ทำลายสวรรค์
นางพูดต่อหน้าองค์เง็กเซียนฮ่องเต้อย่างฮ้วนๆไม่มีความเคารพเลยแม้แต่น้อย ทำให้เหล่าทวยเทพถึงกับมีสีหน้าดำคล้ำเเต่ถึงจะไม่พอใจยังไงเเรงกดดันมหาศาลที่กดทับลงมาเเม้เเต่ลุกขึ้นมาต่อว่ายังทำไม่ได้
“เจ้าผู้บุกรุกช่างสามหาวนักอยู่ต่อหน้าองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่เพียงไม่คุกเข่ายังทำกิริยาหยาบคาย ต้องถูกลงโทษด้วยทัณฑ์สวรรค์” ธิดามังกรมองไปที่เทพอาวุโสเขาสวมชุดสีขาวอย่างเรียบง่ายมีเครายาวในมือถือฮู้หยกขาวบ่งบอกถึงตำแหน่งของเทพชั้นสูง เขาฝืนต้านทานเเรงกดดันของธิดามังกรเเต่สีหน้าของเขากลับซีดเซียวราวกับคนตายสวนทางกับคำพูดโดยสิ้นเชิง
“จะลงทัณฑ์ข้าก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถไหม” สงสัยต้องเเสดงความสามารถสักหน่อยพวกเขาจึงจะยอมเอาโสมสวรรค์หมื่นปีออกมา ธิดามังกรสะบัดมือเบาๆไปที่เทพองค์นั้น
ตูมมม!!!! เทพองค์นั้นถูกพลังไร้รูปปะทะจนกระเด็นออกไปเเม้จะไม่ใช่พลังเต็มที่ของธิดามังกรเเต่ก็ทำให้เทพองค์นั้นได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
ปั๊กกก!!!!! องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ตบที่บังลังค์อย่างเเรงพลังไร้รูปทำให้อากาศรอบๆสั่นสะเทือน เหล่าเทพรอบข้างที่ถูกเเรงกดดันกดไว้ก็พลันเป็นอิสระค่อยลุกขึ้นยืน เเต่สีหน้ากลับซีดเซียวเห็นเทพอาวุโสโดนตบปลิวกระเด็นไปเเล้วก็ไม่มีกล้าออกไปต่อว่าธิดามังกรเเม้เเต่ครึ่งคำ พลังไร้รูปนั้นพุ่งมาที่ธิดามังกรเเต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรธิดามังกรได้ เธอยังคงยืนนิ่งอย่างมั่นคง
“เจ้าบุกรุกขึ้นมาบนสวรรค์ ทำร้ายเเม่ทัพสวรรค์จนได้รับบาดเจ็บ ทำลายม่านพลังที่ปกป้องสวรรค์มาหลายหมื่นปีสร้างความโกลาหลให้ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ เจ้ามาที่นี้มีจุดประสงค์อะไรกันเเน่” ไม่ว่าองค์เง็กเซียนฮ่องเต้จะใช้พลังของดวงตาหยั่งรู้ ก็ไม่อาจมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้หรือพลังของนางได้เลย มันเป็นไปได้ยังไงเขาคือผู้ปกครองทั้ง 3 ภพรู้แจ้งทุกสิ่งใน 3 ภพจะมีใครหรือสิ่งใดที่จะหลุดรอดสายตาของเขาไปได้ยังไง
“ข้ามาที่นี่เพราะต้องการโสมสวรรค์หมื่นปีไปช่วยคนคนนึง” องค์เง็กเซียนได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้ามืดครึ้มลง เหล่าเทพทั้งหลายต่างสูดหายใจลึก มีใครบ้างไม่รู้จักโสมสวรรค์หมื่นปีว่ากันว่าเป็นสมุนไพรวิเศษไม่เพียงสามารถรักษาโรคได้ทุกชนิดแต่ยังเป็นยาบำรุงล้ำเลิศหากเซียนกินเข้าไปจะสามารถเพิ่มพลังตบะได้เป็นพันปีหรืออาจจะเป็นหมื่นปีเลยด้วยซ้ำ ทั่วทั้ง 3 ภพนี้มีเพียงแค่ 3 ต้นแม้แต่องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ยังมีครอบครองเพียงเเค่ต้นเดียว ถือเป็นสมบัติล้ำค่าของสวรรค์เเต่นางกลับจะขอมันไปดื้อๆ
“เจ้าเห็นพวกเราทวยเทพเป็นอะไรกัน บุกรุกสวรรค์ทำร้ายเทพชั้นสูงไม่พอเเล้วยังจะมาขอสมุนไพรล้ำค่าอีกมันจะเกินไปเเล้วนะ” เทพชั้นสูงอีกองค์ตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ
“เเล้วยังไง? ถ้าข้าต้องการสิ่งใดก็ต้องได้ เจ้าจะยอมมอบโสมสวรรค์หมื่นปีมาซะดีๆหรือจะให้ข้าถล่มทีละตำหนักเพื่อหามัน” ธิดามังกรพูดอย่างเอาเเต่ใจแม้เทพองค์นั้นกัดฟันอย่างโกรธเเค้นเเม้จะไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวจะถูกซัดกระเด็นเหมือนเทพองค์ก่อนหน้า
“โสมสวรรค์หมื่นปีเป็นสมบัติล้ำค่าของสวรรค์จะให้เรามอบให้เจ้าง่ายๆได้ยังไงถึงจะถล่มสวรรค์จนราบแต่หากข้าไม่อนุญาตเจ้าก็ไม่มีวันหามันเจอ” องค์เง็กเซียนพูดอย่างทรงอำนาจ ใบหน้ายังคงนิ่งสงบ ธิดามังกรเห็นเเล้วดูท่าคงไม่ยอมมอบมาดีๆ ข้าจะเสียเวลาอยู่ที่นี้นานไม่ได้เวลาบนสวรรค์ 1 วันเท่ากับบนโลกมนุษย์ 1 ปีหากช้ากว่านี้ไห่หลินต้องเเย่เเน่
“หากเจ้าไม่ยอมมันมาข้าก็จะถล่มสวรรค์ของพวกเจ้าให้ราบ” ธิดามังกรพูดเสียงกร้าว
“ถึงเจ้าจะมีพลังที่เเข็งเเกร่ง ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะสามารถสู้กองทัพสวรรค์ได้ด้วยตัวคนเดียว” เหล่าเทพสวรรค์ต่างชักอาวุธขึ้นมาเตรียมต่อสู้ ธิดามังกรมองกองทัพสวรรค์มากมาย เธอจะทำยังไงดีการถล่มสวรรค์ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอแต่สิ่งที่เธอมีจำกัดก็คือเวลา เธอเป็นห่วงแต่ไห่หลินเวลาของนางเหลือน้อยลงทุกที ไหนยังเทพนกกระเรียนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก เธอไม่มีเวลามาต่อสู้กับกองทัพสวรรค์ทีละคนแน่ เธอจะทำยังไงดี จากนั้นธิดามังกรก็นึกออก
จริงด้วย..ถ้าเป็นร่างนั้น เพียงแค่การโจมตีเดียวสวรรค์เกิดราบเป็นหน้ากลองประหยัดเวลาไปได้ตั้งเยอะ เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นร่างของธิดามังกรก็เปล่งแสงสีทองออกมา ร่างสีทองนั้นค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ลำตัวของนางค่อยๆยืดออกจนคล้ายกับงู เขี้ยวขนาดใหญ่หนึ่งคู่อยู่ที่บริเวณขากรรไกรด้านบน มีหนวดยาวลักษณะเหมือนกับไม้เลื้อย และมีแผงคอเหมือนกับของสิงโต มังกรตัวนั้นมีรูปร่างใหญ่ตัวจนบดบังท้องฟ้าทั่วทั้งสวรรค์
โฮก!!!!!!!!! ธิดามังกรกลายร่างเป็นมังกรสีขาวขนดใหญ่ยักษ์เพียงสะบัดหางทีเดียวตำหนักสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่คงราบเป็นหน้ากลอง เสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วทั้งสามภพ สัตว์อสูรสัตว์ป่าน้อยใหญ่บนโลกมนุษย์ต่างตกใจจนขวัญกระเจิง เหล่าเทพบนสรวงสวรรค์ต่างต่างกลัวจนล้มลงไปกับพื้น บางคนถึงกับตกใจกลัวจนฉี่ราดกางเกง เเข้งขาอ่อนเเรงทรุดตัวลงไปกับพื้น
“มะ..มังกร” เง็กเซียนฮ่องเต้พูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเห็นมังกรอยู่ตรงหน้าเขาก็ถึงกับมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก องค์เง็กเซียนผู้ยิ่งใหญ่ลุกออกมาจากบัลลังก์สีทองแล้วรีบหมอบกราบลงไปกับพื้นเหล่าเทพเห็นอย่างนั้นก็ต่างก้มลงหมอบกราบตามกันไป
“ทะ..ท่านเทพมังกรขออย่าทรงพิโรธ ข้าน้อยไม่ทราบว่าท่านเป็นถึงมังกรผู้ยิ่งใหญ่ ได้โปรดอภัยในความโง่ของพวกข้าน้อยด้วย” เง็กเซียนพูดอย่างนอบน้อมไม่เหลือมาดเง็กเซียนผู้ปกครองสวรรค์ผู้หยิ่งทนงอีกต่อไป
เอ๊ะ!!! เทพมังกรอย่างนั้นหรอ? ได้ยินอย่างนั้นธิดามังกรก็เข้าใจทันทีว่าทันทีที่ได้เห็นร่างที่แท้จริงของเธอจึงได้รู้ว่าเธอเป็นมังกร มังกรเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของทั่วทั้ง 3 ภพแม้แต่เหล่าเทพเองเมื่อเห็นยังต้องทำความเคารพ
“ที่ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อต้องการโสมสวรรค์หมื่นปีเท่านั้น จงนำมันมาให้ข้าเรื่องทั้งหมดก่อนหน้านั้นข้าจะไม่ถือโทษโกรธพวกเจ้า” ธิดามังกรพูดอย่างทรงอำนาจ เง็กเซียนได้ยินอย่างนั้นก็รีบสั่งให้พวกทหารนำโสมสวรรค์หมื่นปีมาโดยเร็ว ด้วยเกรงว่าท่านมังกรผู้ยิ่งใหญ่จะเปลี่ยนใจ
โสมสวรรค์หมื่นปีหรือโสมคนลำตัวขนาดเท่าศอกวางอยู่บนถาดสีทอง องค์เง็กเซียนค่อยๆประคองถาดนั้นหรือหัวและพูดอย่างนอบน้อม
“ท่านเทพมังกรได้โปรดรับของบรรณาการจากพวกเราเผ่าสวรรค์ด้วย” ธิดามังกรเห็นว่าพวกเขาเอาโสมสวรรค์หมื่นปีมาให้เธออย่างง่ายดาย รู้งี้เธอแปลงร่างเป็นมังกรตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องไม่ต้องพูดเปลืองน้ำลายตั้งนาน แต่ในเมื่อได้ของที่ต้องการมาแล้วนางก็แปลงร่างกลับมาเป็นร่างมนุษย์ตามเดิม แต่องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ก็ยังคงเอาแต่หมอบกราบอยู่อย่างนั้น
“เรื่องก่อนหน้านี้ข้าจะไม่เอาเรื่อง นับจากนี้ไปเทพนกกระเรียนเป็นคนของข้าหากพวกเจ้ากล้าส่งคนไปทำร้ายเขาอีก ก็เตรียมรับความพิโรธจากธิดามังกรได้เลย” ธิดามังกรพูดขู่ไว้ก่อนจะหายไป เมื่อนางไปแล้วองค์เล็กเซียนฮ่องเต้และเหล่าเทพจึงค่อยๆลุกขึ้น พวกเขาถอนหายใจเอามือปาดเหงื่อที่หน้าผาก พวกเขาเกือบจะพบเจอกับหายนะเข้าซะแล้วการทำให้เทพมังกรพิโรธคงไม่พ้นต้องถูกล้างเผ่าพันธุ์ ดีที่นางไม่ถือสาเรื่องของพวกเขาการเสียโสมสวรรค์หมื่นปีไปเพียงต้นเดียวเทียบกับความอยู่รอดของทั้งเผ่าพันธุ์ถือว่าคุ้มนัก