ตอนที่28 XXVI   1/    
已经是第一章了
ตอนที่28 XXVI
“ไอ่พวกสวะ พวกแกต้องไม่ตายดีแน่! จงกลายเป็ฯแสงหายไป และพ่ายแพ้ไปซะ!” แคนซัสเดือดถึงขีดสุดพร้อมปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมา Battle Mode ON...... “เวรละ” ผมเผลออุทานออกมา ลำพังการที่ต้องรับมือผู้เล่นในระดับคลาสเดียวกันถือเป็นเรื่องที่หนักเอาการอยู่แล้ว นี่ต้องมาเจอในสภาพที่คู่ต่อสู้สามารถใช้ Battle Mode ได้อีก หากไม่ใช้ชุดเซตจริงเข้าสู้โอกาสชนะถือว่าน้อยมาก แต่ถ้าทำอย่างนั้นตัวตนของผมก็จะถูกเปิดเผยไปด้วยเช่นกัน ‘คงต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อนล่ะนะ’ ผมพึมพำกับตัวเองสายตาพลันจ้องไปยังแคนซัสที่กำลังแปลงร่างอยู่อย่างไม่วางตา พร้อมกับความคิดในหัวที่กำลังหาวิธีการเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้าโดยไม่ปิดเผยตัวตนอยู่ ทันทีที่แคนซัสเปิด Battle Mode รูปลักษณ์ของเขาพลันเปลี่ยนแปลงไป ร่างกายของเขาสูงใหญ่ขึ้นเกือบหนึ่งเท่าตัว ผืนดินด้านล่างค่อยๆเคลื่อนตัวไปทั่วร่างกายของเขา มันค่อยๆแปรเปลี่ยนกลายเป็นเกราะที่ดูหนา ใหญ่ แต่ดูสวยงาม และน่าเกรงขาม ดาบยักษ์ในมือขยายใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว ออร่าความแข็งแกร่งสีน้ำตาลอ่อนๆกระจายออกไปเป็นวงกว้างจนคนรอบข้างรู้สึกถึงมันได้ สะเทือนปฐพี ไม่พูดพร่ำทำเพลง แคนซัสกระโดดขึ้นสูงเหนือพื้นดิน พร้อมกับเหวี่ยงดาบใหญ่ในมือยกขึ้นเหนือหัว ตัวดาบพลันเกิดแสงจ้าพร้อมระเบิดพลังที่อัดแน่นเอาไว้ข้างในออกมา และเป้าหมายของเขาก็คือพวกเราทั้ง 5 คน ที่ยืนตั้งรับการโจมตีนั้นอยู่ด้านล่างของเขา ตู้มม.....! ผืนดินแตกกระจายทันทีที่ดาบทุบลงกับพื้น เกิดรอยแยกของแผ่นดินเป็นทางยาวจากรัศมีของการโจมตี ผมสามารถกระโดดหลบได้ทันเฉียดฉิวจึงโดนดาเมจไม่มากเท่าที่ควรนัก แต่กับ 4 คนที่เหลือนั้นไม่ใช่ แม้ว่าพวกเขาจะหลบพ้นแบบเฉียดฉิวเช่นกัน แต่ด้วยความห่างของระดับทำให้พวกเขาโดนดาเมจจนกลายเป็นแสงหายไปด้วยการโจมตีเดียวในทันที ด้วยสิ่งนั้นมันบ่งบอกถึงความรุนแรงของทักษะนี้เป็นอย่างดี เดิมทีอาชีพ Warrior เป็นอาชีพที่มีค่าพลังโจมตี และพลังป้องกันสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยิ่งอยู่ในร่าง Battle Mode ทำให้ขีดความสามารถถูกยกระดับขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ยิ่งระดับสูงความสามารถนั้นยิ่งทวีคูณเพิ่ม แต่การโจมตีเมื่อครู่นั้น แคนซัสก็ไม่ได้ตั้งใจให้โดนพวกผมโดยตรงอยู่แล้ว เขาจงใจฟาดทักษะลงพื้นข้างหน้าเพื่อหลอกว่าการโจมตีนั้นพลาดเป้า แต่ไม่เลย ด้วยความรุนแรงของทักษะทำให้ความเสียหายส่งตรงมายังที่ที่พวกผมยืนอยู่เต็มๆ และผลลัพธ์ที่ได้มาก็เป็นที่น่าพอใจของเขาเช่นกัน “ฮ่าๆ.... นี่พวกแกเป็นคนตีธงนี้แตกจริงๆงั้นหรอหะ! การจอกๆๆๆ!” แคนซัสพูดเย้ยหยันทันที มันพึงพอใจกับผลงานตรงหน้าอย่างมาก เพราะเพียงแค่การโจมตีเดียวของมันก็สามารถทำให้คู่ต่อสู้ของมันจาก 5 คนเหลือเพียงแค่หนึ่งเดียวแล้วในตอนนี้ แต่ทว่าคนสุดท้ายนี้คงไม่ง่ายอย่างที่เขาคิดแน่นอน ผมที่ไม่สนใจคำพูดลมๆแล้งๆของแคนซัสก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง โพชั่นเติม HP อัตโนมัติทำงานอย่างช้าๆ พร้อมกับบัพเด้งเลือดที่ถูกร่ายเอาไว้ก๋อนหน้านี้ช่วยบูส HP ขึ้นมาก่อนจะหมดระยะเวลาไปในที่สุด จากนั้นก็เดินเข้าไปหาแคนซัสด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แคนซัสทำท่าทีแปลกใจอยู่ไม่น้อย แต่เขาหาได้สนใจสิ่งใดๆไม่ ดาบใหญ่ในมือถูกยกขึ้นมาอีกครั้งหมายจะจบการต่อสู้นี้เสีย แคนซัสเริ่มหมุนเหวี่ยงดาบในมือเข้าที่แขนข้างซ้ายของผม ในใจของมันคงคิดว่าร่างกายของผมคงขาดเป็นสองท่อนไปแล้วแน่ แต่มีหรือที่ผมจะยอมให้มันเป็นแบบนั้น ตุ้มหูผาเหล็กกล้า(SSS) ถูกใช้งาน..... สกิลเรียกใช้: รับค่าเสียหายทุกรูปแบบได้ไม่จำกัดเป็นเวลา 30 วินาที แกร๊งง....!! ดาบของแคนซัสปะทะเข้ากับบาเรียที่จู่ๆก็เกิดขึ้นรอบตัวผมอันเป็นผลมาจากการเรียกใช้ความสามารถของตุ้มหูผาเหล็กกล้าระดับ SSS ที่ผมสวมมันไว้ตลอดเวลาแม้ว่าจะใส่ชุดเฟคระดับ S อยู่ก็ตาม แคนซัสคงประหลาดใจไม่น้อยที่การโจมตีของเขาไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ ผมกำหมัดในมือแน่นพร้อมชกไปที่ใบหน้าของแคนซัสเข้าอย่างจังจนมันพุ่งกระเด็นออกไป ยังไม่หมดแค่นั้น ผมรีบใช้ Sonic พุ่งตามขนาบหน้าเขาพร้อมชกเข้าที่ท้องน้อยเข้าอีกครั้ง ความแรงจากการออกหมัดทำให้มือของผมยุบเข้าไปในท้องน้อยของเขาทันที ตู้มม...! แคนซัสถูกชกอัดเขากับพื้นดินจนนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขากระโดดพลิกตัวกลับมายืนด้วยท่าทีสง่าดังเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น การโจมตีเมื่อครู่สร้างความเสียหายให้เขาเพียงน้อยนิดเท่านั้น ซึ่งผมก็รู้ถึงจุดนั้นดี แต่ที่ผมใช้หมัดแทนอาวุธก็เพราะเป็นการระบายอารมณ์ และความสะใจล้วนๆที่ทำกับทีมของผมทั้ง 4 คนนอนตายแบบนั้น ผมต้องรีบใช้เวลา 30 วินาที ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะต่อจากนี้ ผมจะเริ่มเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นแล้ว! ผมกระชับธนูในมือแน่นพร้อมที่จะเข้าปะทะกับศัตรูตรงหน้าอีกครั้ง แคนซัสเองก็เดินเข้ามาหาผมแบบไม่เกรงกลัวสิ่งใดเลยแม้จะเห็นว่าผมมีทักษะป้องกันบางอย่าง แต่กระนั้นเขาก็พร้อมเข้าปะทะเช่นกัน เราทั้งสองจ้องตากันซักพักก่อนจะพุ่งเข้าปะทะกันด้วยความเร็วที่ผู้เล่นโดยรอบยากที่จะมองตามทัน ฟิ้วว...ตู้มม.....!!! . . . . กลับมาที่ด้านของธีระ ธีระยังคงต่อสู้อยู่กับอลันอยู่ดังเดิม ทั้งสองสูสีกันมากจนกินกันไม่ลง ฝั่งหนึ่งมีไอเทมระดับสูง ฝั่งหนึ่งมีประสบการณ์การต่อสู้ที่สูงกว่าทำให้การต่อสู้ของทั้งสองนั้นยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้ แต่การต่อสู้คงจะมาถึงจุดตันสินแล้วเมื่อทั้งคู่เหลือพลังชีวิตกันไม่มากนัก “เป็นอะไรไป อลัน โดนยึดแท่นธงไปแค่นี้ถึงกับเสียสมาธิเลยรึไง?!” “เหอะ ไร้สาระน่า เดี๋ยวหัวหน้าพวกฉันก็จัดการได้เอง ไอ่บ้านั่นไม่รอดแน่ แล้วก็อีกอย่าง...ห่วงตัวเองก่อนเถอะ!” อลันตัดบทพูดพร้อมกับกระโจนใส่ธีระอีกครั้ง เพลงดาบคู่ที่อันตรายถูกร่ายรำเข้าใส่ธีระอย่างดุดัน อลันไม่อยากเสียเวลากับการต่อสู้ที่ยืดเยื้อนี้มากนัก เขาต้องรีบจบให้เร็วที่สุดเพื่อเอาเวลาไปยึดหุ่นการ์เดียนอื่นให้หมดในขณะที่หัวหน้าของเขากำลังต่อสู้เพื่อยึดธงคืนมา และพวกเขาจะเป็นผู้ชนะสงครามครั้งนี้เสีย ดาบคู่วาดผ่านลำตัวของธีระไป แต่ธีระก็ไม่ยอมโดนอยู่ฝ่ายเดียวเหวี่ยงง้าวในมือสวนกลับไปส่งผลให้อลันต้องเอี่ยวตัวหลบจนเสียจังหวะอยุ่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพุ่งเข้าไปกระหน่ำทักษะใส่แบบไม่ยั้ง แต่ก็ต้องพลาดไปเมื่อสิ่งที่เขาฟันอยู่เป็นเพียงแค่ภาพลวงตาอีกครั้ง Mirage Step ทักษะที่ธีระกำลังใช้อยู่เป็นทักษะที่จะสร้างร่างมายาขึ้นมาหนึ่งร่างไว้ที่ไหนซักที่หนึ่ง และเจ้าของทักษะสามารถสลับร่างไปมาได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถบางอย่างให้อีกด้วย ถือเป็นทักษะที่มีประโยชน์มากทีเดียวในสถานการณ์ที่เขาตกเป็นรองแบบนี้ ฉึก.......... อลันถูกแทงจากข้างหลังทะลุถึงหัวใจอีกครั้ง ในเวลานี้ 1 ใน 4 อัสนี ผู้แข็งแกร่งได้พ่ายแพ้ลงไปแล้ว ชายหนุ่มทรุดตัวลงชันเข่าไปกับพื้น เขายังไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมาแพ้ให้กับพวกสวะแบบนี้ก่อนที่ตัวเขาจะกลายเป็นแสงหายไป และคงต้องรอเกิดไปอีกนานเนื่องจากจุดเกิดหลักโดนทำลายไปแล้ว เป็นที่รู้กันว่าการโจมตีในโลกเสมือนของ KoE นั้น หากโจมตีโดนจุดตายเข้าเต็มๆแล้ว แม้จะเป็นเพียงแค่การโจมตีเดียวก็สามารถสังหารศัตรูลงได้ง่ายๆเช่นกัน หลังจากที่ธีระจัดการอลันลงได้ เขาเร่งฝีเท้าเดินหน้าในการยึดหุ่นการ์เดียนในแต่ละที่โดยเร็ว รวมถึงสังหารผู้เล่นฝ่ายศัตรูไปเรื่อยๆเช่นกัน เพื่อให้ได้คะแนนโดยรวมให้มากที่สุด และเป็นฝ่ายชนะสงครามนี้ไปเช่นกัน ทางด้านของสิงห์เอง เดิมทีเขาได้รับหน้าที่ในการเฝ้าแท่นธงฝ่ายตัวเองเพื่อคอยระวังศัตรูจะมาบุกยึดแท่นธงไป แต่ในเมื่อแผนของภาคินเพื่อนรักสำเร็จ เขาจึงออกไปช่วยยึดการ์เดียนอื่นด้วยอีกแรงหนึ่ง โดยไม่ลืมที่จะทิ้งคนไว้ป้องกันแท่นธงเผื่อเอาไว้ก่อนไป . . . กลับมาที่การต่อสู้ของผู้เล่นคลาส 8 ทั้งสองคนอีกครั้ง การปะทะกันของผู้เล่นระดับสูงไม่ใช่ใครที่ไหนก็สามารถเข้าใกล้ได้ พื้นที่โดยรอบต่างพังยับเยินไม่เหลือเค้าโครงเดิม พื้นดินเกิดหลุมน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก ป่าไม้หักโค่นลงไม่เหลือชิ้นดี ผู้เล่นฝั่งกิลด์อัสนีบาตโดนลูกหลงจนบาดเจ็บหนักไปหลายราย และมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องตายไป ในตอนนี้แคนซัสกำลังรับการโจมตีที่รุนแรงของผมได้อย่างสบายๆ แต่ตัวของเขาก็ต้องถอยหลังไปหลายก้าวเช่นกันจากแรงปะทะ เขาหมุนตัวโต้กลับการโจมตีใส่ผมทันที ส่งผลให้ตัวของผมลอยละล่องปลิวไถลไปกับพื้นดิน กลิ้งอย่างกับลูกหม.... “แฮกๆ สู้กับมันในร่าง Battle Mode ไม่ไหวจริงๆด้วยแฮะ......หรือว่าต้องใช้ชุดจริงเข้าสู้ แต่ว่า-......โอ๊ะ?!” ผมพูดกับตัวเองได้ไม่ทันจบ ก็ตกใจกับเสียงของระบบที่ดังขึ้นในหัวของตัวเอง ฉายา : บุตรแห่งซาตาน (เรียกใช้อัตโนมัติ:เมื่อเลือดเหลือต่ำกว่า10% จะทำให้ผู้ใช้ติดสถานะ โทสะ ส่งผลให้ค่าสถานะทุกอย่างเพิ่มขึ้น50% เป็นเวลา 1 นาที และหลังจากการใช้งานสิ้นสุดจะส่งผลให้ร่างกายรับภาระอย่างหนัก/เบา ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของผู้เล่น) ผมค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆพร้อมกับออร่าสีดำที่ค่อยๆแผ่ออกมาจากร่างกายของผม มันให้ความรู้สึกน่าหวาดผวา น่าสยดสยอง น่าขนลุกเป็นอย่างมาก ดวงตาที่ถูกย้อมเป็นสีดำทมิฬ พร้อมกับเสียงก้าวเดินในแต่ละก้าวล้วนหนักอึ้งจนเกิดเสียงดัง ตึง! ตึง! ตึง! แคนซัสมองผมด้วยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย เขาเริ่มระวังตัวมากขึ้นก่อนที่จะพุ่งเข้าปะทะในขณะที่ผมกำลังทำท่าทีมึนๆอยู่ ฟิ้วว...ผลึบ.. การโจมตีของแคนซัสถูกมองผ่าน และพลาดเป้าไป ผมยกธนูขึ้นยิงในระยะเผาขนส่งผลให้แคนซักกระเด็นออกไปข้างหน้า ยังไม่จบแค่นั้น ผมพุ่งตามขึ้นไปด้านเหนือตัวของเขาพร้อมยิงซ้ำไปอีก ตู้ม...ตู้ม...ตู้ม... ค่าความเสียหายอาจไม่มากเนื่องจากแคนซัสมีพลังป้องกันที่สูง เขาพลิกตัวเองขึ้นมาตั้งหลักได้อีกครั้ง จากนั้นจึงเริ่มตวัดดาบส่งคลื่นพลังเข้าปะทะกับตัวผมที่กำลังลอยอยู่บนอากาศ ผมเห็นว่าคงหลบไม่ทันแน่จึงยิงสวนไปทันที ตู้ม... เกิดเสียงระเบิดขึ้นกลางอากาศพร้อมร่างของทั้งสองที่ปลิวไปคนละทิศละทาง ทั้งคู่เหลือเวลาไม่มากแล้ว ร่าง Battle Mode ของแคนซัสเหลือเวลาเพียงไม่กี่วินาทีแล้ว ผลแอฟเฟคจากฉายาของผมก็เช่นกัน ทั้งคู่มีความเห็นตรงกันแม่ว่าจะไม่ได้พูดกันแม้แต่คำเดียว นั่นคือปิดฉากการต่อสู้ด้วยการโจมตีครั้งสุดท้ายนั่นเอง เพลิงนรกทะลวงสวรรค์ – เสริมคุณสมบัติธาตุไฟ เปลวเพลิงสีดำแดงเข้มลุกท่วมทั้งคันธนู มันระเบิดพลังงานออกไปจนรอบข้างเกิดไฟลุกท่วมราวกับอยู่ในนรกอเวจี มือยกธนูเล็งไปยังเป้าหมายพร้อมส่งศรเพลิงนรกออกไป ทันทีที่ศรถูกยิงออกไปเปลวเพลิงนรกพลันเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวไป มันคล้ายปีศาจผู้พร้อมที่จะทำลายสวรรค์อันสูงส่งลงด้วยตัวของมันเอง คลื่นแผ่นดินไหวสะเทือนปฐพี – เสริมคุณสมบัติธาตุดิน ด้านของแคนซัสเองก็เริ่มใช้ทักษะเช่นกัน เขาหมุนควงดาบไปรอบตัวพร้อมปักดาบยักษ์ลงไปกับพื้นตรงหน้า ทันทีที่ดาบปักลงพื้นราวกับมีแผ่นดินไหวขนาดย่อมๆเกิดขึ้น ผืนดินพลันแตกเป็นเสี่ยงๆ มีลาวาปะทุออกมาจากรอยแตกของหน้าดิน เมื่อรวมพลังจนได้ที่แล้วเขายกผืนดินขึ้นปล่อยพลังที่สะสมไว้เข้าใส่เป้าหมายทันที ฟิ้วว...ตู้มมม..!!!! สองทักษะจากผู้เล่นระดับไฮคลาสเข้าปะทะกันเกิดการสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง ผู้เล่นรอบๆต่างโดนแรงปะทะจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง สภาพแวดล้อมโดยรอบต่างเละเทะไม่เหลือชิ้นดี และไม่นานผลของทักษะก็หมดลง ความสงบเริ่มกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางพื้นที่โล่งๆเหลือไว้เพียงร่างของชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ในตอนนี้ผลของ Battle Mode ค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ สภาพของเขาปานตายเลยทีเดียว ในมือถือดาบขนาดใหญ่ที่ยังคงปักลงพื้นเพื่อใช้ประคองตัวเองไม่ให้ล้มลงไปกับพื้น เขาเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกวาดสายตามองไปยังพื้นที่ตรงหน้าเขา พลันเห็นร่างหนึ่งที่นอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้นในขณะที่ตอนนี้ร่างนั้นกำลังเริ่มกลายเป็นแสงหายไป...... “เหอะ! ตายๆไปซะได้ก็ดี ไอ่ตัวตายยากเอ้ย!.......”
已经是最新一章了
加载中