ตอนที่ 20
“โอ๊ยยยย แกเห็นพี่เคเมื่อกี้มั้ย ช็อตก่อนเดินออกไป กูตายว่ะ” เสียงยัยศรบ่นออกมาทันทีที่เรากำลังเดินออกมาจากห้องประชุม พร้อมกับเสียงแซวของเพื่อนฉันที่ดังไม่หยุด ส่วนฉันก็ยังงงๆ กับการกระทำของเขาก่อนหน้านี้อยู่เลย
ทำไมเขาถึงกล้าพูดแบบนั้นกลางห้องประชุม แล้วไหนจะรอยยิ้มนั่นอีก ช็อตนั้นตายจริง แบบที่ยัยศรว่านั่นล่ะ แต่ในขณะที่พวกฉันกำลังหัวเราะกันสนุกสนานอยู่นั้น
“น้องพลอยครับ” อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกจากหน้าห้องประชุม ทำให้ฉันและเพื่อนๆต้องหันไปมอง
“อ้าว พี่ลีมาทำอะไรที่นี่คะ”
“พี่จะมาชวนพลอยไปกินข้าวไง ไปกินด้วยกันนะครับ ศร มิน เกรวี่” พี่ลีหันมาชวนฉันและเพื่อนๆ
“ถ้าพี่ลีเลี้ยงก็ได้ค่ะ เนอะๆยัยพลอย”
“เออ ก็ได้ค่ะ” แต่ระหว่างที่พวกเรากำลังจะเดินออกไป ก็เจอพี่ยีนส์เดินตรงเข้ามา
“ไปไหนกันเหรอคะ น้องพลอย พี่..ลี” พี่ยีนส์เดินตรงเข้ามา พร้อมยิ้มแย้มให้
“ไปกินข้าวน่ะ งั้นผมขอตัวพาพลอยไปกินข้าวก่อนนะครับ” พูดจบ พี่ลีก็จูงมือฉันเดินออกมาในทันทีเลย โดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว
ดูจากสายตาพี่ยีนส์เมื่อกี้แล้ว โอเค ฉันยิ่งกว่าโดนเกลียดแล้วแน่ๆ เห้อ!!
“พี่ลีรู้จักพี่ยีนส์ด้วยเหรอคะ” ยัยมินถามทันทีที่พวกเราขึ้นรถกันเรียบร้อยแล้ว
ฉันและเพื่อนๆหันไปมองมันทันที เพราะมันก็รู้ทั้งรู้อยู่ว่าทั้งคู่รู้จักกันแล้วยังจะถามอีก แต่ฉันก็เข้าใจ ต่อมเผือกมันทำงานสินะ
“ก็พอรู้จักกันครับ แต่ไม่ได้สนิท ..น้องพลอยอยากกินอะไรดีครับ” ฉันรับรู้ได้ว่าพี่ลีอยากเปลี่ยนเรื่อง แสดงว่าคงเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งฉันก็ไม่ได้อยากยุ่งสักเท่าไร ฉันเลยเลือกที่จะไม่พูดถึงต่อ
“แล้วแต่พี่ลีเลยค่ะ”
“ปกติพี่ยีนส์เขาเป็นคนนิสัยยังไงอะพี่ลี ขี้เหวี่ยงไรงี้มั้ย” อยู่ๆ ยัยมินก็พูดขึ้นมา
“พี่ไม่รู้หรอก บอกแล้วว่าไม่สนิท” พี่ลีพูดแบบไม่ใส่ใจ พร้อมมองภาพข้างหน้าแล้วขับรถต่อไปเรื่อยๆ
“พี่ยีนส์นะ ไม่รู้ไม่พอใจอะไรยัยพลอย ทุกครั้งที่ประชุมแสดงออกโคตรชัดเจนเลยว่าเกลียดมัน ดูอย่างวันนี้สิ หักหน้ามันตั้งหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็สู้ลูกชะนีฉันไม่ได้ เลิศนะยะแก” ยัยเกรวี่พูดอย่างออกอรรถรส
“ยีนส์ทำอะไรพลอยบ้างล่ะ” พี่ลีพูดออกมานิ่งๆ
“โอ๊ยก็เยอะอยู่ แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก ก็อย่างเช่นชอบกระแหนะกระแหน ถากถาง แล้วก็ชอบโยนงานยากๆมาให้ ดูจากสายตาและท่าทางนะ ถ้าตบได้ตบไปแล้ว”
ยัยมินพูดสมทบขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจัง ส่วนพี่ลีก็ได้แต่นั่งหน้าเงียบๆ
จากนั้นพี่ลีก็ชวนคุยเรื่องอื่น จนกระทั่งไปกินข้าวแล้วเราก็แยกย้ายกันกลับปกติ แต่ยัยเพื่อนตัวดีทั้งสาม ก็บอกว่าขอลงก่อน แล้วก็บอกให้พี่ลีไปส่งฉันที่บ้านแทน
ที่จริงฉันอยากจะให้พี่ลีไปส่งฉันที่คณะเหมือนเดิม เพราะรถของเฮียที่ฉันเอามาใช้จอดอยู่ที่นั่น แต่เพราะทางมันคนละทางกันเลย ระหว่างมหาลัย ร้านอาหาร บ้านฉันและบ้านพี่ลี ถ้าให้เขากลับไปมหาลัย พี่ลีต้องไปๆมาๆ ฉันเกรงใจเลยให้เขาไปส่งที่บ้านแทน ซึ่งมันไม่ได้ไกลจากตรงนี้สักเท่าไรด้วย
“นี่ก็ปีกว่าๆ แล้วนะครับที่เรารู้จักกัน เมื่อไรพลอยจะเปิดโอกาสให้พี่ซะที” พี่ลีพูดขึ้นเมื่อมาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านฉันเป็นที่เรียบร้อย
“พี่ลี พลอยบอกแล้วไง ว่าพลอยคิดกับพี่แค่พี่ชายเท่านั้น”
“เห้อ..พี่ไม่มีโอกาสเลยจริงๆ เหรอครับ”
“พลอยว่าพี่ลีอย่าเสียเวลากับพลอยเลยดีกว่า เออ..จริงๆ แล้วพลอยมีคนในใจแล้ว” ฉันตัดสินใจพูดออกมาแบบนั้น เพราะอยากให้คนตรงหน้าตัดใจจากฉันสักที พี่ลีเป็นคนดี เขาควรได้เจอคนใหม่
“ใคร? ไอ้หมอนั่นรึเปล่า” พี่ลีพูดนิ่งๆ แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามฉัน และไอ้หมอนั่นก็รู้ๆกันอยู่ ก็คงหมายถึงเฮียเค
หลังจากเกิดเรื่องวันนั้น พี่ลีก็ไม่ได้มารับส่งฉันเหมือนเดิม เพราะฉันโกหกไปว่ามีเพื่อนให้ยืมรถ เพราะว่าเพื่อนไปต่างประเทศและไม่อยากให้รถจอดทิ้งไว้ ซึ่งก็เป็นคำตอบเดียวกับที่ฉันตอบคำถามคนในบ้านเช่นกัน ส่วนหนึ่งที่ฉันทำแบบนี้ ก็มีหลายสาเหตุ อย่างแรกพี่ลีจะได้ห่างจากฉัน เขาได้ตัดใจง่ายขึ้นและอย่างที่สองก็เพราะเฮียไงล่ะ ถึงฉันจะไม่รู้ว่าเขาจะห้ามฉันทำไม แต่ฉันก็เลือกที่จะทำตามที่เขาบอก
งื้ออ ก็คนมันรักอ่าาา
แต่เอาจริงๆ ฉันก็ไม่หน้าด้านใช้รถเขาไปตลอดหรอก นี่ก็ว่าจะหาเวลาเหมาะๆเอาไปคืนเขาอยู่นะ เอามาขับแบบนี้ก็เกรงใจและฉันคงต้องหาซื้อรถของตัวเองจริงๆจังๆ แล้วล่ะสินะ
“ใช่ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง” ฉันพูดตอบรับเพื่อให้พี่ลีตัดใจสักที ก่อนที่จะลงจากรถ โดยไม่ฟังเสียงของพี่ลีที่จะพูดอะไรต่อ
“พี่พลอย ไอ้ตาลีนั่นมาส่งอีกแล้วเหรอ“ ทันทีที่ฉันเดินเข้าไปในบ้าน ยัยพิงค์ก็ทักฉันขึ้นทันที
“ใช่ ไอ้ตาลีมาส่ง” พี่ลีพูดแทรกขึ้นมา จนทำให้ยัยพิงค์ต้องผงะไปด้วยความตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นหน้าบึ้งแทน
“เป็นคนขับรถรึไง การงานมีก็ไม่ไปทำ มาเที่ยวรับส่งคนอื่นอยู่ได้” ยัยพิงค์พูดแล้วหันไปมองพี่ลีด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ มันเป็นแบบนี้ประจำ ไม่รู้ไปเกลียดอะไรพี่ลีขนาดนั้นและตอนนี้คงเป็นฉันที่ต้องห้ามทัพก่อน เพราะพี่ลีก็เริ่มมองยัยพิงค์ด้วยสายตาไม่พอใจแล้ว
“เออ พี่ลีมีอะไรรึเปล่าคะ นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก”
“พี่อยากมาคุยกับพลอยเรื่องเมื่อกี้ให้จบ” พี่ลีพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าซีเรียส
“พลอยขอไม่คุยนะคะ ก็ตามที่พลอยพูดไป”
“แต่..”
“นี่ ไม่ได้ยินรึไง ว่าพี่พลอยไม่คุยแล้ว หน้าด้าน” ยัยพิงค์พูดออกมาจนพี่ลีต้องหันขวับไปมองพร้อมสายตาที่บ่งบอกถึงความโกรธ
“พิงค์.. ทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลย ขอโทษพี่ลีเดี๋ยวนี้” ฉันหันไปเอ็ดเสียงใส่ยัยพิงค์เล็กน้อย ยังไงพี่ลีก็เป็นผู้ใหญ่กว่าเธอเยอะ
“ไม่อ่ะ ทำไมพิงค์ต้องขอโทษด้วย พิงค์บอกพี่พลอยหลายครั้งแล้ว นายนี่นิสัยไม่ดี พี่พลอยเลิกยุ่งกับเขาเถอะ ส่วนนายก็เลิกยุ่งกับพี่สาวของฉันได้แล้ว! พี่ฉันไม่มีวันสนใจคนอย่างนายหรอก พี่พลอยนะเขามีคนที่รักอยู่แล้ว นายไม่มีทางมาแทนที่เขาได้หรอก” ยัยพิงค์พูดออกมาด้วยอารมณ์ พร้อมมองหน้าไปอีกฝั่งด้วยความไม่พอใจถึงที่สุด ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่ต่างกัน
“พิงค์ พ่อแม่ไม่เคยสอนให้พิงค์เสียมารยาทแบบนี้นะ ขอโทษพี่ลีเดี๋ยวนี้”
“ไม่เป็นไรหรอกพลอย คนแบบนี้ต่อให้สอนดียังไง ก็ไม่ได้ผลหรอก เพราะมันไม่ได้เป็นที่นิสัย แต่เป็นที่สันดาน”
“นาย!” ถึงแม้ว่าพี่ลีจะตอบกลับแรงใช่ย่อย แต่ก็เพราะยัยพิงค์แรงก่อน ก็ไม่แปลกที่พี่ลีจะโกรธและฉันก็ได้ยินการปะทะคารมของสองคนนี้บ่อยครั้งแล้ว
“พิงค์ .. ถ้าอีกครั้งเดียว พี่จะโกรธแล้วนะ”
“พี่พลอยอะ!..” ยัยพิงค์พูดจบก็วิ่งเข้าบ้านไปเลยทันที ฉันเลยได้แต่ส่ายหัวไปมาให้กับเธอ พร้อมกับถอนหายใจออกมา
“ขอโทษแทนพิงค์ด้วยนะคะ” ฉันหันไปพูดกับพี่ลีที่สีหน้ายังคงไม่พอใจอยู่ แต่ก็ปรับเปลี่ยนเป็นยิ้มทันทีที่ฉันพูดออกมา
“ช่างเถอะ พี่ชินละ ..พี่รู้นะ เจ้าของรถที่พลอยขับอยู่คือมัน” พี่ลีพูดเรื่องพิงค์
แล้วอยู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องทันที
“ระ รู้ได้ไงคะ” ฉันตอบตกใจออกมาเล็กน้อยไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
“เรื่องนั่นไม่สำคัญหรอก แต่มันสำคัญตรงที่พลอยจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางความอันตราย” ฉันฟังพี่ลีพูดแล้วก็ขมวดคิ้วไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการสื่อสักเท่าไร
“พี่ไปรู้มาว่า มันเป็นสมาชิกในกลุ่ม devil prince ...กลุ่มนี้มันเป็นกลุ่มมาเฟีย”
ฮะ!! พวกพี่เขาเป็นมาเฟียด้วยเหรอ แต่ก็ไม่แปลก เพราะฉันเห็นทุกคนต่างก็มีลูกน้องเดินตามประกบกันหมด แล้วเฮียเคเป็นด้วยเหรอ?
“พี่เป็นห่วงพลอย พวกมันไม่ใช่คนธรรมดานะ”
“พี่ลีไม่ต้องเป็นห่วงพลอยหรอกค่ะ มันไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก เขาไม่มาสนใจพลอยหรอกค่ะ”
“หึ! พลอยคิดอย่างนั้นเหรอ” พี่ลีพูดออกมาแล้วเลิกคิ้วขึ้นมา ส่วนฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป
“..เอาเถอะ..ดูแลตัวเองดีๆด้วย งั้นพี่ไปแล้ว” พี่ลีพูดจบก็ส่งยิ้มให้ฉันอีกครั้งก่อนเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที
ถึงฉันจะรู้ว่ามันยากที่จะเกิด แต่การกระทำของเขาช่วงหลังๆ มันก็ทำให้ฉันแอบรู้สึกเหมือนกัน ว่าเขาก็สนใจฉัน แต่ฉันก็ยังบอกตัวเองอยู่เสมอว่า ระหว่างเขาและฉัน มันไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่ดี