พบผู้ปกครองสวรรค์

“เเส้มังกร” ธิดามังกรปัดเเส้มังกรออกไป เเส้นั้นประทะกับทวนสวรรค์ทำให้ทวนเบี่ยงออกไปจากร่างเทพนกกระเรียนป้องกันการโจมตีของเเม่ทัพสวรรค์ไว้ทันท่วงที \"เจ้าสุนัขชั่วช้า ลอบโจมตีคนไม่มีทางสู้เจ้าทำข้าโกธรเเล้วนะ\" สิ่งที่ธิดามังกรเกลียดที่สุดคือพวกหมาลอบกัดทำร้ายคนไม่มีทางสู้ ยิ่งคนนั้นเป็นสมุนของเธอด้วยเเล้วยิ่งทำให้เธอโกรธเข้าอีก คราวนี้ธิดามังกรไม่ได้ออมพลังเลยแม้แต่น้อย พลังปราณมากมายมหาศาลถ่ายไปที่แส้มังกรมันเปล่งแสงสีทองสว่างราวกับตอบรับความโกรธเกรี้ยวของเจ้าของ ธิดามังกรสะบัด แส้นั้นกลายเป็นมังกรสีทองมุ่งตรงไปที่แม่ทัพสวรรค์ เขารีบเอาทวนตั้งรับพลังนั่นไว้ เเส้มังกรปะทะเข้ากับทวนสวรรค์พลังที่เเตกต่างกันถึงกับทำให้ทวนสวรรค์ของแม่ทัพสวรรค์หักลงเป็นสองท่อนแต่แส้เเต่นั้นยังไม่สามารถหยุดความเกรี้ยวกราดของเเส้มังกรได้ มันตรงไปที่แม่ทัพสวรรคเเส้นั้นตัดแขนของเขาจนขาดสะบั้น อ๊ากกกก!!!! แม่ทัพสวรรค์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเขามองแขนของตนที่ถูกตัดออกไปเลือดสีเเดงฉานไหลออกเป็นน้ำพุ เเม่ทัพสวรรค์พ่ายเเพ้อย่างสิ้นเชิง นอกจากเเขนที่ถูกตัดขาดเเล้วทวนสวรรค์ก็ถูกหักเป็นสองท่อนจนไม่อาจใช้การได้อีก แม่ทัพสวรรค์มองธิดามังกรด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ทวนสวรรค์ของแม่ทัพสวรรค์ทำมาจากเหล็กหนี่หวาที่ขึ้นชื่อด้วยว่าแข็งแกร่งที่สุดในสามภพนี้ถึงกับหักเป็นสองท่อนแถมพลังนั้นยังไม่หยุดพุ่งมาตัดแขนของเขาได้อีก นางมีพลังมากมายขนาดไหนกันถึงกับหักทวนสวรรค์เเละตัดเเขนของเขาได้ สายตาของแม่ทัพสวรรค์เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเขาไม่เคยเจอใครที่มีพลังมากมายมหาศาลขนาดนี้มาก่อน นางเป็นใครกัน ธิดามังกรตอนนี้เริ่มมีน้ำโหขึ้นมานิดๆแล้ว เธอเกลียดคนที่ชอบใช้แผนสกปรกมากที่สุดเห็นได้ชัดว่าหมอนี่จงใจเล่นงานเทพนกกระเรียนที่บาดเจ็บอยู่ “บังอาจเเตะต้องลูกสมุนของข้าเตรียมใจรับโทษจากข้าแล้วใช่ไหม” รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างของหญิงสาว ใบหน้างามเย็นชาเหมือนน้ำเเข็งค้าง นางใบหน้าที่งดงามเเม้เเต่เทพอัปสรยังเทียบไม่ได้ เเต่ความงามนี้เคลือบไปด้วยยาพิษเป็นงดงามที่อันตรายทำเอาแม่ทัพสวรรค์ถึงกับขนลุกซู่ หนี!! ต้องหนีไปให้ไกลที่สุดสัญชาตญาณของท่านแม่ทัพสวรรค์ร้องเตือนออกมา จากประสบการณ์ที่ผ่านความเป็นตายมานับไม่ถ้วน เขารับรู้ได้เลยว่าหญิงสาวคนนี้อันตรายเขาเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองโคจรพลังกลายร่างเป็นเเสงเเละพุ่งตัวหนีไป “คิดจะหนีจากข้าคนนี้งั้นเหรอฝันไปเถอะ” ธิดามังกรกลายร่างเป็นเเสงเร่งติดตามเเม่ทัพสวรรค์ไปติดๆ ทิ้งให้เทพนกกระเรียนมองเศษซากหายยานะที่ธิดามังกรทิ้งเอาไว้ด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ นะ..นางเป็นใครกันเเน่ทำไมถึงได้มีพลังมากมายมหาศาลขนาดนี้ แม่ทัพสวรรค์เร่งบินหนีไปด้วยความเร็วสูงสุดแต่เพียงไม่นานธิดามังกรก็ไล่ตามมาจนทัน เเม่ทัพสวรรค์มองธิดามังกรด้วยสายตาที่หวาดกลัวสุดขีดเขากัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถูกตัดแขนแล้วรีบโคจรพลังในร่างเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก ทิศทางที่แม่ทัพสวรรค์หนีไปนั้นก็คือตำหนักใหญ่ที่ประทับขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ที่ ที่นั้นมีม่านพลังคุ้มครองที่ถูกสร้างโดยปฐมกษัตริย์ ม่านพลังนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมากแม้ว่าปีศาจจะบุกมาทั้งกองทัพก็ไม่อาจทำลายม่านพลังนี้ลงได้ เเม่ทัพสวรรค์ไม่ลังเลเเม้เเต่น้อยเขาทุ่มพลังทั้งหมดไปกับการบินหนีในที่สุดเขาก็เห็นตำหนักใหญ่ของเง็กเซียนฮ่องเต้ที่เส้นขอบฟ้า ท่านแม่ทัพสวรรค์ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เขายิ่งเร่งความเร็วเพิ่มเข้าไปอีกโดยมีธิดามังกรบินตามมาติดๆ “พวกเจ้ารีบเปิดม่านพลังเร็ว” ท่านเเม่ทัพสวรรค์รีบสั่งการให้ทหารเปิดม่านพลัง ทหารสวรรค์เห็นสภาพของแม่ทัพสวรรค์แล้วก็ตกใจรีบร่ายอาคมกางม่านพลัง ม่านพลังกลายร่างเป็นมังกรสีฟ้าปรากฏขึ้นมา มังกรตัวนั้นส่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้าดินมันบินไปโอบล้อมตำหนักใหญ่ ร่างของมังกรฟ้ามีขนาดใหญ่มากมันค่อยๆปกคลุมไปทั่วตำหนักสวรรค์ ท่านเเม่ทัพสวรรค์รีบพุ่งตัวเข้าไปได้อย่างฉิวเฉียดก่อนที่ม่านพลังจะครอบคลุมทั่วทั้งตำหนัก ธิดามังกรหยุดและมองม่านพลังมังกรฟ้าอย่างชื่นชม ค่ายกลมังกรฟ้าที่อาจารย์เคยพูดในที่สุดนางก็ก็ได้มาเห็นกับตาตัวเองสักทีเเม้จะเป็นเพียงค่ายกลระดับฟ้าเเต่ก็ยังทรงพลัง เเม้ม่านพลังนี้แข็งแกร่งมากแต่ก็ไม่คณามือเธอนักขนาดประตูมิติลี้ลับที่เป็นค่ายกลระดับตำนานนางยังเธอยังแอบหนีออกมาได้นับประสาอะไรกลับแค่ค่ายกลระดับฟ้า ธิดามังกรตั้งสมาธิร่ายอักขระไว้ที่มือข้างขวา มือของเธอค่อยๆเปล่งเเสงสีขาวออกมาเเสงสีขาวนั้นค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆจนเหมือนดวงอาทิตย์อีกดวง ธิดามังกรชกหมัดนั้นไปที่ม่านพลังเต็มเเรง ตูมมมมมม!!!!!! หมัดนั้นปะทะเข้ากับม่านพลังเกิดเสียงดังสนันราวกับท้องฟ้าจะระเบิด เกิดเเรงสั่นสะเทือนรุนเเรงไปทั่ว ตำหนักสวรรค์มากมายถึงกับพังลงมา เเรงสั่นสะเทือนไปถึงบนโลกมนุษย์จนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ โฮกกก!!!! มังกรฟ้าส่งเสียงคำรามออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ม่านพลังที่เเข็งเเกร่งเกิดรอยร้าวเล็กๆเเละค่อยๆขยายวงกว้างไปเรื่อยๆในที่สุดม่านพลังก็แตกออกกลายเป็นละอองแสงสีฟ้าลอยล่องไป “เรียนฝ่าบาล ผู้บุกรุกได้ทำลายม่านพลังแล้วพะยะค่ะ” ทหารสวรรค์รีบร้อนเข้ามารายงานองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เเม่ทัพสวรรค์เเละเหล่าทวยเทพมองม่านพลังที่องค์ปฐมกษัตริย์สร้างขึ้นถูกทำลายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวอย่างตกตะลึง องค์เง็กเซียนนั่งอยู่บนบัลลังก์ทองคำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ผู้บุกรุกนางนี้มีพลังที่ไม่ธรรมดาสามารถทำลายม่านพลังที่ปฐมกษัตริย์สร้างขึ้นได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวแม้แต่แม่ทัพสวรรค์ก็ไม่อาจสู้นางได้ นางเป็นใครกันแน่ แม้แต่ดวงตารู้แจ้งขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่สามารถเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอได้ ทำไมผู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ถึงมาปรากฏตัวขึ้นที่นี้ได้ เชอะ...ม่านพลังนี้ก็ไม่เท่าไหร่นิ ธิดามังกรคิดว่าค่ายกลระดับฟ้าน่าจะรับพลังของเธอได้ซักสองสามกระบวนท่า เเต่ที่ไหนได้กระบวนท่าเดียวก็พังซะเเล้วสงสัยคงจะเก่ามากเเล้วทำให้มันเสื่อมสภาพลง นางมองไปที่ตำหนักสวรรค์ที่อยู่สูงที่สุดบนสรวงสวรรค์ “ผู้ปกครองดินแดนนี้ต้องอยู่ที่นั่นแน่ ข้าจะเสียเวลาอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว” ธิดามังกรพุ่งตัวไปที่ตำหนักสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดทันที “นะ..นางมาทางนี้เเล้ว!!!!” ทวยเทพต่างพากันแตกตื่นกันทันทีเมื่อเห็นว่าผู้บุกรุกกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ แม้แต่องค์เล็กเซียนฮ่องเต้ก็ถึงกับเหงื่อตกไม่รู้จะทำยังไงดี ชั่วอึดใจเดียวธิดามังกรก็มาปรากฏกลางห้องโถงสวรรค์ เหล่าทวยเทพรอบข้างต่างตกใจจนล้มลงไปกับพื้น “เจ้าคือผู้ปกครองที่นี้ใช่หรือไม่” ธิดามังกรกล่าวออกมาอย่างทรงอำนาจแรงกดดันของพลังที่แข็งแกร่งกว่ากดดันเหล่าทวยเทพที่อยู่ในห้องโถง องค์เง็กเซียนหน้าเครียดมือจับบัลลังค์ทองคำเเน่น เทพชั้นสูงทรุดตัวลงเพราะไม่ทนทานเเรงกดดันไหว เทพชั้นผู้น้อยผู้น่าสงสารพลังยังน้อยนิดเมื่อเเรงกดดันที่เหนือกว่ามากหลายคนถึงกับกระอักเลือดล้มลงไป ทั่วทั้งห้องโถงกลายเป็นความวุ่นวาย