ตอนที่ 1
เป็นประจำของทุกวันในเวลาเย็นเช่นนี้ ที่บริเวณตรอกซอยไร้ผู้คนแห่งนี้ จะมีหญิงสาววัยแรกแย้มหน้าตาจิ้มลิ้ม ถักเปียสองข้าง ใส่ชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนชื่อดัง ผิวขาวนวลเนียน ดวงตากลมโตรับขับกับใบหน้ารูปไข่และสันจมูกที่โด่งแต่พองาม รวมถึงปากน้อยได้รูปสีชมพูบ่งบอกถึงสุขภาพร่างกายที่ดี เดินผ่านในวันธรรมดาทุกวันหลังเลิกเรียน
เนื่องจากตรอกนี้เป็นทางลัดไปยังปลายทาง นั่นคือบ้านของเธอเอง เส้นทางนี้ประหยัดเวลากว่าทางปกติถึงสองเท่า ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเรียนและการเดินทางโดยรถสาธารณะก่อนหน้า ทำให้เธอเลือกเส้นทางนี้เป็นประจำ และทุกวันเธอก็เดินกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ จนกระทั่งวันนี้
หญิงสาวเดินไปต้นซอยไม่นานนัก ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะวันนี้ซอยแห่งนี้ไม่ได้ร้างผู้คนเหมือนวันก่อนที่ผ่านมา แต่กลับมีผู้ชายผอมโซ ใบหน้าหมองคล้ำ คล้ายคนติดยา นั่งชันเข่าในทางที่เธอจะต้องผ่านในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
เธอยืนลังเลอยู่ชั่วครู่ ครุ่นคิดว่าจะเดินผ่านไปดีหรือไม่ ซอยนี้ค่อนข้างแคบ การที่เธอเดินไปอาจจะทำให้เฉียดชายเร่ร่อนคนนี้ไปเพียงนิดเดียว
เธอไม่ได้รังเกียจ แต่เธอห่วงความปลอดภัยของตัวเองก็เท่านั้นเอง
ด้วยความที่ชายผู้นั่นก้มหน้าก้มตา ทำให้เธอตัดสินใจเดินต่อไป เพราะคิดว่าเขาคงนอนหลับอยู่ คงไม่มีปัญหาอะไรหากเธอรีบจ้ำก้าวเดินไปจากตรงนี้เพียงไม่กี่วินาที แต่การตัดสินใจครั้งนี้กลับเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
ขณะที่เธอก้าวเดินไปถึงบริเวณชายผู้นั้น มือดำเปื้อนเศษดินก็เอื้อมมาจับขาเธอไว้ทันที
“กรี๊ดดด”
“ไปไหนจ๊ะน้องสาว” เสียงแหบพร่า เอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มที่น่ากลัวจากปากของชายเร่ร่อนที่นั่งขวางทาง
“เออ กะ กลับบ้านค่ะ กะ กรุณา ปะปล่อยหนูด้วยนะคะ” หญิงสาวพูดตะกุกตะกัก ด้วยความหวาดกลัว กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ต้องมีค่าผ่านทางซะหน่อยแล้วล่ะ แม่หนู”
สิ้นเสียงหยาบกร้านดับลง ชายผอมแห้งก็ปรับเปลี่ยนเป็นลุกขึ้นยืนแล้วจับแขนสาวน้อยแรกแย้มตรงหน้าทันที พร้อมสายตากะลิ้มกะเหลี่ยแพรวพราว
หญิงสาวได้แต่ยืนหวาดกลัวด้วยอาการสั่นเทา พร้อมคิดหาทางเอาตัวรอด แต่ยังไม่ทันจะคิดออก มือหยาบกร้านที่จับแขนขาวนุ่มไว้ก็ถูกสะบั้นออก ด้วยฝีมือของผู้มาใหม่ด้วยความแรงและรวดเร็ว
โอ๊ะ!!
หญิงสาวหันไปมองผู้มาใหม่พบว่านั่นคือ พี่เคหรือเฮียเค ที่สาวเล็กสาวใหญ่ในโรงเรียนของเธอต่างพากันเรียก
เฮียเคเป็นรุ่นพี่ที่มีชื่อเสียง เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มเจ้าชายปีศาจ ของโรงเรียนที่เธออยู่ และจากการกระทำของชายที่มาใหม่ ทำให้ชายคนที่อยู่ในซอยแต่แรก เกิดโทสะขึ้นมาทันที
“มึงเป็นใคร ถึงมาปัดมือกูออก”
ชายที่มาใหม่ทำเพียงเหลือบมอง ด้วยสายตาเรียบนิ่งพร้อมก้าวเดินต่อไปอย่างไม่แยแส ที่เขาต้องปัดมือที่จับกุมของชายหญิงตรงหน้าออกนั้น เขาเพียงแค่ต้องการเบิกทางเดินให้ตัวเองเท่านั้น เนื่องจากซอยนี้มันค่อนข้างแคบ หากไม่ทำเช่นนั้น เขาก็ไม่สามารถผ่านเส้นทางนี้ไปได้
“มึงจะไปไหน!” ชายร่างโทรม ผอมแห้ง คล้ายว่าขาดสารอาหารจนแรงยืนยังแทบไม่มี กล่าวกร่างออกมาเสียงดัง พร้อมเอามือเปื้อนจับไหล่อีกฝ่าย ด้วยความทะนงว่าตนเป็นนักเลงหัวไม้ โดยไม่สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะสูงยาว อกผาย กล้ามใหญ่แน่นสมชายแค่ไหน ขอแค่ให้ได้เอาเรื่องที่มาปัดมือเขาทิ้งจนมีอาการปวดร้าวเล็กน้อยตรงข้อมือก็พอใจแล้ว
และเช่นเดิม ผู้มาใหม่ทำเพียงปรายหางตามองเท่านั้น ก่อนที่จะจับมือสกปรกที่วางอยู่บนไหล่แกร่ง แล้วบิดด้วยความรวดเร็ว จนทำเอานักเลงหัวไม้ก่อนหน้า นอนโอดครวญกับความเจ็บอยู่บนพื้น สภาพไม่ต่างจากหมาโดนน้ำร้อนลวกยังไงยังงั้น เขามองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมปัดเศษดินที่เปื้อนตรงไหล่ของตนเองออกก่อนจะก้าวเดินต่อไปยังปลายทาง
ปกติเขาไม่เคยมาแถวนี้ แต่วันนี้เขาจำเป็นต้องมาทำธุระให้แม่และดูในแผนที่ เขาก็พบว่านี่คือทางลัดเลยเลือกที่จะเดินมาเส้นทางนี้เท่านั้น ถ้ารู้ว่าปัญหาเยอะ เขาคงไม่เลือกเดินมาตั้งแต่แรก
แต่ในมุมมองของหญิงสาวที่ได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ตาปริบๆ อยู่ตรงนั้นกลับมองว่าเขาคือฮีโร่ของเธอ
ขณะที่ชายเร่ร่อนลงไปนอนโอดครวญบนพื้น เธอเลยรีบอาศัยจังหวะนี้ รีบจ้ำก้าวเดินตามรุ่นพี่เธอไปติดๆทันที อยู่ๆความรู้สึกในหัวใจเธอก็เปลี่ยนไป มันรู้สึกเหมือนโดนปกป้อง รู้สึกปลอดภัย แม้เห็นแค่เพียงแผ่นหลังของเขาเท่านั้น
อีกฝ่ายรับรู้ว่ามีหญิงสาวเดินตามหลัง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก ตราบใดที่เธอไม่มายุ่มย่ามกับเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะบอกกับหญิงสาวเมื่อถึงปลายทาง
“อย่ามาเดินคนเดียวซอยนี้อีก”
เมื่อถึงทางแยก ทั้งคู่ต่างเดินแยกกันไปคนละเส้นทางด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน
สำหรับเขาคือรีบไปทำธุระให้คนทางบ้าน แต่สำหรับเธอ เขาคือคนที่กำลังกอบกุมหัวใจดวงน้อยๆของเธอเข้าอย่างจัง