ตอนที่ 6
“ไม่ล่ะ...แม่คิดว่าจะไปพบทศรัสมิ์พรุ่งนี้เพราะทนายพิธานจะนัดให้แม่กับเขาไปรับฟังเกี่ยวกับการเปิดพินัยของคุณธนาดลที่บริษัท บางทีในพินัยกรรมของคุณธนาดลอาจจะระบุว่าแม่ได้รับทรัพย์สินอะไรบ้าง เพราะยังมีบางส่วนที่ทนายพิธานยังจัดการไม่เรียบร้อย...แยมจะไปกับแม่หรือเปล่า?”
“คงไม่ล่ะค่ะ พรุ่งนี้หนูมีนัดกับพี่พีท จะคุยกับเขาเรื่องงานเพราะพี่พีทติดต่อให้แยมไปทำงานที่บริษัทเพื่อนของเขา”
“ก็ตามใจ...แต่ว่า...” ลีลาหรี่นัยน์ตาลง “หนูเองก็ยังไม่ได้เจอคุณทศนี่นะ จะไม่ไปพบเขาสักหน่อยล่ะหรือ”
อณัศยารู้ดีว่ามารดากำลังคิดอะไรหากแต่หญิงสาวกลับเก็บงำเรื่องที่เธอได้พบกับทศรัสมิ์มาแล้วเมื่อครู่
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...ยังไง...หนูก็ต้องได้พบเขาอยู่แล้ว”
“แยม...ที่หนูไม่ไปนี่คงไม่ใช่เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับทศรัสมิ์หรอกนะ เห็นทนายพิธานบอกแม่ว่าที่เขาไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปีน่ะ เขายังไม่แต่งงานหรือมีแฟนเลย”
ไม่มีเสียงตอบจากอณัศยาหากลีลาก็พอจะเดาอะไรออก สาวใหญ่ถอนใจเบา ๆ
“พรุ่งนี้ถ้าทนายพิธานเปิดพินัยกรรมทั้งหมดแล้วแม่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรเลยจริง ๆ แม่ก็คงต้องคุยกับทศรัสมิ์เป็นการส่วนตัว แม่จะขอให้เขาช่วยเหลือพวกเรา อย่างน้อยทศรัสมิ์ก็ต้องเห็นแก่ลูกบ้าง เขาควงไม่ใจจืดใจดำปล่อยให้เราสองแม่ลูกต้องลำบากหรอกนะ”
คนฟังกลืนก้อนแข็ง ๆ ลงคอที่แห้งผากขณะที่ลีลาเดินกลับไปที่รถซึ่งคนขับยืนคอยอยู่ หญิงสาวคิดอย่างเจ็บปวด ช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ...แม่ของเธอไม่รู้เลยหรือว่าสิ่งที่ผ่านมามันทำให้ทศรัสมิ์ผูกใจเจ็บมากแค่ไหน เขาประกาศกร้าวอย่างน่ากลัวต่อหน้าเธอมาแล้วว่าจะเอาคืน เขาต้องการล้างแค้นและให้เธอกับมารดาชดใช้ในสิ่งที่เขาต้องสูญเสีย แต่ลีลากลับไม่คิดถึงอะไรเลย แม่ของเธอยังหวังว่าผู้ชายคนนั้นจะมีใจช่วยเหลือหากแต่เธอก็ไม่กล้าบอกความจริงออกไป ทั้งสงสารแม่แต่ก็นึกสงสารตัวเองมากพอกัน
“แยม...มารอพี่นานหรือยัง?”
เสียงที่ดังขึ้นพร้อมชายหนุ่มร่างสูงที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในร้านกาแฟริมถนนใจกลางกรุงทำให้หญิงสาวร่างบอบบางในชุดเสื้อเชิ้ตขาวและกางเกงยีนส์สีดำดูทะมัดทะแมงซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะในมุมสงบของร้านหันกลับไปมอง
“โทษทีนะที่พี่มาช้า พอดีพี่เจอลูกค้าที่ร้านใกล้ ๆ เลยต้องคุยกับเขาพักใหญ่”
“ไม่เป็นไรค่ะ...แยมรอได้ ว่าแต่พี่พีทเถอะค่ะ งานรัดตัวขนาดนี้ยังอุตส่าห์มาเป็นธุระเรื่องงานให้แยม”
“เล็กน้อยน่า...ว่าแต่แยมเถอะ เตรียมพร้อมที่จะทำงานให้เพื่อนพี่หรือเปล่า”
พิทยาถามขึ้นแล้วหันไปสั่งกาแฟเอสเปรสโซ่กับพนักงานในร้าน ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดีวซึ่งเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยของอณัศยาหยิบเอกสารในกระเป๋าขึ้นมาและยื่นให้หญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม
“นี่เป็นข้อมูลบริษัทของเพื่อนพี่นะ พี่ติดต่อเขาไปแล้วและเขากำลังต้องการผู้ช่วยช่างภาพอยู่พอดี แยมก็เรียนมาทางนี้ พี่ว่าต้องทำได้อยู่แล้ว”
“แยมทำได้ค่ะ”
หญิงสาวกล่าวด้วยท่าทีตื่นเต้นขณะหยิบเอกสารที่มีข้อมูลของบริษัทตามที่พิทยาบอกขึ้นมาดู มันเป็นงานเกี่ยวกับการถ่ายภาพลงนิตยสารซึ่งเป็นสิ่งที่เธอถนัดเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้
“ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด้วยนะ ออกนอกสถานที่บ่อย”
“ก็ดีสิคะ...แยมว่ามันน่าสนุกออก”
“แล้วงานศพพ่อเลี้ยงของแยมเรียบร้อยแล้วเหรอ...เป็นงานใหญ่มากเลยนะ คุณธนาดลน่ะเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงมากทีเดียว ใคร ๆ ก็รู้จักเขาดี แล้วนี่บริษัทในเครือของเขาใครจะเข้าไปดูแลและรับผิดชอบกันล่ะ เห็นว่าลูกชายของเขาไปอยู่ต่างประเทศนานแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เขากลับมาแล้วค่ะพี่พีท...และเขาก็คงจะกลับมารับช่วงต่องานทุกอย่างของคุณลุงธนาดล วันนี้แม่ไปที่บริษัทเพราะทนายประจำตระกูลนัดให้ไปฟังการเปิดพินัยกรรมของคุณลุงธนาดลทั้งหมด”