บทที่ 17 ความทุกข์ยากลำบากที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน
1/
บทที่ 17 ความทุกข์ยากลำบากที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน
ชะตากำหนด ฉันต้องรักคุณ
(
)
已经是第一章了
บทที่ 17 ความทุกข์ยากลำบากที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน
บทที่ 17 ความทุกข์ยากลำบากที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน จิ่งซี ระแวงแต่กลับไม่ได้คิดมาก เธอเลือกเสื้อผ้าที่ไม่แออัดสบายๆใหม่ตัวหนึ่งและได้ไปที่หอพักชายเพื่อหาเกาซง ตอนที่จิ่งซีไปถึงประตูของหอพักชายกำลังจะขอความช่วยเหลือจากคนด้านข้างก็ได้เจอกับเกาซงที่กำลังจะออกประตู เห็นได้ชัดว่าเกาซงก็มองเห็นจิ่งซีแล้ว ในแววตายังมีความดูถูกเหยียดหยามกับความจองหอง แต่ฝีเท้าของเขากลับไม่ได้หยุดเพราะเหตุนี้ “หยุด!” ก้นบึ้งของหัวใจของจิ่งซีได้โกรธอย่างรุนแรงเป็นความโกรธแบบ‘เนิบๆ’มุ่งขึ้นมา เธอรีบเดินขึ้นไปสองก้าวเพื่อนขวางอยู่ตรงหน้าของเกาซง “เกาซง ฉันขอให้เธอรีบลบโพสต์ และอีกอย่างขอโทษฉัน” “ขอโทษ? ฉันไม่คิดว่าฉันได้พูดอะไรผิด และอีกอย่างจะต้องขอโทษกับเมียเก็บคนหนึ่ง” น้ำเสียงของ เกาซง มีความเย่อหยิ่งมาก อีกทั้งยังมีความกำเริบสืบสานมาก “โอ้ เมียเก็บ?” จิ่งซีหรี่ตาแล้วหรี่ตาอีก เธอนำรูปภาพในมือสะบัดไปบนตัวของเกาซง “ก็อาศัยรูปนี้?” เวลานี้รอบข้างของจิ่งซีกับเกาซงได้มีคนแปลกหน้าหยุดล้อมชม อีกทั้งก็ยังจำจิ่งซีได้ และได้วิพากษ์วิจารณ์เธอตามกันมา “หากมีความสงสัยต่อรูปภาพสามารถขอคำชี้แนะจากเพื่อนนักเรียนคณะคอมพิวเตอร์ได้ ดูว่าได้ใช้โปรแกรมตัดต่อPSไหม?” เกาซงเห็นว่ามีคนล้อมชมจึงได้ลำพองใจขึ้น จิ่งซี ยิ้มมุมปากเธอได้ยกเหน็บแนมขึ้น “ฉันไม่รู้ว่าสำนักข่าวใหญ่ Aที่สง่าผ่าเผยที่แท้อาศัยเรื่องราวในการดูรูป” จิ่งซีใช้น้ำเสียงอย่างท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่กลับโยนชักถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียน “เธอ......” เกาซงไม่มีแรงจะโต้แย้ง แต่ก็ไม่ยอมที่จะเสียหน้า “จิ่งซี ทำไมเธอถึงไปเป็นเมียเก็บแล้วยังคิดที่อยากจะให้คนอื่นคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ดี” “ล้อมอยู่ที่นี่ทำอะไรกัน?” ตอนที่จิ่งซีกำลังจะเปิดปากพูดก็ถูกเกาซง ใช้เสียงสูงดึงดูดให้ป้าดูแลหอพักรีบเดินขึ้นมา “แยกย้าย แยกย้าย” ฝูงคนที่หยุดล้อมรอบชมก็ได้แตกหนีไปคนละทิศคนละทางไปในพริบตา จิ่งซียังคงบีบกำปั้นแน่น “เธอก็ไปเถอะ” ป้าดูแลหอกัดเพ่งเล็งไปที่จิ่งซีแถมยังพูดซุบซิบ “เด็กผู้หญิงแต่ละบ้านวิ่งมาอยู่หอพักชายทั้งหมดมันเหมือนกับอะไรกัน” “……” จิ่งซีอยู่ในสายตาที่ลำพองของเกาซง หมุนตัวออกจากหอพักชายไปที่โรงอาหาร ด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจด้วยความโกรธทำให้เธอรีบไปกินของอย่างเร่งด่วนเพื่อระบายความกลัดกลุ้ม แต่ว่าเมื่อคนมันดวงซวยขึ้นมาแม้จะดื่มน้ำเย็นก็ที่ยังเสียวฟัน ตอนที่จิ่งซีไปถึงที่โรงอาหาร แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าอาหารทั้งหมดได้ขายหมดจนไม่มีเหลือ “คนนั้นไม่ใช่จิ่งซีคณะการออกแบบ ที่เป็นเมียเก็บคนนั้น?” “ก็ใช่ล่ะสิ ในยุคสมัยนี้เรื่องสดใหม่อะไรก็มีหมด เป็นเมียเก็บก็ยังทำตัวสูงส่งขนาดนั้นก็ไม่มีใครแล้ว” …… ขอบคุณโพสต์ของการอภิปรายบนฟอรั่ม ตั้งแต่ออกมาจากโรงอาหาร จิ่งซีก็ได้ถูกเพื่อนนักเรียนที่ผ่านทางจำได้อีกครั้ง และอีกอย่างก็ได้นินทาลับหลัง วิพากษ์วิจารณ์ตามกันมาอย่างกำเริบเสิบสาน “มองอะไร!” ความไม่ราบรื่นทั้งหมดบวกกับความหิวทำให้จิ่งซีเดินไปอย่างระเบิดออกมาในชั่วพริบตา พุ่งเข้าใส่กลุ่มคนพร้อมตะโกนร้องด้วยความโมโห จากนั้นได้หมุนตัวซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถังพร้อมทั้งได้วิ่งตลอดทางกลับไปที่หอพัก แต่ทว่าสิ่งที่น่าเศร้ากว่าก็คือ เมื่อไปถึงประตูหอพักเพิ่งจะรู้ว่าตอนออกไปได้รีบร้อนจนลืมพกกุญแจ โชคยังดีที่ว่าพกโทรศัพท์มือถือแล้วยังสามารถโทรให้ส้งหยู่เวยได้ หลังจากนั้น 15 นาที ส้งหยู่เวยหายใจหอบแฮ่กๆรีบกลับมาช่วยจิ่งซีเปิดประตู “ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว” เมื่อเข้าประตู จิ่งซี ก็ต้มน้ำ “ไม่อย่างงั้นฉันคงหิวตาย” “ทำไมเธอถึงกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกแล้ว? นอนเกินเวลาอีกแล้วเหรอ? เธอช่วงนี้......เอ๊ะ บาดแผลบนตัวพวกนี้ของเธอมันเกิดเรื่องอะไรกัน ทำอะไรมา” ส้งหยู่เวยพูดพร่ำถึงลักษณะของสัญลักษณ์ขึ้นสองคำ และได้พบว่าแก้มยังมีตรงลำคอของจิ่งซีมีบาดแผลจึงได้พยายามถามต่อ “เอ้อ” จิ่งซีรู้สึกตัวจึงได้ยื่นมือไปกุมปิดบาดแผลบนลำคอ แววตาก็มีความคลุมเครือ “หยู่เวย ฉันพูดกับเธอวันนี้ฉันดวงซวยแล้ว งานที่หามาได้อย่างไม่ง่ายก็หายไปอีกแล้ว” เรื่องที่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์บนงานหมั้น จิ่งซีไม่อยากจะเอ่ยถึง ดังนั้นจึงจงใจเปลี่ยนหัวข้อ ส้งหยู่เวยมึนงงแล้วมึนงงอีก: “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” จิ่งซี ส่ายหัวไปมา: “ฉันก็ไม่รู้ ได้รับการแจ้งเตือนอย่างกะทันหันแล้ว ช่างมันเถอะ ฉันกินบะหมี่ก่อนเถอะ กินเสร็จแล้วก็ยังต้องรีบพักผ่อน เพื่อเก็บสั่งสมกำลังและจิตใจพรุ่งนี้ได้หางานทำ” ส้งหยู่เวยส่ายหัวอย่างจนปัญญา เธอไม่ได้พบความผิดปกติของจิ่งซีทั้งหมด เช้าตรู่ของวันต่อมา จิ่งซี ก็ได้ติดตามลานส่งคลื่นวิทยุที่ตรงเวลาของนาฬิกาปลุกเมื่อดังขึ้นก็ได้ตื่นนอนแล้ว เพื่อหนทางหาเลี้ยงชีพ เธอจะต้องหางานทำ เธอจะต้องเข้มแข็งในการดำรงชีวิตต่อไปเพื่อพิสูจน์ความเป็นจริงให้กับคนที่เคยทอดทิ้งเธอพวกนั้นได้เห็น แต่ทว่าคนก็ได้ตื่นแล้ว แต่ตากลับไม่ได้เปิดออกมาทั้งหมด แม้กระทั่งตอนลงจากเตียงก็ยังปิดตา “จิ่งซี เธอตาบอดเหรอ ฉันขอเตือนเธออย่าทำเสื้อผ้าของฉันสกปรก!” สวี่เคอซินส่งเสียงดังขั้นอย่างกะทันหันทำให้ จิ่งซีไม่ง่วงนอนเลยแม้แต่น้อย “ฉันว่า สวี่เคอซิน เธอต้องการจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ใช่ไหม” ไม่ทันรอจิ่งซีเปิดปากพูด ส้งหยู่เวยก็ได้นำหน้าเปิดปากปกป้องไปก่อนแล้ว “เสื้อผ้าของเธอนั้นใช้ทองทำเหรอ ถึงได้ล้ำค่าขนาดนั้น” “ส้งหยู่เวย เธอจะไม่แยกแยะดีกว่าขนาดนั้นเลยใช่ไหม?” สวี่เคอซินเหน็บแนมขึ้นทันที “ยังกล้าที่จะอยู่ด้วยกันกับจิ่งซี ระวังจะถูกพาให้เสีย” “ฉันจะเป็นยังไง ไม่ได้ให้เธอมาสนใจ ที่เธอหาเรื่องจิ่งซีทุกวันคืออิจฉาเขาใช่ไหม?” “ฉันอิจฉา?” ท่าทางที่เกินจริงของสวี่เคอซินได้ชี้ไปยังจมูกตัวเอง “ฉันสวี่เคอซินถึงจะไร้ประโยชน์ยังไงแต่ก็ไม่ไปอิจฉาเมียเก็บคนหนึ่งหรอก!” “เธอพูดอะไร สวี่เคอซินเธอจะเกินไปแล้ว หากว่าวันนี้ฉันไม่สั่งสอนเธอละก็......” ตอนที่ส้งหยู่เวยยกหมัดขึ้น จิ่งซีก็ได้มือไวตาไวห้ามไว้แล้ว “หยู่เวย อย่าไปหาประสบการณ์กับคนแบบนี้” “เชี้ย เริ่มเสแสร้งอีกแล้ว” สวี่เคอซินส่งเสียงเหน็บแนม “สวี่เคอซิน!” “ร้องตะโกนอะไร? ก็ไม่ใช่ฉันพูด เรื่องที่ จิ่งซีเป็นเมียเก็บคนอื่นบนฟอรั่มมีทั้งรูปทั้งความจริง ไม่เชื่อเธอก็ไปดูเอง!” ส้งหยู่เวย มองสวี่เคอซินด้วยความเย็นชา พร้อมทั้งได้หมุนตัวหันไปเปิดคอมพิวเตอร์ โพสต์บนฟอรั่มเมื่อว่านั้นไม่ได้ถูกเกาซงลบ อีกทั้งยังถูกพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านปักหมุดไว้สูงสุด “นี่ นี่คือเรื่องจริงเหรอ?” “เรื่องบนกระดานที่ถูกปักหมุดยังเป็นเรื่องโกหกได้อีกเหรอ?” สวี่เคอซินเห็นส้งหยู่เวยได้เปิดหน้าเว็บขึ้นมาจริงๆจึงได้ใส่ไฟอยู่ด้านข้าง “เรื่องอะไรของเธอ!” ส้งหยู่เวยตะโกนร้องใส่เธอไปคำหนึ่ง จากนั้นได้หมุนตัวเปิดริมฝีปากเป็นรูปวงกลมถามจิ่งซีที่เหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม “จิ่งซี นี่คือเรื่องจริงเหรอ?” “หยู่เวย,เธอเชื่อฉันไหม?” จิ่งซีไม่ได้ตอบ เพียงแต่ถามง่ายๆไปหกคำ ส้งหยู่เวยพยักหน้าอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด “พูดว่าใครไปเป็นเมียเก็บฉันก็ไม่เชื่อ จิ่งซีเธอไปเป็นเมียเก็บ” “โง่เขลา” สวี่เคอซินดูคล้ายกับไม่ยินยอมถูกลืมก็พูดแทรกขึ้นมาอีกครั้งแล้ว ในการแลกเปลี่ยนก็ยังคงเป็นส้งหยู่เวยที่มีสายตาที่เย็นชา “คนพวกนี้ก็ชอบดูรูปพูดเรื่องราวไปเรื่อยจริงๆ พวกเขาเข้าใจเธอไหม? หากว่าจิ่งซีเธอไปเป็นเมียเก็บล่ะก็ ยังจะต้องไปทำงานพิเศษให้ลำบากขนาดนั้นทำไม วันหนึ่งยังจะต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งกล่องเหรอ?” คำพูดนี้แม้ว่าจะพูดกับ จิ่งซี แต่ก็ไม่ได้พูดให้กับสวี่เคอซินฟัง จิ่งซีก็เพราะว่าความเชื่อใจที่แน่วแน่นี้ของส้งหยู่เวย ภายใต้นัยน์ตาก็มีไอน้ำพุ่งขึ้นมาแล้ว “หยู่เวย เธอวางใจได้แล้ว ถึงแม้ว่าฉันจิ่งซีจะจนถึงขั้นเหลือแต่เพียงขายเลือกเพื่อใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่ก็จะไม่ไปเป็นเมียเป็นเด็ดขาด” เมื่อคำพูดนี้หล่นออกมา ภายใต้นัยน์ตาก็ได้มีความเศร้าเพิ่มแล้ว เธอโกรธเกลียดเมียเก็บ เธอจะไม่มีทางลืมได้ว่าบ้านของเธอก็ถูกชู้หรือเมียเก็บเข้ามาพัวพันจนได้แตกร้าวตลอดไป
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 17 ความทุกข์ยากลำบากที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A