ตอนที่ 443 ภรรยาของเขานั้นเลี้ยงลูกอย่างยากลำบาก

ตอนที่ 443 ภรรยาของเขานั้นเลี้ยงลูกอย่างยากลำบาก ในตอนที่ญาณิดากลับไปยังตระกูลวีรภัทรเมธี รุจาภาก็ไปสัมมนาที่ต่างประเทศพอดี ทันทีที่คนรับใช้ในตระกูลวีรภัทรเมธีเห็นญาณิดา ก็ชะงักกันถ้วนหน้า สุดท้ายก็เป็นท่านจิรชยาที่พาญาณิดากลับมา ภายหลังเรื่องในตระกูลวีรภัทรเมธีก็ขึ้นอยู่กับรุจาภา แต่จู่ๆ ญาณิดาก็กลับมา... หรือว่าจะเกิดการเปลี่ยนในตระกูลวีรภัทรเมธีกัน นิสัยที่ฉุนเฉียวของญาณิดา จะทำให้อนาคตของตระกูลวีรภัทรเมธีเปลี่ยนแปลงไปเป็นไรกัน แต่สิ่งที่เกินกว่าการคาดการณ์ของทุกคน ก็คือญาณิดาเปลี่ยนนิสัยที่ดื้อรั้นและแข็งกร้าว พร้อมมีท่าทีอ่อนน้อมต่อทุกๆ คน “ในอดีตฉันอาจจะทำเรื่องไม่เหมาะสมไปมาก หวังว่าทุกคนจะให้อภัย ต่อจากนี้ฉันจะพยายามมากขึ้น จะดูแลตัวเอง และลูกในท้องของฉันให้ดีที่สุดค่ะ” ท้องรึ... ในช่วงเวลาที่ข่าวลือเรื่องที่จิดาภาท้องไม่ได้แพร่กระจายออกไป ญาณิดาก็อุ้มท้องกลับมายังตระกูลวีรภัทรเมธี เหล่าคนใช้ในตระกูลตระกูลวีรภัทรเมธีต่างก้มหน้าหลบ พวกเขาต่างเข้าใจคำเตือนของญาณิดาดี ตอนนี้ที่เธอกำลังจะเป็นแม่คน ทุกคนต่างต้องดูแลเธออย่างระมัดระวังกันมากยิ่งขึ้น ช่วงเวลานี้ ทุกเรื่องในตระกูลวีรภัทรเมธีต่างมีรุจาภาที่คอยจัดการอย่างดี ตั้งแต่คนระดับชั้นบนไปจนถึงคนระดับชั้นล่างต่างก็ไม่มีใครคาดคิดว่าญาณิดาจะกลับมากะทันหันเช่นนี้ ต่อจากวันนี้ไป ตระกูลวีรภัทรเมธีจะเปลี่ยนไปเช่นไร ไม่มีใครกล้ารับปากได้จริงๆ บรรดาพี่น้องในตระกูลวีรภัทรเมธี พรยศเป็นคนแรกที่ได้รับข่าวนี้ ทันทีที่ฝึกซ้อมเสร็จ เขาก็โทรหาจิดาภาทันที “พี่สาม คุณปู่พาพี่ใหญ่กลับบ้าน พี่รู้หรือไม่” “พี่เองก็เพิ่งจะรู้” ดวงตาของจิดาภาเริ่มขึ้นสีเข้ม “ได้ยินว่าตอนที่พี่ใหญ่ถูกไล่ออกไปจากตระกูลวีรภัทรเมธี บ้านแม่สามีก็ไม่ต้อนรับ แต่ละวันของพี่ใหญ่ผ่านไปอย่างยากเย็น และตอนนี้ก็ท้องแล้วเสียด้วย... คุณปู่ใจอ่อน จึงพาพี่ใหญ่กลับมา” พรยศรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรที่ผิดแปลก เขาไม่เชื่อว่าสันดานเดิมนั้นจะเปลี่ยนแปลงได้ และญาณิดายังกลับมาตระกูลวีรภัทรเมธีในเวลานี้อีก จะพอเหมาะพอเจาะเกินไปหรือไม่ “อย่าได้กังวลกับพี่เลย ทำเรื่องของตัวเองให้ดีก็พอ” ตอนนี้อำนาจในตระกูลวีรภัทรเมธีเป็นของรุจาภาทั้งหมด หากญาณิดาคิดจะกระโจนเข้ามาแย่ง ก็คงไม่มีความสามารถถึงขั้นนั้น “อะไรกัน ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้นอย่างนั้นรึ” จิรภาสรู้ว่าคนที่โทรมาคือพรยศ หลังจากที่เห็นท่าทางเป็นทุกข์ของจิดาภาหลังจากที่วางสาย ก็อดเอ่ยถามไม่ได้ “คุณปู่พาญาณิดากลับตระกูลวีรภัทรเมธีแล้ว” จิดาภาตอบกลับไปด้วยท่าทีนิ่งเฉย “พรยศบอกว่า คนใช้ในบ้านต่างเห็นกันว่าญาณิดามีท่าทีเปลี่ยนไป แต่ฉันรู้สึกว่ามันไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น” “เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลวีรภัทรเมธีมาตลอด มีอำนาจในตระกูลวีรภัทรเมธีมานานหลายปี เพียงไม่กี่เดือนจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงๆ หรือ” “มีแม่อยู่ในตระกูลวีรภัทรเมธี คุณไม่ต้องกังวลใจไปหรอก” ในช่วงนี้จิรภาสก็คอยรับฟังเรื่องเกี่ยวกับบริษัทLGDอยู่ อย่างไรทักษะทางธุรกิจของรุจาภาก็ถือว่าอยู่ในขั้นดีเยี่ยม หลังจากที่รับช่วงต่อบริษัทLGD สร้างผลงานให้กับบริษัทจนเป็นที่น่าประทับใจ จนประสิทธิภาพเพิ่มพูนยิ่งขึ้น ในตอนนี้รุจาภาถือว่าเป็นบุคคลที่คอยดูแลบริษัทLGDและตระกูลวีรภัทรเมธีได้ดีที่สุด “เธอจะดีเช่นไรนั่นก็เรื่องของเธอ ฉันเพียงกังวลว่าคุณปู่จะผิดหวังกับเธออีกรอบ” จิดาภาถอนหายใจพร้อมส่ายหัวไปมา เธอไม่ได้เชื่องโยงเรื่องผลตรวจที่เธอท้องไม่ได้กับเรื่องญาณิดา เพราะช่วงนี้เธอสนเพียงเรื่องปกป้องลูกน้อยของเธอเท่านั้น เพียงแค่เรื่องราวนั้นจะถูกเปิดเผยอย่างช้าๆ ความจริงที่รอคอยนั้นอยู่เพียงไม่ไกล ..... ค่ำนี้ จิรภาสได้ให้พ่อบ้านตระกูลปรีดาอัครกุลทำอาหารเป็นพิเศษ และนำมาส่งที่กองถ่าย พวกเขาสองสามีภรรยาและท่านเดชได้ทานข้าวร่วมกัน ถึงแม้ท่านเดชจะอิ่มเอมกับมื้ออาหารนี้ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่จิดาภาไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ก็รู้สึกจนคำพูด เขาอยากจะเอ่ยปลอบใจจิดาภา แต่ก็กลัวจะพูดอะไรที่ไม่ดีจนทำร้ายใจของหลานสะใภ้คนนี้ แต่จิดาภานั้นไม่ได้เอ่ยอะไร และจิรภาสก็ยังเอาแต่เงียบ บรรยากาศนี้ทำให้ท่านเดชรู้สึกอึดอัด สุดท้ายเขาก็อดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้ “ฉากถ่ายทำก็เหลืออีกไม่มากแล้ว ไม่อยากจะพักหน่อยรึ หรือว่าเป็นหลานของฉันที่บังคับเธอกลับมาถ่ายภาพยนตร์กัน” “ไม่ใช่นะคะคุณปู่” จิดาภาตอบกลับเสียงผะแผ่ว “เธออย่าแก้ตัวแทนเขา หากเขารังแกอะไร มาฟ้องฉันได้เลย ถึงแม้กระดูกกระเดี้ยวฉันจะไม่ดี แต่ก็ยังมีแรงสั่งสอนหลานคนนี้อยู่” “คุณปู่เข้าใจผิดแล้วค่ะ จิรภาสรักฉันมาตลอด เขาไม่เคยบังคับให้ฉันทำอะไรเลย” “เหอะ ในจุดจุดนี้เขาก็ยังเหมือนคนตระกูลปรีดาอัครกุลของพวกเรา” ท่านเดชกล่าวเช่นนั้น และจ้องไปทางจิรภาส “อาหารก็ทานกับจวนจะหมดแล้ว พวกผมรีบกลับกันไปก่อนดีกว่า ช่วงนี้ภรรยาของผมไม่สามารถนอนดึกได้ การอุ้มท้องนั้นทำให้เหนื่อยล้าจริงๆ” จิรภาสที่นั่งอยู่ข้างๆ จิดาภา เติมน้ำชาให้กับท่านเดช ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมลุกออกไป “หะ... อุ้มท้องรึ รอก่อนสิ นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน ไม่ใช่ว่า...” จิรภาสไม่ได้ตอบอะไร เพียงมองท่านเดชนิ่งๆ จิดาภาที่นั่งเงียบๆ อยู่ด้านข้าง ก็เพียงยิ้มเท่านั้น ท่านเดชลุกขึ้นในทันที ก่อนจะใคร่ครวญกับคำพูดเมื่อครู่ของจิรภาส ลังเลเพียงไม่นานก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง “หลานหมายถึง ฉันกำลังจะมีเหลนรึ” “ครับ หนึ่งเดือนกว่าๆ แล้ว” จิรภาสกุมมือของจิดาภาไว้พร้อมตอบกลับไป ท่านเดชปลื้มปีติในทันใด แต่เดิมคิดว่าจิรภาสเพียงพูดเพื่อปลอบใจเขา แต่เมื่อเห็นจิดาภาพยักหน้ายืนยัน เขาก็ดีใจอย่างอดไม่อยู่ “ดีมาก ดีมาก ดีที่สุด” “ข่าวลือข้างนอกพวกนั้น เพียงได้เห็นฉันก็โมโหมากแล้ว ยังดีที่มันไม่ใช่ความจริง ฮ่าฮ่า” ท่านเดชหัวเราะจนตาหยี และทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ “มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ยังคงมีคนเผยแพร่ผลตรวจอยู่บนโซเชียลเรื่อยๆ หรือว่า...” “ตอนนี้คิดว่าคงมีคนคอยบงการอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นเรื่องที่จิดาภาตั้งครรภ์จึงยังต้องเก็บไว้เป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยไปได้” “หลานจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ละเอียด ใครที่คอยรังควานทายาทตระกูลปรีดาอัครกุลของพวกเราอยู่เบื้องหลังกัน กระชากมันออกมา ฉันต้องการเห็นคนคนนั้นให้ชัดๆ” “ผมจะไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอน” สุดท้ายก็ได้บอกข่าวดีนี้ให้ท่านเดชได้รับรู้ ถึงแม้เขาอยากจะประกาศเรื่องที่ดีเช่นนี้ออกไป แต่เพื่อความปลอดภัยของหลานสะใภ้และเหลน เขาจึงต้องจำทนเอาไว้ก่อน รอจนกระทั่งจับคนทำออกมาได้ เขาสั่งสอนให้รู้ซึ้งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การที่จิดาภาเป็นหลานสะใภ้ตระกูลปรีดาอัครกุลของพวกเขานั้นก็เป็นเรื่องที่ดี ..... เรื่องที่จิดาภาประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากยังคนโผล่ขึ้นมาหน้าข่าวบันเทิงอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่เริ่มอยู่ในวงที่แคบลง เพราะแฟนคลับของจิดาภานั้นคอยออกมาปกป้องอยู่ นี่เป็นหลักฐานว่าเธอมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นตั้งแต่ที่กลับคืนสู่วงการจนถึงกระทั่งตอนนี้ เพียงแต่จิดาภาเป็นกังวลและเริ่มร้อนรนที่เห็นแฟนคลับยังคงออกมาพูดแทนเธอไม่หยุด เธออยากจะแบ่งปันเรื่องที่เธอตั้งครรภ์แล้วกับแฟนคลับทุกๆ คนที่ห่วงใยเธอ เพื่อให้ทุกคนร่วมยินดีไปกับเธอ เพราะทุกครั้งที่เธอมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ก็เป็นแฟนคลับที่ยังคอยสนับสนุนเธอ “ฉันเชื่อว่าครั้งนี้จิดาภาจะผ่านพ้นไปได้” “รอจนกระทั่งหนังเข้าโรง ฉันจะไปสนับสนุนอย่างแน่นอน” “หวังว่าจิดาภาจะดีขึ้น และมีความสุขกับจิรภาสมากยิ่งขึ้น พวกเราจะคอยสนับสนุนพวกคุณตลอดไป”