บทที่ 199ความลับแห่งความตาย2   1/    
已经是第一章了
บทที่ 199ความลับแห่งความตาย2
บทที่ 199ความลับแห่งความตาย2 ถ้าหากไม่ใช่หญิงสารเลวคนนี้เปิดรังไหมออกมาก่อนเวลา... เมื่อถึงวันที่เจ็ดบุญบารมีคงจะเต็มไปแล้ว! เขาจะได้กลายเป็นยอดฝีมือขั้นที่สิบไปแล้ว! เป็นยอดฝีมือที่ต่อจากโจ๋วอี้เฉินในร้อยสามสิบปีให้หลัง! เทพเจ้าแห่งการต่อสู้! เทพเจ้าแห่งการต่อสู้! ห่างจากเทพเจ้าแห่งการต่อสู้อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น! สายตาสังหารของฮ่องเต้อำมหิตนั้นค่อยๆรวมกันฝ่ามืออันหยาบกระด้างราวกับเหล็กกล้านั้นค่อยๆยกขึ้นมา... “สารเลว! ตายซะเถอะ!” “ฝ่าบาท! ฝ่าบาทอย่าฆ่าหม่อมฉันเลย!” หยิงเฟยตกใจจนเริ่มอยู่ไม่นิ่ง ฮ่องเต้อำมหิตพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ให้เหตุผลที่ข้าจะละเว้นชีวิตเจ้ามาสิ!” หยิงเฟยตื่นตระหนก “หม่อมฉัน...หม่อมฉัน...เป็นสนมเอกของฝ่าบาท และก็เป็นคนหนึ่งที่รักฝ่าบาทสุดหัวใจและอยู่ในวังก็ไม่เคยทำผิดเลยแม้แต่ครั้งเดียวเพคะ” ฮ่องเต้ยิ้มอย่างเย็นชา หยิงเฟยรู้ว่าเหตุผลนี้ไม่อาจให้ฝ่าบาทปล่อยนางได้และทันใดนั้นก็คิดอีกเหตุผลขึ้นมาได้ “หม่อมฉันเป็นคนของตระกูลถางเปิ่น ฝ่าบาทคงไม่ยอมที่จะฆ่าหม่อมฉันเพื่อยั่วโทสะตระกูลถางเปิ่นหรอกนะเพคะ?” ฮ่องเต้อำมหิตนั้นอารมณ์มืดครึ้ม หยิ่งยโสและยิ้มชั่วร้าย “เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวตระกูลถางเปิ่นของเจ้างั้นหรือ? ข้าแต่ก่อนถูกทำร้ายจากตระกูลถางเปิ่นของเจ้าและพยายามอย่างยากลำบากอยู่ยี่สิบปี วันนี้ข้ามีโหมกงสิ่งแรกที่ข้าอยากทำคือฆ่าตระกูลถางเปิ่นของเจ้า..” หยิงเฟยตื่นตระหนกจนเหงื่อไหลทันใดนั้นก็รีบพูดแก้ตัว “ฝ่าบาท ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งก็เท่านั้น เป็นหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บและไร้อาวุธต่อสู้ได้ ฝ่าบาทเป็นองค์จักรพรรดิที่กล้าหาญและภาคภูมิใจเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ ฝ่าบาทคงไม่ทำร้ายหญิงสาวอ่อนแอหรอกใช่ไหมเพคะ? ถ้าแบบนั้นคงจะไม่ใช่สิ่งที่ชายชาตรีและสามีควรทำ!” ความโกรธแค้น เย็นชาในสายตาของอฮ่องเต้อำมหิตนั้นแผ่กระจายออกมา! “หญิงชั้นต่ำ! ข้าไม่เคยสนใจชื่อเสียงจอมปลอมนี่! ข้าอยากจะฆ่าก็ไม่สนใจว่าใคร! เจ้าทำร้ายโหมกงข้าที่จริงข้าไม่อาจให้อภัยเจ้าได้ ทว่า....” ฮ่องเต้อำมหิตตะโกน “ทว่าเจ้าทำร้ายผู้หญิงของข้า ไม่อาจยกโทษให้ได้!” ฝ่ามือแข็งกร้านหยาบกระด้างเหมือนเหล็กของฮ่องเต้อำมหิตนั้นยื่นออกมาบีบ้ข่าที่คอของ หยิงเฟย.... “ฝ่าบาท....” ยังไม่ทันได้พูดหยิงเฟยก็สิ้นลมไปเสียก่อน ตาเบิกกว้างจ้องเขม็งนอนตายตาไม่หลับ... “หึ!” “หญิงชั้นต่ำ!” ฮ่องเต้ยิ้มมุมปากอย่างไร้ความรู้สึกจากนั้นก็เดินออกจากถ้ำน้ำแข็งช้าๆ.... ร่างกายเปลือยกายล่อนจ้อน.... เขาเดินออกจากถ้ำน้ำแข็งด้วยท่าทางสง่า... ท่าทีไม่คิดที่จะสวมใส่เสื้อผ้าแม้แต่น้อย “ฮองเฮา!” “ข้ามาแล้ว!” ทันใดนั้นสายตาของฮ่องเต้อำมหิตนั้นก็ฉายแววอ่อนโยน.... ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็ตกใจทันใด! เขายื่นมือมาจับตรงส่วนท้องน้อย....ลมหายใจอันอบอุ่นและสงบนิ่งไม่มีเค้าลางของคลื่นโหมกงที่จะย้อนโจมตี.... เมื่อก่อนเมื่อนึกถึงหญิงผู้เนที่รักจุดตันเถียนลมปราณโหมก็รู้สึกถึงอาการที่พร้อมจะโจมตีกลับ... ตอนนี้.... ดูเหมือนว่าลมปราณโหมนั้นจะเปลี่ยนเป็นโอนอ่อนผ่อนคลายและค่อนข้างที่จะควบคุมได้ ราวกับม้าพยศที่ถูกปราบจนเชื่อง.... ฮ่องเต้อำมหิตแอบคิดในใจ “หรือว่าโหมกงที่พัฒนาขึ้นนี้จื้อกู้ไม่อาจทำลายความรู้สึกที่แท้จริงได้? หลังจากนี้ข้าก็ไม่ต้องสนใจถึงความรู้สึกต่อผู้หญิงคนไหนก็ได้งั้นหรือ? เยี่ยมไปเลย! ฮองเฮา! ครั้งนี้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรหรือใครก็ไม่อาจขวางข้ากับเจ้าได้อีกแล้ว!” ยอดฝีมือระดับเก้าพอที่จะมองเย้ยหยันโลกใบนี้ได้แล้ว! ใต้หล้านี้มีระดับเก้าเพียงสี่คนเท่านั้น! อยากที่จะเป็นยอดฝีมือระดับเก้านั้นยากแค่ไหนกัน? ในสี่สุดยอดปรมาจารย์มีสามคนที่มาจากสามตระกูลใหญ่! และอีกคน....นักกระบี่โหม! นักกระบี่ผู้บ้าคลั่งคนนั้น แยกตัวเองออกจากโลกและอาศัยอยู่ในป่าเขาลึกยี่สิบหรือสามสิบปีและบรรลุซึ้งท่ากระบี่! ความพากเพียรและความพยายามที่น่าทึ่งเช่นนี้ของคนๆหนึ่งสามารถทำลายขีดจำกัด และกลายเป็นปรมาจารย์คนเดียวที่ไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่ที่สามารถอยู่ในระดับเก้า! ถ้าหากไม่นับซินเหยาฮ่องเต้อำมหิตก็จะเป็นยอดฝีมือระดับเก้าที่อายุน้อยที่สุด! แน่นอนว่าเขานั้นมีทุกอย่างรวมทั้งเงินทอง! “ฝ่าบาท....” หลี่เหลียนคังที่รีบเดินเข้ามายังถ้ำน้ำแข็งยืนอยู่ข้างนอกมองเห็นฮ่องเต้อำมหิตที่แดงไปทั้งร่างเดินออกมาก็ตกใจจนอ้าปากค้างนี่มันผีหลอกกลางวันแสกๆ! “หลี่เหลียนคัง! ฮองเฮาละ?” ฮ่องเต้อำมหิตเอ่ยปากถาม! “ฮองเฮา เกรงว่าน่าจะทรงอยู่ที่ตำหนักชิงหยาพ่ะย่ะค่ะ!” “ข้าจะกลับห้องบรรทมเปลี่ยนเสื้อผ้าเจ้าไปเรียกฮองเฮามา!” ฮ่องเต้อำมหิตพูดเสริมว่า “ถ้าหากนางไม่มาเจ้าก็บอกนางว่า ภายในเวลาหนึ่งชั่วยามถ้าไม่มาข้าจะส่งกองทหารไปบุกจวนอ๋องโจ๋ว!” “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” หลี่เหลี่ยนคังตกใจฝ่าบาทนั้นสิ้นพระชนม์ไปแล้วแล้วทำไมอยู่ก็มีฝ่าบาทอีกพระองค์กัน? กลางวันแสกแบบนี้ผีสางคงไม่มาหลอกกันหรอกใช่ไหม! หรือว่าฝ่าบาทจะฟื้นคืนชีพ?” “เพียงแต่...ฝ่าบาทพระองค์นี้เหมือนกับอารมณ์ร้ายยิ่งกว่าเดิมเสียอีก!” หลี่เหลียนคังคิด ฮ่องเต้อำมหิตกลับมายังห้องบรรทมเรียกนางสนมมาคอยปรนนิบัติรับใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจนสะอาดหมดจด “ฝ่าบาท...” ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงเส้นผมสีเงินราวกับวิญญาณมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของฮ่องเต้อำมหิต “เจ้าเป็นใคร?” ฮ่องเต้อำมหิตถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผู้หญิงผมเงิน “คนที่จะมาเปลี่ยนท่านอย่างไรละ!” ฮ่องเต้อำมหิต “ไม่ต้องมาแกล้งหลอกเป็นผีสาง! เจ้าเข้ามาในพระราชวังได้อย่างไร? แล้วเป็นใครกัน? มีจุดประสงค์อันใด?” ผู้หญิงผมเงินยิ้มเล็กน้อย “ฝ่าบาท! เพียงท่านฟังข้าพูดสักหน่อยท่านก็จะเข้าใจ!” หลี่เหลียนคังพร้อมกับขันทีสองคนไปยังตำหนักชิงหยาแต่กลับพบแต่ความว่างเปล่า! โจ๋ซซินเหยาและโจ๋วชิงหยีนั้นไม่อยู่เหลือแต่เพียงเด็กรับใช้ที่นอนขี้เกียจสันหลังยาวอยู่เท่านั้น หลี่เหลียนคังถามวามฮองเฮาไปไหนนางก็ไม่รู้เช่นกัน ทว่านางบอกกับหลี่เลียนคังว่าฮองเฮานั้นไม่ได้กลับมาตำหนักชิงหยามาทั้งวันอามรมณ์เย็นชาไร้ความรู้สึกราวกับมีเรื่องเก็บไว้ภายในใจ....
已经是最新一章了
加载中