ตอนที่ 19   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 19
“เก่งดีนะคะ ที่น้องพลอยทำให้คุณเค ยอมช่วยโปรโมทกิจกรรม ไปทำ ..ท่า..ไหนล่ะคะ” พี่ยีนส์พูดขึ้นมากลางที่ประชุม ด้วยสายตาและน้ำเสียงเช่นเดิม พร้อมกับมองเหยียดสุดๆ ตรงคำว่า ‘ท่า’ นี่ล่ะ ใช่แล้ว ตอนนี้ฉันกำลังประชุมกันอีกแล้ว โคตรน่าเบื่อเลย ครั้งนี้ฉันโดนสายตาและน้ำเสียงที่จิกกัดมากกว่าปกติจากพี่ยีนส์เป็นสองเท่า แต่ฉันก็ยิ้มรับอย่างคนมีสปิริตในการทำงาน “จะท่าไหนก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ แค่พลอยทำให้พี่ยีนส์ว้าวได้แล้วก็น่าจะพอใจแล้วนะคะ” ฉันตอบกลับไปอย่างฉะฉาน ถึงฉันจะเรียบร้อย อ่อนแอ แต่ถ้าให้สู้ฉันก็ไม่ยอมใครเช่นกัน เพราะนี่มันเป็นการถากถางฉันรอบที่ห้าแล้ว ตั้งแต่ที่ฉันนั่งในห้องนี้ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้พี่ยีนส์และทุกคนในห้องนี้หันมามองฉันเป็นตาเดียว ส่วนไอ้พวกเพื่อนๆฉันก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แถมยังตบมือให้แบบไม่มีเสียงอีก ระหว่างที่ทุกคนกำลังนิ่งๆ กับสถานการณ์ตอบโต้ของฉันอยู่นั่น อยู่ๆประตูห้องประชุมก็เปิดขึ้นมา นั่นทำให้พวกเราทุกคนหันไปมองที่ปลายทางเดียวกันทั้งห้อง มาประชุมกันครบแล้วนี่นา ใครมากันนะ ผู้ปรากฏใหม่ มองกราดไปทั่วห้องเพียงชั่วครู่ด้วยสายตานิ่งเฉียบ ก่อนที่จะมาสะดุดที่ฉัน แล้วเปลี่ยนเป็นก้าวเท้ายาวเดินมาพร้อมกับนั่งลงตรงเก้าอี้ว่างที่ติดกันกับฉันไปที่นั่งเดียว! ห้องนี้มีเก้าอี้ว่างตั้งเยอะแยะ ทำไมเขาเลือกมานั่งตรงนี้นะ ตอนนี้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ แต่สายตาของผู้ประชุมทุกคนต่างมองไปยังผู้มาใหม่ไม่วางตา รวมถึงฉันด้วยเช่นกัน “ไหนคุณเคเคยบอกว่าจะไม่เข้าประชุมไม่ใช่เหรอคะ” พี่ยีนส์ถามขึ้นมา ขณะที่เฮียเคเอาแต่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ข้างๆฉัน “ผมมาไม่ได้?” เฮียหันหันไปพูดกับพี่ยีนส์นิ่งๆ พร้อมเลิกคิ้วเล็กน้อย จนพี่ยีนส์ต้องผงะไปทันที “เออ สำหรับคุณเค ได้อยู่แล้วค่ะ ...เอาล่ะ งั้นเรามาเข้าประเด็นต่อไปกันเลยแล้วกัน เรามาพูดถึงราคาเข้างานกันดีกว่า” พี่ยีนส์หันมาประชุมงานต่อ แต่ตอนนี้สายตาทุกคนต่างมองไปยังเฮียไม่วางตา แน่ล่ะ ออร่าเฮียเคของฉันกระจายซะขนาดนี้ จนสุดท้ายพี่ยีนส์จำเป็นต้องทุบโต๊ะเรียกสติทุกคนคืนมา รวมถึงตัวฉันด้วย ปัง! “ขอเชิญคุณพลอยใส ยูทูปเบอร์ชื่อดัง แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้หน่อย ทางเราควรคิดค่าใช้จ่ายเข้างานกันยังไงดีคะ” พี่ยีนส์พูดขึ้นมา พร้อมมองมาทางฉันด้วยสายตาที่รอคำตอบและพร้อมจะเหยียบย่ำทันที ถ้าฉันพูดอะไรผิดไป อ้าว ทำไมหวยมาลงที่ฉันล่ะ ฉันหันไปมองหน้าเฮีย ซึ่งเขาก็มองฉันกลับมานิ่งๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าตรงเหมือนเดิม ทำให้ฉันต้องหันไปมองยังเพื่อนๆของฉันแทน ซึ่งแต่ละคนส่งกำลังใจมาให้อย่างล้นหลาม จนทำให้ฉันค่อยๆลุกขึ้น แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ หึ รู้จักฉันน้อยไปแล้ว “ถ้าในความคิดของพลอย พลอยคิดว่าเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บค่าใช้จ่ายในการเข้างานนี้” ฉันพูดนิ่งๆ และมองหน้าทุกคนไปมา ซึ่งตอนนี้เฮียเปลี่ยนเป็นหลับตาและนั่งกอดอกไปเรียบร้อยแล้ว ฉันสูดหายใจอีกครั้งก่อนจะพูดต่อ “เราไม่ได้จัดกิจกรรมนี้เพื่อทางธุรกิจ แต่ก็เข้าใจว่าเราไม่ได้จัดเพื่อการกุศลเช่นกัน แต่เท่าที่คำนวณแล้ว เงินที่ได้จากการเก็บค่าเช่าบูธ รวมไปถึงเงินที่ได้จากสปอนเซอร์ ทางมหาลัยก็ไม่ได้ขาดทุนแล้ว และอีกอย่างถ้าเราเก็บเงินค่าเข้างาน ก็ส่งผลให้คนที่มาร่วมงานนี้น้อยลงอย่างแน่นอน” ฉันพูดออกมาอย่างช้าๆ พร้อมอธิบายเหตุผลของตัวเองอย่างไม่ได้ติดขัดอะไร เพราะฉันคิดแบบนี้มาทุกปีอยู่แล้ว เพียงแค่ปีนี้ฉันได้มาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย จึงเป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้แสดงความคิดเห็นออกมา “แบบที่น้องพลอยบอก มันก็ถูกนะคะ แต่อย่าลืมว่าเราคือมหาลัย SIANTA มหาลัยที่ค่าเทอม 6 หลัก เพราะฉะนั้น แค่ค่าเข้างานกระจอกๆ ไม่กี่ร้อย ทุกคนขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกค่ะ อีกอย่างค่าเข้างานมันก็มีทุกปี แล้วอยู่ๆให้ปีนี้ไม่มีมันจะไม่ผิดธรรมเนียมไปหน่อยเหรอคะ” พี่ยีนส์ลุกขึ้นแย้งฉันด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เย้ยหยันในความคิดเห็นของฉันทันที “แบบที่พี่ยีนส์พูดมันก็ถูก เงินไม่กี่ร้อย คนที่เข้าเรียนที่นี่ ไม่มีผลกระทบแน่นอน แต่ถึงยังไง นั่นมันก็คือเงิน ที่เราต้องซื้อเพื่อจะได้เข้ามาในงานมหาลัยของตัวเอง สมมติว่าบ้านพี่ยีนส์มีงานฉลองกันภายในบ้าน พี่ยีนส์ต้องเสียเงินเพื่อเข้าบ้านตัวเองมั้ยคะ ถ้าต้องเสีย พลอยคิดว่า บ้านหลังนั้นก็ไม่ค่อยน่าอยู่สักเท่าไรหรอกค่ะ” ฉันหันไปมองเพื่อนๆ ที่ยิ้มออกมาให้ฉัน และเฮียเคที่หลับตาอยู่แต่กลับยิ้มมุมปากเบาๆ “เออ..พี่คิดว่า เราทำแบบนี้มาทุกปีแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนี่คะ” “ค่ะ ถ้าเรายังยึดติดอยู่กับแบบเดิมๆ เราจะรู้ได้ไงว่าเปลี่ยนแล้วมันจะไม่ดีกว่า อีกอย่างงานนี้จริงๆ แล้วมันมีจุดประสงค์เพื่ออะไร พลอยเข้าใจมาตลอดว่างานนี้เรามีจุดประสงค์เพื่อให้ทุกคณะได้มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ส่งเสริมความสามัคคีกันภายในมหาลัย เพราะฉะนั้นเราควรไปโฟกัสตรงนั้นมากกว่า ที่จะมาคิดเล็กๆน้อยๆกับราคาเข้างานนะคะ” ฉันพูดช้าๆ และส่งยิ้มไปยังให้พี่ยีนส์ไปด้วยความมั่นใจ “งั้นพี่ว่าให้คุณเคตัดสินดีกว่านะคะ” พี่ยีนส์พูดขึ้นมาด้วยสีหน้ามั่นใจเช่นกัน นั่นส่งผลให้เฮียที่นั่งหลับตาฟังอยู่นาน ค่อยๆลืมตาขึ้นมา ฉันหันหน้าไปมองเฮียเค ด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆ ว่าเขาจะเลือกความคิดของฉันหรือพี่ยีนส์ เฮียหันมามองฉันทีและพี่ยีนส์ที ก่อนจะโพล่งออกมาด้วยเสียงเรียบขรึม “ผมอยู่ในสังคมประชาธิปไตย ไม่ได้อยู่ในสังคมเผด็จการ เพราะฉะนั้นจะเอาความคิดผมเป็นใหญ่ไม่ได้หรอกครับ ..ผมเสนอให้โหวต โดยที่ผมจะร่วมโหวตด้วย” เฮียเคพูดมานิ่งๆ ซึ่งฉันก็เห็นด้วย ถ้าทุกคนจะไม่เห็นด้วยกับฉัน ฉันก็จะยอมรับแต่โดยดี “ใครเห็นด้วยกับพลอยใส” เฮียพูด พร้อมมองมาทางฉันก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นเฮียก็ค่อยๆ ยกมือขึ้น เขาเลือกช้านนนน ทุกคนเห็นมั้ยว่าเข้าเลือกช้านนน ถึงแม้จะเลือกความคิดไม่ได้เลือกคน แต่ฉันก็จะเหมารวมว่าเขาเลือกฉัน!! กรี๊ดดด หลังจากที่เฮียยกมือขึ้น ก็เป็นผลทำให้ผู้หญิงในห้องนี้ ยกมือขึ้นตามกันเป็นแถวๆ ซึ่งเท่าที่ดูด้วยสายตา มันก็เกินครึ่งห้องแล้ว ทำให้ฉันค่อยๆยิ้มออกมา ก่อนจะหันไปยิ้มให้เฮียเคและเพื่อนๆฉันอีกครั้ง จากนั้นเฮียก็เอามือลง “ใครเห็นด้วยกับคุณยีนส์” และก็มีคนยกขึ้นเล็กๆน้อยๆ ส่วนใหญ่ก็จะเพื่อนของพี่ยีนส์ซะมากกว่า “ตามนี้นะครับ คุณยีนส์ ” เฮียพูดนิ่งๆ แล้วก็กลับไปนั่งกอดอกเหมือนเดิม แต่แวบหนึ่งฉันเห็นเฮียหันมายิ้มให้กับฉันด้วย อร๊ายยย “อืม..ค่ะ!!” พี่ยีนส์พูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นเล็กน้อย ที่ตนเองไม่ได้รับการโหวตให้ชนะ ส่วนฉันก็ได้แค่ยิ้มเบาๆไปตามมารยาทเท่านั้น ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ “ส่วนเรื่องโปรโมท พี่ยังไม่พอใจกับแผนการโปรโมทของเธอนะ ไปคิดมาเพิ่มด้วย” อะไรวะ นี่จะไม่จบใช่มั้ย “แต่พลอยว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้วนะ ถ้าจะให้คนเข้ามามากกว่านี้ คงต้องให้ทั้ง devil prince มาเป็นกรรมการ Mr. & Miss SIANTA แล้วล่ะ” ฉันพูดประชดออกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก “ก็ดีนะ..ไหนๆ คุณเคก็นั่งอยู่แล้ว เธอก็ขอเขาสิ” พี่ยีนส์พูดใส่ฉันด้วยน้ำเสียงดูถูกเช่นเคย แต่ฉันไม่คิดว่าพี่ยีนส์จะเห็นด้วย เพราะปกติพวกเราจะไม่ยุ่งกับกลุ่มสักเท่าไรถ้าไม่จำเป็น “เออ..คือพลอย แค่ยกตัวอย่าง ไม่ได้คิดจะให้เกิดขึ้นจริงหรอกค่ะ” เฮียเคและทุกคนในกลุ่ม devil prince ไม่ชอบความวุ่นวายขนาดไหน ใครก็รู้ เรื่องนี้มันคงเป็นไปไม่ได้แน่ๆ “เป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ซะเปล่า แต่ไม่มีความรับผิดชอบกับคำพูดของตัวเอง?” ขึ้นเลย ของขึ้นเลย เอาวะลองดูสักตั้ง ฉันหันไปมองทางเฮียเค ที่มองมาทางฉันนิ่งๆ แต่สายตาเหมือนรอดูว่าฉันจะทำยังไงต่อไป “คุณเคคะ รบกว..” “เฮียเค” อยู่ๆ เฮียก็พูดแทรกขึ้นมา พร้อมเงยหน้ามามองฉัน ทำให้ทั้งห้องอยู่ในความเงียบ รวมทั้งฉันที่พูดต่อไม่ออก “เรียกเหมือนที่เคยเรียก ไม่ต้องเรียกเหมือนคนอื่น” เฮียหันมาบอกฉันอีกครั้งด้วยสีหน้านิ่งเรียบ จนทำให้ตอนนี้ทั้งห้องเกิดเสียงกรี๊ดกร๊าดดังกระหึ่มไปทั่ว รวมทั้งเพื่อนๆของฉันด้วย ส่วนตอนนี้หน้าฉันร้อนจนจะระเบิดแล้ว “ผมว่า..ผมขอตัวก่อนนะครับ” ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร อยู่ๆ เฮียเคก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดขึ้นมา จนทั้งห้องกลับมาเงียบอีกครั้ง “ส่วนเรื่องเมื่อกี้ ลองหาคำมาขอเฮียดีๆ เฮียอาจจะเอามาพิจารณาก็ได้นะ” เฮียหันมายิ้มให้ฉันแล้วก็เดินออกจากห้องไปเลย ปล่อยให้ฉันล้มลงนั่งบนเก้าอี้อย่างคนหมดแรง และทั้งห้องก็กลับมามีเสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกครั้ง งื้อออออ ฉันต้องเจอเขานอกรอบอีกเหรอ อร๊ายยย..งานคราวที่แล้วเสียจูบ แล้วงานนี้ยากกว่าเยอะมาก ฉันจะเสียมากกว่าจูบมั้ยเนี่ย!!!
已经是最新一章了
加载中