5
ทางด้านกอหญ้าที่เดินออกมาจากห้องประชุม จุดหมายของเธอคือลานจอดรถที่รถของเธอจอดอยู่ กอหญ้าก้าวเดินอย่างรวดเร็วไม่มีความลังเลใดๆหรือเปลี่ยนใจที่จะกลับเข้าไปในห้องประชุมนั้นอีกครั้ง
“…ให้ตายเถอะ!!!!...ฉันไม่ยอมให้งานเขียนของฉันต้องด่างพร้อย เพราะผู้ชายนิสัยห่างไกลและปราศจากความเป็นสุภาพบุรุษ...เด็ดขาด” กอหญ้าพึมพำกับตัวเอง และก้มหน้าหยิบกุญแจรถออกมาเมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ เธอรีบเอาตัวเองเข้าไปในรถพร้อมสตาร์ททันทีอย่างรวดเร็ว เพราะเธอต้องการออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด.... ‘ของขึ้น’
“เอี๊ยดดดดดดด...” กอหญ้าต้องย้ำเหยียบเบรคอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เมื่อจู่ๆด้านหน้ารถเธอมีร่างสูงของคนที่ด่าเธอเมื่อไม่นานนี้.....
คริสต์ที่ออกมาจากห้องประชุม เขาออกมาทันเห็นเธอเดินออกประตูสู่ลานจอดรถ จึงเร่งฝีเท้าตามมาทันก่อนที่เธอจะออกไป ‘บัดซบ!!!’ ใครจะคิดว่า ‘ยายเด็กแว่น’ จอมซุ่มซ่ามจะเป็นเจ้าของบทประพันธ์ที่คุณแม่และเขมิกาต้องการเป็นนักหนา
คริสต์ใช้สายตาคมเข้มจับจ้องมองไปที่กระจกหน้า เพื่อมองหญิงสาวที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย และนั้นทำให้เขารู้แล้วว่าใครที่มาใช้ที่จอดประจำของเขา
กอหญ้าเองก็ใช้ดวงตาหลังกรอบแว่นใหญ่มองกลับอย่างไม่มีใครหลบใคร “ ปี๊ด...” กอหญ้ากดแตรสั้นๆเพียงครั้งเดียว เตือนและบอกให้คริสต์หลบไป
“ลงมาคุยกันก่อนได้มั้ย?” คริสต์เอ่ยออกไป ให้ดังพอให้คนที่นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยได้ยิน และแน่นอนตอนนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงคริสต์กับ กอหญ้าเท่านั้น เพราะผู้ร่วมเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ของศึกปะทะของคริสต์และกอหญ้า ในอุบัติเหตุก่อนการประชุม กำลังเป็นไทยมุงมองเหตุการณ์การปะทะของคริสต์และกอหญ้าอีกครั้ง และจำนวนมากขึ้นเมื่อทุกคนในห้องประชุมก็ออกมาและเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเช่นกัน และแน่นอนรวมถึงคุณหญิงศศิธรและเขมิกา ที่ยืนอยู่หน้าทุกคน
“ปี๊ด...” เสียงแตรรถของกอหญ้า ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นคำตอบให้กับคำถามของคริสต์
“มีเหตุผลหน่อยได้มั้ย!...เราต่างก็โตๆกันแล้ว...”
“ปี๊ดดดดดด....” เสียงแตรรถดังยาวขึ้นกว่าปกติ ทำให้คริสต์ต้องยกมือขึ้นมาปิดหูของตัวเองไว้
“คุณน้า!...เขมว่าเราคงต้องเทรนการพูดให้คุณคริสต์ใหม่ว่า สุภาพบุรุษต้องใช้คำพูดแบบไหนกับผู้หญิงที่เค้าไม่หลงไหลไปกับความหน้าตาดีของคุณคริสต์...” คุณหญิงศศิธรพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ทางด้านกอหญ้าที่จ้องมองคริสต์ด้วยความเดือดดาลของอารมณ์ที่มากขึ้น “หน๋อยยย!!!...ยังกล้ามาว่าฉัน ว่าไม่มีเหตุผล...ไอ้!ผู้ชายเฮงซวย...” กอหญ้าพึมพำกับตัวเองในรถ ใครจะหลงไหลได้ปลื้มกับผู้ชายคนนี้ก็เอาเหอะ! แต่ต้องไม่ใช่เธอ กอหญ้า ดาร์เมี่ยน คนนี้
“ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ด...” กอหญ้ากดแตรเสียงสั้นๆ อีกสามครั้ง เพื่อบอกเจตนาของเธอว่าเธอไม่ต้องการพูดกับผู้ชายคนนี้
คริสต์ได้แต่ถอนหายใจ เพราะเขาคิดว่าตอนนี้หญิงสาวหลังพวงมาลัยคงกำลังเดือด ให้เขาพูดอะไรไปตอนนี้เธอก็คงไม่ยอมพูดกับเขาเป็นแน่ คริสต์ยกมือขึ้นมาทั้งสองมือบ่งบอกถึงการยอมแพ้ และยอมถอยออกมา ปล่อยให้หญิงสาวเคลื่อนรถออกไป
คริสต์ทำเพียงมองตามและจดจ้องรถพร้อมป้ายทะเบียนบันทึกไว้ในสมองของเขา เพราะคนอย่างเขาถ้าต้องการอะไรแล้ว เขาต้องได้มันมา ‘สำนักพิมพ์ข้อเขียน’ คนอย่างเขาไม่จนหนทางง่ายๆ แค่ครั้งนี้เขายอมถอยให้ก่อนหนึ่งก้าว แต่คนอย่างเขาถ้ายอมถอยหนึ่งก้าวแล้ว เขาจะต้องเดินหน้าอย่างน้อยสามก้าว
“ลูกชาย!คราวนี้บอกแม่ได้เหรอยังว่าลูกไปรู้จักคุณกอหญ้าตั้งแต่เมื่อไหร?” คุณหญิงเอ่ยถามบุตรชาย หลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนเดินกลับมายังห้องทำงานของประธานบริหารคุณหญิงศศิธร
“ผมก็พึ่งรู้ตอนนี้แหละครับ ว่ายายเด็กแว่นนั้น ชื่อกอหญ้า” เขมิกาและคุณหญิงศศิธร ขมวดคิ้ว
“เอ่อ!...พวกเราไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร เพียงแค่เรียกตามนามปากกาของเธอเท่านั้น” เขมิกาให้รายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
“เหรอครับ!...ผมไม่ได้รู้จักเธอ คุณกอหญ้า อะไรก็ช่าง!!!!...ผมเห็นเธอครั้งแรกก็ตอนที่เธอเอากาแฟมาหกราดใส่ผมเมื่อตอนสายของวันนี้แหละครับ...” คุณหญิงศศิธรพยักหน้าเข้าใจ เพราะเธอเห็นผลของมันตอนที่บุตรชายเข้ามาในห้องนี้ก่อนการประชุม เขมิกาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ คุณหญิงศศิธรจึงให้ความกระจ่างเท่าที่เธอรู้และเห็น
“…ไม่เข้าใจ!...แต่ดูจากอาการของคุณกอหญ้า คงไม่ใช่แค่เธอทำกาแฟหกใส่คุณคริสต์มั้งคะ”
“โอเค!...ผมผิดเองครับ!...เพราะผมเสียงดังใส่เธอและเรียกลุงชัดให้มาลากเธอออกไปจากที่นี่...” สิ้นเสียงคำตอบของคริสต์ ดวงตาของคุณหญิงศศิธรและเขมิกาเปิดกว้างอย่างคาดไม่ถึง
“เขม!...น้าอยากจะเป็นลม!!!” เสียงของคุณหญิงศศิธรดังขึ้นมา
“คุณแม่ พี่เขม มันจำเป็นมากเหรอครับที่ต้องเป็นเรื่องนี้ เราเปลี่ยนไปหาบทประพันธ์เรื่องอื่นมาสร้างเป็นละครก็ได้นะครับ...บอกตามตรงนะครับ ผมไม่อยากร่วมงานกับคนที่ไร้ความเป็นมืออาชีพแบบนั้น”
“คริสต์!!!....แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์เป็นคนแบบนี้นะ...การเปลี่ยนเรื่องมันใช่! ว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหา แต่เป็นการแก้ปัญหาแบบหนีปัญหา แม่ไม่เคยสอนให้คริสต์ทำแบบนี้ ไม่รู้ล่ะ!!! งานนี้คริสต์ต้องเป็นคนแก้ปัญหานี้ให้ได้เพราะเราเป็นคนก่อและสร้างมันขึ้นมา และอีกอย่างไม่ใช่เฉพาะช่องของเรานะที่ต้องการเรื่องนี้มาสร้างเป็นละคร แต่ที่เราได้และขยับได้มาไกลกว่าช่องอื่น เพราะแม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับคุณประจักษ์เจ้าของสำนักพิมพ์ข้อเขียน แม่จะเสียผู้ใหญ่ไม่ได้ และคุณประจักษ์บอกเพียงว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เจ้าของผลงานทั้งนั้น...”
Grrrr Grrrr กอหญ้าที่กำลังลงจากรถหลังจากจอดเรียบร้อย ล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายหยิบโทรศัพท์ ที่ดัังอย่างต่อเนื่อง...
“กิ๊ก!...” กอหญ้ากรอกเสียง เมื่อหน้าจอแสดงภาพคนที่โทรเข้ามา
“เป็นไงบ้าง?...”
“คุณกิ๊ก! เพื่อนสาว ดีขึ้นแล้วเหรอ?” กอหญ้าเลี่ยงไม่ตอบคำถามเพื่อน ที่ต่างเข้าใจกันดีว่า กิ๊ก โสภิตา อยากทราบผลการสรุปว่าเธอตกลงเซ็นสัญญากับทางช่องมั้ย?
“ก็ดีขึ้นมากแล้ว...แล้วเป็นไงบ้าง...เล่ามาหน่อยสิ”
“วันมะรืนนี้ ฉันและก็แกที่ยังป่วยอยู่ มีสอบปลายภาค สนใจเรื่องนี้ก่อนมั้ย?” กอหญ้าเลี่ยงที่จะบอกเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องนึกถึงผู้ชายที่มีดีแต่หน้าตาคนนั้น...คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์... “...ฉันไม่มีทางที่จะให้ผลงานของฉันต้องแปดเปื้อนกับคนนิสัยอย่างนายแน่นอน...” กอหญ้าคิดในใจ ในขณะหูก็ฟังเสียงเพื่อนสาวที่กำลังจามเพราะอาการไข้หวัด
“แล้วบอกหน่อยไม่ได้เหรอไง คนมันอยากรู็และเป็นห่วงแกมาก...” กิ๊ก บ่นร่ายยาว ถามกลับอย่างเป็นห่วง
“…กิ๊ก!!! เพื่อนสาว หญ้าอายุครบยี่สิบเอ็ดแล้วนะ! ซึ่งถึงแม้จะไม่เท่ากับแก...หญ้าก็ดูแลตัวเองได้ และหญ้าก็กลับมาถึงคอนโดอย่างปลอดภัย...ไปพักผ่อนซะ!!! และถ้านอนไม่หลับก็ไปหยิบหนังสือมาอ่านทบทวน ถึงกิ๊กจะเรียนเก่ง ถึงเก่งมาก แต่ก็ไม่ควรประหลาด เดี๋ยวไอ้สิ่งที่หวังไว้ เกียรตินิยม มันจะหลุดไป....”
“คนอุตส่าห์เป็นห่วง...” กิ๊กบ่นอุบอิบ ใช่! เธอต้องได้เกียรตินิยม และเธอต้องพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้คนสำคัญที่นอกเหนือจากพ่อ เห็นว่าเธอไม่ใช่คนประเภทที่อารมณ์พาไป เธอรักเขาจริงๆ
“...ไว้เรียนให้จบ โตขึ้นอีกหน่อย...ถ้าถึงตอนนั้นกิ๊กยังไม่เปลี่ยน ตอนนั้นเราค่อยมาคุยกันอีกครั้ง...” คำพูดของผู้ชายที่เธอสารภาพรักเมื่อสี่ปีก่อน ซึ่งกิ๊กไม่มีวันลืม นี้ก็เหลืออีกไม่กี่วันเธอก็จะจบ แน่นอนเธอจบแน่ๆ แต่เธอจะเอาเกียรตินิยม เป็นของขวัญให้กับเขาคนนั้น คนที่เป็นรักแรกของเธอ และตอนนี้เธอก็ยังรักเขาอยู่
“…รู้ค่ะ คุณแม่....” กอหญ้าเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อปลายสายหัวเราะ คริ คริ กับสรรพนามคำเรียกของเธอ ที่เป็นที่ถูกใจของเพื่อนสาวนัก
“คุณกอหญ้ากลับมาเร็วจังครับ”
“พอดีวันมะรืนนี้ หญ้ามีสอบเลยอยากกลับมาอ่านหนังสือนะคะ...รบกวนลุงด้วยนะคะ” ลุงหวังพยักหน้าอย่างเข้าใจกันกับประโยคหลังของกอหญ้า เพราะรถที่กอหญ้าใช้วันนี้ จะเป็นหน้าที่ของลุงหวังที่ต้องไปคลุมรถให้กับเธอเป็นประจำทุกครั้ง....
“ไม่มีปัญหาครับ...” กอหญ้ากล่าวขอบคุณ และขอตัวกลับขึ้นห้องไป