ตอนที่ 441 เธอสำคัญที่สุดสำหรับเขา

ตอนที่ 441 เธอสำคัญที่สุดสำหรับเขา “ครับ ฉากต่อจากนี้ไปผมจะไปอยู่กับเธอเอง” ไม่ว่าฉากถ่ายทำจะมีอันตรายมากน้อยขนาดไหน จิรภาสต้องเห็นด้วยตาของตัวเองเท่านั้นถึงจะวางใจ เพราะเป็นการถ่ายภาพยนตร์ที่นักแสดงจะต้องใช้อารมณ์ร่วมทั้งสิ้น เขาจึงจำต้องพาเจ้าหน้าที่แพทย์ไปด้วย เพื่อคอยตรวจร่างกายของจิดาภาตลอดเวลา “คุณเป็นผู้จัดการของจิดาภา ย่อมไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ” ชนุดมรู้สึกว่าการที่จิดาภาท้องนั้นคือเรื่องที่ดี เพราะกองถ่ายของเขานั้นได้เกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ขึ้นแล้ว หากเกิดเรื่องเหมือนคราวปรียสขึ้นอีก กองถ่ายทำของเขาต้องพังลงอย่างแน่นอน หลังจากนั้นจิรภาสก็ใช้เวลานอนเมื่อจัดการกับเอกสารเร่งด่วน และยังเรียกRickตื่นขึ้นมารับวิดีโอคอลเพื่อมอบหมายงานทั้งหมดในช่วงนี้ให้กับเขา ถึงแม้เขาจะต้องเข้ากองถ่ายไปพร้อมจิดาภา เขาต้องการเวลาที่มากพอ จึงต้องปล่อยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในบริษัทไป Rickเดาว่าจิรภาสต้องการไปดูแลจิดาภา แต่ก็ยังอดที่ถอนหายใจไม่ได้ จิรภาสรักจิดาภายิ่ง ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในเค.เอฟจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยเห็นจิรภาสวางมือจากเรื่องงานเลย เห็นจากในตอนนี้ สามารถบอกได้ว่าจิดาภานั้นสำคัญสำหรับเขาจริงๆ เพื่อจิดาภาแล้ว เขาจะทุ่มเททุกอย่างที่มี รุ่งเช้าถัดมา จิดาภาที่เห็นจิรภาสไม่พูดว่าจะไปบริษัท และไม่เปลี่ยนเป็นชุดสูท ก็เอ่ยถามขึ้น “คุณไม่ไปทำงานหรือคะ” “ไปครับ ไปทำงานที่กองถ่ายกับคุณ” จิรภาสกล่าวยิ้มๆ “ถึงแม้ว่าโรศนีจะดูแลคุณได้ไม่เลว แต่เหตุการณ์ในตอนนี้ ผมต้องคอยอยู่เคียงข้างคุณ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่สบายใจ” เขาไม่อยากให้จิดาภาล้มเลิกการถ่ายทำ หนทางที่ดีที่สุดคือการที่เขาไปในฐานะผู้จัดการเสีย “ท่านประธานจิรภาสคะ คุณคงไม่คิดว่าการดูแลฉัน และทิ้งเรื่องงานไว้ มันค่อนข้างจะ...” “อย่าพูดแบบนั้น คุณคือแบบอย่างที่ดีในการอบรมของเค.เอฟในอนาคต ดังนั้นผมจำเป็นต้องดูคุณ และลูกของเรา” ..... หลังจากที่ตฤณได้หลักฐานมาอยู่ในมือแล้ว ก็เริ่มเข้าหาแสร้งทำเป็นติดกับดักเข้า “คุณหมอจริยา ท่านประธานของผมต้องการสอบถามขั้นตอนการผ่าตัด คุณนายของพวกเราสนใจเข้ารับการผ่าตัด จึงอยากรู้ว่าต้องทำเช่นไรบ้างครับ” ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น คุณหมอจริยาก็ลุกขึ้นยืนทันที “พวกคุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยค่ะ เพียงให้เธอมาที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด การผ่าตัดก็สามารถเริ่มได้ในทันที” ตฤณที่ได้ยินเช่นนั้น ก็พยายามข่มกลั้นความโกรธในใจ คนแบบนี้ไม่สมควรเป็นหมอ ไม่ แม้แต่คนก็ไม่สมควรเป็นด้วยซ้ำ ตฤณอยากจะกระชากหน้ากากของเธอออกซะเดี๋ยวนั้น แต่เพื่อหาคนที่อยู่เบื้องหลัง เขาจึงต้องจำใจทน ปล่อยให้พวกเขาระเริงกันอีกวันสองวัน ในไม่ช้าเรื่องนี้ก็จะจบลงแล้ว “ครับ ผมจะติดต่อมาหาคุณอีกครั้ง คุณเองก็คงรู้ดีว่าประธานของพวกเรานั้นรักภรรยาของเขาขนาดไหน ดังนั้นขอให้ใช้ความสามารถในการผ่าตัดครั้งนี้อย่างเต็มที่ด้วยนะครับ” ตฤณจำต้องรักษามารยาท “คุณสบายใจได้ค่ะ โรงพยาบาลของพวกเรานั้นมีความสามารถมากกันทีเดียว” ตฤณชะงักในทันทีหลังจากที่หันหลังกลับ “แล้วก็... ผมลืมบอกไป ท่านประธานของผมฝากให้ผมมาถาม ว่าเหตุใดการตรวจร่างกายของคุณนายของพวกเราถึงได้รั่วไหลออกไปได้กัน เรื่องนี้ทางโรงพยาบาลยังไม่ได้หาเหตุผลที่เหมาะสมมาอธิบายเลยนะครับ หากไม่สามารถหาเหตุผลที่ฟังขึ้นมาอธิบายได้ ผมก็คงต้องมารบกวนคุณบ่อยๆ เสียแล้วครับ” สีหน้าของคุณหมอจริยาเปลี่ยนไปทันพลัน ไม่คิดว่าตฤณจะพูดออกมาด้วยท่าทีสุภาพเช่นนี้ แต่กลับทำให้ใจของเธอรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันพลัน “โรงพยาบาลของพวกเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากค่ะ ตอนนี้ได้ให้คนลงไปตรวจสอบแล้ว อย่างไรคุณจิดาภาก็เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง น่าจะเป็นทางปาปารัซซี่นั่นแหละค่ะ” ตฤณไม่ได้กล่าวอะไรอีก ไม่อย่างนั้นเขาคงจะข่มความโมโหเอาไว้ไม่อยู่ เขารีบขับรถออกจากโรงพยาบาลไปโดยเร็ว แต่ก็ได้ทิ้งคนให้คอยจับตามองไว้เช่นกัน เชื่อว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็จะได้คำตอบในเร็ววัน คุณหมอจริยามองตฤณขับรถออกไปจนลับสายตา ก่อนจะใช้โทรศัพท์ของสำนักงานโทรออกไปยังสายหนึ่ง “พวกเขาเชื่อแล้ว และกำลังจะเข้ารับการผ่าตัด” “แต่ว่า ฉันต้องการพบคุณ เรื่องนี้มันอันตรายมาก เงื่อนไขที่คุณให้มามันไม่เพียงพอต่อฉันแล้ว” เพียงเธอได้เห็นการลงมือของจิรภาสและตฤณ ก็ต้องการเพิ่มช่องทางรับประกันให้ตัวเองทันที ไม่อย่างนั้นก็คงไม่รู้แม้แต่วิธีการตาย นี่ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วๆ ไป นี่คือภรรยาของประธานบริษัทเค.เอฟ หากวันใดวันหนึ่งความลับนี้หลุดออกไป เธอจะต้องเตรียมช่องทางหนีให้ตัวเองเช่นกัน “คุณต้องการอะไร พูดมาทางโทรศัพท์นี้เลย” “ไม่ได้ ฉันไม่ได้พบคุณ เรื่องนี้ก็คงต้องจบลงเท่านี้ ไม่เช่นนั้นพวกคุณก็ไปหาคนใหม่เถอะ ดูสิว่าจะมีใครมารับความเสี่ยงเช่นนี้อีกหรือไม่” ญาณิดาที่อยู่ปลายสายชะงักไปอึดใจ เธอไม่คิดว่าในช่วงเวลาสุ่มเสี่ยงเช่นนี้ฝ่ายตรงข้ามจู่ๆ ก็จะมาเปลี่ยนไป ในเวลาแบบนี้เธอยังออกไปพบคนอื่นได้อีกหรือ “ได้ ฉันขอเวลาพิจารณาก่อน แล้วจะติดต่อกลับไปอีกทีหนึ่ง” ญาณิดาเกลียดการถูกข่มขู่มากที่สุด แต่นอกจากตอบตกลงแล้ว เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก ณ เวลานี้ญาณิดาคงคิดไม่ถึง ว่าสิ่งที่รอเธออยู่เบื้องหน้านั้นจะเป็นนรก... ญาณิดานำเรื่องนี้มาบอกกับแม่สามี เมื่อเรื่องมันกลายมาเป็นเช่นนี้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะจัดการเช่นไร จึงทำได้เพียงมาขอร้องแม่สามีเท่านั้น “เธอต้องการเงินสด และต้องการรับเองกับมือ ดังนั้นฉันจึงต้องไปพบด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นคงจะถูกยุติความร่วมมือ” ญาณิดานำเรื่องของคุณหมอจริยามาเล่าให้ฟัง แม่สามีที่รับฟังจนจบ เงียบไปไม่กี่อึดใจ “พอเข้าใจได้กับสิ่งที่เธอต้องการ ไปเตรียมเถอะ” นอกจากเรื่องนี้แล้ว ญาณิดายังมีอีกเรื่องที่สำคัญ นั่นก็คือการเตรียมตัวกลับไปพบกับท่านจิรชยาที่ตระกูลวีรภัทรเมธี เธอวางแผนเพื่อวันนี้มาอย่างเนิ่นนาน จะมาล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด ..... จิดาภาได้กลับมาที่กองถ่ายอีกครั้งหลังจากที่ลาไปสองวัน ข่าวของเธอเหล่านั้น ทุกคนในกองถ่ายต่างรับรู้กันถ้วนหน้า เมื่อเห็นว่าเธอยังยืนหยัดที่จะมากองถ่ายท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ก็รู้สึกนับถือในความเป็นมืออาชีพของเธอเป็นอย่างมาก ดาราหญิงที่ทำได้เช่นเธอนั้นมีไม่มากเลย ความจริงร่างกายของจิดาภานั้นต้องได้รับการระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพราะป่วย แต่เพราะว่าท้อง เมื่อไม่นานมานี้ จิดาภากลับเข้ากองถ่ายมาอีกครั้ง พร้อมมีจิรภาสคอยอยู่ข้างกาย เขาไม่ยอมให้จิดาภาทำอะไรด้วยตัวเอง ทั้งยังคอยตามดูแลไปทุกที่ “พี่จิดาภาถ่ายต่อได้ไหม ผู้กำกับชนุดมให้ผมมาถาม หากพี่ต้องการพักผ่อน ค่อยมาต่อในอีกสองสามวันให้หลังก็ได้” ผู้กำกับเข้ามาไถ่ถามจิดาภา “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ถ่ายทำต่อได้เลย” “คำพูดที่คนข้างนอกวิจารณ์ไปต่างๆ นานา... คุณอย่าได้ใส่ใจเลย พวกเราทุกคนคอยสนับสนุนคุณอยู่นะ” จิรภาสที่นั่งอยู่ที่โซฟาค่อยๆ หันหน้าไป เหลือบมองไปยังรองผู้กำกับ รองผู้กำกับคนนั้นก็รีบออกไปจากพักของจิดาภาทันที จิดาภาที่ได้เห็นฉากนั้น ก็อดส่ายหน้าด้วยความขบขันไม่ได้ ผู้จัดการคนพิเศษของเธอแค่นี้ก็หึงแล้วหรือ นี่มันแค่ความห่วงใยจากเพื่อนร่วมงานก็เท่านั้น แดนนี่ที่รู้ว่าจิดาภากลับมา ก็ตั้งใจเพื่อมาเยี่ยมเธอโดยเฉพาะ หลังจากครั้งที่แล้วที่เคยปะทะกับจิรภาส เขาก็ห่วงใยจิดาภาเพียงในฐานะเพื่อนร่วมงานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นคนที่จิรภาสเลือกมาเป็นพระเอก ถึงแม้จะชื่นชอบผู้หญิงสวยๆ แต่ก็รู้จักรักษาระยะห่างเช่นกัน