ตอนที่ 469 พักงาน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 469 พักงาน
ตอนที่ 469 พักงาน โดยเร็วก็มาถึงช่วงคั่นเวลาของรายการ ทางผู้กำกับเองก็ตามติดการเคลื่อนไหวของโซเชียลเพื่อจับประเด็นร้อนของวงการ หลังจากที่ผู้กำกับและพิธีกรหารือกันแล้วก็ตัดสินใจเพิ่มเนื้อหาสัมภาษณ์ใหม่อย่างกะทันหัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับแผนงานผลงานชิ้นใหม่ของจิดาภา เมื่อเป็นเช่นนี้รายการของพวกเขาย่อมใช้โอกาสที่ดีเช่นนี้ในการสัมภาษณ์ จนถึงช่วงต่อไปของการสัมภาษณ์ ใบหน้าของพิธีกรนั้นประดับด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่ได้มีความจริงใจสักนิด “จิดาภาสำหรับงานต่อไปได้กำหนดไว้อย่างไรหรือคะ ไม่ทราบว่าตอนนี้มีแผนงานของผลงานชิ้นใหม่แล้วหรือยังคะ” จิดาภารู้ดีว่านี้ไม่ใช่คำถามเดิมที่ได้เตรียมไว้ ดังนั้นจึงคาดเดาได้ว่าข้างนอกจะต้องมีเรื่องซุบซิบอะไรอีกแน่ เธอพยักหน้าอย่างจริงจัง “ตอนนี้ได้มีแผนไว้แล้วค่ะ” “เช่นนั้นพอจะแง้มให้ฟังได้หรือไม่คะ เพราะทุกคนต่างกังวลใจกับสถานการณ์ของคุณในตอนนี้กัน” พิธีกรเอ่ยถามอีกครั้ง จิดาภาไม่ได้คิดจะปิดบัง จึงเอ่ยไปตามตรง “ฉันคิดว่าคุณไม่ได้กำลังถามสถานการณ์ในปัจจุบันของฉันหรอกค่ะ แต่คุณอยากรู้มากกว่าว่าฉันนั้นได้ตอบรับคำเชิญของผู้กำกับยุโรปและอเมริกาหรือไม่” “เรื่องนั้น...” พิธีกรรู้สึกอับอาย “คุณพิธีกรคงคิดว่าฉันนั้นได้เซ็นสัญญากับทางเขาแล้ว แต่ที่ทำท่าทีปฏิเสธก็เพื่อโปรโมทภาพยนตร์อย่างนั้นใช่หรือไม่คะ” จิดาภากลายมาเป็นพิธีกรเสียเอง ใบหน้ายิ้มนั้นเต็มไปด้วยรังสีฟาดฟัน “ข่าวลือข้างนอกนั้นเยอะมากเลยค่ะ ดังนั้น...” พิธีกรที่ถูกจิดาภาถามเช่นนี้ก็อดที่จะหน้าแดงไม่ได้ “ความจริงมันก็ไม่มีอะไรค่ะ ฉันรู้ว่ารายการทอร์คโชว์นี้จัดขึ้นเพื่อลอกเนื้อแท้ของศิลปินออกมา ฉันเพิ่งจะบอกความลับเรื่องที่สามีของฉันเป็นผู้เขียนบทของส่วนความทรงจำออกไป และไม่ได้มีเหตุผลอื่นใดให้ต้องปิดบังทุกคน” พิธีกรที่เห็นจิดาภากล่าวอย่างจริงจัง ไม่เหมือนว่ากำลังล้อเล่นอยู่ และจิรภาสที่นั่งอยู่เบื้องล่างของเวที แต่มั่นคงราวกับภูเขา ไม่ได้ใช้อำนาจมาแทรกแซงผู้กำกับ และปล่อยให้คำถามนี้ยังคงถามต่อไป เพราะจิดาภานั้นตรงไปตรงมา เมื่อผู้ชมและคนบนโซเชียลที่เห็นท่าทางจริงใจของเธอจากคลิปที่แฟนคลับของเธอเผยแพร่มา ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะได้ข้อสรุปโดยเร็วแล้ว ทันใดนั้นเองทีมผู้กำกับก็เคลื่อนไหวลำบาก ทำได้เพียงโพสต์ความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในโซเชียลขึ้นจอใหญ่ในห้องส่งเท่านั้น กล่าวได้ว่าความคิดเห็นและคำตอบในโซเชียลของวันนี้ เพิ่งจะเคยโผล่ขึ้นมาตรงหน้าของจิดาภาเป็นครั้งแรก เธอไม่เคยพูดคุยกับผู้จัดการของตัวเองในเรื่องนี้เป็นแน่ นี่คือการเผชิญหน้าเพียงลำพัง เรียกได้ว่านี่ถือเป็นรายการทอร์คโชว์ที่เล่นได้ยากที่สุดในประเทศ พิธีกรผลักการ์ดคำถามออกไป และเริ่มถามอย่างอิสระ เธอส่งสัญญาณให้กับผู้ชมที่อยู่ทางหน้าจอ แล้วจึงกล่าวกับจิดาภา “ยี่สิบนาทีก่อนหน้านี้ มีคลิปหนึ่งถูกเผยแพร่บนโซเชียล เป็นคลิปที่คุณและผู้กำกับไม่กี่คนจากทางยุโรปและอเมริกากำลังพูดคุยกัน” “ดังนั้นจึงมีคนเดาว่า เรื่องที่คุณเคยปฏิเสธคำชวนของผู้กำกับยุโรปและอเมริกา เป็นเพียงเรื่องหลอกลวงเท่านั้น” “ตอนนี้ศิลปินมากกว่ายี่สิบท่านรวมตัวกันออกมาบอกว่าคุณหลอกลวง คุณคิดว่าอย่างไรบ้างคะ” จิดาภารู้สึกว่าวิธีการของคนเหล่านี้ตลกจริงๆ “ฉันไม่สนใจเรื่องที่ไม่มีอยู่จริงหรอกค่ะ ฉันเพียงอยากถาม พวกเขาใช้คลิปที่มีความยาวเพียงสิบวินาทีกว่ามากล่าวหาว่าฉันกำลังหลอกลวงหรือคะ เช่นนั้นก็หมายความว่าทุกคนที่ได้พบเจอกับผู้กำกับเหล่านี้ จะได้แสดงภาพยนตร์เรื่องใหม่ของพวกเขาใช่ไหมคะ” พิธีกรพยักหน้า สิ่งที่จิดาภาพูดมานั้นก็สมเหตุสมผลอยู่ “แต่ในตอนนี้ชื่อของคุณขึ้นเป็นอันดับที่หนึ่งของยอดการค้นหาแล้วนะคะ ขอถามหน่อยค่ะ ว่าคุณเตรียมตัวรับมือกับความกดดันนี้อย่างไรหรือคะ” ความจริงบนหัวของพิธีกรนั้นก็มีเหงื่อเย็นๆ ไหลซึมออกมา เพราะเธอรับรู้ถึงสายตาเย็นชาที่มาจากจิรภาสแล้ว “หรือคุณอยากให้ติดต่อหาศิลปินหนึ่งในนี้ภายในเดี๋ยวนี้เลยดีคะ” จิดาภาไม่มีท่าทีลังเล “ได้ค่ะ” ผู้กำกับนำช่องทางติดต่อได้จริงของใครหลายคนออกมา และให้พิธีกรติดต่อได้ตามใจ บอกได้เลยว่าความลับของเรื่องนี้อย่างไรก็จะถูกเปิดเผยออกไปแล้ว และใครกันแน่ที่กำลังพูดคำลวง ตรวจสอบให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย ที่จิดาภากล้าทำเช่นนี้รายการถ่ายทอดสด นั่นหมายความว่าเธอไม่ได้กลัว และยังกล้าหาญมากไม่ใช่หรือ หรือกล่าวได้ว่าเค.เอฟได้มีการเตรียมหนทางถอยไว้แล้วในช่วงก่อนที่รายการจะออกอากาศ ทั้งหมดรอเพียงรับสายเท่านั้น ผลลัพธ์จึงจะออกมาได้ สายแรกไม่มีใครรับ หลังจากสายที่สองดังขึ้น เมื่อเห็นสัญญาณจากพิธีกรก็วางสายลงในทันที พวกเขาสามารถตำหนิจิดาภาบนโซเชียลได้ แต่ต้องให้มีใครสักคนยืนขึ้นมาเพื่อตั้งคำถาม เท่ากับคนๆนั้นต้องรับผิดชอบ พวกเขาไม่มีหลักฐาน จึงได้สามารถมั่นใจได้ หลังจากนั้นแฟนคลับที่สถานีโทรทัศน์เริ่มไม่พอใจ ส่วนหนึ่งคิดปกป้องจิดาภา อีกส่วนหนึ่งคิดว่าจิดาภาได้วางแผนมาทั้งหมดแล้ว บรรยากาศในห้องส่งนั้นเกิดความแตกต่างที่มากมายในทันที จิดาภาเพียงนั่งอยู่เงียบๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแค่มีท่าทีจนใจยามที่ถูกวางสายจากปลายสายเท่านั้น “ความจริงที่ฉันมาร่วมรายการในวันนี้ ก็เพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องการจะบอกกับทุกคน” ทันใดนั้นเรตติ้งของรายการก็พุ่งขึ้นสูงในทันทีที่จิดาภาพูดแบบนั้นออกมา การถ่ายทอดสดของรายการดังระเบิดในทันที ชาวโซเชียลต่างก็ออกมาโจมตีอย่างรวดเร็ว “ว้าว กำลังจะยอมรับเรื่องที่เซ็นสัญญาแล้วใช่หรือไม่” “เดาว่าเธอคงเห็นว่าปิดบังต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงต้องออกมายอมรับเสีย ไม่รู้ว่าฝั่งเค.เอฟหมายถึงอะไรกัน” “ในฐานะแฟนคลับของเธอ ฉันรู้สึกเสียหน้ามาก ต่อไปคงไม่ตามผลงานของเธออีกแล้ว” “ศิลปินแบบนี้ไม่มีค่าพอให้ขึ้นจอด้วยซ้ำ ขอเชิญจิดาภาออกจากวงการบันเทิงค่ะ” “ครั้งนี้เธอคงพังอย่างแท้จริง เค.เอฟเองก็คงถึงทางตัน การที่ให้เธอออกรายการนี้ในเวลาแบบนี้ เป็นเพราะอำนาจของบริษัทเลยคิดว่าคงไม่มีใครกล้าพูดความจริงใช่หรือไม่” ในตอนที่ทุกคนต่างคิดกันว่าจิดาภาไม่สามารถถอยได้แล้ว เมื่อถูกบีบบังคับจนหมดหนทาง จึงต้องออกมายอมรับว่าได้เซ็นสัญญาแสดงภาพยนตร์กับทางผู้กำกับของยุโรปและอเมริกาไปแล้ว ทันในนั้นจิดาภาที่ถูกสัมภาษณ์อยู่บนเวทีก็ยิ้มและลุกขึ้นยืน มองไปยังแฟนคลับที่อยู่เบื้องล่างเวทีก่อนจะก้มหัวให้ด้วยความซาบซึ้ง “ขอขอบคุณการสนับสนุนและความช่วยเหลือที่ทุกคนมีให้แก่ฉัน ตอนนี้ฉันได้ตัดสินใจแล้ว และเหตุผลที่ฉันทำเช่นนี้ก็เพื่อครอบครัวของฉัน ฉันจึงต้องทำ” นี่คืออะไร ล้างบาปอย่างนั้นหรือ จิดาภาหันไปมองกล้องด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ฉันรู้ว่าในตอนนี้มีคนเข้าใจฉันผิดอยู่มาก รู้สึกว่าฉันคงได้ทำเรื่องที่ไม่เหมาะสมลงไป และคงกำลังรอฉันหน้าแตกอยู่อีกฟากของหน้าจอ รอเห็นบริษัทของฉันพ่ายแพ้ แต่ฉันในตอนนี้ขอใช้โอกาสจากรายการนี้เพื่อบอกกับทุกคน...” “ฉันจิดาภาขอประกาศให้ทราบ นับตั้งแต่วันนี้ไป ฉันขอพักงานอย่างไม่มีกำหนดค่ะ” อะไรนะ พักงานรึ แต่เดิมจิดาภาไม่ได้ถูกกดดันจนหมดหนทาง จนต้องออกมายอมรับข่าวลือนั้น แต่กลับ... เพียงประโยคเดียว ก็ฆ่าศิลปินที่ต้องการจะใส่ร้ายเธอได้ในทันที ยังมีวิธีไหนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดจบลงได้มากกว่าพักงานอีกหรือ
已经是最新一章了
加载中