ตอนที่ 3
เพราะตอนแรกหล่อนนึกว่าเขาเป็นเศรษฐีเฒ่าบ้ากามที่คงชอบเด็กสาว ๆ คิดว่าปานเทพคงแก่ครางพ่อคราวลุงแต่ที่ไหนได้เขายังหนุ่มแน่นแถมหน้าตาหล่อเหลาไม่เบาเลยทีเดียว แต่เขายังไม่มีเมีย แก้มบุ๋มไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผู้ชายเพอร์เฟ็คขนาดนี้ถึงยังไม่มีครอบครัวเสียที
หรือว่าเขาจะชอบไม้ป่าเดียวกัน?
แก้มบุ๋มเห็นเขาทำหน้ารำคาญแถมข้างกายยังมีเลขาผู้ชายกระตุ้งกระติ้ง
หรือว่าผึ้งน้อยคือคนที่คอยสนองความสำราญให้เขานอกเหนือจากการทำหน้าที่เลขาส่วนตัว อึ๋ย...แค่คิดก็ขนลุก
“ชื่อแก้มบุ๋มหรือ?”
เสียงของปานเทพรบกวนสมาธิเด็กสาวให้หลุดจากภวังค์หลังจากที่ป้าของหล่อนกลับบ้านสบายใจเฉิบไปแล้ว แก้มบุ๋มรีบพยักหน้ารับขณะที่ผึ้งน้อยเบะปากด้วยความหมั่นไส้
“ค่ะ...หนูชื่อแก้มบุ๋มค่ะ”
“อายุเท่าไหร่แล้วล่ะเราน่ะ”
“สิบแปดย่างสิบเก้าค่ะคุณปานเทพ”
พอหล่อนพูดจบปานเทพก็ถอนหายใจเสียงดังพรืด ยังความประหลาดแก่เด็กสาวที่มองเขาด้วยสายตาสงสัย
“โชคดีนะที่เธออายุสิบแปด บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องโดนข้อหาพรากผู้เยาว์แน่ๆ”
“ไม่หรอกม้างค๊า” ผึ้งน้อยลากเสียงยาว “ก็หล่อนน่ะเต็มใจมาเอง เต็มใจทั้งป้าทั้งหลาน มารับใช้คุณปานเทพ”
“ไม่ได้หรอกนะผึ้งน้อย ฉันทำอะไรไม่รัดกุมไม่ได้ สมัยนี้ข้อกฎหมายมันคุ้มครองผู้หญิงกับเด็ก ฉันไม่อยากเข้าคุกกับเรื่องแบบนี้เสียชื่อแย่...อืม...ว่าแต่เธอไม่ได้เรียนต่อหรอกหรือ?”
แก้มบุ๋มส่ายหน้า “หนูไม่ได้เรียนต่อค่ะ จบมัธยมปลายก็ออกมาช่วยงานป้านิ่ม หนูอยู่กับป้านิ่มมาตั้งนานแล้วค่ะ ท่านมีบุญคุณกับหนูมาก”
“แล้วคิดอยากเรียนต่อหรือเปล่า”
“คงไม่ล่ะค่ะ เพราะหนูไม่มีเงินพอ อาจจะทำงานหาเงินก่อนแล้วค่อยกลับไปเรียนต่อ”
“อืม...ถ้างั้นเธอก็คงต้องทำงานใช้หนี้ให้ป้าเธออีกนานเลยล่ะ...เอ้อ...ผึ้งน้อยช่วยพาแก้มบุ๋มไปที่บ้านพักหลังเล็กข้างหลังหน่อย มันว่างอยู่เพราะแม่บ้านลาออกไปคนหนึ่ง บ้านเล็ก ๆ เธอคงพออยู่ได้นะ”
ปานเทพถามหญิงสาว หล่อนรีบพยักหน้าตามเคย
“ค่ะ...แก้มบุ๋มอยู่ได้ค่ะ อยู่ที่ไหนก็ได้”
“นอนใต้ต้นไม้ได้ด้วยรึเปล่าล่ะยะหล่อน ถ้านอนได้ฉันจะได้เตรียมหมอนเตรียมเสื่อให้ดีมั้ยยะ”
“พอ ๆ เถอะ”
ปานเทพปรามเลขาของเขาที่ขึ้นชื่อว่าปากร้ายแต่เขารู้ว่าผึ้งน้อยเป็นคนใจดี ถ้ารู้ใจก็ถึงไหนถึงกัน เพราะเลขาของเขาคนนี้ทำงานให้ปานเทพหลายปี เรื่องคดโกงไม่มี เป็นคนซื่อสัตย์แต่เสียอย่างเดียวเรื่องปากก็เท่านั้น
“พาแก้มบุ๋มไปบ้านพัก แล้วฉันค่อยบอกว่าจะให้ทำอะไรก็แล้วกัน”
“ถ้างั้นตามฉันมาทางนี้ย่ะ”