ตอนที่ 11   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 11
“ป้าเทียนครับ ม๊าละครับ\" ผมเอ่ยถามแม่บ้านวัยกลางคน เมื่อมาถึงบ้านในวันอาทิตย์วันที่ทางบ้านนัดรวมกันกินข้าวเย็น “อยู่ในห้องนั่งเล่นค่ะคุณเค ..ช่วงนี้คุณนายดูอารมณ์ดีนะคะ เมื่อหลายวันก่อน คุณคินเอาอะไรให้คุณนายดูไม่รู้หลังจากนั้นติดงอมแงมเลย ตอนนี้ถ้าเดาไม่ผิด ป้าว่าก็น่าจะนั่งดูอยู่นั่นล่ะค่ะ” ป้าเทียนพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม  “ขอบคุณครับ“ ผมส่งยิ้มเล็กน้อยขอบคุณไปพร้อมกับเก็บข้อมูลที่ป้าเทียนบอกมาอย่างไม่คิดอะไร ก่อนจะเดินตรงไปห้องที่ว่า เมื่อผมเปิดประตูไป ผมก็เห็นเจ้าคิน แด๊ด แล้วก็ม๊า กำลังเพ่งสายตาไปยังหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ตรงหน้า ที่คินถือเอาไว้อยู่ในมือ พร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วยทั้งสามคน กรึก เสียงปิดประตูดังขึ้นด้วยฝีมือของผม เป็นผลทำให้ทุกคนเงยหน้ามามองผมแต่มันก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น ก่อนจะก้มลงไปดูหน้าจอต่อทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ  นี่สินะที่ป้าเทียนบอกว่าแม่ติดงอมแงม แต่ทำไมผมรู้สึกว่าไม่ใช่แค่แม่ที่ติดละ แล้ว..ดูอะไรกัน? ผมเปลี่ยนเป็นขยับขาเดินไปใกล้ๆ เพื่อดูว่าสมาชิกครอบครัวผมทั้งสามกำลังดูอะไรอยู่ แล้วผมก็เข้าใจทันทีว่าไอ้คินเอาอะไรมาให้แม่ผมดู ‘เรียบร้อย!...หน้าตากระถางหลอดไฟของพี่พลอยก็จะประมาณนี้นะคะ แล้วของหนูๆละ หน้าตาเป็นยังไงกัน ถ้าหลอดไฟที่บ้านไม่ติดแล้ว ก็อย่าลืมบอกคุณพ่อคุณแม่ ว่าพวกหนูอยากเอามาทำเป็นกระถางต้นไม้แบบนี้กันด้วยนะคะ.. และที่สำคัญ ทำเสร็จอย่าลืมเอาไปวางไว้ข้างๆ คอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์แบบนี้ด้วยนะ เพราะเจ้าต้นกระบองเพชรพวกนี้ นอกจากจะสวยจะน่ารักแล้ว มันยังมีความสามารถพิเศษอีกอย่าง คือสามารถดูดซับรังสีที่มีผลต่อระบบประสาท สายตา ผิวหนังที่ออกมาจาก คอม ทีวี อีกด้วย คุณพ่อคุณแม่และตัวหนูเองก็จะได้แข็งแรงๆ อยู่ด้วยกันไปนานๆ ( ^ ◡ ^ ) พี่พลอยว่าวันนี้พี่พลอยไปก่อนดีกว่า นั่งก้มทำนานๆ แล้วเริ่มหน้ามืด ฮ่าๆๆ แล้วเจอกันคลิปหน้าน้าา อ่อ..อย่าลืมส่งมาอวดพี่พลอยใสด้วยนะคะ พี่พลอยจะรอชมผลงานของทุกคนนะจ๊ะ บายย’ อืมมม..นี่มันคนเดียวกับที่ผมเจอวันก่อนจริงหรือเปล่าเนี่ย? หลังจากที่คลิปจบไปแล้ว ม๊าผมก็เลื่อนนิ้วไปในตำแหน่งของหน้าจอข้างๆ วิดีโอที่เพิ่งจบไปลง เป็นการบ่งบอกว่า จะดูวิดีโอถัดไป.. “6 โมงแล้วครับ” ผมพูดลอยๆ ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนรู้ว่านี่มันได้เวลากินข้าวแล้ว จนทำให้ม๊าต้องชะงักนิ้วไว้ ไม่ได้กดดูคลิปถัดไป “6 โมงแล้วเหรอเนี่ย..แม่ดูหนูพลอยใสเพลินเลย” “มันเพลินขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ผมพูดพร้อมส่งยิ้มให้แม่ไปด้วยความเอ็นดู นานๆ ทีผมจะเห็นแม่ผมติดอะไรงอมแงมขนาดนี้  “ช่วงนี้ม๊าแกติดหนักมาก ไม่สนใจแด๊ดเลยสักนิด” แด๊ดพูดและทำท่างอนเล็กน้อย แต่ก็ยังโอบกอดม๊าไว้อยู่ “แน่ใจเหรอคะ ใครกันที่เป็นคนบอกให้ฉันเปิดคลิปทุกคืน” ม๊าพูดพร้อมรอยยิ้มไม่ได้บ่นออกมาจริงจังอะไรมาก “ฮ่าๆ ..ก็ผมเห็นคุณมีความสุขทุกครั้งที่ดู ก็เลยให้คุณเปิดไง” แด็ดพูดพร้อมส่งรอยยิ้มไปให้ม๊าด้วยแววตาเดิมๆ ที่ส่งให้กันเป็นประจำ “โอ๊ยย ผมเป็นอากาศธาตุอีกแล้ว ไม่ต้องดงต้องดูแล้ว คุยกับเฮียดีกว่า” ไอ้คินพูดล้อเลียนแบบไม่ได้จริงจังกับภาพตรงหน้า พร้อมกับปิดโปรแกรมบนหน้าจอ ก่อนจะวางทีวีพกพาลงบนโต๊ะ “ว่าแต่..เป็นเด็กอายุแค่นี้เก่งนะ ทำอะไรก็ดูเพลินตาไปหมด ดูสิแม่ทำของตามหนูพลอยตั้งหลายอย่าง” พูดจบม๊าก็ค่อยๆ เดินไปหยิบชิ้นนู้นชิ้นนี้ ที่ประดิษฐ์เองมาให้ผมดูทีละอย่างอย่างภูมิใจ พร้อมรอยยิ้มและแววตาที่มีความสุข แค่เห็นม๊ามีความสุข ผมก็มีความสุขแล้ว “อ่อ วันก่อนพวกแกได้ทำงานกับหนูพลอยแล้วนี่ หนูพลอยตัวจริงเป็นยังไงบ้าง” อยู่ๆ ม๊าก็ถามผมกับไอ้คิน เมื่อกลับมานั่งที่โซฟาเช่นเดิม โดยที่แด๊ดคอยประคองอยู่ไม่ห่าง “คุณพลอยใสของม๊านะ ตัวจริงสวยกว่าในคลิปอีก เป็นร้อยเท่าเลย ใช่มั้ยเฮีย” ไอ้คินพูดพร้อมส่งสายตามาทางผม “ก็เหมือนในคลิปนั่นล่ะครับ” ผมพูดออกมาเพียงเท่านั้น แต่จริงๆ ผมคิดว่าเธอน่ารักมากกว่าสวยนะ โดยเฉพาะตอนนี้เธอคุยเล่นกับเด็กๆ ผมนึกขึ้นมาแล้วทำให้ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ “พี่พลอยเป็นผู้หญิงเก่งนะ ผมว่าแด๊ดกับม๊าต้องอยากได้เป็นลูกสะใภ้แน่นอน“ ไอ้คินพูดขึ้นมาอีกครั้งให้ม๊าและแด๊ดฟัง “แกจะไปจีบหรือไง อย่าเลย ม๊าสงสารหนูพลอยใส” ม๊าพูดด้วยความขบขัน ก่อนจะหัวเราะออกมา  “โธ่ม๊า นี่ลูกม๊าไง ว่าแต่..ก็น่าสนใจ เฮียคิดว่าไง” ไอ้คินพูดจบก็หันมาเลิกคิ้วใส่ผม ไหนวันก่อนยังจับคู่ผมกับยัยนั้นอยู่เลย ทำไมวันนี้มันถึงจะจีบเองซะแล้วล่ะ? “ก็เรื่องของมึงสิ แต่..เขาอายุมากกว่าไม่ใช่เหรอ” “ปีเดียวเอง ผมไม่ถือ แต่ถ้าเฮียขอ ผมยกให้ได้นะ” ไอ้คินมันพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้ายียวนใส่ผม  เพี้ยะ! “ไอ้คิน ใครสอนให้แกพูดจาแบบนี้ เขาเป็นผู้หญิงนะ ไม่ใช่สิ่งของ ที่เที่ยวไปยกให้ใครก็ได้แบบนั้น” ผมมองมันพร้อมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยักคิ้วส่งให้มันด้วยความรู้สึก..สมน้ำหน้า   “ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้นซะหน่อยม๊า ผมหมายถึง ถ้าเฮียขอผมจะไม่จีบไง” “เห้อ คุณดูลูกชายคุณสิ ไม่รู้ไปได้นิสัยแถไปเรื่อยมาจากใคร หรือคุณสอนมันลับหลังฉันป่ะเนี่ย” “อ้าว ไหงผลมาลงที่ผมได้ละ” สิ้นเสียงของแด๊ด ก็ทำให้พวกเราทุกคนหัวเราะกันอย่างมีความสุข  “แล้วเคไม่คิดจะมีผู้หญิงมาให้ม๊าปวดหัวเหมือนคินมันบ้างเหรอ” แม่หันมาพูดกับผมพร้อมส่งยิ้มมาให้ แต่ยังแอบกระแนะกระแหนใส่คินมันอยู่ จนมันต้องมองค้อนกลับมาเบาๆ “ผมงานเยอะจะแย่ จะให้ผมเอาเวลาไหนไปหาสาวครับ” ผมพูดพร้อมเดินอ้อมโซฟาไปเพื่อจะไปนั่งลงข้างๆม๊า “ตอนนี้ผมขอดูแลแค่สาวคนนี้ก็พอใจแล้วครับ” ผมพูดพร้อมไปนั่งแทรกตรงกลางระหว่างไอ้คินกับม๊าทันที พร้อมหอมแก้มม๊าไปฟอดใหญ่ “อ้าว ไอ้เฮียนี่ มาแย่งที่ผมกับม๊า ออกไปเลย” “หยุดๆ พวกแกไปหาเมียเป็นของตัวเองไป คนนี้ของแด๊ด” แด๊ดพูดจบ ก็เอาม๊าเข้าไปกอด ทำให้ผมและไอ้คินมองภาพนั้นด้วยความสุข “จริงๆ ก็อย่างที่ผมบอกนั่นล่ะ เอาพี่พลอยมาเป็นสะใภ้ให้แม่เลยสิเฮีย ยิ่งเรียนมหาลัยเดียวกันด้วย จีบสบายๆ” ผมหันไปมองไอ้คินอย่างเอาเรื่อง แต่ก็ไม่ได้จริงจังมาก “ถ้าเป็นหนูพลอยแม่ไม่ติดนะเค” แม่หันไปยิ้มให้กับไอ้คิน ก่อนที่ไอ้คินจะยกมือขึ้นมา แล้วให้แม่แปะมือลงกับฝ่ามือของมัน แปะ! “ผมว่าเราไปกินข้าวกันดีกว่า ป่ะๆ เดี๋ยวผมพาไปนะครับ” ผมลุกขึ้นแล้วพาม๊าไปนั่งรถเข็นก่อนจะพาม๊าออกจากห้องไปทันที พร้อมหันไปชี้หน้าไอ้คินที่ขุดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา พลอยใสน่ะเหรอ .. นึกถึงวีรกรรมตอนไปกินอาหารญี่ปุ่นครั้งนั้นแล้ว ก็ทำให้ผมต้องเผลอยิ้มออกมาทุกครั้ง แล้วยิ่งเรื่องล่าสุดที่เจอเธอก็เช่นกัน ผมไม่รู้ว่าเธอมาทำอะไรที่ตึกบริหารดึกๆดื่นๆ ดีนะวันนั้นผมไปตรวจเอกสารที่นั้น แล้วทำงานจนเพลินไปหน่อยเลยกลับดึก จนกระทั่งได้ยินเสียงกรี๊ดดังในอาคาร เลยเดินไปดู ก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งนั่งกอดเข่าอยู่ตรงนั้น แว๊บแรก ผมก็หลอนเอาเรื่องอยู่ แต่ผมก็ไม่กลัวหรอก ถึงจะเป็นผีก็เถอะ ผมก็เลยเดินไปใกล้ๆ แล้วแตะไหล่เธอดู แต่คำที่เธอพูดออกมา ทำให้ผมต้องกลั้นขำเลยทีเดียว  ผมก็นึกว่าเธอเป็นผี ส่วนเธอก็นึกว่าผมเป็นผี แล้วไหนจะคว้าผมไปกอดอีก ร่างนุ่มนิ่มนั่น ทำเอาผมเกือบเคลิ้มไปเลยทีเดียว แต่ผมก็รับรู้ได้ ว่าเธอกลัวจริงๆ ทั้งตัวสั่นและน้ำตาที่ทำเอาเสื้อผมเปียกไปหมด แล้วไหนจะเรื่องที่เธอเรียกผมว่า เฮียเคนั่นอีก ทำให้ผมตงิดๆ ในใจว่าเธอจะเป็นคนเดียวกันกับเจ้าของสมุดหรือเปล่า แต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง เพราะก็มีหลายคนที่ผมเคยได้ยิน ว่าเรียกผมว่าเฮียเคเหมือนกัน ถึงแม้ว่าผมจะไม่ชอบให้ใครมาเรียกก็ตามที แต่ตราบใดที่ไม่ได้เรียกต่อหน้าผม ผมก็จะปล่อยผ่านไป เพราะปกติผมจะอนุญาตให้เฉพาะคนที่สนิทเท่านั้นที่เรียกผมแบบนั้นได้ แต่กับพลอยใส..ทำไมผมไม่รู้สึกไม่พอใจก็ไม่รู้ แต่ที่ตราตรึงติดตาผมสุด ก็คงไม่พ้นท่านั่งอันวาบหวิวของเธอ จนทำให้ผมต้องเสียเสื้อคลุมไป ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องให้เธอก็ได้ เพราะปกติผมหวงของของผมทุกชิ้น.. แต่เอาเถอะ เพราะยังไงตอนนี้ผมก็ได้คืนมาแล้ว ก็เมื่อวันก่อนเลขาผมเอามาให้ บอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งตอนแรกจะมาขอพบผม แต่ปฏิเสธไปเพราะคิดว่าเธอจะเข้าหาผม แต่แล้วเธอก็พูดยาวเหยียด ก่อนจะยัดถุงเสื้อให้แล้วเดินจากไปทันที.. พลอยใส เธอเป็นคนยังไงกันแน่นะ ในคลิปวันนี้ เธอดูสดใส ฉะฉาน แต่วันนั้นที่เธออยู่ในคณะบริหาร เธอเอาแต่เขินอาย ก้มหน้าคุยกับผมตลอดเวลา จนผมต้องบอกให้เธอเงยหน้า ถึงทำให้เธอเปลี่ยนเป็นจ้องหน้าผมจนแทบจะถลึงตามาให้ผมอยู่แล้ว ทั้งๆที่หน้าก็แดงเขินอยู่อย่างนั้น มันทำให้ผมเกือบจะหลุดยิ้มออกมา ซึ่งนั่นก็ดีแล้วที่เธอวิ่งหนีออกไปก่อน ไม่งั้นเธอคงเป็นผู้หญิงคนแรกยกเว้นแม่ผม ที่จะได้เห็นผมหัวเราะแน่ๆ เออว่าแต่.. ทำไมผมต้องไปนึกถึงพลอยใสเยอะแยะขนาดนี้ด้วยนะ เจอกันแค่ สองครั้งเอง อ่อ ถ้ารวมตอนเธอเลือดกำเดาไหลด้วย ก็สามครั้ง หึหึ ผู้หญิงคนนี้ เจอแต่ละครั้ง มีเรื่องให้คนที่ยิ้มยากอย่างผมต้องเผลอยิ้มตลอดจริงๆ 
已经是最新一章了
加载中