ตอนที่ 7
“นี่ค่ะ...มื้อเย็นที่คุณปานเทพอยากทาน”
นิสัยเหมือนผู้หญิงแล้วยังมีรสนิยมการกินแบบแปลก ๆ ซะอีกด้วย แก้มบุ๋มนึกในใจแล้วก็นึกถึงคำพูดจากปากผู้ช่วยมือขวาของปานเทพที่ป่านนี้คงกลับบ้านไปแล้ว หล่อนกำลังหาข้อพิสูจน์สิ่งที่ผึ้งน้อยบอกเล่าเอาไว้
“กินด้วยกันไหมล่ะ?”
เขาถามพลางชำเลืองมองหล่อน แก้มบุ๋มคิดว่าเขาช้อนตามองค้อนทั้งที่จริงปานเทพกำลังส่งสายตาซ่อนนัยบางอย่างออกไปต่างหาก หล่อนส่ายหน้าไปมา
“เชิญคุณปานเทพนะคะ แก้มบุ๋มไม่กล้าตีเสมอเจ้านายค่ะ”
“เจ้านายที่ไหน... เธอมาอยู่ช่วยงานฉันก็เท่านั้น คิดเสียว่าป้านิ่มเอาเด็กมาฝากไว้กับฉัน คิดว่าเธอมาเป็นทาสฉันเสียเมื่อไหร่”
เขาว่าพลางก็หยิบส้อมและมีดขึ้นมา แก้มบุ๋มเผลอชะเง้อมอง คิดว่าเขาจะจีบนิ้วจับส้อมกับช้อน ที่ไหนได้ ปานเทพจับอุปกรณ์การกินของฝรั่งแบบไม่ไว้ท่าที เขาจับมันอย่างรำคาญเสียด้วยว้ำก่อนจะวางมีดลง
“ไอ้มีดบ้านี่ใช้ยากใช้เย็น จิ้มด้วยส้อมซะก็เสร็จเรื่อง”
เขาบ่นแล้วใช้ส้อมอย่างเดียว จิ้ม ๆ ลงไปในจานเอาไส้กรอกเข้าปากเคี้ยวหงุบหงับ ท่าทางเหมือนพวกกรรมกรหิวโซซะล่ะมากกว่าแม่หญิงกิริยางดงาม ท่าทางที่ไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียดหยุมหยิมของปานเทพเริ่มทำให้แก้มบุ๋มชักสงสัยว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นอะไรกันแน่
แม่หญิงงามหรือพ่อชายแข็งแกร่ง
“อยากเรียนต่อหรือเปล่า?”
เขาถามขึ้นขณะปากเคี้ยวอาหาร แก้มบุ๋มพยักหน้าเหมือนเดิม
“อยากเรียนค่ะ แต่ไม่มีเงิน”
“ท่าทางเธอนี่เรียบร้อยนะ งานบ้านก็ได้อยู่ แล้วนอกจากนี้ทำอะไรเป็นอีกบ้างไหม?”
“หนูทำตามคำสั่งของคุณปานเทพได้ทุกอย่างค่ะ คุณอยากให้หนูทำอะไร”
“ไม่อยากให้ทำอะไรหรอก แค่เตรียมอาหารกลางวันไปกินกับฉันที่น้ำตกพรุ่งนี้ก็เท่านั้น”
หล่อนเลิกคิ้วสูง “น้ำตกเหรอคะ คุณปานเทพจะไปน้ำตกเหรอคะ?”
“ฉันไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวไหนนานแล้ว อยากออกไปเปิดหูเปิดตาเสียบ้าง”
“คุณปานเทพคงทำแต่งานสินะคะ”
หล่อนไม่ได้พูดไอ้สิ่งที่อยากจะพูดว่าทำแต่งานจนไม่มีเวลาหาเมีย เลยเป็นโสดจนทุกวันนี้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะทำงานจนไม่มีเวลายุ่งกับผู้หญิงหรือชอบประเภทเดียวกันกันแน่
“ฉันงานยุ่งมาก เธอก็รู้ว่าฉันมีธุรกิจมากขนาดไหน จะให้ฉันเที่ยวเตร่ไม่รับผิดชอบเดี๋ยวงนก็เสียหายหมด”