแห่งนี้ จะมีห้องเล็กอีกหนึ่งห้องที่ไว้สำหรับพักผ่อนของคริสต์ ยามที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ใช่! เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ว่าคริสต์เป็นเจ้าของนโยบายที่ออกมาตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมาในการบริหารสถานีจนขึ้นเป็นอันดับหนึ่งที่ได้รับความนิยมและเรตติ้งสูงมาก นอกจากคุณหญิงศศิธรกับผู้ช่วยคนสำคัญ คือเขมิกา ที่คริสต์รักและนับถือเหมือนพี่สาวสายเลือดเดียวกันเลย Grrrr Grrrr คุณหญิงศศิธร หยิบโทรศัพท์ของตนเองเมื่อมีเสียงเรียกเข้า “ว่าไงจ๊ะเขม....ดีๆเดี๋ยวน้าลงไป” คุณหญิงศศิธรยิ้ม เมื่อเขมิกาที่เธอรักเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง โทรมาแจ้งว่า เจ้าของบทประพันธ์มาถึงแล้ว “คริสต์...เดี๋ยวแม่ลงไปห้องประชุมก่อนนะ...เสร็จแล้วรีบตามมานะ” “ครับ...” คริสต์ขานรับเสียงของคุณหญิงศศิธรที่ยืนบอกเขาอยู่หน้าประตู และมองตัวเองในเงาสะท้อนของกระจก ที่เขาถอดเสื้อตัวที่ใส่มาเมื่อเช้าออก และเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวที่ยังเลอะคราบกาแฟ “ยายเด็กบ้า!...” คริสต์พึมพำออกมา เมื่อภาพหญิงสาวที่เป็นสาเหตุให้เขาต้องมาเสียเวลาอยู่ตอนนี้ ‘ณ ห้องประชุม’ กอหญ้านั่งฟังผู้กำกับของเรื่องนี้ อธิบายให้ฟังและกดเปิดภาพนักแสดง บนจอขนาดใหญ่ให้เธอได้ดู ว่าการตีความและเอกลักษณ์ของนักแสดงแต่ละคนที่ได้รับเลือกมารับบทบาทนั้นตรงหรือใกล้เคียงกับที่เธอเขียนไว้มั้ย และเมื่อถึง นักแสดงนำฝ่ายหญิง ผู้กำกับขึ้นภาพสองคนให้เธอดูเพราะเนื่องจากเรื่องนี้นักแสดงนำหญิงเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาเลี่ยน จึงสอบถามความเห็นของเธอว่าควรเป็นใครดี...แต่เธอยังไม่ได้ให้คำตอบ.... “ผลั๊ก...” เสียงประตูห้องประชุมถูกผลักเข้ามา พร้อมกับผู้ที่เข้ามาใหม่ “ขอโทษทุกคนที่เข้ามาขัดจังหวะ” คุณหญิงศศิธรกล่าวออกไปอย่างใจดีและสุภาพให้กับทุกคน ที่พร้อมกันลุกขึ้นพร้อมยกมือไหว้ทำความเคารพผู้เข้ามาใหม่ “คุณกอหญ้าค่ะ...” กอหญ้าที่ยืนขึ้นเช่นกัน หันไปทางเขมิกาที่เรียกเธอ เพราะในห้องแห่งนี้ เป็นเธอเพียงคนเดียวที่ยังไม่รู้จักอย่างเป็นทางการผู้ที่เข้ามาใหม่... “ท่านนี้คือคุณหญิงศศิธรค่ะ...ประธานบริหารสถานีค่ะ” “สวัสดีค่ะ...” กอหญ้ากล่าวทักทายพร้อมยกมือไหว้ทำความเคารพ ผู้อาวุโสกว่า... “สวัสดีค่ะ...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...คุณกอหญ้าดูอายุน้อยกว่าที่พวกเราคาดไว้...เก่งจังเลยค่ะ” คุณหญิงศศิธรกล่าวออกไปอย่างใจดี เมื่อรับไหว้หญิงสาวตรงหน้าที่ไหว้อย่างสวยงาม “ขอบคุณค่ะ...” กอหญ้าที่ไม่รู้ว่าจะต้องตอบกลับแบบไหนดี ก็เลือกคำกลางๆที่เธอนึกออกตอบกลับคุณหญิงศศิธรที่ดูแล้วท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดี “คุยกันถึงไหนแล้ว”คุณหญิงศศิธรหันไปถามผู้กำกับที่ทางช่องมอบหมายงานนี้ให้ “ถึงตัวนักแสดงนำฝ่ายหญิงแล้วครับ...” คุณหญิงศศิธรพยักหน้า และบอกให้ทุกคนทำงานต่อได้เลย... “…ฉันขอนั่งประชุมด้วย” เมื่อทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมกลับลงนั่ง และเริ่มที่ค้างไว้ต่อทันที.... “คุณกอหญ้าคิดว่า...ควรเป็นใครดีครับ” ผู้กำกับหันมาถามต่อทันที เมื่อทุกคนพร้อม กอหญ้าหันไปที่หน้าจอแสดงภาพนักแสดงนำฝ่ายหญิงอีกครั้ง เธอนิ่งและจดจ้องมองตัวเลือกตรงหน้า ทั้งสองคนต่างก็เป็นลูกครึ่ง “...ตามคาแร็คเตอร์ตัวละครนักแสดงนำฝ่ายหญิงจะเป็นลูกครึ่ง...แต่เธอก็มีความโดดเด่นชัดเจนในเชื้อสายความเป็นเอเชีย...” สิ้นเสียงเหตุผลของกอหญ้าทำให้ทุกคนในห้องประชุมรู้ทันทีว่าใครได้รับเลือก เพราะนักแสดงที่ถูกเลือกมาทั้งสองคน ใช่! เธอเป็นลูกครึ่ง แต่มีอยู่เพียงคนเดียวที่ความเป็นเอเชียของเธอค่อนข้างชัดเจนกว่าอีกคน และแน่นอนเหตุผลของกอหญ้านั้นบ่งบอกว่านักแสดงฝ่ายหญิงต้องสามารถพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจน คุณหญิงศศิธรอดไม่ได้ที่ต้องหันไปมองกอหญ้า ที่ถึงแม้เธอจะสวมแว่นตาหนา แต่คนที่ผ่านโลกมานานอย่างเธอมองออกว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นคนฉลาดและมีความมั่นใจในตัวเองมาก เพราะน้ำเสียงและการพูดของนักเขียนคนนี้ช่างฉะฉานชัดเจน และแน่นอนในสายตาของเธอแล้ว กอหญ้าเป็นหญิงสาวที่สวยมากคนหนึ่ง และจากคนที่ผ่านอะไรมาเยอะอย่างเธอแล้ว เธอมองออกว่า นักเขียนคนนี้พยายามแต่งตัวเพื่อปิดบังตัวจริงของตัวเองไว้.... “เอาละค่ะ...เราได้นักแสดงนำฝ่ายหญิงแล้ว...คราวนี้ก็มาถึงนักแสดงนำฝ่ายชาย...เราไม่ต้องใช้ภาพขึ้นจอ...เพราะวันนี้เขาก็มาประชุมกับเราในวันนี้ด้วย” เขมิกาเป็นฝ่ายเอ่ยและหันไปยิ้มกับคุณหญิงศศิธรที่ยิ้มตอบเธอเช่นกัน เพราะละครเรื่องนี้เกิดขึ้นมาก็เพราะมีเหตุผล ที่สาเหตุหลักมาจากการประชุมของคณะบริหารของสถานีเมื่อสองสัปดาห์ก่อน...
已经是最新一章了
加载中