บทที่ 15 ยังจะไร้ยางอายกว่านี้หน่อยได้ไหม   1/    
已经是第一章了
บทที่ 15 ยังจะไร้ยางอายกว่านี้หน่อยได้ไหม
บทที่ 15 ยังจะไร้ยางอายกว่านี้หน่อยได้ไหม ลูกตาดำของจิ่งซีมองเขาอย่างเย็นชา: “ขายาวๆอยู่บนตัวฉัน ฉันอยากจะไปก็ไป ยังจะต้องรายงานต่อเธอ?” “นี่มันก็ไม่ต้อง เพียงแต่ว่าประธานโห้ก็ยังอยู่ไม่ใช่เหรอ น้องสาวทำไมไม่รอเขา?” จิ่งหรงพูดถามอย่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก้นบึ้งของหัวใจของจิ่งซีได้ใจฝ่อ แต่บนใบหน้ากลับมีความเย็นชาเหมือนดั่งก่อนหน้า: “ฉันมีธุระไปก่อนไม่ได้เหรอ?” “แน่นอนว่าได้ น้องจิ่งซีเก่งมากจริงๆนะ นึกไม่ถึงว่าจะสามารถรู้จักกับโห้จูนถิงคนแบบนี้ได้ หากรู้ตั้งแต่แรก ฉันก็คงไม่ให้พ่อแนะนำหลิวอี่เฉินให้เธอแล้ว” จิ่งหรงมีท่าทางยกมุมปากขึ้นยิ้มหวาน ราวกับว่าดีใจแทนเธอจริงๆ จิ่งซีช่วยไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเย้ย: “ก็ลำบากเธอแล้วจริงๆที่คิดหนักเพื่อฉันขนาดนี้” จิ่งหรงกะพริบตาแล้วกะพริบตาอีก พร้อมทั้งยิ้มและพูด: “นี่มันสมควรนี่ ถึงอย่างไรเสีย......ฉันแย่งพ่อของเธอไป อีกทั้งก็ยังแย่งคู่หมั้นของเธอ เธอก็ยังไม่รู้ว่าในใจฉันมีความทุกข์ใจจากความละอายแค่ไหนกันล่ะ กี่ปีนั้นที่เธอไปต่างประเทศ ฉันก็ได้คิดมาตลอดว่าจะชดเชยให้เธอ แต่ว่ากลับหาโอกาสไม่ได้เลย ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว ฉันก็จะต้องชดเชยให้เธอสักหน่อย มักไม่ได้ที่ฉันจะต้องการความสุข แต่เธอกลับโดดเดี่ยวคนเดียวใช่ไหม?” “หากว่าเธอมาพูดโม้โป้ปดกับฉัน ตัดๆไปเถอะ มามุขแบบนี้ทั้งวัน ไม่เบื่อเหรอ?” จิ่งซีพูดอย่างมีสีหน้าที่ไร้อารมณ์ อีกทั้งมีแววตาที่เหมือนกับพ่นความเยือกเย็นออกมา “ไม่เลยแม้แต่นิดเดียวนะ”จิ่งหรงยิ้มพร้อมเดินเข้ามาใกล้เธอ ริมฝีปากแดงได้เปิดออกอย่างนุ่มนวล ใช้เสียงพูดที่มีเพียงเขาสองคนถึงจะได้ยิน: “ฉันชอบที่จะมองดูท่าทางที่เธอเจ็บปวด เธออาจจะไม่รู้ใช่ไหม? ทุกครั้งที่มองเธอเพราะถูกฉันแย่งความรักความเมตตาของพ่อไป อีกทั้งยังโกรธเดือดดาล ยังมีเพราะซู่เหลาค่อนข้างที่จะสงสารฉัน อีกทั้งตอนที่มีท่าทางคลั่งจากการอิจฉา เธอไม่รู้ว่าในใจของฉันมีสุขใจแค่ไหน!เธอรู้ว่าฉันชอบเธอตรงไหนไหม?” จิ่งหรงยิ้มพร้อมยื่นมือออกมา เล็บมือที่ยาวๆได้ไถลเลื่อนออกไปบนแก้มของจิ่งซีช้าๆ: “ฉันชอบท่าทางที่ถือว่าตัวเองสูงส่งนั้นของเธอ เธอเติบโตอยู่ที่บ้านตระกูลจิ่ง มีความทะนงหยิ่งในศักดิ์ศรีมาแต่กำเนิด ถูกคนเข้าใจผิดก็ไม่ยินยอมที่จะอธิบายอะไร ก็เพราะนิสัยเช่นนี้ของเธอ ถึงได้สร้างฉันในตอนนี้ ฉันรู้ว่าเธอเกลียดฉัน แต่ว่าฉันก็มีความสุขมาก เพราะยิ่งเธอเกลียดฉัน พ่อก็จะยิ่งเอ็นดูฉัน เธอยิ่งเกลียดฉัน ซู่เหลาก็ยิ่งจะรักฉัน เมื่อพูดขึ้นมาฉันก็ยังจะต้องขอบคุณเธอ หากว่าไม่ใช่เพราะเธอโง่เขลาเกินไป ฉันจะหลอกพ่อกับซู่เหลาได้ยังไงกันล่ะ” “เธอยังจะไร้ยางอายมากกว่านี้หน่อยได้ไหม?” จิ่งซีถลึงตามองจิ่งหรงด้วยความที่โกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ อีกทั้งมือหนึ่งได้ตีไปที่หลังมือของเขา “นี่ก็ไร้ยางอายแล้ว?”จิ่งหรงยิ้มอย่างอ้อนแอ้น: “พูดตามจริง ฉันก็ยังเลื่อมใสเธอ ถูกไล่ออกจากบ้านแล้วยังสามารถที่จะรู้จักกับโห้จูนถิงคนแบบนี้ได้ น้องสาวของฉันมีกลอุบายที่ดี! เพียงแต่ว่า......เธอว่า หากโห้จูนถิงรู้ว่าเธอเคยวางแผนการฆ่าคน เธอคิดว่าเขายังจะต้องการเธอไหม?” ได้ยิน ‘ฆ่าคน’ สองคำนี้ ดูเหมือนว่าร่างกายของจิ่งซีจะถูกแช่อยู่ในน้ำของน้ำแข็ง เธอหนาวจนสั่น ปีนั้นเห้อซู่เหลาได้เลิกรากับเธอ เขาเลือกที่จะอยู่กับจิ่งหรง เธอได้รับแรงกระตุ้นของความสะเทือนจิตใจที่ใหญ่มาก เธออยู่ในงานเลี้ยงทะเลาะวิวาททำให้เกิดความรุนแรงกับจิ่งหรง ผลสุดท้ายจิ่งหรงได้ตกบันไดลงมาจากชั้นบน ก่อให้เกิดการบาดเจ็บอย่างหนัก แต่ทว่าครั้งนั้นไม่ใช่เธอพลั้งมือ อีกทั้งคือจิ่งหรงที่ตั้งใจตกลงไป ก็ยังเป็นคืนนั้นที่เห้อซู่เหลาใช้ฝ่ามือตบเธอต่อหน้าสาธารณชน และก็ยังเป็นคืนนั้นที่เธอถูกจิ่งเจิ้นหงทิ้งไว้ที่เมืองนอกในคืนเดียวกัน คิดถึงเรื่องทั้งหมดนี้ ความโกรธที่รุนแรงในใจของจิ่งซีได้หมุนขึ้นหมุนลง เจตนาของจิ่งหรงก็ยังคิดว่ากระตุ้นยังไม่พอ จึงได้พูดอย่างกะทันหัน: “ใช่ ก็เป็นแบบนี้ เธอยิ่งโกรธ ฉันก็ยิ่งดีใจ จิ่งซีฉันจะบอกเธอให้ หากว่ายังมีฉันจิ่งหรงอยู่ ชีวิตนี้ของฉัน ก็อย่าได้คิดเพ้อเจ้อว่าจะมีโอกาสในการพลิกตัว......” พูดถึงตรงนี้ จิ่งหรงก็ได้ยกมุมปากขึ้นหัวเราะอย่างแพรวพราว ทั้งคนกำลังเริ่มที่จะถอยกลับ ในใจของ จิ่งซีมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอีกแล้ว เขายังคิดที่จะทำอะไร? คำตอบจะถูกประกาศออกมาอย่างรวดเร็ว เพียงแค่เห็นจิ่งหรงถอยหลังไปกี่ก้าว ทันใดนั้นก็ได้หยุดอยู่ที่ด้านหน้าของแก้วทรงสูงแบบที่มีก้านให้มือจับหนึ่งร้อยแก้วที่วางหามขึ้นเป็นหอคอยสูง เมื่อใช้แรงผลัก มีเสียงโป้งเป้งของแก้วไวน์จำนวนมากที่ตกลงบนพื้นดังขึ้น แผ่นแก้วที่แตกกระเด็นไปทั่วทุกทิศทางตามกันมา ยังมีเสียงร้องที่แหลมของจิ่งหรง เป็นเหตุการณ์ที่ตกตะลึงต่อภาพที่พบเห็น ระยะห่างจากที่จิ่งหรงอยู่กับหอคอยแก้วที่ถล่มใกล้มาก ตอนที่เศษแก้วกระเด็น ได้ขูดไปที่ผิวของเธอแล้ว เลือดไหลพุ่งออกมาไม่หยุด จิ่งซีก็ประสบทุกข์ได้รับผลกระทบเช่นกัน หน้าของเธอถูกบาดเป็นบาดแผลเปิดออก ที่ขาก็ถูกบาดเป็นแผลเปิดออกไม่น้อยเช่นกัน แต่ว่าเธอกลับดูเหมือนไม่มีความรู้สึก เพียงแต่รู้สึกตกใจจนมีเหงื่อเย็นๆไปทั่วตัว ทันใดนั้นห้องโถงของงานเลี้ยงก็ได้เงียบลงมา มีสายตามากมายที่ทยอยส่งมาทางด้านนี้ จิ่งหรงล้มลงอยู่บนพื้น พร้อมทั้งพูดด้วยสีหน้าที่ขาวซีด: “น้องจิ่งซี เธอไม่ชอบฉันขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันรู้ว่าในใจของเธอยังมีซู่เหลา แต่ว่าตอนนี้เขาก็ได้หมั้นกับฉันแล้ว อีกทั้งตอนนี้เธอก็มีประธานโห้แล้ว ทำไมเธอถึงไม่ปล่อยฉันล่ะ......” สีหน้าของ จิ่งซีขาวซีดต้องการที่จะพูดแก้ตัว แต่ยังไม่ทันได้เปิดปากพูด เห้อซู่เหลากับจิ่งเจิ้นหงก็ได้พุ่งขึ้นมาในทันทีทันใด ถังเชี่ยนได้กรีดร้องเสียงแหลมด้วยความปวดใจ: “พระเจ้า หรงหรง——” “พ่อ แม่ ซู่เหลา ฉันเจ็บมาก” จิ่งหรง พูดอย่างน้ำตาไหลเต็มใบหน้า เห้อซู่เหลารีบอุ้มจิ่งหรงตรงช่วงเอวขึ้น: “ไม่ต้องกลัว ตอนนี้ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล” ตอนที่ผ่านด้านข้างของจิ่งซี สายตาที่เย็นชาของเขาได้ถลึงตาจ้องมองจิ่งซี ในสายตานั้นเต็มไปด้วยคลื่นยักษ์ของความโกรธ จิ่งเจิ้นหงได้ขึ้นมาตบหน้าจิ่งซีอย่างโหดร้าย: “หรงหรงคือพี่สาวของเธอ ทำไมเธอถึงใจดำขนาดนี้?” สายตานับไม่ถ้วนที่ดูถูกกับประณามทยอยปล่อยออกมาทางจิ่งซี เสียงวิพากษ์วิจารณ์กับการพูดกระทบกระเทียบ คำพูดที่ไม่น่าฟังที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายก็ได้ทะลุเข้าหู จิ่งซีได้เอียงหน้ายืนอยู่ตรงที่เดิม คนทั้งคนกำลังจะพังทลาย ทำไม...... เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ทำอะไร ทำไมทุกคนถึงประณามเธอ? เห็นได้ชัดว่าเธอก็ได้รับบาดเจ็บ ทำไมไม่มีคนสนใจว่าเธอจะเป็นหรือตาย สนใจเพียงจิ่งหรง? ในหัวของ จิ่งซีมีเสียงหึ่งๆดังขึ้น สายตากวาดมองไปรอบด้าน ทุกที่ที่ได้ผ่าน ไม่มีเลยที่จะไม่เยือกเย็นกับเหยียดหยาม เวลานี้สายตาเธอได้สัมผัสถึงนัยน์ตาดำคู่หนึ่ง สายตาที่ลึกซึ้งของโห้จูนถิงได้จ้องมองเธอ เดินเข้ามาทางเธอทีละก้าวทีละก้าว ตรงหน้าของจิ่งซีมีความใจลอยๆไม่ชัดเจน เธอรู้สึกว่าเหนื่อยมาก หัวใจเหมือนถูกคนเหยียบย่ำให้ตาย ความรู้สึกปะทะหน้าที่เข้ามาทำให้หายใจไม่ออก ดวงตาดำที่อยู่ตรงหน้าเธอ ก็รับไม่ไหวต่อความสะเทือนจิตใจใดๆอีกแล้ว ร่างกายก็ค่อยๆล้มลงไปตรงๆแล้ว
已经是最新一章了
加载中