ตอนที่ 16
ระหว่างที่ผมนั่งทำงานอยู่ ผมก็คอยแอบมองเธออยู่เป็นระยะๆ
ผู้หญิงคนนี้ ยิ่งอยู่ใกล้แล้วยิ่งรู้สึก..น่าแกล้ง
นั่นคือในความคิดผม ตั้งแต่เห็นเธอเดินเข้ามาในห้องนี้ ทั้งอาการสั่น ประหม่า และเขินอาย มันดูลงตัวและน่ารักไปหมด
ผมเอามือถือให้เธอพิมพ์ข้อความเพื่อโปรโมทกิจกรรมอะไรของเธอนั่นล่ะ เพราะผมไม่รู้ว่าจะโพสต์ว่าอะไรเลยยกให้เป็นหน้าที่ของเธอ
ซึ่งตอนนี้เธอก็หน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนใช้ความคิดอย่างหนักในการพิมพ์ ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้สึกอยากจะนั่งมองเธออย่างนี้ไปนานๆ แต่เมื่อไรที่เธอทำท่าจะหันมา ผมก็เบี่ยงสายตาไปมองหน้าจอทันที ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ผมไม่มีสมาธิกับงานตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้ผมเหลือบตามามองเธออีกครั้ง แต่กลับพบว่าเธอกำลังถ่ายรูปตัวเองคู่กับมือถือผม นั่นทำให้ผมเกือบจะหัวเราะออกมา
นั่นสินะ มือถือของผมเธอคงมองว่าเป็นแรร์ไอเทมเลยก็ว่าได้
ไม่นานเธอก็หันมามองที่ผมอีกครั้งและครั้งนี้ผมก็ตั้งใจไม่หันหน้าหนี นั่นทำให้เธอตาโตด้วยความตกใจทันที ผมอดไม่ได้ที่จะต้องไป..แกล้งเธอสักหน่อย
“แอบถ่ายรูปข้อมูลอะไรในมือถือ” ผมทำทีพูดเสียงนิ่งด้วยสายตาและท่าทีปกติของผม จนเป็นผลทำให้พลอยใสตอนนี้ตาโตตกใจยิ่งกว่าเดิม
“ปะเปล่านะคะ พลอยไม่ได้เอาข้อมูลอะไรไปเลย โพสต์เสร็จกะก็ เออ พลอยแค่จะเอามือถือของเฮียกับพลอยมาเทียบกันเฉยๆอ่ะค่ะ ว่าของใครดูใหม่กว่า”
แถเก่งซะด้วยสิ
“แล้วสรุปของใครใหม่กว่าครับ” ผมเริ่มเปลี่ยนเป็นสีหน้ายิ้มเล็กน้อย และเฉไฉไปเรื่อยตามที่เธอกล่าวอ้างก่อนหน้า
“เออ ก็ใหม่พอๆกันเลยค่ะ” เธอตอบพร้อมหันมายิ้มให้ แต่ก็รู้สึกได้ถึงใบหน้าที่เริ่มซีดลงเล็กน้อย
คิดจะโกหกเหรอ..พลอยใส
ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โซฟาที่พลอยใสนั่งอยู่ เธอมองมาทางผมด้วยสายตาเหมือนลูกกวางน้อย โดยไม่ละสายตาตลอดการเคลื่อนไหวของผม
“ไหน” ผมหยิบมือถือของผมกับของพลอย ในมือที่เธอถืออยู่มาดูและทันทีที่หงายมือถือของพลอยขึ้นก็พบภาพที่เธอถ่ายเซลฟี่คู่มือถือของผมโชว์หราอยู่บนหน้าจอทันที พลอยใสเห็นดังนั้นก็รีบคว้ามือถือไปทันที
“อะเออ พลอยว่ามือถือเฮียมันสวยกว่า เลยอยากถ่ายเก็บไว้ดูเป็น reference อ่ะค่ะ” หึหึ มือถือเธอกับผมก็รุ่นเดียวกันอยู่แล้วหรือเปล่า
“โกหกไม่เนียน แบบนี้ต้องโดนลงโทษนะรู้มั้ย” ผมพูดพร้อมใช้สองแขนแกร่งกักร่างของคนตรงหน้าเอาไว้กับพนักโซฟา ทำให้ตอนนี้พลอยใสอยู่ใกล้ผมแค่คืบเดียว
ตึกตึก ตึกตึก
ตอนนี้ผมได้ยินเสียงหัวใจของคนตรงหน้าที่มันดังออกมาเหมือนมีใครมาเปิดลำโพงเอาไว้
“หึหึ”
ผมค่อยๆ ก้มหน้าไปใกล้ๆ กับใบหน้าของพลอยใส พร้อมมองเข้าไปยังแววตาที่ไหวไปมาของคนตรงหน้าที่ใสเหมือนลูกแมว ยิ่งผมเข้าใกล้มากเท่าไร เธอก็ยิ่งเอนหลังถอยออกไปเท่านั้น จนหลังของพลอยชนเข้ากับพนักพิงโซฟา ทำให้เธอเปลี่ยนเป็นหดคอหนีจากการเข้าใกล้ใบหน้าของผมแทน
ยิ่งเห็นแบบนี้ ยิ่งน่าแกล้ง..
แต่ผมก็ยังไม่หยุดที่จะเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของเธอ จนกระทั่งปลายจมูกของผมกับเธอชนกัน
ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงผมควรจะหยุดการแกล้งเธอแค่เพียงเท่านี้ แต่ไม่รู้ทำไมผมไม่สามารถที่จะหยุดการกระทำของตัวเองได้ ได้แต่มองแววตาสั่นไหวของคนตรงหน้า ก่อนจะเหลือบตาลงไปมองปากอวบอิ่มสีชมพูเข้มที่กำลังเม้มเข้าหากันด้วยความเกร็ง และทำการประกบไปกับริมฝีปากน่าทะนุถนอมตรงหน้าทันที!
ผมกำลังนึกถึง.. ภาพของไอ้พวกเพื่อนเหี้ยสามตัว ที่มันชอบทำบ่อยๆต่อหน้าผม
มันจูบยังไงกันนะ?
เพราะผมยังไม่เคยจูบกับใครเลย และนี่ก็คือจูบแรกของผม!!! ถึงจะเป็นจูบแรก แต่ผมก็จะทำให้เธอไม่มีทางลืมจูบนี้แน่นอน
ตอนนี้คนตรงหน้าผมสั่นไปหมด ผมจึงเอามือไปประคองใบหน้าเล็กนั่น พร้อมบีบใบหน้าเล็กน้อย เพื่อให้เธอผ่อนคลายการเกร็ง ก่อนจะค่อยๆ ลงแรงกดริมฝีปากอีกครั้งพร้อมส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กนั่น และอีกฝั่งก็เหมือนจะโอนอ่อนแต่โดยดี ไร้แรงขัดขืนใดๆทั้งสิ้น แม้จะมีบ้างที่เธอกำมือดันหน้าอกผมเอาไว้ แต่แรงนั้นก็เหมือนจะไม่ได้มีผลกับผมเลยสักนิด ผมตวัดลิ้นไปมาอย่างช้าๆ กวาดชิมรสชาติหอมหวานจากคนตรงหน้าให้มากที่สุด ซึ่งมันก็หอมหวานจริงๆ
เริ่มแรกผมอาจจะยังไม่แน่ใจว่าทำยังไง ทำให้อาจจะทำมันช้าไปบ้าง แต่ไม่นานผมก็เริ่มจับทางได้และทำมันอย่างง่ายดาย ผมจูบเธออยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน ก่อนจะค่อยๆ ผละริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
ภาพของคนตรงหน้าที่ผมเห็นมันทำให้ผมอดใจไม่ได้ที่อยากจะก้มลงไปจูบอีกครั้ง แต่ผมก็ต้องหักห้ามใจไว้ ไม่งั้นเธอคงระเบิดตายก่อนแน่ เพราะดูได้จากใบหูและใบหน้าที่เปลี่ยนสีจนแดงเกือบสุกนั้นน่ะ
พลอยใสหลับตาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแต่ก็ต้องหลับตาลงอีกครั้งด้วยความตกใจที่เห็นใบหน้าของผมอยู่แค่คืบ
“หึหึ” ผมผละออกจากการคร่อมพลอยใส แล้วเปลี่ยนไปนั่งข้างๆ แทนก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่ยังหลับตาแน่นอยู่อย่างนั้น
พลอยใสลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วหันมองมาทางผมก่อนจะเอ่ยคำพูดติดๆ ขัดๆและลุกขึ้นออกจากห้องไปทันที
“ขะ ขอตัว กะกลับก่อนนะคะ” ผมพิงตัวลงบนโซฟา ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มที่ไม่สามารถหุบลงได้ พร้อมกับคิดว่า ผมเป็นอะไรและผมทำอะไรลงไป
ผมเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดดูบันทึกของเธออีกครั้ง
คิดถึง... ตอนนี้เฮียกำลังทำอะไรอยู่นะ
ส่วนฉันน่ะเหรอ..ก็กำลังคิดถึงเฮียไงล่ะ ฮิ้วว
(●’◡’●)ノ♥
วันนี้ฉันเห็นเฮียด้วย เฮียยังเหมือนเดิม ไม่ต่างจากครั้งแรกที่เจอกัน
แม้ว่าจะไม่เคยเห็นเฮียยิ้ม แต่ฉันจะเป็นรอยยิ้มให้เฮียเองนะ
(◕ ‿ ◕)
ซอยนั้นที่เราเจอกันครั้งแรก โดนรื้อทิ้งสร้างตึกไปแล้วนะ
แต่ถึงแม้จะไม่มีแล้ว แต่ในความทรงจำของฉันจะไม่มีวันโดนรื้อทิ้งตามไปแน่นอน
(◕︵◕)
บอกรักผ่านตัวอักษร
บอกคิดถึงผ่านตัวอักษร
แต่คำบอกเหล่านั้นไม่เคยถึงเขาเลย
เศร้าเนาะ
(◕_◕。。)
วันนี้ฉันไปเจอเพลงหนึ่งมา
มันทำให้ฉันคิดถึงเฮียเคเอามากๆเลย
นั่งฟังวนไปทั้งวันทั้งคืนจ้า
ชอบแบบนี้ - หนามเตย สะแบงบิน
( ◡ ‿ ◡) ♫ ♪
วันนี้ รูปภาพเฮียในอัลบัมครบ 100 รูปแล้วน้า
สะสมเก่งงงง
ภูมิใจแค่ไหน ถึงขั้นต้องจดบันทึกอ่ะ คิดดู 555
◦°˚\\(* ❛‿❛ )/˚°◦
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
ฉันขึ้นปีสอง ..เฮียขึ้นปีสาม
เป็นการใช้ชีวิตในมหาลัยหนึ่งปีที่แทบไม่เจอเฮียเลย..
และก็เป็นการใช้ชีวิตในมหาลัยหนึ่งปีที่คิดถึงเฮียแทบทุกวันเช่นกัน
( ˘ ³ ˘ )♥
แม้จะจำข้อความในสมุดนี้ได้หมดแล้ว แต่ผมก็ยังอยากจะอ่านผ่านตัวอักษรอีกอยู่ดี
พลอยใส..เธอน่ะ..ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา..แต่เธอคือยัยแม่มด!