ตอนที่ 447 สายน้ำไม่หวนกลับ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 447 สายน้ำไม่หวนกลับ
ตอนที่ 447 สายน้ำไม่หวนกลับ คืนนี้เป็นคืนแรกที่ญาณิดากลับมายังตระกูลวีรภัทรเมธี เธอใช้อาการหน้ามืดหลอกใช้ความขี้สงสารของท่านจิรชยา เมื่อได้นอนอยู่ในห้องก็โทรหาแม่สามีของเธอทันที “รุจาภากลับมาแล้วค่ะ เธอเอ่ยถามฉันอย่างสงสัยต่อหน้าคนในตระกูลวีรภัทรเมธี โชคดีที่ฉันคิดวิธีแก้สถานการณ์ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงเป็นอันตราย...” “กว่าที่จะมีวันนี้ได้ ดังนั้นรุจาภาจึงต้องการไล่เธอออกจากตระกูลวีรภัทรเมธี อย่าได้กลัว เธอมีไพ่ตายอยู่ จะต้องขับรุจาภาออกจากตระกูลวีรภัทรเมธีไปได้แน่” แม่สามีที่อยู่ปลายสายกล่าวอย่างมุ่งร้าย “แต่ว่าเธอในตอนนี้เปลี่ยนไปราวกับคนละคน ไม่มีท่าทีอ่อนแอดั่งเช่นในอดีตอีกแล้ว ทั้งยังมีอำนาจของบ้านอยู่ในมืออย่างเต็มที่อีกด้วย ฉันกังวลว่าฉันจะสู้เธอไม่ได้” ญาณิดาถอนหายใจ “เฮ้อ อย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิงของคุณพ่อ คงไม่ได้รับมือยากขนาดนั้นหรอกใช่หรือไม่ นี่คือเรื่องในตระกูลวีรภัทรเมธีของพวกเธอ แม่ไม่เข้าใจหรอก คงช่วยอะไรไม่ได้” แม่สามีของเธอวางแผนให้ญาณิดากลับไปตระกูลวีรภัทรเมธี เพื่อทวงตระกูลวีรภัทรเมธีกลับคืนมา แต่เธอก็กลัวเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน จึงไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากนัก หนทางที่จะพาญาณิดากลับคืนสู่ตระกูลวีรภัทรเมธี ญาณิดาพึ่งพาได้แค่ตัวเองเท่านั้น “ได้ค่ะ ฉันจะลองหาทางดูอีกครั้ง” ญาณิดารู้ดีว่าการขึ้นหลังเสือนั้นมันยากที่จะลงได้ขนาดไหน จึงตอบไปอย่างช่วยไม่ได้ โชคดีที่ฟ้าส่งลูกมาให้กับเธอ มีไพ่ตายที่ดีขนาดนี้เธอจะกลัวรุจาภาเพียงคนเดียวไปทำไม “และยังเรื่องทางโรงพยาบาลนั่นอีก เธอต้องตามให้ดี โอกาสเช่นนี้ไม่มีทางหวนกลับมาอีกแล้ว” “ค่ะ ฉันวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว รอดูฉากที่น่าสนุกก็พอ” ญาณิดาคิดไปเองว่าแผนของตัวเองนั้นไร้ที่ติ จนไม่ได้นึกเลยว่าจิดาภานั้นไม่ใช่คนที่เธอจะหลอกให้หลงกลได้ ในอดีตไม่เคยทำได้เช่นไร ในอนาคตก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพื่อให้แผนนี้ดูสมจริงยิ่งขึ้น จิดาภาจึงจงใจลากองครึ่งวัน โดยช่วงเช้าจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และค่อยไปกองถ่ายในช่วงบ่าย ตฤณทำตามแผนที่จิรภาสได้วาง โดยควบคุมตัวคุณหมอจริยาไว้ ญาณิดาเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าที่ไม่สะดุดตา เมื่อเห็นเองกับตาว่าจิดาภาเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว นั่งอยู่ที่โรงพยาบาลเพียงครู่ และจึงจากไปพร้อมความพึงพอใจ โดยเร็ว เธอก็ได้รับสายจากคุณหมอจริยา “จัดการเรื่องราวเสร็จแล้ว คุณจะนำเงินที่เหลือมาให้ฉันเมื่อไหร่คะ” “คุณแน่ใจใช่ไหมว่าจิดาภาจะไม่สามารถมีลูกได้อีก” “แน่นอน” คุณหมอจริยาตอบกลับโดยเร็ว เพราะตฤณนั้นยืนอยู่ข้างๆ เธอ “ได้ บ่ายวันพรุ่งนี้ พบกันที่ร้านกาแฟเดิม” คิดไปคิดมา ญาณิดาก็รู้สึกว่าการโอนผ่านบัญชีนั้นได้ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่นัก หากมีคนพบเจอเข้า เธอคงแก้ตัวไม่ได้ พบเจอกันคงเป็นหนทางที่ดีกว่า แต่ว่าทั้งหมดนี้กลับเป็นกับดักสำหรับเธอ หลังจากที่คุณหมอจริยาวางสาย ก็เอ่ยถามตฤณอย่างระแวง “ฉันทำตามแผนแล้วนะคะ ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ” “ทราบแล้วครับ” ตฤณคิ้วขมวดเล็กน้อย เขาปล่อยเธอไปได้อยู่แล้ว แต่ประธานของพวกเขาจะทำเช่นไรต่อเขาเองก็บอกไม่ได้เช่นกัน รอคำตอบที่จะถูกประกาศในวันพรุ่งนี้เสียจะดีกว่า ในที่สุดตฤณก็ไม่ต้องวิ่งไปมาระหว่างโรงพยาบาลกับบริษัทอีกแล้ว เขาจะได้มีเวลาไปดูภรรยาของเขา จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าจะบอกเรื่องที่จิดาภาท้องกับพี่นัฎเช่นไรดี จิดาภากลับไปถ่ายทำต่อตามแผนการ สำหรับเรื่องนี้ เธอจะตั้งใจแสดงทุกๆ ฉากให้ดีที่สุดเพื่อให้ชนุดมมองเธอให้มากขึ้น เพราะจิดาภาแสดงให้เห็นแล้วว่าเธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาถ่ายทำ ชนุดมค่อนข้างจะเข้าข้างจิดาภาเป็นพิเศษ แม้แต่ตอนที่จิดาภาร่วมฉากกับแดนนี่ ชนุดมก็ยังขอให้แดนนี่ตั้งใจมากขึ้นอีก แดนนี่อดที่จะบ่นไม่ได้ “ทำไมต้องรีบถ่ายทำขนาดนี้ จากในสัญญาก็ยังเหลืออีกสามเดือนมิใช่หรือ” “ผู้กำกับชนุดมคะ ไม่เป็นไรนะคะ ช้าลงหน่อยก็ได้ค่ะ” ท่านเดชที่คอยมองฉากอยู่ข้างๆ ตะโกนขึ้นมาด้วยความหัวร้อน “นักแสดงชายต่างชาติคนนั้นแสดงไม่ได้เรื่อง ถ่ายเพิ่มกันเพียงไม่กี่ฉากไม่ใช่รึ เขาดูไม่เต็มใจสักนิด” เมื่อได้ยินจิดาภาพูดเช่นนั้น ชนุดมก็ยินยอมที่จะช้าลง แดนนี่ไม่เข้าใจในจุดจุดนี้ จึงเอ่ยปากถามจิดาภาตอนที่อยู่แบบส่วนตัว “ทำไมคนในกองถ่ายดูเคารพ ดูเชื่อฟังคุณจังครับ แม้แต่ผู้กำกับเองก็เป็นเช่นนั้น หากเป็นที่ประเทศของผม ผู้กำกับคือพระเจ้า ไม่มีใครกล้าเสนออะไรให้ผู้กำกับฟังทั้งนั้น” จิดาภาที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เอ่ยตอบอย่างใจเย็น “เพราะปฏิบัติต่อทุกฉากด้วยความจริงใจ” แดนนี่คิ้วขมวด ราวกับไม่เห็นด้วยกับคำตอบของจิดาภา “ชอบก็คือชอบ เกลียดก็คือเกลียด ไม่มีตรงกลางได้หรอก คนเอเชียคิดกันมากเกินไปแล้ว” “และมักจะสวมหน้ากากเพื่อให้ได้ท่าทางที่คิดไว้ นั่นโคตรไม่จริงใจ” ประโยคนี้แดนนี่ได้ยกภาษาจีนที่ย่ำแย่มา จิดาภาเพียงยิ้มเล็กน้อย และไม่ได้ตอบกลับอะไรไป ประจวบเหมาะกับที่จิรภาสวางสายพอดี เดินเข้ามาพร้อมส่งแก้วน้ำให้กับจิดาภา “ไร่สาลีได้เข้าสู่ช่วงโปรโมทแล้ว ผลตอบรับไม่เลวเลยทีเดียว ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในบ็อกซ์ออฟฟิศแน่ ทั้งนี้ยังมีผู้กำกับต่างชาติคนหนึ่งให้ความสนใจคุณกับสมภพด้วย” “จริงหรือคะ” จิดาภาฉีกยิ้มกว้าง ในใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข การถูกยอมรับจากบุคคลภายนอกนั่นหมายความว่าทักษะการแสดงของเธอนั้นเป็นที่ยอมรับ “ผมบอกแล้ว ว่าคุณเป็นดาราที่ทรงพลังที่สุดในอนาคตของเค.เอฟ ทั้งหมดนี้คือความพยายามของคุณ” จิรภาสกุมมือของเธอไว้พร้อมพูดอย่างหนักแน่น “ขอโทษนะครับคุณนายจิดาภา เพราะผมคุณอาจจะต้องปฏิเสธหนทางลัดสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์อีกครั้ง” จิดาภาหันหน้ากลับไป พร้อมมองตาของเขาอย่างจริงจัง ก่อนจะลูบใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา “พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ต่างเป็นหนึ่งเดียวกัน คุณเองก็ทำเพื่อฉันมามากมาย ตอนนี้ก็วางมือจากเรื่องภายในบริษัทเพื่อมาดูแลฉันที่กองถ่าย ระหว่างพวกเราไม่จำเป็นต้องพูดคำนั้นแล้วนะคะ” “ฉันไม่เสียใจกับหนทางที่ฉันเลือกค่ะ และจะมั่นคงในเส้นทางที่ตัวเองได้เลือก ฉันเชื่อว่ามันเป็นของฉัน และมันจะมาอยู่ตรงหน้าฉันค่ะ” “การมีลูกก็เป็นเส้นทางชีวิตใหม่ของฉัน เขาไม่มีทางทำลายเส้นทางอาชีพของฉัน และจะทำให้ฉันกล้าเผชิญหน้ากับอนาคตมากยิ่งขึ้น” จิรภาสที่เห็นท่าทางมั่นใจของเธอ ก็พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม เป็นพรสำหรับเขาจริงๆ ที่ได้ภรรยาเช่นนี้ ..... ถึงแม้จิดาภาจะปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนน้อยลง แต่ความนิยมของเธอก็ไม่มีลดตาม เพราะภาพยนตร์เรื่องดังทั้งสามเรื่องที่ทำให้ความนิยมยิ่งพุ่งสูงขึ้น ถึงแม้ส่วนความทรงจำจะออกโรงไปแล้ว แต่ภาพยนตร์จากเค.เอฟเรื่องนี้ได้รับคำชมอย่างมากมาย ทั้งสคริปต์และการถ่ายทำที่ไม่ซ้ำใคร ทำให้ได้รับการยกย่องจากแฟนๆ และการแสดงของจิดาภานั้นทำให้บุคคลภายนอกต่างก็เริ่มมองเธอใหม่อีกครั้ง ภาพลักษณ์ของเธอนั้นตราตรึงใจทุกคนอย่างยิ่ง ในตอนที่ทุกคนพูดถึงทักษะการแสดงของจิดาภา ย่อมนึกถึงเรื่องเมื่อตอนที่เธอกลับเข้าสู่วางการในตอนที่แต่งงาน ได้กลายเป็นที่รักของวงการ และกลับเข้าสู่กองถ่ายทำอีกครั้ง... ทุกก้าวเดินของเธอนั้นใสสะอาด และแสดงผลลัพธ์ที่น่าภูมิใจอยู่เสมอ จนบรรดาแฟนคลับต่างตั้งตาคอยภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอกัน ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จของจิดาภา
已经是最新一章了
加载中