บทที่ 14 คนทั้งสองจะต้องแอบคบกัน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 14 คนทั้งสองจะต้องแอบคบกัน
บทที่ 14 คนทั้งสองจะต้องแอบคบกัน เวลานี้ทั้งคู่กำลังประคองชีวิตคู่ให้รอดอย่างหยิ่งผยองไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของแขกผู้มาร่วมงาน แต่กลับเพียงพอต่อการดึงดูดให้มีการสืบเสาะไปจนถึงรากอย่างมากมาย สายตาที่ซับซ้อนเป็นอย่างยิ่งของจิ่งเจิ้นหง เขาเพียงแค่มีใบหน้าที่ยิ้ม อีกทั้งก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทายกับโห้จูนถิง ผลสุดท้ายโห้จูนถิงแม้แต่มองก็ไม่ได้มอง เธอเปลี่ยนทิศทางวิ่งไปกระซิบกับจิ่งซี เขาชำเลืองมองความสนิทสนมของทั้งสองคนนั้น ความสัมพันธ์เห็นได้ชัดว่าไม่ธรรมดา สีหน้าของจิ่งเจิ้นหงอดไม่ได้ที่จะมีความไม่น่าดูอยู่บ้าง เมื่อตะกี้เขาแนะนำจิ่งซีให้ไปรู้จักกับหลิวอี่เฉิน เป้าหมายที่สำคัญก็เพื่อโครงการในมือโครงการหนึ่งของบริษัทจิ่งซื่อ โครงการนั้นได้ใช้เงินทุนของบริษัทไปเป็นส่วนมากแล้ว แต่กลับอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของความคับขันเร่งด่วน ไม่สามารถที่จะพัฒนาขยายให้กว้างออกไป ตอนนี้บริษัทจิ่งซื่อได้จมดิ่งตกอยู่ในวิกฤตการณ์ขาดแคลนเงินทุน เดิมทีเขาต้องการสัมพันธ์กันกับหลิวอี่เฉินทางเส้นนั้น แต่คิดไม่ถึงว่าจิ่งซีกลับไม่ให้ความร่วมมือ ชั่วพริบตาเดียวกลับไปยืนอยู่ด้วยกันกับโห้จูนถิง จิ่งเจิ้นหงได้เปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็ว ตรงหน้าผากมีเหงื่อไหล และมองจิ่งซีด้วยสายตาที่มีการประณาม หากว่าเธอสามารถบอกเขาเร็วหน่อยว่าเธอรู้จักกับโห้จูนถิง เขาก็จะไม่ลากเธอไปรู้จักอะไรกับหลิวอี่เฉิน หลิวอี่เฉินหนึ่งร้อยคน เกรงว่าก็ไม่อาจชนกับโห้จูนถิงได้ เวลานี้เห้อซู่เหลากับพ่อของเขาเห้อจ่างเผิง ก็ได้สติตามกันมา บนใบหน้านั้นมีความประหลาดใจอย่างงุนงงเหมือนกัน ทำไมพวกเขาถึงคาดการณ์ไม่ถึง นึกไม่ถึงเลยว่าจิ่งซีจะรู้จักกับโห้จูนถิงบุคคลที่มีชื่อเสียงแบบนี้ เพียงแต่ว่าได้มีท่าทีโต้ตอบที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่ามันเป็นของจิ่งหรง สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงได้มองไปยังจิ่งซีที่คิดว่าอยู่ในอ้อมอกของโห้จูนถิงอย่างไม่เชื่อโดยสิ้นเชิง นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง? เธอไม่ง่ายเลยถึงจะพูดปลอบใจพ่อได้ ให้นำจิ่งซีแต่งให้กับหลิวอี่เฉิน คนที่มีแนวโน้มของความหงุดหงิดง่ายจนเกิดเหตุการณ์รุนแรงคนนั้น ทำไมแค่ครึ่งทางก็มีโห้จูนถิงโผล่ออกมาได้? จิ่งซีเขาเป็นแค่ผู้หญิงถูกทิ้งคนหนึ่งที่ถูกเธอเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้าจนตาย ทำไมถึงรู้จักกับโห้จูนถิงคนที่มีชื่อเสียงสูงส่งแบบนี้? ความคิดของกลุ่มคนได้เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่มีคนรู้ถึงอารมณ์ของจิ่งซี เธอถูกโห้จูนถิงอุ้มอยู่ในอ้อมอก ไม่สามารถดิ้นหลุดได้ อย่าเอ่ยถึงว่ามีความอึดอัดแค่ไหน อีกทั้งด้านข้างก็ยังมีคนมองมากมายขนาดนั้น เป็นภาพท่าทางว่าพวกเขาจะต้องแอบคบกันแน่ๆ ก่อนหน้านี้เธอก็เคยพบเขาครั้งหนึ่งอย่างชัดเจน! “ฉันไม่ดิ้นก็คงได้แล้วเถอะ เธออย่าเข้ามาใกล้ฉันแบบนี้” จิ่งซี พูดพร้อมมีใบหน้าที่ร้อนขึ้น ปกติเธอน้อยมากที่จะอยู่ใกล้กับร่างกายของผู้ชาย เธอมีสภาพจิตใจเคร่งเครียด ที่สำคัญก็คือบนตัวของผู้ชายคนนี้ ที่สามารถแจกจ่ายฮอร์โมนของเพศชายได้อยู่ตลอดเวลา บีบบังคับจนลมหายใจของเธอมีความถี่กระชั้น ดูเหมือนว่าโห้จูนถิงจะพอใจมากกับความประนีประนอมของเธอ ช่วยไม่ได้ที่จะตบไปที่แก้มของเธอเบาๆ: “นี่ถึงเชื่อฟัง” เสียงที่ไม่ดังไม่เบา แต่กลับเพียงพอที่จะให้ทุกคนในสถานที่นี้ได้ยิน บวกเพิ่มไปกับที่เขามีท่วงท่าตีหน้าเบาๆ ก็เหมือนกับการหยอกเล่นกันของคู่รัก กลุ่มสตรีที่มีชื่อเสียงที่ร่ำรวยที่ดูอยู่ด้านข้างก็ได้มีความอิจฉาริษยาไม่น้อย นั่นคือโห้จูนถิงเลยนะ! ผู้หญิงที่ต้องการแต่งงานกับเขาทั้งเมืองจิ้น เหมือนกับคนมากมายที่ตามกระแสนิยม ตอนนี้กลับมีการกระทำแบบนั้นต่อจิ่งซีออกมา! อยู่ในช่วงเวลาที่ทุกคนมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา แต่จิ่งซีกลับไม่รู้สึกดีใจขึ้นมาเลยสักนิด ทำไมเธอถึงไปยั่วโห้จูนถิงล่ะ? ผู้ชายคนนี้เป็นตัวแทนในตำแหน่งของอำนาจและอิทธิพลทั้งหมด ทุกคนที่อยู่ในลานกว้างต่างก็ไร้ปัญญาที่จะมีความคล้ายคลึงได้ ก่อนหน้านี้ทำไมเธอถึงรนหาที่ตายวิ่งขึ้นไปบนรถของเขา อีกทั้งยังอวดดีอย่างมากไม่ลงมา? ความคิดของเธอได้ถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นหางตาก็มองเห็นคนของตระกูลเห้อและตระกูลจิ่งทั้งสองบ้าน เธอเห็นเพียงสายตาที่ซับซ้อนของจิ่งเจิ้นหงจ้องมองมายังเธอ อีกทั้งในแววตาของเห้อซู่เหลากับจิ่งหรงต่างก็มีความไม่เข้าใจกับความยากที่จะเชื่อ จิ่งซีได้เห็นอยู่ภายใต้สายตาทั้งหมด ก้นบึ้งของหัวใจก็ได้มีการระบายความโกรธลงบ้าง เกรงว่าพวกเขาแค่ฝันก็ยังคิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้จักกับโห้จูนถิงใช่ไหม? แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยสนิทกับผู้ชายคนนี้ แต่ว่าช่วงเวลาสั้นๆนี้ จิ่งซีกลับได้เกิดความคิดที่จะยืมความความรู้สึกในใจที่น่าเกรงขามของเขา เธอได้เปลี่ยนใจ มือเท้าทั้งสี่และร่างกายได้มีการกระทำออกมาแล้ว เธออิงไปบนตัวของโห้จูนถิงโดยตรง ดูเหมือนว่าโห้จูนถิงจะมีความแปลกใจอยู่บ้าง นัยน์ตาดำช่วยไม่ได้ที่จะดูเธออย่างละเอียดถี่ถ้วนไปชั่วขณะหนึ่ง ฉลาดเฉียบแหลมอย่างเขา เพียงครู่เดียวก็คิดสาเหตุนั้นได้แล้ว ช่วยไม่ได้ที่จะใช้แรงยึดแน่นไปที่เอวของจิ่งซีพร้อมพูด: “หาฉันเพื่อแสดงละคร แต่ก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนที่มอบให้นะ เธอคิดดีแล้ว?” จิ่งซีแกล้งโง่กะพริบตาไปมาพร้อมพูด: “ไม่ใช่ท่านประธานโห้ที่เริ่มแสดงก่อนเหรอ? ฉันก็เพียงแค่แสดงตามความหมายของเธอต่อไปก็เท่านั้น ถึงอย่างไรการเลิกล้มกลางคันก็ไม่ใช่นิสัยที่ดี ท่านว่ายังไงล่ะ?” โห้จูนถิง ได้ยกมุมของริมฝีปากอย่างชั่วร้ายขึ้น: “โอ้ ไม่เลว มีการพัฒนา ก็ยังมีคารมคมคายฝีปากดีแบบนี้อยู่” “ขอบคุณที่ชม” จิ่งซีพูดอย่างไม่มีความเกรงใจ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็ไปทักทายปราศรัยคนรู้จักเป็นเพื่อนฉันสักกี่คนเถอะ” เมื่อพูดจบ โห้จูนถิงก็ไม่รอท่าทีโต้ตอบของจิ่งซี ใช้อำนาจบีบบังคับพาเธอเดินไปด้านหน้า จิ่งซีไม่ยินยอมที่จะทำงานจับกังที่ขี้ขลาดกับขายผ้าเอาหน้ารอดพวกนี้ จะทำอย่างไรได้เป็นเธอที่โยนกับดักวางหลุมพรางไว้เอง สุดท้ายแล้วก็ทำได้เพียงตามโห้จูนถิงไปอย่างเชื่อฟัง ตามโห้จูนถิงมาถึง สถานที่นี้ก็ได้ตกอยู่ในความชื่นชมยินดีอีกครั้งหนึ่ง แขกผู้ร่วมงานทุกคนดูเหมือนกับว่าล้วนแต่ไม่สามารถที่จะยับยั้งใจได้ และได้ล้อมขึ้นมาทักทายกับโห้จูนถิง จิ่งซีรู้สึกรับไม่ได้กับบรรยากาศแบบนี้ เธอต้องการที่จะหาโอกาสหนึ่ง ที่จะรีบดิ้นหลุดจากการควบคุมของโห้จูนถิง ได้รับอิสระ เป็นความคิดแรกที่เธอต้องการไปจากที่นี่ แต่ว่าตอนที่เธอกำลังจะเดินออกจากห้องโถงของงานเลี้ยง จิ่งหรงก็ได้ขวางทางที่เธอจะไปอย่างกะทันหัน: “น้องจิ่งซี ทำไมไม่ทักทายก็จะไปแล้วล่ะ?”
已经是最新一章了
加载中