ตอนที่ 25   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 25
“มาครับ เดี๋ยวพ่อช่วยแม่เทอาหารเอง” พ่อเหรอ...อร๊ายยย ตอนนี้เท้าฉันหยุดนิ่ง ก้าวขาไม่ออกแล้ว ได้แต่มองดูพ่อ เอ้ย เฮียเทอาหารแมวลงในถาดของลูกของเรา งื้อออ หลังจากกลับมานั่งที่โต๊ะอาหาร ด้วยใจที่เต้นไม่คงที่ เฮียก็เริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ทำไมถึงตั้งชื่อมันว่ารักแรกล่ะ” “เออ พลอยไปเจอมันตรงที่..ที่พลอยเจอคนที่เป็นรักแรกของพลอยน่ะค่ะ” ฉันพูดไปแต่ก็แอบหลบสายตาไป เขาจะรู้มั้ยนะ รักแรกของฉันก็คือเขานั่นล่ะ “อืม..ถ้าใช้คำว่ารักแรก แสดงว่าก็ต้องมีรักสอง รักสามน่ะสิ” เฮียพูดออกมาหน้านิ่งๆ แต่แววตากลับดูอมยิ้ม “ไม่มีหรอกค่ะ เขาคงเป็นรักแรกและ..รักเดียว” โอ๊ยยย ยัยพลอยย พูดออกไปได้ไง พูดเองเขินเอง ตอนนี้หน้าฉันร้อนมาก รู้สึกเหมือนฉันกำลังสารภาพรักเขาอยู่เลย “อย่างนี้..เฮียก็หมดสิทธิ์แล้วสินะ” เขาพูดเหมือนเสียใจ แต่ทำไมแววตาเขากลับอมยิ้มละ? แต่ช่างเถอะ สนใจที่ประโยคที่เขาพูดดีกว่า เขาจะหมดสิทธิ์ได้ไง ก็..มันคือคนคนเดียวกัน แต่ฉันไม่กล้าพูดออกไปหรอก มัน...เขินนนน เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันเลยได้แต่นั่งก้มหน้าเขี่ยอาหารในจานไปมาเท่านั้น ไม่กล้าตอบโต้อะไรกลับไป และก็เป็นผลทำให้คนตรงหน้าเปลี่ยนเป็นคำถามใหม่ขึ้นมาแทน “ทำไมเขาคนนั้นถึงเป็นรักแรกของพลอยเหรอครับ” ถ้าฉันเล่าไป เขาจะรู้มั้ยนะว่าเป็นเขา? แต่คงไม่รู้หรอก เพราะเหตุการณ์นั้นมันก็ผ่านมานานแล้วด้วย “คะคือ..เมื่อสี่ปีที่แล้ว ปกติพลอยจะเดินผ่านตรงซอยหนึ่งทุกครั้งหลังเลิกเรียน..มันเป็นซอยที่ปกติคนไม่ค่อยเดินกันเท่าไร...” ทำไมต้องตั้งใจฟังขนาดนั้นนะ แล้วไหนจะแววตาที่ดูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นั่นอีก มันทำให้ฉันเล่าไม่ออกนะเว้ย มันเหมือนกับพูดถึงเหตุการที่ทำให้ฉันตกหลุมรักเขา แต่เขากลับไม่รู้ตัวว่าเป็นตัวเอง “แล้วไงต่อครับ” “อะเออ..แล้ววันหนึ่งตอนพลอยกลับบ้าน ก็เจอผู้ชายคนหนึ่งเหมือนจะพยายามลวนลาม..” ทันทีที่ฉันพูดจบ เฮียก็ขมวดคิ้วทันที พร้อมกับแววตาที่ยิ้มเมื่อกี้ก็หายไปโดยพลัน เขาจะจำได้หรือเปล่านะ... “แล้วไงต่อ..” ทำไมต้องเสียงเครียดขนาดนั้น? “เออ..แล้วพลอยก็เจอเขาคนนั้นค่ะ...เขามาช่วยพลอยไว้” “ช่วยพลอยไว้?” เฮียพูดขึ้นมา พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยอีกครั้ง แต่สายตาก็ยังคงมองตรงมาทางฉันเหมือนเดิม เหมือนจะสื่อให้ฉันเล่าต่อ “ค่ะ แต่พลอยคิดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจช่วยหรอก พอดีซอยนั้นมันแคบ เขาน่าจะแค่ต้องการเดินผ่าน..ก็เลยปัดมือผู้ชายคนนั้นออกจากแขนพลอย..แต่พลอยก็จะถือว่าเขาช่วยพลอยอยู่ดี” ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อย เพราะพอได้พูดแล้วมันก็ทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นได้แม่นยำ วันที่ฉันตกหลุมรักผู้ชายคนนี้เข้าอย่างจัง นึกถึงทีไร มันก็ทำให้ฉันต้องเผลอยิ้มออกมาทุกทีเลยสินะ ส่วนคนตรงหน้าฉันตอนนี้ก็หน้านิ่งไป จนฉันอ่านสายตาและสีหน้าไม่ออก ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดนิ่งๆขึ้นมา “วันหลังห้ามไปเดินที่เปลี่ยวๆ คนเดียวอีก” ทันทีที่เฮียพูดประโยคนี้ออกมา มันก็ทำให้ฉันที่ยิ้มอยู่แล้ว กลายเป็นยิ้มกว้างขึ้นมามากกว่าเดิม พร้อมกับขอบตาที่ร้อนผ่าว ทำไมฉันถึงได้อ่อนไหวง่ายอย่างนี้นะ อาจจะเป็นเพราะว่า ประโยคนี้ที่เขาพูด มันคือประโยคเดียวกับที่วนเวียนในหัวฉันตลอดสี่ปี ประโยคที่ทำให้ฉันใจสั่น ‘อย่ามาเดินคนเดียวซอยนี้อีก’ ประโยคที่เขาพูดกับฉันเมื่อสี่ปีที่แล้วก่อนที่เราจะแยกกันที่ปลายทาง “เป็นอะไรไปครับ” ระหว่างที่ฉันกำลังเหม่อลอยมองใบหน้าของคนตรงหน้า มือหนาของคนตรงหน้า ก็เอื้อมมาจับใบหน้าของฉันพร้อมกับลูบไปมา พร้อมพูดด้วยประโยคที่อ่อนโยนกับฉัน มันทำให้ฉันต้องกะพริบตาสองสามที เพื่อไม่ให้น้ำตาแห่งความดีใจไหลออกมา ก่อนจะส่งยิ้มไปให้คนข้างหน้า แล้วก็พูดอธิบายความรู้สึกของตัวเองออกมาด้วยรอยยิ้ม “พอดีว่าเฮียพูดเหมือนกับ..เขาวันนั้นเลยค่ะ มันก็เลยทำให้พลอยคิดถึงเหตุการณ์วันนั้น” หลังจากฉันพูดจบ เฮียก็เลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “เขาคนนั้น ก็พูดแบบนี้เหรอ?” “ใช่ค่ะ เออ..แล้วพลอยก็ไม่เดินซอยนั้นคนเดียวอีกเลยจริงๆ นะคะ ส่วนวันที่เจอรักแรก วันนั้นพลอยเดินกับพิงค์ไม่ได้เดินคนเดียว” ฉันพูดเหมือนรายงานคำสั่งของเขา ที่เคยบอกเอาไว้เมื่อสี่ปี ทั้งๆที่เขาก็ไม่รู้ซะหน่อยว่าเป็นเขา แต่ก็ไม่รู้ละ ฉันสบายใจที่จะได้พูดออกมา ซึ่งหลังจากที่ฉันอธิบายในส่วนของฉันเสร็จแล้ว คนตรงหน้าก็เริ่มเปลี่ยนมามีรอยยิ้มส่งมาให้ฉันอีกครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนเอามือหนาที่จับใบหน้าฉันก่อนหน้า มาเป็นลูบหัวฉันไปมาแทน “เป็นเด็กดีมากครับ” งื้อออออออออ “เป็นเด็กดีแบบนี้ต้องควรได้รางวัลหรือเปล่านะ” อร๊ายยย รางวัลเหมือนในรถเมื่อกี้อ่ะเหรอ แค่คิดก็เขินแล้วววว “หึหึ ติดไว้ก่อนดีกว่า” ตอนนี้ฉันไม่รู้จะวางตัว วางหน้า วางตาไว้ตรงไหนแล้ว มันเขินไปหมด เพราะฉันกำลังเล่าเรื่องความรักของฉันที่มีต่อเขาให้เขาฟัง แล้วไหนจะประโยคชวนให้ใจสั่นของเขาแต่ละประโยคนั่นอีก แต่แล้วก็เป็นอีกครั้ง ที่คนตรงหน้าเปลี่ยนประเด็นแต่ก็ยังคงเรื่องเดิมขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมามองเขา “ถ้าผู้ชายคนนั้นรู้ พลอยคิดว่าเขาควรจะทำยังไงดี” นั่นสิ ถ้าเฮียเขารู้ว่าฉันหมายถึงเขา เขาจะทำยังไง เขาจะรังเกียจฉันหรือเปล่านะ แต่ก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งบอกว่าจะจีบฉันนี่นา.. “..ถ้าเขารู้ เขาต้องตื้นตันใจ จนพูดไม่ออก เพราะผู้หญิงที่ชอบเขาทั้งสวย ทั้งเก่ง ทั้งน่ารัก ทำอาหารก็เป็น เรียนก็พอไปได้ เป็นคนอารมณ์ดี และที่สำคัญมีเงินเก็บด้วยนะ ฮ่าๆ” ฉันพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี เพื่อให้เขาไม่ต้องมาทำโหมดอ่อนโยนกับฉันมากนัก แค่นี้ตัวฉันก็จะละลายลงไปกองกับพื้นแล้ว “อืมมมม.. จริง” เฮียพูดมานิ่งๆ พร้อมกับสายตาที่มองมาทางฉันที่เป็นสายตาแบบที่ฉันไม่เคยได้รับมาก่อน มันทั้งอ่อนโยนและหวานซึ้ง ราวกับฉันโดนมนต์สะกดก็ไม่ปาน จนตอนนี้ฉันอดไม่ได้ที่จะกลับมาเขินอีกครั้ง นี่ฉันจะพูดให้หายเขินนะ ทำไมกลับเขินกว่าเดิมอีกเล่า!! “แต่..ไม่ใช่แค่ตื้นตันใจหรอก” หื้ม??? “นอกจากนั้นแล้ว..เขา..จะไม่มีทางปล่อยพลอยใสหลุดมือไปให้ใครแน่ๆ..เพราะพลอยใสต้องเป็นของเขาเท่านั้น” ตอนนี้ฉันไม่ได้แค่ละลายแล้วล่ะ เหมือนฉันหายตัวไปเลยมากกว่า!! งื้อออออ /// “สงสัยอาหารมื้อนี้จะเผ็ดจริงๆด้วยสินะ หึหึ” โอ๊ยยย ยัยพลอย จะเป็นลม!! หลังกินข้าวเสร็จ เฮียก็มาช่วยฉันล้างจาน มันเป็นโมเมนต์ที่ดีมาก ฉันอยากเก็บความทรงจำนี้ไว้นานๆจริงๆ “นี่ครับ” เฮียยื่นเอกสารมาให้ ฉันก็รับไปดู พร้อมกับส่งยิ้มออกไปให้กับผู้ชายตัวโตตรงหน้าทันที “ขอบคุณค่ะ” แต่แล้วอยู่ๆ เฮียก็ก้มลงมา พร้อมประกบปากลงบนปากของฉันทันทีโดยไม่ทันตั้งตัว จนกระดาษที่ฉันถือในมือร่วงลงไปกองที่พื้นทันที รสจูบเหมือนกับคราวที่แล้วไม่มีผิด แต่มันเพิ่มเติมที่มันเนิ่นนานกว่า ฉันเคยได้ข่าวว่าเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง แต่ทำไมเขาจูบได้เก่งขนาดนี้นะ ส่วนฉันที่เขินและไม่เคยทำแบบนี้ ยกเว้นเฉพาะกับเขา ก็ทำได้แค่ยืนนิ่งๆ ให้เขาสูบวิญญาณอยู่อย่างนั้น เฮียจูบฉันด้วยความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นแกร่งตวัดไปมาภายในโพรงปากของฉัน จนฉันรู้สึกว่า ฉันคงไปดำน้ำลึกได้สบาย เพราะตอนนี้ฉันกลั้นหายใจเป็นเวลานานมาก จนตอนนี้ฉันรู้สึกว่า ฉันต้องขึ้นมาเหนือน้ำ สมองและปอดของฉันต้องการอากาศอย่างรุนแรง “แฮ่กๆๆๆๆ” ฉันผลักเฮียออกทันที พร้อมกับยืนสูดเอาอากาศเข้าปอดอยู่อย่างนั้น ก่อนจะเหลือบไปมองคนตรงหน้า ก็เห็นเฮียที่ยืนอมยิ้มเล็กน้อยมองมาทางฉัน ก่อนที่เขาจะก้มลงเก็บเอกสารที่หลบไปกองอยู่ที่พื้น “เฮียบอกแล้วว่ากว่าจะได้มามันยาก อย่าโยนทิ้งลงพื้นแบบนี้อีกนะครับ” เฮียส่งเอกสารใบนั้นมันมาให้ฉันพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่สีหน้าดูแพรวพราวต่างกับเฮียเคที่ฉันรู้จักเมื่อสี่ปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ฉันยื่นมือไปรับอย่างไม่เข้าใจกับการกระทำก่อนหน้าของเขา “ละ แล้วมา..จูบ ทำไมกัน” ฉันพูดออกมาเบาๆ ด้วยความเขินอาย “จูบให้รางวัลเด็กดีที่ติดเอาไว้เมื่อกี้ไงครับ” เฮียพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะก้มลงมาเอาปากของเขามาแตะปากของฉันเบาๆอีกครั้ง จุ๊บ “ส่วนจูบนี้ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้” จุ๊บ “ส่วนจูบนี้ สำหรับผู้หญิงของเฮียตรงหน้านี้ สำหรับพลอยใส” “หึหึ เฮียว่า เฮียกลับก่อนดีกว่า ฝันดีนะครับ พลอยใสของเฮีย” เฮียพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินออกจากตรงนี้ไปและขึ้นรถที่ลูกน้องเฮียมาจอดรออยู่ที่หน้าบ้านฉันก่อนหน้านี้ ส่วนฉันตอนนี้แข็งเป็นหินตั้งแต่ได้คำตอบแรกแล้วล่ะ อร๊ายยยยยยยยยย ไอ้เฮียบ้า!!
已经是最新一章了
加载中