บทที่ 9 ฉันบ้าไปแล้วถึงได้อยากจะหวนเธอกลับมาในตอนนี้   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9 ฉันบ้าไปแล้วถึงได้อยากจะหวนเธอกลับมาในตอนนี้
บทที่ 9 ฉันบ้าไปแล้วถึงได้อยากจะหวนเธอกลับมาในตอนนี้ ในตอนที่เสียงของสวีฉางซูดังผ่านเข้ามา ทำเอาไป๋ซูตกใจไปหมด เธอรีบถอยห่างจากฝู้จิ่งหวยเล็กน้อย ในวินาทีที่ประตูเปิดออกแล้วมองเห็นสวีฉางซู แววตาที่แฝงรอยยิ้มอยู่ในตอนแรกได้หายไปเลย บนใบหน้าเหลือเพียงแต่รอยยิ้มที่เสแสร้ง แล้วพูดไปคำหนึ่งว่า “อัย? ซูซูเธอก็อยู่หรอ ตลอดหลายปีมานี้ไม่ได้ข่าวของเธอเลย ช่วงนี้เอเป็นยังไงบ้าง?” ปลอม! ปลอมมากจริงๆ! ไป๋ซูกำหมัดแน่นแล้วมองไปทางสวีฉางซู ตลอดหลายปีมานี้ เธอเคยมีความวู่วามนับไม่ถ้วน ที่อยากจะไปหาสวีฉางซูแล้วพูดคุย แต่เธอด็อดทนมาแล้ว เธอยังคงจำได้เสมอว่าในตอนที่เธอถูกสวีฉางซูจัดการจนไม่สามารถอยู่ต่อในวงการนี้ เธอมีชีวิตอยู่ยังไง ถึงขั้นอยากจะหางานที่เกี่ยวกับการแพทย์เล็กน้อยก็ถูกปฏิเสธตลอด เธอยังท้องอีก เริ่มไม่สามารถปกปิดได้แล้ว คุณแม่ก็อยู่ในโรงพยาบาล ต้องการเงินมารักษาทุกวัน ไป๋ซูยืมเงินไปเยอะมากมายจึงจะคลอดลูกออกมาได้ แต่ว่าเธอกลับเลี้ยงลูกไม่ไหว ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาให้กับคุณแม่ได้ ในหนึ่งวันเธอทำงาน5อย่าง ยังไม่สามารถคืนดอกเบี้ยของเงินที่เธอยืมมาได้เลย ถ้าหากไม่ใช่เพราะลูก เธออยากจะตายไปแล้ว แต่ก็เพราะในเวลานั้น เธอพบเจอกับฝู้หยุนเซียว เขาต้องการภรรยาในการเซนต์สัญญาพอดี เธอได้ยินในตอนที่เธอไปส่งสุราในบาร์ จึงเข้าไปขอรับหน้าที่ ให้ฝู้หยุนเซียวซื้อตัวเธอ จากนั้นก็มอบลูกสาวของตัวเองไป๋เสี่ยวไป๋ให้หวางเสี่ยวถงช่วยดูแลชั่วคราว พอมีเวลาเธอก็จะรีบไปดูลูกสาวของตัวเอง ไป๋ซูในตอนนั้นใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเศร้าและหมดหวัง หลังจากที่พบเจอกับฝู้หยุนเซียวแล้ว เธอหวังว่าตัวเองจะสามารถลุกขึ้นมาจากดินได้ ฉะนั้นเธอได้ขีดฆ่าชื่อของสวีฉางซูและฝู้จิ่งหวยออกจากหัวใจแล้ว แม้กระทั่งแก้แค้นเธอก็ไม่เคยคิดจะแก้แค้น เธอถึงขั้นหลบซ่อนพวกเขา แต่ว่าพวกเขากลับมาหาเธอ “ดีที่มีการดูแลของคณบดีสวี ตลอดหลายปีนี้ฉันมีชีวิตที่ดีมาก” บนใบหน้าของไป๋ซูมีรอยิ้มอยู่ แต่ว่าเธอกลับเน้นย้ำคำว่าดูแลสองคำนี้เป็นพิเศษ “ดูแล?” ฝู้จิ่งหวยที่อยู่ข้างๆ ไม่เข้าใจ มองไป๋ซูแล้วถาม สวีฉางซูยิ้มด้วยความไม่รู้สึกผิดแล้วตอบกลับว่า “ตลอดหลายปีนี้ฉันอยู่เมืองAมาโดยตลอด น้อยมากที่จะกลับเมืองC ฉะนั้นไม่ได้ดูแลซูซูเท่าไหร่ ฉันคิดว่าซูซูไม่อยู่เมืองCซะอีก ไม่ได้รับข่าวอะไรของซูซูเลย” ไป๋ซูมองสวีฉางซู แล้วหัวเราะอย่างเย็นชาไปหนึ่งที “ขอบคุณความเป็นห่วงของคณบดีสวีนะคะ เกรงว่าจะทำให้คณบดีสวีผิดหวังแล้ว” “ขอโทษนะคะ ฉันยังมีธุระอีก ไปก่อนนะคะ” หลังจากพูดประโยคนี้จบ ไป๋ซูก็เปิดประตูเดินออกไปเลย แต่ว่า ในตอนที่เธอพึ่งจะขึ้นลิฟต์ กำลังเตรียมตัวจะลงไป ประตูลิฟต์กลับถูกเปิดออก ฝู้จิ่งหวยเดินเข้ามา มองไป๋ซูไปหนึ่งทีจึงจะพูดว่า “ทำไมเธอต้องหลบฉันอยู่ตลอดเวลา?” “แม่ของคุณไม่สนับสนุนความรักของเรา ตอนนี้เราก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรต้องคุยกันแล้ว นี่ไม่ใช่การหลบ นี่เรียกว่ารักษาระยะห่าง” ไป๋ซูพูดประโยคนี้จบ ลิฟต์ได้เลื่อนมาถึงชั้นที่หนึ่ง ไป๋ซูรีบเดินออกไปทางข้างนอก แต่กลับถูกฝู้จิ่งหวยดึงไว้อีกครั้ง “ฉันไม่อยากรักษาระยะห่างอะไรกับเธอทั้งนั้น” ไป๋ซูจับไปที่กระเป๋าด้วยความเย็นชา จากนั้นก็หยิบแหวนออก แล้วโชว์ให้ฝู้จิ่งหวยดู “ฉันแต่งงานแล้ว แค่ไม่ชินที่จะสวมแหวนเท่านั้น” ตอนนี้ ฝู้จิ่งหวยรับไม่ไหวแล้ว เขาจับแหวนวงนั้นของไป๋ซูขึ้นมา แล้วโยนออกไป “อย่าคิดที่จะเอาแหวนวงนี้มาหลอกฉัน!” หลังจากพูดจบ เขาก็จับมือของไป๋ซูขึ้นมา ตะโกนไปทางไป๋ซูว่า “หากเธออยากใช้แหวนแบบนี้มายืนยันว่าตัวเองแต่งงานแล้ว งั้นฉันสามารถมอบแหวนหนึ่งร้อยวงให้เธอได้” ไป๋ซูอยากจะดิ้นรน “ฝู้จิ่งหวย นายปล่อยฉันออก!” แต่ว่าฝู้จิ่งหวยกลับจับไป๋ซูไว้แน่น จับไป๋ซูขึ้นรถ จากนั้นจึงจะปล่อยเธอออก ขณะนั้น ไป๋ซูจะเปิดประตูรถออก อยากจะกลับไปหาแหวน แต่ว่า ฝู้จิ่งหวยล็อกประตูรถไปแล้ว จากนั้นก็เหยียบคันเร่งออกไปเลย ใช้ความเร็วที่เร็วขับไปทางร้านเครื่องประดับที่ใกล้ที่สุด “ฝู้จิ่งหวย นายบ้าไปแล้ว!” “ฉันบ้าไปแล้ว กลับอยากจะหวนเธอกลับมาในตอนนี้!”
已经是最新一章了
加载中