บทนำ   1/    
已经是第一章了
บทนำ
นักศึกษาแพทย์ภาคอินเตอร์ หล่อ สูง ขาว ขับรถหรูที่ราคาแพงมากกว่าเงินเก็บทั้งชีวิตของเขา ดวงตาเรียบนิ่ง ใบหน้าเย่อหยิ่งที่แทบจะไม่ชายตาสนใจมองคนรอบข้าง ท่าทางแสนน่าหมั่นไส้ นั่นยังไม่รวมไปถึงการที่อีกคนใช้เงินในการแก้ปัญหาทุกอย่าง ...และภูไม่พอใจ ที่มันขับรถเชี่ยวเขา แล้วกล้าโยนเงินใส่หน้ากันแบบนี้!... แล้วเหยียดอะไรก็เหยียดได้ แต่ต้องไม่ใช่การเหยียดว่าเด็กวิทย์กีฬาอย่างเขา ฝีมือในการเล่นกีฬาห่วยกว่านักเรียนแพทย์ที่มีดีแต่ใช้สมองแบบมัน! ถึงอีกคนจะไม่ได้รู้ตัวว่ากำลังถูกหมายหัว แต่ในฐานะกัปตันทีมว่ายน้ำ เขามีสิทธิที่จะกดขี่ข่มเหงใช้แรงงานมันยังไงก็ได้! มาเจอกันหน่อยแล้วกันไอ้คิน ............................... ............. บทนำ ในทุกปีจะมีการจัดการแข่งคัดตัวเพื่อเข้าเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย สนามว่ายน้ำขนาดใหญ่ห้อมล้อมไปด้วยเสียงเชียร์จากผู้คนริมสนาม เปิดเทอมอาทิตย์แรกกิจกรรมที่หลายคนรอคอยก็คือการเฝ้าติดตามการคัดตัวของนักกีฬาว่ายน้ำ วัดจากคะแนนการว่ายของแต่ละคน คัดตามลำดับเวลาจากดีที่สุดแล้วลดน้อยลงไป การแข่งขันเต็มไปด้วยความน่าสนใจและความตื่นเต้นจากนักแข่งแต่มีหนึ่งคนริมสนามที่กลับเดินไปมาขมวดคิ้วมุ่นสายตาจดจ่ออยู่แต่กับโทรศัพท์ในมือ ภู หรือ พี่ภู รู้จักกันดีในฐานะกัปตันทีมว่ายน้ำ ในวันนี้ก็ต้องมาร่วมทำการคัดตัวด้วยเพื่อที่จะได้ผ่านเข้าไปเป็นนักกีฬาของมหาลัยแล้วฟอร์มทีมเพื่อเตรียมแข่งในกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัยอีกต่อไป คิ้วเข้มขมวดเป็นปม ไม่ได้มีท่าทีสนใจการแข่งขันเพราะเหมือนจะมีสิ่งอื่นที่ภูสนใจมากกว่าซึ่งอยู่ในโทรศัพท์ มองตามเข้าไปถึงได้พบว่าที่คนตรงนี้กำลังวุ่นวายอยู่ด้วยก็คือหน้าแชทภายในแอพหนึ่ง ..หมับ.. แรงแตะที่ไหล่เรียกสายตาจากคนที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูให้หันมอง “ต่อไปก็คิวมึงแล้วไอ้ภู สนใจการคัดตัวหน่อยดิวะ” “มึงก็เห็นตอนแนทไปกับคนอื่นใช่ไหม?” “อะไรของมึงเนี่ย มึงเลิกสนใจเรื่องแฟนมึงแล้วเอาเรื่องแข่งก่อนดีปะ” ....ภูมินทร์ เกียรติดำรงอัครเดช... เสียงประกาศชื่อนักแข่งในรอบสุดท้ายดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงเชียร์จากรอบสนามทั้งที่เจ้าของชื่อตรงนี้ยังหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กับโทรศัพท์ของตัวเอง ภูโยนโทรศัพท์ของตัวเองไว้บนจุดพักนักกีฬาริมสระ ก่อนเดินหน้านิ่งไปยังลู่กลางซึ่งคนที่จะได้ว่ายลู่ตำแหน่งนี้จะต้องเป็นตัวเต็งสำหรับการแข่งในแต่ละรอบเท่านั้น ไม่ได้สนใจมองด้วยว่าใครที่อยู่ลู่ถัดไปจากตัวเองเพราะถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดยังไงคนชนะก็ต้องเป็นเขา แล้วคนที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดก็จะต้องเป็นเพียงเขาคนนี้เท่านั้นด้วย ..ปี๊ดดด!.. เสียงนกหวีดดังแล้วแต่หนึ่งร่างยังคงนิ่งไม่ได้กระโดดลงสระ “เห้ยไอ้ภูมึงโดดดิวะ!!” กระทั่งเสียงตะโกนจากเพื่อนดังไล่หลังมาเจ้าของชื่อถึงได้สติแล้วรีบกระโดดทิ้งตัวลงในสระน้ำ เร่งความเร็วเท่าที่จะทำได้แต่เพราะรอบของการแข่งที่เพียงร้อยเมตรและเป็นการแข่งเพียงรอบเดียวเลยทำให้เมื่อพลาดถึงเป็นเรื่องยากที่จะกลับมานำได้ แต่ภูก็ยังทำอย่างเต็มที่ที่สุด กระทั่งที่มือแตะขอบสระ ....ผิดคาดครับ!!คนที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดในการคัดตัวครั้งนี้กลับไม่ใช่พี่ภูของทุกคนเสียอย่างงั้น!... ศีรษะพ้นขึ้นจากน้ำประโยคแรกที่ดังกรอกหูก็คือเสียงกรี๊ดและความสนใจที่ถูกเบนไปยังนักแข่งที่อยู่ลู่ถัดไปจากเขา ภูหันสายตามองตามไป ภาพเบื้องหน้าที่เห็นคือเด็กหนุ่มสูงขาวแปลกหน้าที่ถ้าให้เดาคงจะเพิ่งเข้ามาเรียนปีหนึ่งใหม่ ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มดีใจหรือยินดีจากผู้ชนะ มีเพียงใบหน้าเรียบนิ่งที่ภูรู้สึกว่าเหมือนอีกคนจะรู้ตัวอยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องชนะ ปีนขึ้นจากสระภูเดินตรงไปหยิบสัมภาระของตัวเอง ยังไงการคัดตัวเข้าทีมมหาลัยคือเขาผ่านแน่นอนอยู่แล้ว แต่ปีนี้แปลกไปตรงที่คนที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดมันไม่ใช่เขาก็เท่านั้นแหละ ระหว่างนี้ที่นั่งเช็ดผมมีเด็กหนุ่มอีกคนที่คงเป็นเพื่อนของผู้ชนะเดินเข้ามาหาเพื่อนตัวเอง “เก่งมากเลย ไม่คิดว่าคินจะชนะนะเนี่ย” “ก็ไม่เท่าไหร่ ตอนแรกคิดว่าจะว่ายเร็วกว่านี้ซะอีก” ประโยคนี้จากอีกคนเรียกคิ้วเข้มให้ขมวดเข้าหากันอีกครั้ง ภูชายตามอง เหมือนอีกคนจะไม่รู้ว่าเขาแอบฟังคนทั้งคู่คุยกันอยู่ “วิทย์กีฬาก็วิทย์กีฬาเถอะ เจอนักว่ายน้ำโรงเรียนแบบคินไปก็มีร้องอะจริง” คนถูกชมยิ้มนิดหน่อยในขณะที่ภูชักสีหน้าแล้วเบือนความสนใจออกไปตรงอื่น เพื่อนร่วมทีมด้วยกันต่างวิ่งตรงเข้ามาหา แต่ละคนสีหน้าไม่ดีนักเพราะหลังจากนี้รู้เลยว่าข่าวในมหาลัยที่เป็นหัวข้อใหญ่จะต้องเป็นเรื่องอะไร “มึงโอเคนะไอ้ภู” “ไอ้เด็กนั่นใครวะ” ไม่ได้ตอบแต่ภูถามคำถามใหม่ “เห็นว่าชื่อคิน เรียนแพทย์ภาคอินเตอร์...หยิ่งจะตายห่านี่เราต้องร่วมทีมกับมันจริงหรอวะ” “โคตรปากดี” คินพึมพำกับตัวเอง ใช้หางตามองตามคนที่เดินออกไปกับเพื่อนแล้ว ในตอนนี้คนในสนามเริ่มหายออกไปเช่นกันเพราะถึงเวลาที่งานเลิก เหลือไว้เพียงกลุ่มนักกีฬาว่ายน้ำที่ผ่านการคัดตัวมาร่วมกันแล้วนั่งคุยกันต่อ เอาเข้าจริงก็มีแต่หน้าเดิมเพราะเด็กใหม่จะคัดตัวผ่านเข้ามาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในปีนี้พีคมากก็ตรงที่คนทำคะแนนดีที่สุดในรอบคัดตัวเข้าทีมไม่ใช่ภูนี่แหละ “อย่างงี้ใครจะเป็นกัปตันทีมวะ ให้ไอ้เด็กนั่นหรอ?มันเพิ่งปีหนึ่งเองนะเว้ยจะคุมใครได้” คำถามจากเพื่อนดังมา “ก็คงต้องรอตอนนัดเจอโค๊ทกันในวันพรุ่งนี้” “มึงแหละไอ้คิน ไม่ได้ตั้งใจแข่งเลยสัส เป็นไงหละ สมน้ำหน้า” คนโดนต่อว่าชักสีหน้าใส่ “แล้วไงวะ ยังไงสถิติเดิมกูก็ยังดีกว่ามันอยู่ดี” “แล้วมึงไม่อายหรือไงที่แพ้เด็กใหม่เนี่ย นั่นนักเรียนแพทย์นะเว้ย...วันๆมันอ่านแต่หนังสือด้วยซ้ำมั้ง ส่วนเราคือเล่นแต่กีฬา” “........” “ขายขี้หน้าสัส” ถึงตรงนี้ภูเงียบ เพราะมันก็คือความผิดของเขาเหมือนอย่างที่เพื่อนพูด ได้แต่ถอนหายใจเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์ออกมาดูก่อนพบว่าแฟนสาวก็ยังคงไม่สามารถติดต่อได้ หมดอารมณ์จะอยู่ต่อถึงได้คว้ากระเป๋าของตัวเองก่อนลุกเดินหนีออกมาแบบไม่บอกกล่าวใคร คิ้วขมวดตลอดระยะทางที่เดินกลับหอพัก ก้มมองโทรศัพท์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้สนใจดูทางมากนัก จนในที่สุด.... ...ปี๊นนนนๆๆ!!!... แตรรถที่ดังสนั่นลั่น ภูเบิกตากว้างตกใจ ..ผลั้ก!โครม!... “มึงไม่ดูทางหรือไงวะ!!” ตะโกนออกไปเสียงดังหลังจากที่ถูกชนเข้าจนล้ม ดีที่กระโดดหลบทันแต่ก็ยังโดนเชี่ยวจนล้มคว่ำอยู่ดี เบ้หน้าด้วยความเจ็บเมื่อพบว่าจังหวะที่จะยกแขนแล้วข้อมือของตัวเองไร้เรี่ยวแรงผิดปกติ ถึงขั้นหน้าซีดเมื่อพบว่าต้องเกิดอะไรซักอย่างกับข้อมือให้แล้ว “ทำไมไม่ดูทาง” แต่นี่คือประโยคแรกที่ดังมาจากคนขับที่เปิดประตูรถลงมาดู “ไม่ดูแม่มึงสิ!นี่มันถนนมหาลัยมึงจะรีบไปตายไหน!!” ตะคอกใส่สุดเสียงจนที่เงยหน้าขึ้นมองแล้วพบว่าเป็นใครภูยิ่งหัวเสีย เป็นจังหวะเดียวกับที่เพื่อนของเขาวิ่งตามออกมาช่วยพอดี ระหว่างนี้หันไปมองภาพที่เห็นดันเป็นภาพของไอ้คนขับที่กำลังเดินไปเชคหน้ารถของตัวเองว่ามีรอยอะไรไหม ก่อนที่อีกคนจะเดินกลับมาหาภูอีกครั้งท่ามกลางการที่ภูโดนเพื่อนหิ้วปีกอยู่แบบนี้ คินล้วงกระเป๋าสตางค์ตัวเองออกมา “ผมขอโทษแล้วกันนะ แต่เงินหมื่นนึงน่าจะพอค่ารักษาตัว” เงินปึกใหญ่ถูกยื่นให้และภูมองนิ่ง “........” “หรือว่าไม่พอ ถ้างั้น...” “ไม่ต้องกูไม่เอา...พวกมึงพากูไปหาหมอเดี๋ยวนี้ ข้อมือกู” ประโยคหลังภูหันมาเค้นเสียงพูดกับเพื่อนด้วยความกังวล เดินตามเพื่อนมาที่รถโดยที่เมื่อหันไปแล้วพบว่าในตอนนี้คินขับรถออกไปแล้ว ได้แต่นั่งเจ็บใจอยู่ในรถของเพื่อนตัวเองที่ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจกับอาการเจ็บและช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ “มึงรู้สึกว่ามันหักหรอไอ้ภู” “ไม่แน่ใจว่ะ แต่แม่ง....” ได้แต่พึมพำพูดหน้าเครียด ถึงโรงพยาบาลภูถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ผ่านการรักษาได้รับเฝือกใส่ประคองข้อมือออกมา เพียงเท่านี้รู้แล้วว่าว่ายน้ำไม่ได้แน่แต่แย่ไปกว่านั้น “หมอว่างดว่ายน้ำซักเดือนสองเดือนดีกว่านะครับ ให้กระดูกมันหายดีๆแล้วค่อยว่ายดีกว่า” “แต่ผมเป็นนักกีฬาต้องซ้อมนะหมอ” “แต่ถ้าดึงดันจะซ้อมอาจจะไม่สามารถว่ายน้ำได้เลยตลอดชีวิต” คำนี้โหดร้ายมากกว่าคำไหน หมอเดินออกไปแล้วส่วนภูสามารถกลับรักษาตัวที่บ้านได้โดยต้องมาตามนัดที่แพทย์บอกไว้ นั่งหน้าซีดกันเป็นระเบียบอยู่หน้าโรงพยาบาล “มึงไม่ต้องคิดมากนะไอ้ภู เดี๋ยวก็กลับมาว่ายน้ำได้ปกติแล้ว” คำปลอบจากเพื่อนดังเป็นระยะ “ไอ้นั่นมันชื่ออะไรนะ” แต่ความสนใจของภูกำลังอยู่ที่อื่น “หมายถึงไอ้คินหรอ?” “เออ ไอ้ที่ขับรถชนกูอะ” “อืมชื่อคิน” ได้คำตอบแล้วภูเงียบ นั่งหน้าเครียดและพึมพำคำด่าอีกคนไม่หยุด “มันคัดตัวผ่านแน่นอนใช่ไหม และก็อยู่ทีมเดียวกับเรา” “ใช่” ซึ่งคำตอบที่ได้จากเพื่อนภูพึงพอใจไม่น้อย ...เอาหละ ไอ้เด็กนั้นมันคงไม่รู้ว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ชีวิตมหาลัยแอบน่าสงสารหน่อยนะปีหนึ่ง เพราะมันคงไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่วาดฝัน... # # # # # # # # # ไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งนั้นนนน
已经是最新一章了
加载中