ตอนที่ 462 เรื่องที่เธอกังวลมากที่สุด

ตอนที่ 462 เรื่องที่เธอกังวลมากที่สุด จิรภาสยืนอยู่ข้างเตียง ในใจเริ่มสับสน เขานึกถึงช่วงเวลาที่สวยงามในตอนที่เขาได้อยู่กับภรรยาของเขา... ปลายนิ้วของจิดาภาลูบไล้ที่หน้าอกของเขา เอ่ยเสียงอ่อนนุ่ม “ฉันเองก็ต้องการคุณค่ะ” ณ ช่วงเวลานั้น จิรภาสไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไปแล้ว ทั้งชีวิตของเขาไม่สามารถออกห่างผู้หญิงคนนี้ได้อีกแล้ว รสชาติที่หวานละมุนของเธอนั้นทำให้เขายากที่จะอดใจ ค่ำคืนแห่งความมืดที่ไร้ที่สิ้นสุด มีเพียงคนตรงข้ามเท่านั้นที่พวกเขาอยากจะออกเอาไว้ เพียงได้รับรู้ถึงไออุ่นจากอีกคน ในใจก็เริ่มรู้สึกถึงความปลอดภัย เพื่ออยู่กับจิดาภา จิรภาสทำโอทีมาตลอดหลายวัน จัดการกับตารางในบริษัทไว้เสร็จสรรพแล้ว เขาก็บินไปต่างประเทศพร้อมจิดาภา เพื่อเตรียมตัวโปรโมทภาพยนตร์ เพื่อดูแลร่างกายของจิดาภา เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จิรภาสได้เพิ่มผู้คุ้มกันเป็นสองเท่า ให้คนที่รู้เรื่องการเดินทางไปโปรโมทของจิดาภา และคนที่มารอจิดาภาที่สนามบิน ไม่สามารถเข้าไปใกล้เธอได้ จึงทำได้เพียงเก็บภาพอยู่ไกลๆ เท่านั้น ดังนั้นจึงมีคนเขียนบทความขึ้นมา สงสัยว่าจิดาภาหลงระเริงในชื่อเสียงของตัวเองหรือไม่ หยิ่งยโสจนเพิกเฉยต่อแฟนคลับ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันเกิดขึ้นหลังจากกลับมายังประเทศในตอนที่สิ้นสุดการโปรโมท ชื่อเสียงของแดนนี่ในต่างประเทศเริ่มเลื่องลือ บริษัทเอเจนซี่KKSของเขาเพิ่มลูกเล่นในการโปรโมทอย่างมากมายเพื่อผลักดันภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวอย่างเช่นบัตรจำนวนจำกัดสำหรับแฟนเอเชียของแดนนี่ นักแสดงหญิงเอเชียได้เชิญชวนเขามาเข้าร่วมด้วยกัน ด้วยความพัฒนาอย่างใกล้ชิดของภายในประเทศและตลาดภาพยนตร์ต่างประเทศ แนวโน้มของผลประโยชน์ร่วมนี้เริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้น สถานที่แรกที่กองถ่ายใช้โปรโมทชั่วฟ้าดินสลายก็คือเมืองHSที่เป็นบ้านเกิดของแดนนี่ เพื่อดึงดูดความสนใจ KKSจึงได้เชิญนักแสดงท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงมาร่วมด้วยเพื่อเป็นผู้ช่วยเหลือพิเศษให้กับแดนนี่ จิดาภาและจิรภาสก็มาถึงโรงแรมในเมืองHSล่วงหน้าหนึ่งวัน จิรภาสเป็นคนออกกำหนดการเองทั้งหมด การโปรโมทครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ความจริงนั้นมีความลับซ่อนอยู่อีกมากมาย เพื่อให้หน้าที่ในครั้งนี้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ จิดาภาได้ทำการเตรียมตัวมาเป็นอย่างมาก ในตอนที่เธอกำลังดูกำหนดการอยู่ จิรภาสก็ได้รับสายจากรุจาภา เขาเหลือบมองหมายเลข ก่อนจะเดินออกไปยังระเบียงเพื่อรับสาย รุจาภาไม่ได้โทรหาจิดาภาแต่กลับโทรหาเขา จะต้องมีเรื่องอย่างแน่นอน “คุณแม่ครับ พวกเราถึงกันแล้ว” “ดีแล้ว...” รุจาภาที่อยู่ปลายสายเงียบไปหลายวินาที ก่อนจะกล่าวขึ้น “ช่วงนี้แม่ได้ตรวจสอบของบางอย่าง ญาณิดายังไม่ล้มเลิกจะแก้แค้นเรา คอยหาคนในบริษัทมารับมือกับแม่ ทั้งยังใช้เด็กๆ พูดคุยให้ภายในบ้าน แต่แม่ยังจัดการได้” “แม่กำลังคิด ว่ายังไม่ควรเปิดเผยเรื่องที่จิดาภาตั้งครรภ์ออกไป แบบนี้จะปลอดภัยกับเธอและลูกมากกว่า” “ผมกับจิดาภาได้ปรึกษากันแล้ว ก็ตกลงกันแบบนี้เช่นกันครับ” “เช่นนั้นก็ดีแล้ว พวกเธออยู่ตรงนั้นก็ดูแลตัวเองให้ดีกันด้วย” รุจาภาถอนหายใจอย่างโล่งอก “ผมจะดูเธอและลูกให้ดีครับ แต่ทางด้านคุณแม่ต้องการให้ผมช่วยอะไรไหมครับ” “ยังไม่ต้อง แม่จัดการได้ แม่เองก็อยากจะรู้ ว่าเธอจะเป็นแม่ที่โหดร้ายได้มากขนาดไหนกัน ใช้ประโยชน์ได้แม้แต่ลูกของตัวเอง ต่อให้เธอร้องไห้ในบ้านตอนนี้ คุณท่านก็ไม่สนใจเธออีกแล้ว” รุจาภาตอบกลับ “คนบางคนให้ตายก็ไม่รู้จักการกลับตัวกลับใจ ต้องให้เธอได้ตกหน้าผาไปจริงๆเสียก่อน ถึงจะได้เรียนรู้ของบทเรียนรากเลือด” “ที่แม่โทรมา เพราะแม่กังวลที่จิดาภายังออกไปทำงานข้างนอก และยังกังวลเรื่องภายในบ้านอีกด้วย แม่กลัวว่ามันจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอ และตอนนี้เธอก็กำลังท้องอีกด้วย ช่วงท้องนี่แหละที่สำคัญที่สุด” “ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะดูแลเธอให้ดี มีผมอยู่ คุณแม่สบายใจได้ครับ” “แม่เชื่อเธอจ้ะ” คำพูดเพียงสี่คำรุจาภา ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและขอโทษขอโพย หลายปีที่ผ่านมา เธอไม่ได้ทำหน้าที่ในส่วนของคนเป็นแม่เลย ตอนนี้เมื่อเห็นว่าจิดาภามีที่พักพิงที่ดีเช่นจิรภาส เธอก็วางใจ หลังจากที่จิรภาสวางสาย ก็ยืนครุ่นคิดอยู่ข้างเตียงเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะมองในมุมใด เรื่องที่ญาณิดากลับมายังตระกูลวีรภัทรเมธี ก็ส่งผลกระทบต่อจิดาภา โดยเฉพาะเรื่องที่เธอปลอมแปลงรายงานการตรวจครรภ์ สายตาของจิรภาสเย็นเยียบ เขากดความกรุ่นโกรธเอาไว้ในใจอยู่เสมอ ความจริงเขาเองก็ส่งคนไปจับตามองการตรวจร่างกายของญาณิดาอยู่ตลอด หากเธอกล้าลงมือกับจิดาภาและรุจาภาอีกครั้ง... เขาจะสั่งให้เธอรู้จัดการเจ็บจนถึงกระดูก เช้าถัดมา จิรภาสได้กำหนดการทีมหนึ่งขึ้นมาติดตามจิดาภาไปยังงานโปรโมทด้วยกัน เริ่มเตรียมการแต่งหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้า ถึงแม้จิดาภาจะผ่านมาเพียงไม่กี่เดือนก็ตาม การปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้าสื่อภาพยนตร์ ยุโรปและอเมริกา จิรภาสรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่สำคัญมาก จิดาภามีประสบการณ์การทำงานมาอย่างมากมาย ตอนนี้ก็กักเก็บประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ของเธอได้นั้นได้ฝึกฝนจนมั่นคงยิ่งขึ้น ในตอนที่ช่างแต่งหน้าถามเธอว่าวันนี้ต้องการสไตล์แบบไหน จิดาภาก็ใช้ภาษาอังกฤษตอบไปอย่างฉะฉาน “เสื้อผ้าได้ถูกตระเตรียมไว้แล้ว การแต่งหน้าและเครื่องประดับก็อ้างอิงตามเสื้อผ้าได้เลย” ช่างแต่งหน้าเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่ผู้ช่วยยกมา ก็ชะงักและเอ่ยชื่นชม “สวยมาก เหมาะกับคุณจริงๆ” ชุดกี่เพ้าสีขาวที่สง่างาม เพื่อรวมกับการออกแบบย้อนยุคเล็กๆ น้อยๆ และคอปกเสื้อที่ประดับด้วยไข่มุกสีดำแล้ว ต้องเป็นที่จับตามองอย่างแน่นอน เมื่อรวมกับเครื่องหน้าทั้งห้าของจิดาภา ในหัวของช่างแต่งหน้าก็ได้จินตนาการไปแล้ว ว่าวันนี้จิดาภาจะเป็นที่ตื่นตาตื่นใจผู้คนขนาดไหน ที่จิดาภาเลือกกี่เพ้านั้นมีอยู่สองเหตุผล เหตุผลที่หนึ่งคือกี่เพ้าชุดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนท้องของเธอที่เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย และอีกเหตุผลก็เพื่อช่วยท่านจิรชยาสานต่อลมหายใจ จิรภาสรู้เรื่องการเตรียมการของเธออยู่ก่อนแล้ว ถึงแม้ในใจของเขาและท่านจิรชยาจะไม่ค่อยเห็นด้วย คิดว่าความร่วมมือทางธุรกิจนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของพรมแดน แต่หากจิดาภาจะทำเช่นนี้ เขาก็จะไม่ห้าม และเขาเชื่อไม่ว่าจิดาภาจะสวมชุดอะไร ก็เป็นราชินีที่ดึงดูดสายตาอย่างแน่นอน เพียงแต่วงการภาพยนตร์ ยุโรปและอเมริกาในช่วงนี้มีดวงดาวที่เกิดใหม่อย่างมากมาย คุณภาพของภาพยนตร์จึงยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงนี้จิดาภามีเพียงเรื่องส่วนความทรงจำเท่านั้นที่กำลังฉายในต่างประเทศ ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่ติดปาก แต่ในวงการภาพยนตร์ ยุโรปและอเมริกา มันเป็นเรื่องปกติที่เธอจะถูกมองข้ามจากคนมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ หากในเวลานี้เปลี่ยนเป็นคนอื่น อาจจะแพ้ไปแล้วก็ได้ แต่จิดาภาไม่เคยแพ้ วันนั้นเวลาบ่ายโมง กิจกรรมอย่างเป็นทางการได้เข้าสู่ขั้นเตรียมการแล้ว เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง ดาราภาพยนตร์ที่ได้รับเชิญต่างก็ทยอยเข้างานกันเรื่อยๆ การประชันบนพรมแดงเพื่อดึงดูดผู้ชม รถลีมูซีนที่จิดาภาและจิรภาสนั่งมาก็หยุดลงที่หัวแถวของพรมแดง จิรภาสสวมสูทสีอ่อน เผยท่วงท่าสง่างามที่น่าดึงดูด เรียกสายตาของนักข่าวไปถ้วนหน้า เขาหันหลังกลับ เปิดประตูรถ ยื่นแขนออกไป เพื่อให้จิดาภาจับเขาแล้วลงจากรถมา นักข่าวที่ยกกล้องขึ้นมาก็วางลงอีกครั้ง “ผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน” “พาร์ทเนอร์ของแดนนี่หรือไม่ นางเองคนนั้น” นักข่าวต่างใช้ภาษาอังกฤษพูดคุยกัน ในความทรงจำของพวกเขาไม่มีจิดาภาอยู่เลย และในตอนที่บริษัทเอเจนซี่KKSของแดนนี่ทำการโปรโมท ก็ผลักดันเพียงแดนนี่เท่านั้น