ตอนที่ 10 บุคคลอันตราย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 10 บุคคลอันตราย
ร่างบางก้าวขึ้นมาบนห้องนอนนั่งลงแปรงผมบนเก้าอี้บุนวมสีขาวหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง สายตาของหญิงสาวจ้องมองตนเองในกระจก หยิบหวีสางผมเบาๆ เรียบร้อยแล้วเตรียมเข้านอน แต่กลับรู้สึกถึงความผิดปกติ บางสิ่งบางอย่างหายไป ลูบลำคอระหงส์ก่อนหน้านี้เคยมีสร้อยที่ยายอิ่มให้ไว้ใส่ติดตัวประจำ บัดนี้ไม่มีอีกแล้ว ฉุกคิดได้ออกจากห้องเพื่อลงมาชั้นล่าง คุกเข่าลงควานหาสร้อยเส้นนั้น เพราะความมืดของห้องรับแขก ทำให้ยากต่อการมองหา ไม่กล้าเปิดไฟเพราะเกรงใจคนในบ้าน ธานต์เมธากลับมาจากคอนโดของคู่หมั้นสาว ไม่คิดหนีอีกแล้ว ในเมื่อที่นี่คือบ้านของเขาเอง คนนอกย่อมไม่มีสิทธิ์ มีเสียง ในบ้านหลังนี้ เงินสักแดง ก้อนหินสักก้อน ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่มีทางได้ไป ชายหนุ่มคิดอย่างแน่วแน่ พาตัวเองมาถึงหน้าประตูบ้าน ก้าวเข้าสู่ด้านใน เขาไม่จำเป็นต้องให้แสงสว่างช่วยเพราะเคยชิน เมื่อสายตาปรับเข้ากับความมืดแล้ว กลับเห็นแสงประกายบางอย่าง ชายหนุ่มเดินไปถึงหยิบมันขึ้นมา มองดูแล้วขมวดคิ้ว มันเป็นสร้อยไม่ได้มีค่ามีราคาอะไรมากมายนัก “นี่มันของใครกัน” เขาพึมพำไม่ได้ใส่ใจ จับสร้อยยัดใส่กระเป๋าตนเอง ก้าวเดินต่อ สายตามองเห็นเงาตะคุ่มๆ กำลังคืบคลานบริเวณห้องรับรอง แว๊บแรกชายหนุ่มคิดว่าอาจเป็นขโมย แต่เมื่อก้าวเข้าหา ธานต์เมธาจึงเปลี่ยนความคิดใหม่ เมื่อร่างที่คลานเข่าหาของกลับมีทรวดทรงองเอวน่ามอง เท่านี้ก็รู้ได้ทันทีว่าใคร “นั้นใครกัน!” ชายหนุ่มแกล้งตะโกนถามเสียงลั่น ร่างบางสะดุ้งหยุดควานหาสร้อย พลางยืดตัวตรงด้วยความกังวล “ฉันเองค่ะ” ศศิรญารีบตอบ มือสั่น “ฉันน่ะใคร ไม่บอกชื่อจะรู้หรือไง!” คนถามย้อน “ศศิรญาเองค่ะ!” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มเดินเข้าไปหาหญิงสาว หล่อนก้มหน้านิ่งไม่กล้าขยับไปไหนด้วยความกลัว “เธอมาทำอะไรที่ห้องรับแขกตอนดึกมิทราบ หรือคิดจะขโมยของบ้านฉันกันฮะ!” เสียงเข้มตวาด “ปะ...เปล่านะคะ ญาแค่มาหาของเท่านั้นค่ะ ไม่เคยคิดที่จะขโมยอะไรเลย” คนตัวเล็กรีบปฏิเสธ นี่เขาจะมายัดเยียดข้อหาแบบนี้ให้ได้อย่างไรกัน “ของอะไรของเธอ มีด้วยเหรอ เธอเพิ่งจะมาอยู่ไม่กี่วัน จะมาหาของในบ้านแล้วแบบนี้ จะให้ฉันเข้าใจว่ายังไงกัน!” “ญาแค่มาหาสร้อยคอเท่านั้นค่ะ สร้อยของญาหายไป ไม่ได้จะมาขโมยของอย่างที่คุณว่าเลยนะคะ” “ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าก็หาต่อไปก็แล้วกัน แต่ฉันจะนั่งดูเธออยู่ที่นี่!” หันหลังแล้วหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟา กอดอกไขว่ห้างมองดู ร่างบางรีบควานหาสร้อย ต้องเจอให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาต้องหาว่าเป็นขโมยแน่ ยิ่งหายิ่งไม่พบทำอย่างไรดี หล่อนรู้สึกร้อนๆหนาวๆ ชอบกล เพราะมีสายตาเขาจ้องมองอยู่ เกร็งไปหมดแล้ว ระแวงด้วย ทำไมเขาจะต้องมาเอาเวลานี้ หล่อนน่าจะรีบลงมาหาตั้งแต่แรก “เจอหรือเปล่า?” เขาถามเสียงเข้ม “ยังไม่เจอเลยค่ะ...” ศศิรญาหันไปตอบ ชายหนุ่มยิ้มเยาะ “งั้นแสดงว่าเธอโกหกนะสินะ” “เปล่านะค่ะ ญาไม่ได้โกหก!” หญิงสาวรีบปฏิเสธ “แน่ใจเหรอว่าสร้อยหาย ไม่ใช่ลงมาสำรวจว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง” เขากระตุกยิ้มมุมปาก เหมือนต้องการหาเรื่องให้อีกฝ่ายจำนน มือบางกำแน่นเพื่อข่มอารมณ์ “สร้อยญาหายไปจริงๆ ค่ะ” เขายักไหล่แสดงท่าทีไม่สนใจต่อคำพูด “ฉันเดินเข้ามาในนี้ฉันยังไม่เห็นเลยว่ามีสร้อยตกอยู่ที่นี่ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงได้เอาเธอมาชุบเลี้ยงแบบนี้ ไม่กลัวบ้างหรือไงว่าเธอจะขโมยของในบ้าน มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่เคยเห็นของแพงๆ บางทีอาจจะอยากได้ก็ได้!” เขาสบประหม่า แล้วยิ้มเหยียดแล้วมอง หญิงสาวกัดฟันแน่น ทำไมถึงได้พูดจาแบบนี้ออกมา หล่อนไม่เคยคิดทำอะไรแบบนั้นเลยสักนิด ทั้งๆ ที่หล่อนมาอยู่ที่นี่เพราะบิดาเขายินดีต้อนรับ ไม่เคยมีความตั้งใจมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก ของสักชิ้นในบ้านไม่เคยหยิบเลย แถมเขาก็ไม่ได้เห็นหล่อนกำลังขโมยของสักหน่อย กล้าดียังไงมาพูดจาดูถูกคนอื่นแบบนี้ ต่อให้ถูกบังคับให้แต่งงานกัน แล้วเขาโกรธ แต่ก็ไม่ควรมาพูดจาทุเรศแบบนี้ ดวงตาเรียวตวัดเผลอตวัดขึ้นมองด้วยความไม่พอใจ “มองทำไมมิทราบ!” เขาถามเสียงลั่น “เปล่าค่ะ” ตอบเลี่ยง หล่อนจำต้องเก็บอารมณ์ขุ่นเคืองภายในเอาไว้ ไม่อยากมีปัญหาให้คุณท่านไม่สบายใจ “ฉันขอเตือนศศิรญา อย่าได้หวังอะไรจากฉัน ที่ฉันยอมแต่งงานกับเธอเพราะพ่อบังคับ แล้วฉันจะบอกอะไรให้อีกอย่างคนอย่างฉันแต่งได้ก็หย่าได้!” มือกำแน่นพยายามระงับความโกรธที่กำลังพลุ่งพล่าน หล่อนไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ไม่อยากทนแม้แต่วินาทีเดียว ยังไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เขากลับเอาแต่ต่อว่าถากถางดูถูกต่างๆ นานา แล้วทำไมต้องมานั่งทนกับสถานการณ์ที่หล่อนไม่ได้เป็นคนเริ่มมันขึ้นมาด้วยเล่า โทสะเข้าครอบงำตวัดสายตามอง “คุณคิดว่าตัวเองเป็นใครกันค่ะ ที่คุณมีทุกอย่างจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะพ่อของคุณ แต่แทนที่คุณจะทำให้ท่านสบายใจกลับเที่ยวไปควงผู้หญิงที่ทำให้ท่านต้องปวดหัว ความจริงการศึกษาคุณก็สูง แต่ทำไมรสนิยมคุณต่ำจังคะ!” หญิงสาวตอกกลับเขาอย่างเจ็บแสบ “เธอ!” เขาตวาดกร้าว
已经是最新一章了
加载中