บทที่149เคลิบเคลิ้มหลงใหล​2   1/    
已经是第一章了
บทที่149เคลิบเคลิ้มหลงใหล​2
บทที่149 เคลิบเคลิ้มหลงใหล​2 โจว๋ชิงหยี่กระซิบ “ตอนไทเฮายังอยู่ในวัยสาวหน้าตาไม่งดงาม เพราะเข้าวังมาจากตระกูลป๋ายทางตอนใต้ เพราะไม่สวยจึงไม่ได้รับความโปรดปราน อยู่ด้วยความลำบากจนตอนนี้ฝ่าบาททรงเป็นโอรสองค์เดียวและพระมารดาเสียชีวิต พระนางจึงประคองตัวเองจนได้ขึ้นมาเป็นไทเฮา ฉะนั้นนางมักห้ามคนอื่นๆพูดว่านางอัปลักษณ์! นี่เป็นข้อห้ามประการที่หนึ่ง” ซินเหยาถาม “แล้วข้อห้ามประการแรกล่ะ?” โจว๋ชิงหยี่พูด “ข้อห้ามประการแรกก็คือเรื่องผิวของพระนางน่ะซี ไทเฮาเป็นคนทางใต้ แดดแรงนัก หน้าตาจึงไม่สะสวย ตอนนี้แก่แล้วผิวก็ยิ่งดำ ดูอย่างไรก็เหมือนสตรีบ้านนอก ด้วยเหตุนี้ไทเฮาทรงห้ามผู้อื่นพูดว่านางโตมาดำ คำว่าดำ คำว่ามืดก็อย่าพูดต่อหน้าพระพักตร์เด็ดขาด!” ใจซินเหยาเหมือนหล่นลงไปที่ตาตุ่ม โจว๋ชิงหยี่ถาม “น้องหญิง เจ้าไม่ต้องกลัว แค่เจ้าอย่าผิดข้อห้ามของไทเฮา ไทเฮาจะทรงไม่ทำอะไรเจ้า” ซินเหยาพูด “เกรงว่า ข้าจะละเมิดข้อห้ามของไทเฮาแล้ว” โจว๋ชิงหยี่ยิ้มหยอกล้อ “เจ้ายังไม่เคยเห็นพระพักตร์ไทเฮานี่!” ซินเหยาทำหน้าลำบากใจ “ไม่แน่ว่าข้าอาจจะเจอไทเฮาแล้ว....” ต่อจากนั้น..... นางเล่าเรื่องที่นางเข้าไปในสวนดอกไม้ แล้วเห็นหญิงแก่อย่างละเอียด หลังจาก โจว๋ชิงหยี่ฟังจบก็ตกใจจนขนลุกไปทั้งตัว พูดตะกุกตะกัก “น้องหญิง.....น้องหญิง....เจ้าอย่าทำให้พี่สี่กลัวสิ ที่เจ้าพูด...เป็นเรื่องจริงหรือ?” “ก็จริงน่ะซี หญิงแก่คนนั้นดูดุร้ายอีกอย่างข้าเตือนนางดีๆนางยังดุข้า แต่ไม่รู้ทำไม เดิมทีข้าอยากจะด่านางสักฉาด แต่เห็นนางเป็นคนแก่คนหนึ่ง อีกอย่างแก่แล้วยังมาทำงานในวังหลวง ข้าก็เลยไม่ด่านาง” “จากที่ฟังรูปร่างหน้าตา เหมือนจะเป็นไทเฮาจริงๆด้วยสิ” “โชคดีที่นางไม่ด่าข้า” ซินเหยาพูดเหมือนยังโชคดี โจว๋ชิงหยี่ตกใจจนหน้าถอดสี ไม่มีสติแล้ว “น้องหญิง เจ้าบอกมาซิ เจ้าวิจารณ์เรื่องนางผิวดำหรือไม่? เจ้าคิดให้ดี เรื่องนี้สำคัญมากนะ!” “เหมือนจะพูดว่า..” “ยังพูดว่าอะไร?” “แล้วข้ายังพูดว่านางน่าเกลียด ต่ำต้อย เหมือนอยู่ในเรือดอกไม้มาตลอด!” “แย่แล้ว! แย่แล้ว!” “เจ้าเจอหายนะแล้ว!” โจว๋ชิงหยี่กังวลจะแย่อยู่แล้ว ซินเหยาคิด พูดว่า “เหมือนข้าจะพูดอีก” โจว๋ชิงหยี่ยิ่งกลัวพูดว่า “เจ้ายังพูดอะไรอีก?” ซินเหยาคิดหลังจากนั้นพูดว่า “พี่สี่ ท่านอย่ารู้เลยจะดีกว่า!” โจว๋ชิงหยี่ร้อนใจ “น้องหญิง เจ้าพูดอะไรออกไปกันแน่? เจ้าอย่าทำให้พี่สี่กังวลซิ!พี่สี่ใจไม่ดีแล้ว!” ซินเหยาพูด “ข้ากลัวว่าหากพูดออกไป จะทำท่านหัวใจวาย!” “เจ้า...พูดออกมา” โจว๋ชิงหยี่สูดหายใจลึกๆเตรียมพร้อมจะรับศึกหนัก ซินเหยาจำใจพูด “ข้าด่าไทเฮาว่าเป็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมน่ากลัว” “ห้ะ!” โจว๋ชิงหยี่หน้าซีดเผือด แทบจะไม่มีเลือดแล้ว ซินเหยาถามอย่างกังวล “พี่สี่ เจ้าเป็นอะไรไป? เจ้าขาดเลือดหรือ? ทำไมหน้าซีดเช่นนั้นเล่า?” โจว๋ชิงหยี่แค่รู้สึกว่าดวงตาพบแต่ความมืดมน ร่างอ่อนทรุด แม้แต่จะยืนยังไม่ไหว “พี่สี่ เจ้าไม่ต้องห่วง ไทเฮาต้องเจอข้า ให้นางมาเถิด ไหนๆก็ด่าไปแล้ว!” ซินเหยาปลอบใจโจว๋ชิงหยี่ ทันใดนั้นนึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง ถามว่า “จริงสิ ไทเฮาทรงอายุเท่าไหร่แล้ว?” โจว๋ชิงหยี่ตอบ “ห้าสิบชันษาแล้ว เจ้าถามทำไมกัน?” ซินเหยาตบหัวพูดว่า “คนแก่ที่ข้าพึ่งเจอมาอายุราวเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว นางคงไม่โกรธข้าจนตายหรอกนะ” “เฮ้อ!” โจว๋ชิงหยี่สลบคาที่ “พี่สี่” “พี่สี่เจ้าเป็นลมหรือ?” “หรืออาการป่วยโรคหัวใจกำเริบ?” ซินเหยารีบประคองนางที่เป็นลมไปแล้ว ในดวงตาโจว๋ชิงหยี่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว มองซินเหยาด้วยความกลัวสุดขีด “น้องหญิง น้องหญิง เจ้ารีบออกไปจากวังหลวงเถิด!” “ทำไมล่ะ?” โจว๋ชิงหยี่ “ข้าว่าไทเฮาต้องสับเจ้าเป็นชิ้น หลังจากนั้นเอาศพเจ้าไปให้หมากิน!” ซินเหยา “เจ้ารู้ได้ยังไง?” โจว๋ชิงหยี่พูด “เจ้าละเมิดข้อห้ามของไทเฮาทั้งหมดแล้วน่ะสิ! ทำไมเจ้าโชคร้ายอย่างนี้ เข้าวังครั้งแรกก็ทำไทเฮาพิโรธเป็นไฟแล้ว!” ซินเหยายิ้ม “คนที่โกรธเคืองคือนางคนเดียว!” นางนึกถึงตอนที่นางทำให้บุรุษโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ไฟไม่อาจเผาไหม้จิตใจได้ นางก็แค่รู้สึกตลก โจว๋ชิงหยี่พูด ”เหลือเพียงเจ้ารีบหนีไป ดูแล้วเจ้าคงไม่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตในวังหลวง เจ้าเป็นฮองเฮาไปก็เท่านั้น!” “ไทเฮาประกาศพระราชเสาวนีย์!” ทันใดนั้น มีเสียงเย็นชาดังขึ้นมา ซินเหยาตกใจ “เสียงนั่นช่างคุ้นนัก!” โจว๋ชิงหยี่พูด “นั่นเป็นเสียงอ้านซิน” ซินเหยา “อ้านซินคือใคร?” โจว๋ชิงหยี่พูด “นางเป็นข้ารับใช้คนสนิทของไทเฮา มีวรยุทธแกร่งกล้าเชียวนะ! เจ้าคงหนีไม่รอดแล้ว อ้ายซินต้องอ่านพระเสาวนีย์ของไทเฮา เจ้าไปคุกเข่ารับพระเสาวนีย์ก่อนเถิด” ซินเหยาไม่อยากคุกเข่า แต่ด้านหน้าผู้หญิงนับร้อยที่ยืนตรงนั้นล้วนคุกเข่ากันหมด อีกอย่างโจว๋ชิงหยี่ก็ดึงรั้งให้นางคุกเข่า นางไม่อยากจะก่อนความวุ่นวายที่นี่ จึงโค้งตัวลงคุกเข่า......
已经是最新一章了
加载中