10
“ไม่ต้อง!...คุณปล่อยฉันได้แล้วนะ...ฉันไม่ใช่นักโทษของคุณนะ...ถ้าคุณไม่ปล่อยฉันจะร้องให้คนช่วย...แล้วนะ” กอหญ้าปล่อยไม้เด็ด เพราะยังไงที่นี่มันที่สาธารณะ คนมีชื่อเสียงอย่างเขาคงไม่อยากให้มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นแน่...
“ใช่!...คุณไม่ใช่นักโทษของผม...และผมยังยืนยันคำเดิมว่า...จะไปส่งคุณที่บ้าน...”
“มันอะไรกันนักกันหนา!...ก็ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้อง ไม่ต้อง...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ...โอ้ย!!!...ช่วยด้.....” กอหญ้าที่ตัดสินใจแล้วว่าจะร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมา...แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือคริสต์ปิดปากเธอได้ทันท่วงที ด้วยปากของเขากลางแจ้งในที่สาธารณะ
กอหญ้าเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึงที่คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์ จะจูบเธอ เฮ้ย!เธอถูกเขาจูบในสถานที่ที่เรียกว่าสาธารณะในประเทศไทย กอหญ้าหยุดร่างกายทุกอย่างเมื่อตอนนี้เพียงจุดเดียวที่เธอรู้สึกคือ ริมฝีปากของเธอและของเขาที่เบียดเสียดแนบชิดกัน
“อื้ม!...” ความชื้นของลิ้นที่คริสต์ปล่อยออกมาเพื่อที่จะล้วงล้ำเข้าสู่โพรงปากอิ่มนั้นเรียกสติของกอหญ้าได้ทันที มือเล็กขยับและดันแผงอกของคริสต์อย่างเต็มที่
“ฉาด!!!!” กอหญ้ายกฝ่ามือสัมผัสกับซีกแก้มของคริสต์ทันที เมื่อเธอพยายามดันตัวเขาให้ถอยห่างจากตัวเธอ
“คุณมันเลว!...เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ” คริสต์หันไปจ้องหน้ากอหญ้าอย่างจะเอาเรื่องพร้อมกับเอาลิ้นดันแก้มที่ถูกเธอ ‘ตบ’ ‘กอหญ้า’ ผู้หญิงที่ใช้ชื่อนี้มันไม่ถูกโฉลกกับเขาจริงๆ ในความคริสต์ของเขาตอนนี้ และในขณะเดียวกันดวงตาสองคู่จดจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร...
“ขอโทษนะครับ!...มีปัญหาอะไรกันเหรอเปล่าครับ” คริสต์กับกอหญ้าหันไปตามทิศทางของเสียงนั้น... ‘ตำรวจ’
“คุณตำรวจ!...ฉันขอแจ้งความค่ะ!” สิ้นเสียงคำพูดนั้น คริสต์และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เผอิญผ่านมาแถวนั้นหันไปมองหญิงสาวที่ยังคงยืนอยู่ในวงแขนคริสต์
“แจ้งความ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจถามกลับ ด้วยสายตาที่บ่งบอกว่า แค่ผัวเมียทะเลาะถึงกับต้องแจ้งความกันเลยเหรอ
“ใช่ค่ะ!...ฉันขอแจ้งความว่าผู้ชายคนนี้ ‘ลวนลาม’ฉัน”
‘ ณ สถานนีตำรวจ ’
“คุณตำรวจฉันขอแจ้งความค่ะ ฉันถูกละเมิดสิทธิของการเป็นประชาชน นายคนนี้ลวนลามฉันค่ะ” กอหญ้าพูดออกไป เมื่อเธอนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากเธอยืนยันที่จะแจ้งความต่อการกระทำของคริสต์
“เดี๋ยวคุณใจเย็นๆก่อนนะครับ” เจ้าหน้าที่พยายามไกล่เกลี่ยให้กอหญ้าใจเย็นๆ และสายตาเขาก็มองคริสต์สลับกับกอหญ้า ที่อารมณ์ของทั้งคู่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เมื่อคริสต์เอาแต่นั่งเงียบไม่มีความทุกข์ร้อนอะไรและไม่ห้ามปรามหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมคะ? หวังว่าคุณตำรวจคงจะไม่ปฎิบัติหน้าที่สองมาตราฐานหรอกนะคะ ฉันเป็นประชาชนที่เสียภาษีคนหนึ่งฉันมีสิทธิ เสรีภาพ ที่จะเข้าแจ้งความจับนายคนนี้ ขอหาลวนลามฉันค่ะ” กอหญ้ายังยืนยันความต้องการของตัวเอง
“...OK ครับ ผมจะลงบันทึกประจำวัน รบกวนคุณผู้หญิงให้รายละเอียดด้วยครับว่า ผู้ชายคนนี้ลวนลามคุณยังไง?”
“ลวนลามค่ะ ก็คือลวนลาม”
“ผมต้องขอรายละเอียดที่มากกว่านี่ครับ” คริสต์ที่เอาแต่เงียบ นั่งฟังบทสนทนาและข้อสักถามระหว่างกอหญ้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“เอ่อ!!! .... มัน มัน จูบฉันค่ะ!!!!!” กอหญ้าตอบออกไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และอดไม่ได้ที่ต้องก้มหน้าลงอย่างเขินอาย ซึ่งอากัปกริยานั้นทำให้ผู้ต้องสงสัยที่นั่งอยู่ข้างต้องอมยิ้มและกลั้นขำไว้
“ครับ จูบนะครับ จูบตรงไหนครับ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทำหน้าที่ต่อไป อย่างมืออาชีพ ทั้งๆที่ตัวเองก็ต้องกลั้นยิ้มกับท่าทางของทั้งสองคนที่นั่งตรงข้าม
“คุณตำรวจค่ะ มันต้องละเอียดแค่ไหนคะ?” กอหญ้าที่ความอดทนเริ่มจะหมดลงไปเรื่อยๆ และนั้นทำให้คริสต์ที่นั่งเงียบมาตลอด รอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าอีกครั้งทันทีพร้อมกับสายตาเหลือบมองกอหญ้าที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำจนถึงใบหู
“ต้องละเอียดครับ ผมต้องลงบันทึกประจำวัน และต่อจากนั้นต้องสืบพยานและหลักฐานต่อนะครับ” เจ้าหน้าที่ยังคงทำหน้าที่ของตนต่อไป....
“.....เอ่อ.....” กอหญ้าเกิดอาการหาเสียงและคำที่จะเอามาเรียบเรียงเป็นประโยคให้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ซะงั้น!!!!
“ให้ผมช่วยบอกรายละเอียดให้ก็ได้ครับ ว่าผมจูบเธอยังไง ตรงไหน และใช้เวลาจูบเธอนานแค่ไหน...” คริสต์ที่นั่งเงียบอยู่นาน จึงเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับหันหน้าไปสบตากับกอหญ้าที่หันไปมองคริสต์ด้วยดวงตาที่โตมากกว่าเดิมเช่นกัน
“ได้มั้ยครับ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจหันไปถามกอหญ้า ที่อ้าปากค้างเล็กน้อย บ่งบอกถึงความตกใจ
“คริสต์!!” เสียงเรียกคริสต์ดังขึ้น จากชายอีกคนที่พึ่งเดินเข้ามา และเสียงนั้นทำให้เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่บันทึกปากคำของกอหญ้าลุกจากเก้าอี้และทำความเคารพผู้ที่เอ่ยเรียกคริสต์
“ผู้กำกับ...”
“เกิดอะไรขึ้น?” เอกรัตน์ หันไปถามเจ้าหน้าที่ตรงหน้าทันที เมื่อเห็นเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนมาแจ้งความ เจ้าหน้าที่ให้รายละเอียดกับเอกรัตน์ที่มียศเป็นผู้กำกับของสถานีตำรวจแห่งนี้
“สวัสดีครับคุณกอหญ้า...ผมขอเชิญคุณไปคุยกันในห้องด้านในดีกว่าครับ...” เอกรัตน์ที่ได้ฟังเรื่องราวและเข้าใจทั้งหมด ก็หันไปพูดกับกอหญ้าอย่างสุภาพ
“ทำไม?...พวกคุณสองคนรู้จักกัน!...อย่าหาว่าฉันหมิ่นประมาทอะไรคุณเลยนะคะคุณผู้กำกับ...แต่ฉันไม่ไว้ใจพวกคุณ” กอหญ้าตอบกลับ ถึงเธอจะตัวคนเดียวหัวเดียวกระเทียบลีบแต่เธอก็ไม่โง่และไม่กลัว เมื่อเธอยืนอยู่บนความถูกต้อง
“ที่ผมเชิญคุณไปคุยด้านใน...ผมทำเพื่อชื่อเสียงของคุณนะครับ...ถ้าคุณให้เป็นเรื่องราวไป...คนที่เสียหายก็คุณเองนะครับ”เอกรัตน์ให้เหตุผลอย่างใจเย็น “...และด้วยเกียรติของผม...คุณไม่มีอะไรต้องกังวลเลยครับ”
กอหญ้าครุ่นคิดสักพักและพยักหน้าตามที่เอกรัตน์บอก และยอมเดินตามเอกรัตน์ไปพร้อมกับที่คริสต์ก็เดินตามไปเช่นกัน
‘ในห้องประจำตำแหน่ง ผู้กำกับ ณ สถานีตำรวจ’
“คุณกอหญ้านะครับ...ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับ” เอกรัตน์เอ่ยออกมาทันทีหลังจากที่ในห้องอยู่กันเพียงลำพังสามคน
“ห๊า!!!....” กอหญ้าร้องออกมาอย่าง งงๆ เพราะเอกรัตน์ไม่มีการถามซักถามอะไรเธอเลยหลังจากที่ฟังเรื่องราวอย่างย่อ...จากเจ้าหน้าที่ด้านหน้า คริสต์ที่ยืนอยู่ด้านหลังกอดอกอย่างไม่เดือดร้อน ห่างจากโต๊ะที่กอหญ้ากับเอกรัตน์นั่งตรงข้ามกัน
“ผมขอโทษคุณแทนเพื่อนผม...และผมจะให้มันขอโทษคุณด้วย” ประโยคหลังของเอกรัตน์เรียกความสนใจของคริสต์ได้แล้ว เพราะคิ้วเข้มหนาขมวดเข้าหากันทันที...
“ตกลงค่ะ...เขาขอโทษฉัน...ทุกอย่างจบ!...ต่างคนต่างไป...แยกย้ายกันไม่ต้องพบเจอกันอีกในชาตินี้” กอหญ้าเมื่อสติกลับมาก็คิดได้ เพราะเธอได้โอกาสที่จะแยกตัวออกจากนาย คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์ คนนี้สักที
“อ้าว!...เฮ้ย!!!...ทำไมฉันต้องขอโทษในสิ่งที่...ตั้งใจทำและอยากให้มันเกิดขึ้น” คำพูดของคริสต์ เรียกสายตาอีกสองคนให้หันไปมองคนพูด กอหญ้าเองก็หันหลังไปมองคริสต์อย่างรวดเร็ว ถึงใบหน้าเธอจะแดงเพราะความอายแต่ความโกรธและไม่พอใจมันมีมากกว่าความรู้สึกแรก!!!
“ไอ้บ้า!!!!....คุณตำรวจฉันขอแจ้งความและขอหมายศาล... ‘ห้าม’ เขาคนนี้เข้าใกล้ฉันในระยะห้าร้อยเมตร....” กอหญ้าเมื่อสิ้นสองคำให้กับคริสต์ เธอหันกลับไปมองเอกรัตน์พร้อมเรียกร้องความต้องการใหม่ทันที
คริสต์ได้แต่ยืนนิ่ง มองกอหญ้าพร้อมรอยยิ้มที่มีเพียงเอกรัตน์ที่ได้เห็น และรู้จักเพื่อนดี “...มันมีอีกเยอะนะ!!!...วิธีจีบสาว...ไอ้!เพื่อนบ้า” เอกรัตน์ได้แต่คิดในใจ...
“…เอ่อ!...คุณกอหญ้าใจเย็นๆก่อน!...เดี๋ยวผมให้ลูกน้องผมเรียกรถแท็กซี่ให้นะครับ...” เอกรัตน์พูดบอกกับกอหญ้าทันที เพราะทางเดียวที่ทุกอย่างจะยุติ! ได้ตอนนี้คือต้องจับให้สองคนนี้แยกกันก่อน
“…เดี๋ยวฉันไป...../...พับ!!!!...” คริสต์ต้องหยุดคำพูดของตัวเองไว้ทันที เมื่อเอกรัตน์ยกมือห้ามพร้อมลุกจากเก้าอี้เดินมาที่เพื่อน พร้อมกระซิบบางอย่าง!...และนั้นก็ทำให้คริสต์ยอมเงียบและพยักหน้ารับอย่างจำยอม
“เชิญคุณกอหญ้าครับ...” เอกรัตน์ผายมือเชิญกอหญ้าให้ออกจากห้อง และตัวเองก็ยืนกั้นระหว่างคริสต์กับกอหญ้า ซึ่งกอหญ้าก็ยอมเงียบ!...ถึงเธอจะสงสัยและอยากรู้ว่าสองคนนี้กระซิบอะไรกัน...แต่เธอก็เลือกที่จะทิ้งความอยากรู้ความสงสัยไว้ เมื่อเธอได้อยู่ห่างๆ และไปให้ไกลๆจากผู้ชายบ้าคนนี้...
“…แกมีเบอร์และที่อยู่ของคุณกอหญ้าอยู่แล้วนะ...” คริสต์มองตามหญิงสาวที่เดินออกจากห้องไปพร้อมกับเอกรัตน์ ซึ่งตัวเขายอมยืนอยู่นิ่งๆ เมื่อนึกถึงคำกระซิบของเอกรัตน์ที่แอบใช้อำนาจหาชื่อที่อยู่ของกอหญ้ามาให้เขาแล้วจากเบอร์โทรศัพท์ และมันเป็นคอนโดที่เดียวกับเขา...อะไรที่เขาอยากได้และต้องการ...เขาก็ต้องได้...ยิ่งยากยิ่งมีค่า...และอีกอย่างเขาดูออกว่ากอหญ้าที่ทำท่าทางเก่ง เธออาจจะเก่งในเรื่องอื่นแต่เรื่องผู้ชายเธอไม่ประสีประสาเอาเสียเลย!!!