ตอนที่ 468 นักเขียนบทผู้ลึกลับ

ตอนที่ 468 นักเขียนบทผู้ลึกลับ ในมือของแฟนคลับต่างมีแท่งไฟ เพื่อทำภาพถ่ายสุดพิเศษขึ้นมา ทั้งห้องส่งนั้นเต็มไปด้วยชื่อของจิดาภา... ทุกคนนั้นชอบจิดาภาจากใจจริงถึงได้มานั่งอยู่ ณ ที่นี้ พวกเธอจำนวนมากนั้นเป็นคู่จิ้นของจิดาภาและจิรภาส เพราะประธานจิรภาสสุดเย็นชานั้นรักจิดาภาอย่างมากมาย และคอยปกป้องจิดาภาเป็นอย่างดี หลังจากที่จิดาภาขึ้นมานั่งประจำที่บนเวที เจ้าหน้าที่ต่างก็ปรับแสงสีเสียงของสถานที่ พิธีกรลินดาได้ยินเสียงของผู้กำกับดังมาตามหูฟัง เพื่อส่งสัญญาณว่าจะเริ่มขึ้นแล้ว พิธีกรหันมาพูดกับจิดาภา “เตรียมพร้อมหรือยังคะ พวกเราจะเริ่มแล้ว” จิดาภาพยักหน้าและยิ้มรับ เพราะรายการนี้นั้นได้รับความนิยมภายในประเทศเป็นอย่างมากในช่วงนี้ ทั้งแอร์ไทม์ทองคำ และครั้งนี้แขกรับเชิญพิเศษที่เชิญมาสัมภาษณ์ยังเป็นจิดาภาแล้วด้วย เรตติ้งรายการจึงพุ่งสูงขึ้นในทันพลัน “แขกรับเชิญของรายการเราในวันนี้ เป็นนักแสดงที่ตั้งใจ และยอดเยี่ยมคนหนึ่ง” “แม้จะเคยมีช่วงเวลาที่เงียบหายไปจากวงการบันเทิง แต่เมื่อกลับมาอีกครั้ง เปลี่ยนสังกัดใหม่ แต่ก็ยังพบเจอกับอุปสรรคอย่างมากมาย ผู้คนมากมายต่างสงสัยในทักษะการแสดงของเธอ คิดว่าเธอนั้นไม่เหมาะกับกระแสของวงการบันเทิงในปัจจุบันนี้ ทั้งยังมีคนใส่ร้ายเพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอบนโซเชียล” “แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะเผชิญหน้ากับมันด้วยท่าทีสงบนิ่ง ใช้ทักษะการแสดงและความสามารถที่แท้จริงของตัวเองเป็นหลักฐานพิสูจน์ความจริง” “ตอนนี้ถือได้ว่าเธอเป็นนักแสดงหญิงชั้นนำของประเทศ ความนิยมที่ล้นหลาม และยังมีภาพยนตร์เรื่องใหม่อีกสองเรื่องที่กำลังจะเข้าฉายอีกด้วย” “ขอให้ทุกคนปรบมือต้อนรับ จิดาภา” กล้องแพนไปยังจิดาภา เธอนั่งอยู่ที่โซฟา ยิ้มรับกล้องและผู้ชมที่นั่งอยู่เบื้องล่างเวที พิธีกรแย้มยิ้มพร้อมเอ่ยถามจิดาภา “ต้องโปรโมทภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องเลย ช่วงนี้คงงานยุ่งมากใช่ไหมคะ” “โชคดีที่ฉันยังพอรับมือกับงานที่หนักหนานี้ได้อยู่” จิดาภาตอบยิ้มๆ ด้วยท่าทีสุภาพและจริงใจ “ความจริง ฉันต้องขอบอกกับทุกคนในที่นี้เลยนะคะ พวกเราได้เชิญจิดาภามาเป็นแขกรับเชิญนานแล้วค่ะ แต่ตารางงานของเธอนั้นหาช่องว่างได้ยากมาก ตั้งแต่ที่เธอเริ่มถ่ายทำส่วนความทรงจำ เธอก็ได้พักผ่อนน้อยมาก ภายใต้การทำงานที่มีแรงกดดันสูง เธอก็ยังรับบทนางเอกภาพยนตร์ถึงสองเรื่อง” “ฉันจึงอยากขอถามแทนทุกๆ คน ว่าในสามตัวละครนี้ คุณชอบตัวไหนมากที่สุดคะ” “ชอบที่สุดก็คงเป็นตัวละครในเรื่องส่วนความทรงจำค่ะ เพราะเป็นเรื่องราวที่ฉันชอบมากที่สุด” “นักเขียนบทของภาพยนตร์เรื่องนี้คือใครคะ เรื่องนี้ยังเป็นความลับมาโดยตลอดเลยนะคะ” พิธีกรยังคงไล่ถาม จิดาภายิ้มยามมองลงไปข้างล่างเวที ราวกับกำลังขอความช่วยเหลือจากทุกคนที่อยู่ข้างล่าง แต่สายตาของเธอนั้นหยุดอยู่ที่ใบหน้าของจิรภาส เธอไม่สามารถเลี่ยงคำสถามของพิธีกรได้ จึงบอกได้เพียงคำใบ้เท่านั้น จิรภาสเพียงมองเธออย่างเอ็นดูโดยไม่ได้ตอบกลับอะไร ราวกับกำลังบอกว่า สิ่งที่เธอคิดอยู่นั้นสามารถบอกออกไปได้ตลอดเวลา จิดาภาหันกลับไปพร้อมยิ้มอย่างบางเบา “ความจริงชื่อของเขาอยู่ที่ตอนท้ายของภาพยนตร์แล้วค่ะ” “ความจริง ทุกคนเองก็พอจะเดากันได้...” ทุกคนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างมีท่าทีอยากรู้อยากเห็นกับคำถามนี้ พิธีกรเองก็คิดเช่นเดียวกัน อย่างไรวิธีการเล่าเรื่องของนักเขียนคนนี้สดใหม่นัก มีความคิดที่แปลกแยกไปจากนักเขียนบทที่มีชื่อเสียงภายในประเทศเป็นอย่างมาก ต่อให้เป็นนักเขียนผู้โด่งดังที่อยากเปลี่ยนแนว ก็ยังดูไม่น่าเป็นไปได้ พิธีกรเมื่อเห็นว่าผู้ชมไม่สามารถทายกันออก เธอเองก็ไม่มีตัวเลือกในใจเช่นกัน จึงได้แต่ขอร้องจิดาภา “บอกพวกเราเถอะค่ะ อยากรู้กันมากจริงๆ นะคะ” จิดาภายิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะบอกใบ้อีกครั้ง “เขาเป็นคนที่เห็นฉันสำคัญมากที่สุด...” แฟนคลับเบื้องล่างตะโกนขึ้นมาเสียงดัง “ประธานจิรภาส ท่านประธานจิรภาสใช่ไหมคะ” พิธีกรถึงกับตื่นตะลึงที่ได้ยินคำตอบเช่นนั้น ก่อนจะหันมาหาจิดาภา แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีส่ายหน้าเช่นกัน จึงเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น “เป็นท่านประธานจิรภาสจริงๆ หรือคะ” จิดาภายิ้มอย่างมีความสุข มองพิธีกร และมองไปยังแฟนคลับที่อยู่เบื้องล่าง ก่อนจะพยักหน้า “พระเจ้า เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับรายการของเราในวันนี้เลยค่ะ” พิธีกรตื่นเต้นจนแทบจะลุกขึ้นยืน “ทุกคนคะ คิดไม่ถึงเลยว่าผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องส่วนความทรงจำจะเป็นผลงานของท่านประธานจิรภาสนั้นเองคะ” “ค่ะ ตอนที่ฉันได้เห็นสคริปต์ครั้งแรก ก็รู้สึกชอบมาก และชื่นชมนักเขียนเป็นอย่างมากค่ะ” จิดาภาไม่สามารถหุบยิ้มได้ ริมฝีปากยังคงวาดยิ้มค้างไว้อยู่ เธอแค่ต้องการอวด ให้ทุกคนได้รู้ว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่สามีของเธอทำไม่ได้ ความคืบหน้าของรายการสัมภาษณ์ ทำให้บรรยากาศในห้องส่งอบอุ่นยิ่งขึ้น ผู้ชมต่างกระตือรือร้นอย่างถึงขีดสุด... แต่ในตอนที่กำลังถ่ายทำรายการนั้น ก็ได้มีรูปภาพและคลิปยาวสิบสองวินาทีเผยแพร่ขึ้นในโซเชียล เป็นภาพถ่ายโรงแรมที่จิดาภาเข้าพักตอนไปโปรโมทที่ต่างประเทศ จากมุมที่ถ่ายนั้น น่าจะเป็นการแอบถ่าย บนรูป จิดาภากำลังพูดคุยอย่างสนุกสนานกับผู้กำกับชาวต่างชาติหลายท่าน แต่จับภาพจิรภาสในสถานที่นั้นไม่ได้ นี่เป็นหลักฐานได้หรือไม่ ว่าแท้จริงแล้วจิดาภานั้นเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ถึงแม้จะบอกว่าปฏิเสธคำเชิญของอีกฝ่ายไปแล้ว แต่ก็ยังหว่านแหเพื่อหวังผลระยะยาวเช่นกัน “ปลอม เป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาทั้งนั้น คิดว่าเธอนั้นจะหยิ่งทระนงจนปฏิเสธคำเชิญเหล่านั้น แต่มาดูในตอนนี้เพียงเพื่อหลอกลวงแฟนคลับทั้งนั้น” “ไม่รู้ว่าผู้กำกับมอบอะไรให้แก่เธอกัน แต่น่าจะได้ราคาที่สูงแน่นอน” “หากจิดาภารับคำเชิญของอีกฝ่ายตั้งแต่แรก แฟนคลับก็คงจะไม่ว่าอะไร แต่เธอกลับหลอกลวงเพื่อสร้างสถานการณ์ที่ใหญ่ยิ่งขึ้น ควรอย่างนั้นหรือ” “คาดว่าอีกไม่นาน เดี๋ยวรูปโปรโมทของทางภาพยนตร์ต่างประเทศก็คงถูกเผยแพร่” “พวกเธอไม่คิดว่าเธอจะก้าวร้าวไปหน่อยหรือ ดูสิ นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของเธอ ใบหน้าที่แสนดีก็แค่หน้ากากเท่านั้น อย่างไรเธอก็เป็นนักแสดง มีอะไรที่แสดงไม่ได้กัน” ข่าวลือเหล่านี้เกือบครึ่งเป็นคนในวงการทั้งนั้นที่ออกมาโพสต์ ถึงแม้ชื่อเสียงของพวกเขาไม่สูง แต่ก็ยังมีแฟนคลับที่คอยติดตามพวกเขาอยู่ และยังเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากที่นักแสดงจะรวมตัวกันเพื่อใส่ร้ายศิลปินด้วยกัน ดังนั้นเพียงไม่นานจิดาภาก็ได้กลับมาเป็นอันดับหนึ่งของยอดการค้นหาอีกครั้ง และยังสาดน้ำสกปรกนี้ใส่อย่างโหดร้าย ราวกับหลักฐานชั้นดีที่สุดได้มาอยู่เบื้องหน้าแล้ว ใครมันจะเมินเฉยผลประโยชน์ที่อยู่เบื้องหน้านี้ได้กัน ในตอนแรกที่จิดาภาออกมาบอกเช่นนั้น นักแสดงหลายคนต่างก็ขบขันเธอ ใครๆ ก็คิดกันทั้งนั้นว่าจิดาภากำลังหยอกล้อกับแฟนคลับ สุดท้ายก็จะออกมาขอโทษ แล้วบอกว่าเป็นกำหนดการของบริษัท... แต่ในขณะเดียวกันนั้นเธอก็จะได้รับความนิยมที่มากพอจากแฟนคลับ ในตอนนี้ที่คลิปได้ถูกเผยแพร่ออกไป เป็นเพียงการโฆษณา หน้าซื่อใจคด คำใส่ร้ายป้ายสีทั้งหมดนั้นตกอยู่ที่ตัวจิดาภา ศิลปินหลายคนต่างออกนอกหน้ากันว่าจะรอวันที่โปสเตอร์ของภาพยนตร์ออกมาตอกหน้าจิดาภา หากจิดาภาเป็นเช่นนั้นจริงๆ การหันหน้าไปรับแสดงกับผู้กำกับยุโรปและอเมริกา ย่อมต้องถูกนักข่าวและแอนตี้ไล่บี้อย่างแน่นอน แฟนคลับของเธอก็คงจะเลิกชอบเธอไปเพราะเหตุผลเช่นนี้เหมือนกัน อีกทั้งศิลปินที่มารวมตัวกันเพื่อฉีกหน้าเธอนั้นยังมาจากเอเจนซี่ที่ต่างกันอีกด้วย...