ตอนที่29 XXVII   1/    
已经是第一章了
ตอนที่29 XXVII
นกฟีนิกซ์เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอมตะ มีชีวิตยั่งยืนนิรันดร์ มันจะตายก็ต่อเมื่อสิ้นอายุไขของมันเอง และสลายกลายเป็นเถ้าถ่านไป แต่ทว่ามันกลับสามารถฟื้นคืนชีพกำเนิดชีวิตใหม่ได้อีกครั้งท่ามกลางกองเถ้าถ่านของมันเอง ชายชุดเกราะเบาสีดำที่นอนอยู่กับพื้นในสภาพที่ใครเห็นก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าตายแล้ว แสงสีทองที่กัดกร่อนร่างกายให้สลายหายไปตอนที่ตายค่อยๆไหลย้อนกลับมาดังเดิม พร้อมกับเสียงของระบบที่ดังขึ้นภายในหัว ท่านได้รับการคืนชีพในกรณีพิเศษ เป็นผลมาจาก แหวนราชาฟินิกซ์(L) : เพิ่มค่าสเตตัสทุกอย่าง 30% ถาวร / เมื่อตายจะฟื้นคืนชีพอีกครั้งโดยไม่สูญเสียไอเทม และ HP/MP รวมถึง(SP)ค่าความเหนื่อยล้าจะกลับมาเต็มอีกครั้ง เมื่อคืนชีพจะคงความอมตะนาน 20 วินาที และค่าสเตตัสทุกอย่างจะเพิ่มขึ้นอีก 50% เป็นเวลา 1 นาที ตัวผมค่อยๆลุกขึ้นยืนมาอีกครั้งท่ามกลามความแปลใจของเหล่าศัตรูที่รายล้อม รวมไปถึงตัวแคนซัสเองที่ยืนบาดเจ็บหนักอยู่ไม่ไกลนัก การต่อสู้ของผู้เล่นระดับสูงแบบนี้จะไม่ให้ใครเข้ามาแทรกแซงได้ แคนซัสจึงไม่ได้รับการฮิวใดๆจากผู้เล่นฝ่ายตัวเองเลยแม้แต่น้อย ที่เขาทำได้ตอนนี้แค่เพียงเติมโพชั่นที่เพิ่มพลังชีวิตได้เพียงน้อยนิดเท่านั้นเมื่อเทียบกับเลือดของเขาที่มีมากมายเหลือเกิน “นายแพ้แล้ว แคนซัส” ผมพูดกับแคนซัสทันทีที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ตอนนี้ร่างกายผมมันกระปรี้กระเปร่าอย่างบอกไม่ถูก พลันรู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มมากขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ด้วยพลังนี้ผมจะไม่มีทางล้มอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน “นี่แกมีทักษะแบบนั้นด้วยงั้นหรอ! ขี้โกงชัดๆ แกนั่นแหละที่จะต้องแพ้ถ้าแกไม่มีทักษะฟื้นคืนชีพบ้าๆนั่น!” ก็จริงอย่างที่แคนซัสว่า ผมได้แพ้เขาไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่การที่ผมสามารถทำเขาอยู่ในสภาพปานตายแบบนี้ได้ทั้งๆที่เขาอยู่ในร่าง Battle Mode อยู่ ก็นับว่าเกินคนแล้ว “เอาเถอะ ฉันเสียเวลาไปมากแล้ว รีบจบเรื่องกันดีกว่า” “กล้าก็เข้ามา! สวะอย่างแก ฉันจะมอมความพ่ายแพ้ให้อีกรอบ!” “เห....ปากดีไม่หยุดเลยนี่ ตอนที่นายอยู่ในร่าง Battle Mode ยังโดนฉันอัดซะยับเลย ตอนนี้นายไม่มีอะไรจะมาสู้ฉันได้อีกแล้ว แคนซัส!!” Power Shot ลูกศรเจาะเกราะถูกยิงออกไปด้วยความรวดเร็ว ศรเจาะเกราะพุ่งใส่แคนซัสที่ไม่ทันตั้งตัวจนเขากระเด็นถอยหลังไป ยังไม่จบแค่นั้น ผมพุ่งตามไปยิงใส่เขาในระยะประชิดอีกชุดหนึ่ง ตู้มม....อัก..! “แกนะแก!” แคนซัสกัดฟันพูดออกมาพร้อมข่มความเจ็บปวดเอาไว้ เขาควงดาบยักษ์ไปรอบตัวเพื่อสบัดให้ผมถอยออกห่างไป ดาบของเขาพลันเรืองแสงขึ้นมาก่อนที่จะปลดปล่อยคลื่นพลังเข้มข้นเข้าหาผม ผมเห็นดังนั้นจึงรีบเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยเท่านั้น การโจมตีของแคนซัสช้าลงมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ผมต้องรีบจบการต่อสู้นี้โดยเร็ว ศรในมือถูกยกขึ้นมาอีกครั้ง พริบตาเดียวผมไปโผล่ตรงหน้าของแคนซัส เขาตกใจถึงขีดสุดแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อศรในมือถูกยิงพุ่งทะลุหัวของเขาไปเรียบร้อยแล้ว ตู้มม..เผล๊ะ...!! การโจมตีด้วยศรเจาะเกราะส่งร่างของแคนซัสให้ไปเกิดใหม่ได้ในทันที ไร้ซึ่งเสียงร้องใดๆออกมาจากปากของเขา บัดนี้หัวหน้าของกิลด์อัสนีบาตได้ถูกโค่นลงแล้ว เสียงแจ้งเตือนถึงการตายของหัวหน้าพวกเขาดังขึ้นในหัวของกิลด์อัสนีบาตทุกคน กำลังใจได้ถดถ่อยลงไปอีกขั้น พวกเขาต้องเสียแท่นธงที่เป็นจุดเกิดหลักไปก่อนหน้านี้แล้ว และตอนนี้ต้องเสียหัวหน้ากิลด์ซึ่งเป็นกำลังรบหลักไปอีก ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว ผู้เล่นฝั่งกิลด์อัสนีบาตในตอนนี้เหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะอีกครึ่งหนึ่งได้ตายไปก่อนหน้านี้แล้ว และต้องรอเวลาเกิดเป็นเวลานานพอควร ผู้เล่นที่เหลือต่างฮึดสู้รวมพลังกันขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อป้องกันหุ่น การ์เดียนใหญ่ ที่พวกเขายึดมาได้ตอนเริ่มสงคราม และยังเป็นจุดเกิดจุดสุดท้ายของพวกเขาอีกด้วย พวกเขาพยายามถ่วงเวลาให้มากที่สุดจนกว่าผู้เล่นระดับสูงของกิลด์จะเกิดขึ้นมา เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาจะโต้กลับด้วยพลังและความแค้นทั้งหมด และรับชัยชนะครั้งนี้ไป แต่เหมือนจะสายไปแล้วเมื่อกิลด์อินทรีย์ถลาลมได้ยึดหุ่นการ์เดียนน้อยใหญ่มาเรื่อยๆจนใกล้มาถึงยังหุ่นการ์เดียนใหญ่ซึ่งเป็นที่สุดท้าย พวกของธีระเองไล่ยึดเหล่าหุ่นการ์เดียน และสังหารพวกผู้เล่นกิลด์ศัตรูตลอดทางที่มาถึง ส่งผลให้คะแนนโดยรวมของพวกเขานำโด่งขึ้นมา และคงเป็นที่แน่นอนแล้วว่า พวกเขาคงจะชนะสงครามครั้งนี้เป็นแน่ ไม่นานเกินรอผู้เล่นจากทั้งสองกิลด์ก็พบกัน พวกเขาต่างพุ่งเข้าปะทะกันด้วยพลังทั้งหมดที่มี ศึกตัดสินครั้งสุดท้ายว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะ หรือผู้แพ้ ไม่นานผลของสงครามกิลด์ก็ถูกตัดสินแล้ว กิลด์อัสนีบาตไม่สามารถยื้อเวลาได้นานพอให้พวกผู้เล่นระดับสูงเกิดมาได้ทัน และถึงแม้พวกเขาจะทำได้ แต่คงไม่สามารถพลิกกลับมาชนะได้ในเวลาที่เหลือเพียงไม่กี่นาที ตึ้งง...!! เสียงของระบบประกาศผลของผู้ชนะในสงครามกิลด์ครั้งนี้ ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นจากกิลด์อินทรีย์ถลาลมด้วยค่ะที่เป็นฝ่ายชนะสงครามกิลด์ได้ กิลด์อัสนีบาตจะถูกยุบกิลด์อัตโนมัติหลังจบสงครามครั้งนี้ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ค่ะ กิลด์อินทรีย์ถลาลมจะได้รับสินสงครามจากศึกครั้งนี้เป็นจำนวนหนึ่งค่ะ หัวหน้ากิลด์สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่อาคารของระบบค่ะ “เย้!!” “ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!” “ชนะแล้วโว้ยยย!!” เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของฝ่ายที่ชนะ ผิดกับอีกฝ่ายที่ทำหน้าตาเศร้าซึมหลังจากที่แพ้ไป พวกเขาไม่ใช่แค่แพ้เพียงเท่านั้น พวกเขายังต้องถูกทางระบบบังคับให้ยุบกิลด์ที่ร่วมสร้างกันมานานจนกลายเป็นกิลด์ระดับกลางได้ อีกทั้งยังเสียสมบัติ เงินทอง ไอเทมต่างๆนา ไปเป็นสินสงครามของฝ่ายที่ชนะอีก เสียหน้าแบบสุดๆไปเลย เมื่อสงครามจบลง ผู้เล่นทุกคนถูกวาปออกจากพื้นที่พิเศษทันที สงครามครั้งนี้ถ้ามองเผลินๆคงจะเป็นศึก ธรรมดาๆไม่มีอะไรมากมายสำหรับผู้เล่นทั่วไป แต่สำหรับผู้เล่นระดับสูงที่ได้ชมการถ่ายทอดสดอยู่นั้นต่างออกไป เพราะมีสิ่งหนึ่งที่เป็นที่น่าสนใจกับพวกเขาไม่น้อย จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากผู้เล่นอาเชอร์เกราะเบาสีดำที่โดดเด่นสุดๆในศึกครั้งนี้ . . . ในเวลานี้ ณ อาคารกิลด์อินทรีย์ถลาลม มีงานเลี้ยงฉลองให้กับชัยชนะที่พึ่งได้มาหมาดๆ พวกเขาต่างรื่นเริง และมีความสุขกับชัยชนะ รวมถึงเหล่าสมบัติ เงินทอง และไอเทมมากมายที่พวกเขาได้รับเป็นสินสงคราม อีกทั้งยังได้ค่าเชื่อเสียงมาเพิ่มให้กิลด์ตัวเองอีกด้วย และด้วยปัจจัยเหล่านี้ มันจะส่งผลให้กิลด์ของพวกเขาก้าวไปสู่กิลด์ขนาดกลางในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน “นี่ธีระ สิงค์ ขอเวลาซักเดี๋ยวสิ” ผมเดินเข้าไปคุยกับธีระ และสิงค์ ขณะที่พวกเขากำลังสังสรรค์อยู่กับงานเลี้ยงฉลองอย่างสนุกสนาน ทั้งคู่ทำท่าเหมือนไม่อยากจะจากตรงนี้ไปเลย แต่ก็ต้องยอมไปแต่โดยดีเมื่อผมทำหน้าจริงจังเข้าใส่ จากนั้นพวกเราทั้งสามคนก็เข้ามาอยู่ในห้องประชุมส่วนตัวของอาคารกิลด์ “มึงมีเรื่องอะไรไอ่คิน ถึงลากพวกกุออกมาจากงานเลี้ยงแบบนี้ หะ...!” ธีระโวยใส่ผมทันทีที่เข้าห้องมา ทางด้านสิงค์เองก็พยักหน้าเห็นด้วย งึกๆ “เปล่า แค่อยากบอกลานะ กูจะออกจากกิลด์มึง และจะออกเดินทางไปที่อื่นต่อแล้ว” “ออก? ทำไมไม่อยู่ด้วยกันล่ะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่ไง หรือมึงอยากได้ตำแหน่งหัวหน้ากิลด์ กูให้ได้นะ รอแปปๆๆ” ธีระถามอย่างสงสัยพร้อมกับจะยัดเยียดตำแหน่งใหญ่โตพร้อมกับภาระทีตามมาอย่างการเป็นหัวหน้ากิลด์ให้ผมด้วยเสียอย่างนั้น และแน่นอนว่าผมก็ยังยืนยันคำเดิมคือปฏิเสธไป “ไม่ๆ ไม่ต้องเลย กูไม่เอาหรอก มึงก็รู้ใช่มั้ยว่าสงครามกิลด์ที่ผ่านมากุทำตัวเด่นไปหน่อยจนไปแตะตาพวกผู้เล่นไฮคลาสเข้า ป่านนี้พวกนั้นคงควานหาตัวกุจะแย่อยู่แล้วเพื่อดึงไปเป็นกำลังรบให้พวกนั้น” “ก็แหงล่ะ จะมีไอ่บ้าที่ไหนบ้างที่กล้าเข้าไปบวกกับผู้เล่นไฮคลาสในร่าง Battle Mode ได้อย่างสูสีแบบนั้นได้ล่ะ เป็นข่าวไปทั่วเลยนะ ว่าผู้เล่นไร้ชื่อที่ไหนก็ไม่รู้ จู่ๆก็โผล่เข้าร่วมสงครามกิลด์ และเข้าร่วมกับกิลด์โนเนมเล็กๆ แบบนี้น่ะ ไอ่คินเอ้ยไอ่คิน....” ธีระอดที่จะโอดผมไม่ได้ ปกติผู้เล่นตั้งแต่คลาส 8 ขึ้นไปจะมีจำนวนเพียงแค่ไม่กี่หยิบมือเท่านั้นจากผู้เล่นเป็นล้าน ด้วยความที่มีจำนวนน้อยจนแทบจะนับหัวได้อยู่แล้วทำให้ผู้เล่นระดับไฮคลาสพวกนี้แทบจะเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งเกมเนื่องจากจะโดนกล่าวถึงความแข็งแกร่งอยุ่บ่อยๆ ด้วยการต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งราชันย์แห่งธาตุที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ผู้เล่นระดับไฮคลาสจึงเป็นขุมกำลังหลักในการต่อสู้ และเมื่อจู่ๆมีผู้เล่นไร้ชื่ออย่างผมที่โผล่ขึ้นมา ทำให้ผู้เล่นระดับโฮคลาสต่างก็เคลื่อนไหว หลายคนต้องการผูกมิตรเอาไว้ดีกว่าสร้างศัตรู ทั้งนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น “ก็ช่วยไม่ได้นี่หว่า ติดลมไปหน่อย เอาเหอะ กูออกกิลด์ก็ดีแล้วล่ะ ไม่อยากให้พวกมึงมาเดือดร้อนด้วย แต่พักนี้คงจะมีคนเข้ามากวนพวกมึงเรื่องกูบ้าง ยังไงก็ฝากรบกวนพวกมึงแค่บอกเท่าที่รู้ก็พอนะ พวกมันไม่กล้าทำอะไรมากนักหรอก พวกนั้นมันกลัวเป็นข่าวมากกว่าอะไรดี” ผมพูดพลางเปิดหน้าต่างของระบบพร้อมกดออกจากกิลด์ทันที “เอ่อๆ พวกกูดูแลตัวเองได้น่า ว่างๆก็แวะมาหากันบ้างนะเว้ย หรือถ้ามีปัญหาเดือดร้อนอะไรก็บอกได้ พวกกูพร้อมช่วยอยู่แล้วล่ะ” ธีระไม่ได้รั้งผมเอาไว้แต่อย่างใด พวกเขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่สามารถเป็นกำลังให้ผมได้มากเท่าที่ควร แต่คงอีกไม่นานพวกเขาจะต้องแข็งแกร่งแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาจะคอยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับผมได้แน่นอน ทันทีที่ก้าวออกจากอาคารกิลด์พลันรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมายังตัวผมนับไม่ถ้วน มีทั้งพวกที่มีเจตนาดี และไม่ดีอยู่ปนกันไปหมด คาดว่าคงถูกส่งมาโดยพวกคนใหญ่คนโตเพื่อมาสังเกตการณ์เป็นแน่ และหากแข็งข้อกับพวกมันก็คนถูกฆ่าเอาง่ายๆเช่นกัน แต่มีหรือที่ผมจะกลัวพวกนั้นล่ะ ผมสามารถเข้าประชิดตัวพวกนั้นเอาง่ายเพื่อจัดการปิดปากเสียก็จบเรื่อง ผมเป็นผู้เล่นโซโล่ ติดโทษ PK แค่ซักพักก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่ที่ไม่ทำเพราะเดี๋ยวพวกเพื่อนผมจะเดือดร้อนไปด้วย ก็ผมพึ่งออกมาจากอาคารกิลด์ของพวกนั้นนี่นา ตอนนี้ที่ผมต้องทำก็คือดึกดูดพวกที่ติดตามผมอยู่ให้มาสนใจที่ตัวผมคนเดียวก็พอ แล้วค่อยหาเวลาจัดการพวกนั้นแบบแนบเนียนในตอนที่มีโอกาส ผมกวาดสายตามองไปรอบๆพลันนึกถึงความอ่อนแอของตัวเองที่พึ่งทักษะมากไปในการต่อสู้กับแคนซัสเมื่อตอนสงครามกิลด์ที่ผ่านมา แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วผมจะสามารถเอาชนะเขาได้ก็ตามที แต่นั่นเพราะผมมีทักษะที่สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาต่างหาก หากปราศจากทักษะนี้ ผมคงต้องแพ้ให้เขาอย่างแน่นอน เรื่องนี้ทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทักษะ และไอเทมนั้นมีประโยชน์ต่อการต่อสู้มากแค่ไหน หากจะลองให้เป็นผู้เล่นคลาส 1 ฝีมือดีสวมไอเทมระดับ L เต็มตัวแล้วให้ไปสู้กับ ผู้เล่นระดับสูงถึงคลาส 9 แต่ไร้ซึ่งฝีมือแถมยังไม่สวมใส่อะไรเลยเลย อัตราชนะของผู้เล่นคลาสหนึ่งนั้นจะสูงกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนี่คือความไม่เท่าเทียมกันของเกมแนวนี้ยังไงล่ะ ผมที่ตอนนี้ออกจากเมืองมาได้ซักพักแล้วพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัว สายตาพลันกวาดไปมามองเหล่าผู้เล่นกำลังต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์หน้าเมืองกันเป็นเรื่องปกติพร้อมกับเก็บไอเทมที่ได้มาอย่างสนุกสนานไปกับการเล่นเกมนี้ของพวกเขา ผมเห็นดังนั้นก็อดที่จะยิ้มไม่ได้เพรานี่เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการเล่นเกมแนวนี้ และจุดหมายต่อไปของผมก็คงต้องหาอะไรทำเพื่อตัวเองบ้างเสียที “คงจะได้เวลาเข้าป่าฟาร์มจริงๆจังๆซักทีสิน่า.....” 
已经是最新一章了
加载中