ตอนที่33 ไก่   1/    
已经是第一章了
ตอนที่33 ไก่
  “นี่นายมัน.....ราชันย์แดง!!?” แวนกัส ราชันย์แห่งสายฟ้าพูดขึ้นขณะที่เขาสังเกตเห็นว่าชายตรงหน้าเป็นใคร พร้อมด้วยท่าทางที่พร้อมรบเต็มที่   “เวรละ เวรของจริง เวรสุดๆ!!!!!” ผมที่ตกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นอีกฝ่าย และเริ่มมองหาลู่ทางเพื่อที่จะออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเนื่องจากไม่อยากจะปะทะกับเขาในถิ่นของเขาเองแบบนี้เลย อีกอย่างคือตอนนี้สภาพของผมไม่ค่อยพร้อมสู้ด้วยเท่าไหร่เลย   เมื่อได้จังวะผมรีบใช้ Sonic เพื่อหลบหนีออกไปข้างนอกให้ไวที่สุด แต่แล้วโอกาสของผมก็ได้พังทลาย และก็ต้องหยุดลงเมื่อสังเกตเห็นโดมบาเรียขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 กิโลเมตรที่จู่ๆก็เกิดขึ้นมาพร้อมกับสายฟ้าอ่อนๆที่แล่นไปทั่วทั้งโดม ตอนนี้ทุกคนคล้ายกับโดนกัดบริเวณในพื้นที่ขนาดใหญ่ คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นฝีมือของใคร   สายตาของผมพลันเหลือบไปมองแวนกัสราชันย์สายฟ้าที่พึ่งร่ายเวทย์เสร็จไป ดูจากท่าทีของเขาแล้วคงไม่ยอมปล่อยผมให้หลุดมือไปง่ายๆแน่   “ฉัน แวนกัส ราชันย์แห่งสายฟ้า ยินดีที่ได้รู้จัก” แวนกัสกล่าวแนะนำตัวตามมารยาทก่อนเริ่มสู้พร้อมก้มหัวให้คู่ต่อสู้ของเขาเล็กน้อย   ‘OMG! มารยาทสุด!’ ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่เพียงก้มหัวตอบรับไป และแนะนำตัวคืนตามมารยาท   “ฉัน...ราชันย์แดง..นายมีธุระอะไรกับฉันรึเปล่า?” สั้นๆ และไม่กล่าวถึงชื่อจริง   “ก็แค่อยากจะลองวัดฝีมือกับคนที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ราชันย์ยุคก่อนก็เท่านั้นเอง”   “นั่นมันก็แค่อดีต นายก็รู้นี่ ว่าฉันพึ่งกลับมาเล่น คงไม่มีอะไรจะไปสู้กับนายหรอกนะ”   “ลองดูก่อนก็ไม่เสียหายนี่ รับมือ!” แวนกัสไม่ฟังสิ่งที่ผมพึ่งพูดออกไป เขาเริ่มทำท่าทางคล้ายกับร่ายเวทย์ขึ้นมา แวนกัสนั้นเป็นนักเวทย์ที่ไม่ใช้คทาเป็นอาวุธร่าย แต่เขาเลือกใช้ถุงมือที่มีระดับถึงถึงระดับ L แทน ด้วยไอเทมชิ้นนี้มันจะช่วยให้เขาร่ายเวทย์ได้ไวขึ้นหลายเท่าตัว รวมถึงพลังเวท ก็เพิ่มขึ้นไปอีกมากเช่นเดียวกัน และทันใดนั้นเองเมื่อแวนกัสร่ายเวทย์เสร็จจู่ๆก็บังเกิดเป็นสายฟ้าขนาดใหญ่นับสิบเส้นพุ่งเข้าตรงมาที่ผมยืนอยู่ทันที   เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!.......   ผมพยายามหลบสายฟ้าที่พุ่งมาหาด้วยความเร็วอย่างระดับระวัง และต่อเนื่อง บนพื้นที่ถูกสายฟ้าฟาดใส่เกิดเป็นรอยไหม้จนเกิดเป็นรูขนาดใหญ่บ่งบอกถึงความรุนแรงได้เป็นอย่างดี   ซึ่งในระหว่างที่หลบสายฟ้าอยู่นั้นผมได้ลองยิงสวนกลับไปบ้าง แต่ปรากฏว่าการโจมตีของผมนั้นไร้ผล และส่งไปไม่ถึงตัวของเขาเลย เนื่องจากรอบๆตัวเขามีเกราะเวทย์สายฟ้าอ่อนๆที่คอยป้องกันเอาไว้อยู่ตลอดเวลาซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานของนักเวทย์ทั่วไปอยู่แล้ว แต่พอเป็นระดับราชันย์ใช้แล้ว เกราะเวทย์คงจะไม่ธรรมดา และคงจะแข็งแกร่งพอควร   ศรเจาะเกราะถูกยิงสวนออกไปเพื่อหยั่งเชิงเกราะเวทย์ของเขาดูอีกครั้ง และมันเหมือนจะได้ผลเพราะบาเรียเวทย์ของเขาแตกร้าวทันทีที่ถูกผมโจมตีใส่ แต่แล้วมันกลับค่อยๆผสานการฟื้นฟูได้เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น   แวนกัสลองหยั่งเชิงคืนบ้าง เขาพลันร่ายเวทย์บทหนึ่งขึ้นมา บนมือของเขาปรากฏหินขนาดใหญ่มีสายฝ้าหมุนวนอยู่รอบๆเป็นประกาย หินน้อยใหญ่บนมือค่อยๆเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆไม่มีท่าทีจะหยุด จากนั้นเขาก็ส่งจากโจมตีเหล่านั้นเข้าใส่ผมอย่างไร้ความปรานี   ฟิ้วว..ตู้ม..ตู้ม..ตู้ม..!!!   ผมพยายามหลบพวกมันอย่างสุดความสามารถด้วยร่างกายที่อ่อนล้า ซึ่งสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยพร้อมแบบนี้ก็มีพลาดโดนไปบ้างบางส่วน เนื่องจากหินที่ห่อหุ้มด้วยสายฟ้านั้น เมื่อมันโจมตีเข้ามาพร้อมกันรัวๆแบบนั้น สายฟ้าที่ห่อหุ้มหินเอาไว้จะกระจายตัวเชื่อมต่อกับหินชิ้นอื่นไปเรื่อย ๆจนมีลักษณะคล้ายกับตาข่ายส่งผลให้ผมไร้หนทางที่จะหลบหนี และโดนมันโจมตีเข้าจังๆอย่างช่วยไม่ได้   อัก... ผมจำเป็นต้องยอมถูกพวกหินสายฟ้าโจมตีโดนบางส่วนเพื่อเปิดช่องว่างให้ตัวเองไปจัดการชายตรงหน้าคืนบ้าง ผมจะอ้างว่าสภาพตอนนี้ไม่พร้อมไม่ได้ เพราะเมื่ออยู่ในการต่อสู้แล้วข้ออ้างต่างๆย่อมไร้ผล และต้องพร้อมเสมอ ผมดิ้นรนจนหลุดพ้นออกมาได้แล้วจึงใช้ Sonic พุ่งไปโผล่ด้านหลังของเขาทันที แวนกัสที่รู้ตัวแล้วไม่ได้ขยับไปไหนแต่อย่างใด คาดว่าคงจะมั่นใจเกราะเวทย์ของตัวเองพอควร Prismatic Arrow ศรทั้ง 9 ธาตุถูกยิงออกไปพุ่งเข้าปะทะกับเกราะเวทย์ของเขาอย่างจัง แวนกัสที่มั่นใจในเกราะเวทย์ของตัวเองก็ต้องนึกเสียใจภายหลังแน่ที่ไม่หลบมัน เมื่อการโจมตีของผมสามารถทำให้เกราะเวทย์ของเขาต้องพังทลายลงในทันทีโดยไม่ทันได้ฟื้นฟูแม้แต่นิดเดียว   ตู้ม...เพล๊ง...! เกราะเวทย์แตกพร้อมกับร่างของแวนกัสที่ปลิวออกไปจากความแรงของการโจมตี ใบหน้าของแวนกัสไม่ตกใจเท่าไหร่นักที่ผมสามารถลบเกราะเวทย์ของเขาลงได้ด้วยการโจมตีเดียว ก็แหงล่ะ ผมเป็นถึงราชันย์เลยนะ ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้ ตำแหน่งก็มีไว้แค่โชว์เท่านั้นล่ะนา..   “ใช้ได้นี่….ที่พังเกราะเวทย์ฉันได้ แต่ระวังผลข้างเคียงของมันหน่อยละกัน..” แวนกัสยิ้มพูด ผมในตอนแรกไม่เข้าใจว่าเขาพูดถึงอะไร แต่ก็ต้องอ๋อทันทีเมื่อเสียงของระบบดังขึ้นในหัว   ผู้เล่นติดสถานะผิดปกติเป็นผลมาจากการทำลายเกราะเวทย์ของราชันย์ ค่ะ ผู้เล่นจะถูกสุ่มติดสถานะผิดปกติ ทุกๆ 20 วินาที ค่าสถานะสามารถทับซ้อนกันได้ไม่จำกัดค่ะ ค่าสถานะจะติดตัวผู้เล่นไปจนกว่าผู้เล่นจะเสียชีวิตลงเอง หรือมีบัพล้างสถานะผิดปกติค่ะ   “หืมม...อันตรายแฮะแบบนี้ แต่ว่านะ...” ผมยิ้มตอบกลับคืนไปแบบไม่สะทกสะท้าน เพราะก็มั่นใจว่าจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้เช่นดัน   เอฟเฟคพิเศษทำงาน **เมื่อใส่เซต 7 บาป ครบ 7 ชิ้น จะเพิ่มค่าสถานะทุกอย่าง 20% และกันสถานะผิดปกติทุกชนิดโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ**   สถานะผิดปกติถูกล้างออกไปในทันที เป็นโชคดีของผมที่มีเอฟเฟคพิเศษแบบนี้ เพราะหากไม่แล้วล่ะก็ คงต้องติดสถานะผิดปกติเรื่อย ๆจนน่ารำคาญเป็นแน่   “เห้อ..คงจะไม่เสียท่ากับอะไรแบบนี้ง่ายๆงั้นสินะ...เล่นกันพอรึยังล่ะ!” แวนกัสพูดขึ้นมาราวกับรู้ว่าทักษะของตัวเองใช้ไม่ได้ผลกับผม แวนกัสเดินมาข้างหน้าเล็กน้อยพร้อมกับเกราะเวทย์ที่กลับมาดังเดิมหลังจากคลูดาวน์เสร็จ จากนั้นเขาก็เปิดใช้ทักษะขึ้นอีกหนึ่งทักษะ   อาณาเขตแห่งราชันย์ (สายฟ้า) อาณาเขตแห่งราชันย์สายฟ้าถูกเรียกใช้งาน ทั่วทั้งโดมเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 1 กิโลเมตร ในตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า เกิดสายฟ้าแล่นลงสู่พื้นเป็นระยะๆ บ้างผ่าโดนผู้เล่น บ้างผ่าโดน NPC บ้างโดนตึกรามบ้านช่องจนเกิดความเสียหายไปทั่ว ผู้เล่นที่อยู่ภายในโดมบาเรียสายฟ้าแห่งนี้ต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดกันยกใหญ่ บ้างก็ฝืนป้องกันสายฟ้าที่พุ่งลงมานั้น แต่ก็ต้องเสียใจภายหลังเพราะมันเกินกำลังของพวกเขาเกินไป   “เห้ยๆ..นี่นายกะจะทำลายเมืองนี้ลงรึไงกัน” ผมพูดพลางหันไปมองพื้นที่รอบๆ ผู้เล่นที่ออกไปไหนไม่ได้จากโดมที่คลุมเอาไว้กำลังหนีเอาชีวิตของตัวเองกันยกใหญ่ รวมถึงเมืองที่ค่อยๆพังลงทีละนิดๆจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีกแล้ว   “ทำไม นายกลัวงั้นหรอ?...เมืองของฉัน ฉันจะสร้างใหม่เมื่อไหร่ก็ได้!” แวนกัสไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ในเวลานี้เขาขอเพียงได้สู้เท่านั้น ได้สู้กับคนที่ทำให้เขาได้ใช้ความสามารถได้เต็มที่แบบนี้   “ก็สวยสิ แบบนี้!” พูดจบผมเรียกอาณาเขตแห่งราชันย์ของผมบ้าง เปลวเพลิงระเบิดออกจากตัวผมกระจายออกไปทั่วทั้งโดม เพลิงโหมกระหน่ำใส่พื้นที่โดยรอบจนเกิดไฟลุกท่วม และค่อยๆลามไปเรื่อยๆ สายฟ้า และไฟ มาเจอกันทำให้ความรุนแรงทวีคูณความเสียหายเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว   นับว่าเป็นเวรเป็นกรรมของผู้เล่นเคราะห์ร้ายจำนวนหนึ่งที่มาติดอยู่ในโดมบาเรียสายฟ้าแห่งนี้โดยไม่สามารถหนีเอาตัวรอดได้จากเปลวเพลิงอันร้อนระอุจนแทบเผาร่างกายไหม้เกรียมที่คลุ้งอยู่ทั่วบาเรียแห่งนี้ และยังไม่หมดแค่นั้นผู้เล่นที่อยู่ข้างในก็ต้องคอยหลบสายฟ้าที่ไม่รู้ว่ามันจะผ่าใส่ตอนไหนเวลาใดอีกด้วย นับว่าชีวิตของพวกเขากำลังแขวนอยู่บนเส้นดายเส้นบางๆ โดยมีสองตัวหายนะที่ต่อสู้กันแบบไม่สนเหนือสนใต้อะไรแล้วตอนนี้   การต่อสู้ของสองราชันย์นั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะประเมินความเสียหายที่สร้างให้โดยรอบไม่ได้แล้ว ผมที่ฝืนตัวเองในสภาพร่างกายแบบนี้ก็ได้สู้กับแวนกัสอย่างเต็มที่ ทักษะเวทย์ของเขาร้ายกาจ และรุนแรงเอามากๆจนผมที่พลาดโดนเขาโจมตีก็โดนดาเมจหนักเอาเรื่อง   ส่วนแวนกัสเองที่กำลังสนุกกับการต่อสู้ที่ใฝ่หามานานเลยโจมตีคู่ต่อสู้ของเขาแบบไม่ยั้งมือ แต่กระนั้นคู่ต่อสู้คนนี้ก็ไม่ได้กระจอกรอให้เขาได้จัดการลงง่ายๆ แวนกัสถูกทำลายเกราะเกราะเวทย์นับครั้งไม่ถ้วนจนเขาโดนโจมตีเข้าร่างกายโดยตรงจนได้ แต่ถึงกระนั้นทั้งสองก็ยังไม่มีใครยอมใครง่ายๆ   การต่อสู้ของทั้งสองได้สร้างแรงกดดันอันมหาศาลเกิดขึ้นภายในโดม ตอนนี้แทบจะทำให้โดมสายฟ้าของแวนกัสแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นที่อยู่ข้างในเลยว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง   อัสนีเย้ยฟ้าทะลายดิน – เสริมคุณสมบัติธาตุสายฟ้า   ราชันย์สายฟ้าเรียกใช้ทักษะใหญ่ของตัวเอง ร่างของแวนกัสลอยขึ้นเหนือพื้นดินเล็กน้อย สายฟ้ารอบๆถูกดูดมารวมตัวกันที่มือทั้งของข้างของเขาก่อนที่สายฟ้าเหล่านั้นค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นจนดูน่ากลัว เสียงของมันดังกึกก้องไปทั่วราวกับเสียงร้องของนกที่แตกรังจำนวนนับล้าน ตอนนี้มันพร้อมที่จะเป่าทุกอย่างให้หายไปตลอดกาล ผมเห็นดังนั้นก็ไม่ได้งอมืองอเท้าจึงขอโต้กลับไปบ้าง   เพลิงสวรรค์ทลายดารา – เสริมคุณสมบัติธาตุไฟ   เปลวเพลิงสีทองลุกท่วมไปทั่วทั้งตัวของผม มันค่อยๆไหลไปรวมยังจุดๆเดียวที่ปลายคันศร เพลิงรอบๆที่เกิดจากอาณาเขตแห่งราชันย์ก็ไหลมารวมด้วยเช่นกันเพื่อเสริมพลังให้มากขึ้นจะได้จัดการกับศัตรูตรงหน้าได้อย่างอยู่หมัด เราสองคนสบตากันเล็กน้อยก่อนจะปล่อยการโจมตีที่รุนแรงถึงขนาดทำลายเมืองแห่งนี้ลงได้ง่ายๆใส่กัน   ตู้มมม..!!! การโจมตีใหญ่ที่เกิดจากสองราชันย์ถูกปล่อยเข้าปะทะกันระหว่างกึ่งกลางสองทั้งสอง เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น โดมอัสนีพังทลายลงทันทีเพราะทนแรงปะทะที่รุนแรงขนาดนี้ไม่ไหว สิ่งก่อสร้างทั้งภายในเละเทะไม่มีชิ้นดี และภายนอกโดมที่โดนผลกระทบหลงโดมแตกล้วนได้รับความเสียหายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหล่าผู้เล่นที่โดนลูกหลงไปจนนอนแน่นิ่งไม่เหลือสภาพกันจำนวนไม่น้อย...   เมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้กว่าครึ่งหนึ่งได้ถูกทำลายลงแล้วภายในเวลาไม่กี่นาที เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมากแก่ผู้พบเห็นที่รอดจากการโจมตีที่รุนแรงเหล่านี้ ในใจของพวกเขาล้วนคิดเป็นเสียงเดียวกันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันมาจากมอนสเตอร์ หรือว่าผู้เล่นกันแน่ และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าการโจมตีนั้นมันจบลงไปหรือยัง   และหลังจากที่การโจมตีของสองราชันย์ปะทะกัน รอบตัวของผมพลันมืดดับไปแบบมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น รูป เสียง รส กลิ่น ล้วนถูกตัดขาดออกจากปราสาทสัมผัส ผมได้แต่คิดในใจว่าผมตายไปแล้วรึเปล่า แต่ผมยังมีทักษะที่สามารถฟื้นคืนชีพได้อีกนิ หรือว่าแวนกัสจะมีไอไอเทมที่ปิดความสามารถของผมได้ แล้วฆ่าผมไปในที่สุด ผมได้แต่คนวนไปวนมาอยู่ในหัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วความสงสัยของผมก็คลายลงเมื่อมีเสียงแจ้งเตือนขึ้นมา   ผู้เล่นได้รับโทษสูงสุดในการ PK ค่ะ ผู้เล่นจะถูกคุมขังทันที เป็นระยะเวลา 3 วัน ค่ะ ผู้เล่นจะถูกลงโทษเพิ่มอีกหากมีการร้องเรียนเพิ่มเติมค่ะ เนื่องจากผู้เล่นมีตำแหน่งเป็นราชันย์ จะถูกยึดตำแหน่งเป็นเวลาหนึ่งเดือนค่ะ โทษจะเพิ่มเป็นสองเท่าเนื่องจากผู้เล่นทำการ PK ในเมืองค่ะ   “………………” “………………” “………-.-………”   . . . .
已经是最新一章了
加载中