ตอนที่ 21   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 21
“พิงค์เคยบอกแล้วว่าเขาเป็นคนไม่ดี พี่พลอยยังจะไปยุ่งกับเขาอีกทำไม“ ทันทีที่ฉันเดินเข้าบ้านยัยพิงค์ก็พูดขึ้นมาทันที พร้อมทั้งนั่งกอดอกทำท่าไม่พอใจอยู่ตรงโซฟา “พี่ก็ไม่เห็นว่าพี่ลีไม่ดีตรงไหน แต่ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขา” 
 “อืม ก็รู้ แต่อยู่ห่างๆ ไว้จะดีกว่านะ ต่อหน้าก็ทำเป็นคนดี รักพี่พลอยอย่างนู้นอย่างนี้ แต่ลับหลังนะ กินผู้หญิงเพียบ! นี่ถ้าพิงค์ไม่ได้ไปผับมาเยอะนะ คงไม่รู้ดีขนาดนี้หร้อกก” ยัยพิงค์เปลี่ยนจากนั่งงอน เริ่มกลับมาร่าเริง พร้อมพูดจ้อไปเรื่อยๆ ขณะที่ฉันเดินไปหยิบน้ำเอามาเทใส่แก้วแล้วก็ฟังยัยพิงค์บ่นเหมือนที่มันชอบบ่น “จ้าาา รู้แล้วจ้าาา พูดเรื่องนี้กับพี่เป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้ง บ่นเป็นคนแก่ไปได้ ว่าแต่เราเถอะ เพลาๆไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์บ้างนะ พ่อกับแม่เป็นห่วง ยังไงเราก็เป็นผู้หญิง” “ระดับพิงค์แล้ว เอาอะไรมาอันตราย คนอื่นมากกว่าที่ต้องอันตราย” “ฮ่าๆ จ้าๆ แม่คนเก่ง แล้วสรุปมาหาพี่มีอะไร” ฉันเอามือไปลูบหัวยัยพิงค์ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาแล้วยัยพิงค์ก็เดินมาซบฉันที่โซฟาเช่นกัน “ก็แค่คิดถึงงง วันนี้ขอมานอนด้วยน้า” ยัยพิงค์พูดพร้อมเอนตัวมากอดฉันอย่างขี้อ้อนแบบที่ชอบทำ “มาอ้อนอย่างนี้ อยากได้อะไรรึเปล่าน่ะเรา” ฉันเอนตัวแล้วมองไปทางยัยพิงค์เล็กน้อย ส่วนยัยพิงค์พอได้ยินก็เงยหน้ามามองก่อนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “พี่สาวใครเนี่ย รู้ทันตลอดด พรุ่งนี้พิงค์จะแอบพ่อไปเที่ยวบาร์โฮสซะหน่อย ฝากพี่พลอยโกหกพ่อให้หน่อยจิ” เพี้ยะ! “จะไปทำไมบ่อยๆฮะ มันมีอะไรน่าไปฮะ ที่แบบนั้น อันตรายเปล่าๆ” “ง่ะ พิงค์ก็แต่เห็นว่ามันสนุกดี ไม่ได้ทำอะไรเสียหายซะหน่อย ชอบความรู้สึกได้เป็นอาเจ้อะ แบบได้เปย์หนุ่มๆหล่อๆไรงี้ พี่พลอยลองไปสิ ไปม่ะ เดี๋ยวพิงค์พาไป” “พอเลยๆ งั้นเอางี้มาตกลงกับพี่ก่อน ปกติเราไปถี่แค่ไหน” ฉันหันไปนั่งตัวตรงแล้วดึงยัยพิงค์ให้ลุกขึ้นมานั่งดีๆ มองหน้าฉัน “ก็อยู่ที่เจ้แหม่มชวนอะ ปกติก็เดือนสองเดือนครั้งละมั้ง” “อืม..พี่ให้พิงค์ไปได้ แต่ไปได้สามเดือนครั้ง แล้วไปทุกครั้งก็ต้องบอกพี่ ต้องรายงานพี่ตลอดเวลา แล้วพี่จะช่วยปิดทางบ้านให้ ตกลงมั้ย” ฉันรู้ว่าห้ามยัยพิงค์ยังไงก็ไม่อยู่หรอก อย่างน้อยให้ฉันได้รู้ไว้ดีกว่าไม่มีใครรู้เลยจะดีกว่า “โหหห สามเดือนเลยเหรอ งืมๆ...ก็ได้ ดีล! งั้นตามนี้น้าา“ ยัยพิงค์พูดมาอย่างอารมณ์ดี “พี่ละเหนื่อยใจ” ฉันส่ายหัวให้กับน้องสาวตัวแสบของฉัน “อิอิ น้องสาวของพี่พลอยสุดสวยไง ..งั้นพิงค์ไปอาบน้ำก่อนนะ วันนี้นอนด้วยนะะ” ฟอดด ยัยพิงค์พูดจบก็เอาแก้มฉันไปหอมเต็มปอดก่อนจะวิ่งแจ้นไปห้องน้ำทันที เห้ออ ใครนะจะปราบมันอยู่นะ น้องตัวแสบของฉันคนนี้ K Part ก๊อกๆ “อ้าวว่าไง วันนี้นึกยังไงมาหาอาได้” “พอดีเพื่อนผมเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย เลยมาเยี่ยม แล้วก็แวะมาทักทายอาดินสักหน่อยครับ” “คงไม่ได้แค่แวะมาเยี่ยมอาเฉยๆใช่มั้ย” “ครับ” อาดินเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และยกมือขึ้นกอดอก ก่อนจะมองมาทางผมด้วยแววตาปราดเปรื่อง พร้อมรอฟังเรื่องที่ผมจะพูด “อาการแม่ผม หายเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์หรือยังครับ” เรื่องที่แม่ผมต้องผ่าตัดนั้น แม่ผมไม่ได้บอกใครจริงๆ ท่านโกหกทุกคนว่า เพื่อนชวนไปแสวงบุญที่อินเดีย หนึ่งเดือน แต่มีหรือเรื่องนี้จะหลุดพ้นจากสายตาของตระกูลผมไปได้ พ่อผมเองก็รู้แต่เลือกที่จะทำเป็นไม่รับรู้ ผมและไอ้คินก็เช่นกัน พวกเราแอบมาถามความคืบหน้าของอาดินอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งล่าสุดที่ฟังก็ถือว่าหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว แต่ผมก็อยากมาถามอีกที เผื่อแม่ผมมีอะไรปิดบังไว้อีกหรือเปล่า “หายแล้วล่ะ วางใจได้..ครอบครัวนี้ละนะ แปลกจริงๆ ยัยจินจะรู้มั้ยนะ ทั้งผัวทั้งลูก รู้เรื่องกันหมดแล้ว ฮ่าๆๆ ทำเอาอาต้องมาคอยนั่งตอบคำถามซ้ำๆ สามครั้งให้กับพวกนาย” อาดินพูดขำขันเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดจริงจังอะไร ผมเพียงส่งยิ้มให้ไปเท่านั้น “ขอบคุณนะครับอาดิน ที่ช่วยเหลือแม่มาตลอด” “อาเป็นหมอนะ ไม่ช่วยคนไข้แล้วจะให้ช่วยใคร..แล้วเรื่องนั้น เคปล่อยวางแล้วใช่มั้ย” เรื่องนั้น ที่อาหมอพูดถึงก็คงเป็นเรื่องความแค้นที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเขาคนนั้น . . . ย้อนไปสามปีที่แล้ว หลังจากที่ผมคุยกับไอ้ไนท์ล่าสุดวันนั้น ผมก็ตรงดิ่งมาหาอาดินทันที “อาดินครับ ผมขอโทษที่เสียมารยาท แต่อาดินช่วยอธิบายหน่อยได้มั้ยครับ ทำไมแม่ถึงเป็นแบบนี้ เพราะกระสุนปืน ไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ตามที่อาหมอเคยแจ้งมา” ผมพูดพร้อมวางเอกสารการแพทย์ที่ได้มาสดๆร้อนๆ ลงบนโต๊ะให้อาดินดูทันที 2ึ “เค ไปเอาเอกสารความลับนี้มาได้ยังไง” อาดินก้มลงมองเอกสารแล้วหันขึ้นมามองผมอย่างอึ้งๆ แต่ผมกลับไม่ตอบ เพราะนี้ไม่ได้สิ่งที่ผมอยากฟังในวันนี้ ผมจึงทำได้แค่ยืนมองอาดินเท่านั้น “เห้อ..มันเป็นความลับของแม่แกน่ะ อย่ารู้เลย” “อาครับ ผมมีแม่คนเดียว ผมมีสิทธิ์จะรู้ว่าใครทำให้แม่ผมต้องเป็นแบบนี้” ผมพูดเสียงเรียบอีกครั้ง “อืม..อาก็รู้สึกผิด ที่โกหกทุกคนไปแบบนั้น แต่แม่แกเขาขอไว้ ..อารู้แค่คร่าวๆเท่านั้น เขาที่ยิงกระสุนใส่แม่แกก็เป็นคนเดียวกับที่พาแม่แกมาโรงพยาบาลนั่นล่ะ” ผมยืนฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉยและยังตั้งใจฟังอาดินพูดต่อไป “แต่เหตุการณ์มันเป็นยังไง อาไม่รู้หรอกนะ แม่แกก็ไม่เล่าให้ฟัง แต่อารู้แค่ว่าเขาเป็นคนเดียวกันกับที่ทำให้เมื่อหลายปีก่อนพ่อแม่ของแกก็ล้มละลายและเป็นหนี้ยี่สิบล้าน” “เขาคือใคร” ผมถามออกมานิ่งๆ ด้วยใจที่ร้อนดั่งไฟ “ไพศาล เวศวงกุล” อืม..ไพศาล เวศวงกุล “เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมบริษัทเดียวกับพ่อแม่แกมาก่อน แล้วก็ไม่รู้เกิดเหตุอะไรขึ้นนะ ก็เลยติดหนี้มากมายขนาดนั้น ส่วนนายไพศาลก็เอาบริษัทที่ทำร่วมกันไปสร้างใหม่ จนเป็นบริษัทที่โด่งดังจนถึงทุกวันนี้” ผมเดินออกจากห้องไปทันที ไม่มีแม้แต่คำร่ำลาให้กับผู้ชายที่เคารพตรงหน้า ผมหยิบมือถือเพื่อค้นหาประวัติ ก็พบว่า เขาคนนั้นทำธุรกิจทางด้าน e-commerce เป็นระบบสำเร็จรูปที่ช่วยเหลือระบบการซื้อขายของออนไลน์ทั่วประเทศ ที่ตอนนี้กำลังมาแรงอันดับต้นๆ และกำลังจะกระจายไปยังประเทศอื่นในโซนเอเชีย โดยเจ้าของบริษัทมีเป้าหมายภายในสามปี จะขยายให้ครบ 10 ประเทศ แล้วอยู่ๆ ผมก็คิดแผนการอะไรออก ผมไม่ได้เป็นสายบ้าดีเดือดเหมือนเพื่อนของผม ที่แค้นใครก็ลุกขึ้นไปฆ่าคน อีกทั้งผมไม่ได้เป็นมาเฟียอย่างพวกมันด้วย รวมถึงผมไม่ได้เป็นคนชอบใช้กำลังในการแก้ปัญหา ถ้าเลี่ยงได้ ผมก็จะไม่ลงมือโดยใช้กำลังแม้แต่น้อย ถึงผมจะมีทักษะเตะต่อย ที่ไม่ต่างจากเพื่อนผมอีก สี่ คน ผมก็ไม่เคยเอาไปลงมือกับใคร ความจริงปัญหาครั้งนี้ ถ้าผมอยากจบมันง่ายๆ ผมก็ทำได้ เพียงแค่ผมเอ่ยปากให้พวกเพื่อนผมมันจัดการ แต่นี่มันเป็นแค้นของผม คนที่จะล้างแค้นได้ต้องเป็นตัวผมเท่านั้น และอีกอย่างถ้ามันตายเร็วแบบนั้นมันก็ไม่สนุกสิ เพราะมันก็ต้องเจอแบบที่พ่อกับแม่ผมเคยเจอด้วยเช่นกันถึงจะสาสม ถึงแม้ตอนนี้ครอบครัวของผมจะกลับมาตั้งตัวได้ แต่ทุกหยดน้ำตาของแม่และน้ำตาของพ่อที่ยากจะได้เห็นในวันนั้น มันก็ทำให้ผมฝั่งใจ พวกมัน ต้องเจ็บยิ่งกว่าผมเป็นร้อยเท่าพันเท่า หึหึ สามปี ขยายสิบประเทศ ดี!! อีกสามปี เราเจอกัน นายไพศาล เวศวงกุล
已经是最新一章了
加载中