บทที่ 14 นัยน์ตาของเขาเปลี่ยนสีได้!   1/    
已经是第一章了
บทที่ 14 นัยน์ตาของเขาเปลี่ยนสีได้!
บทที่ 14 นัยน์ตาของเขาเปลี่ยนสีได้! “คุณชาย กระผมนำลูกกวาดมาให้คุณผู้หญิง......” คุณลุงหวังเพิ่งจะเดินเข้าประตูมา ก็ทำลายบรรยากาศเหตุการณ์พัวพันอันร้อนแรงนี้ไป ใบหน้าชายชราอดร้อนขึ้นมาไม่ได้ แล้วก็รีบถอยร่างออกไปอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดบรรยากาศงดงามคลุมเครือที่ปกคลุมไปทั่วห้องก็จางหายไป เพราะถูกคนรบกวน ลู่ซ่าวหมินปล่อยใอ้เทียนฉิงให้เป็นอิสระ จากนั้นก็เอ่ยกับเธอที่อยู่บนเตียงหนึ่งประโยคว่า ‘พักผ่อนให้ดีๆ’ แล้วก็ออกจากห้องไป คุณลุงหวังที่เห็นลู่ซ่าวหมินจากไปแล้ว ก็ก้าวเข้ามาในห้องใหม่ ยื่นลูกกวาดให้กับใอ้เทียนฉิง เอ่ยพูดด้วยใบหน้าหดเล็ก “คุณผู้หญิง เมื่อสักครู่ก่อนคุณหมอจากไป กำชับผมว่าให้คุณผู้หญิงทานลูกกวาดด้วย” ใบหน้าของใอ้เทียนฉิงเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อครู่ จึงรับลูกกวาดมาอย่างเงียบๆ แกะทานเข้าปาก รสส้มนั้นไม่ทำให้คนรู้สึกว่าหวานเลี่ยน อารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้นในทันที สายตาของเธอมองไปในห้องอย่างผ่าน ก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่ชั้นสี่ แต่เป็นห้องนอนของตัวเอง...... ถ้าอย่างนั้นชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าที่เธอพบมีตัวตนอยู่จริงๆหรือไม่ หรือว่า...... เธอฝันไปตื่นหนึ่ง เหมือนกับฝันเปียกของเธอฝันนั้น ไม่....... เป็นไปไม่ได้!!! ภาพในความฝันของเธอชัดเจนเสียขนาดนั้น เธอไม่ได้ฝันไป ชายหนุ่มคนนั้นมีตัวตนจริงๆ คุณลุงหวังดูออกว่าเธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “คุณผู้หญิง คุณเป็นอะไรไปหรือครับ” ใอ้เทียนฉิงที่ได้ยินเสียงของคุณลุงหวังก็คิดวิธีขึ้นมาได้ เธอคิดว่าคุณลุงหวังเป็นพ่อบ้านของตระกูลลู่ จะต้องรู้เรื่องราวที่นี่ทั้งหมดราวกับฝ่ามือตัวเองอย่างแน่นอน อีกอย่างก่อนหน้านี้เขายังเตือนตัวเองว่าอย่าเข้าใกล้ห้องบนชั้นสี่ คิดว่าน่าจะรู้อะไรบางอย่าง ไม่แน่ว่าบางทีเธออาจจะสืบข่าวคราวบางอย่างได้จากเขา คิดแล้วเธอก็กระแอมไอก่อนจะเอ่ยถามว่า “คุณลุงหวัง เมื่อสักครู่นี้คุณพบว่าฉันหมดสติไปตรงไหนหรือคะ” เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเธอ คุณลุงหวังก็ยังคงมีท่าทางสงบเป็นอย่างมาก เอ่ยตอบอย่างจริงจังว่า “กระผมพบคุณผู้หญิงหมดสติบริเวณพื้นหน้าบันไดชั้นสองขอรับ จากนั้นรีบให้คนพาคุณผู้หญิงขึ้นมา และติดต่อคุณหมอขอรับ” ดูท่าความหมายของคุณลุงหวังเหมือนกับไม่รู้ว่าตัวเองไปชั้นสี่มา “ถ้าอย่างนั้น......คุณเป็นคนแรกที่พบฉันหรือคะ” ใอ้เทียนฉิงเอ่ยถามต่อ คุณลุงหวังพยักหน้าพลางเอ่ยตอบ “ใช่ขอรับ” เห็นท่าทางมั่นใจของเขาแล้ว สมองของใอ้เทียนฉิงก็วุ่นขึ้นมาอีก เธอขึ้นไปชั้นสี่มาชัดๆ ทำไมถึงได้พบที่ชั้นสองกันล่ะ ถ้าอย่างนั้นเป็นใครกันที่อุ้มเธอลงมาถึงชั้นล่าง หรือว่าจะเป็นลู่ซ่าวหมิน ใอ้เทียนฉิงคิดอย่างละเอียด เมื่อสักครู่ที่เธอเจอกับลู่ซ่าวหมิน นัยน์ตาก็เป็นสีดำแท้แน่นอน อีกทั้งนัยน์ตาของเขาก็สุกใสบริสุทธิ์ ไม่เหมือนกับสวมใส่คอนแทนเลนส์พวกนั้น ดังนั้นชายหนุ่มคนนั้นไม่สามารถเป็นลู่ซ่าวหมินได้ แต่ว่ารูปร่างหน้าตาของลู่ซ่าวหมินเหมือนกับชายหนุ่มคนนั้นมาก แม้ว่าจะไม่ใช่คนเดียวกัน แต่พวกเขาสองคนก็น่าจะมีความสัมพันธ์บางอย่าง บางทีพวกเราอาจจะรู้จักกัน แต่ไม่ต้องการให้คนนอกรู้ก็เท่านั้น ถ้าอย่างนั้นจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า นัยน์ตาของเขาสามารถเปลี่ยนสีได้ ใอ้เทียนฉิงคิดความคิดนี้ออกมาได้กะทันหัน เพียงแต่คิดไปคิดมาแล้วก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างจะเหนือความคาดหมายไปบ้าง อย่างนั้นนัยน์ตาของเธอก็ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งจนถึงวันนี้เธอยังไม่เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย....... สุดท้ายใอ้เทียนฉิงก็คิดไม่ออกแล้ว จึงตัดสินใจปล่อยเรื่องนี้ไป เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ตัวเองถูกทำให้ตกใจจนหมดสติไป เธอก็เอ่ยถามว่า “คุณลุงหวัง ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” “ตอนนี้เวลาทุ่มครึ่งแล้วครับ” ใอ้เทียนฉิงได้ฟังคำตอบแล้วมุมปากก็กระตุก ในใจนึกถึงตอนที่ขึ้นไปชั้นสี่ เพิ่งจะกลางวันชัดๆ ตอนนี้กลับเป็นเวลากลางคืนแล้วเสียอย่างนั้น เพียงแต่ว่าทำไมเธอถึงได้หมดสติไปนานขนาดนี้กัน หลังจากคิดแล้ว ครั้งนี้คงจะได้รับความกระทบกระเทือนไม่น้อยเลยสินะ! ขณะที่ความคิดและอารมณ์ของเธอกำลังสับสนวุ่นวาย คุณลุงหวังก็เอ่ยอีกครั้งว่า “คุณชายเพิ่งจะกลับมาจากบริษัท ได้ยินว่าคุณผู้หญิงหมดสติไป ก็รีบมาดูในทันที ผมเห็นคุณชายมาตั้งแต่เด็กจนโต ยังไม่เคยเห็นคุณชายใส่ใจใครขนาดนี้มาก่อนเลย......สามารถแต่งให้กับคุณชายของพวกเรานั้นนับว่าโชคดีมากจริง!” ได้ยินคุณลุงหวังเอ่ยถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเขา ในใจก็อดเต้นระรัวไม่ได้ เธอไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นห่วงเธอด้วย แต่เมื่อคิดกลับมา ก็อดท้อแท้ไม่ได้ เธอคิดว่าที่เขาเป็นห่วงตัวเองทั้งหมดนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงของเขาสินะ อีกอย่าง เธอก็กลายเป็นผู้อาวุโสของเขา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำเพื่อเธอ แต่ก็ต้องไว้หน้าบิดาของเขาบ้าง มิเช่นนั้นถึงเวลาทุกคนล้วนแล้วแต่ขายหน้ากันทั้งนั้น ใอ้เทียนฉิงคิดถึงชะตากรรมชีวิตของตัวเอง ในใจก็อดรู้สึกเศร้าแทนตัวเองไม่ได้ ใจก็คิดว่าเขาทำดีแล้วจะมีประโยชน์อะไรกับเธอ เธอก็เป็นได้เพียงแค่แม่เลี้ยงของเขา! ใอ้เทียนฉิงถอนหายใจ เอ่ยถามต่อว่า “คุณลุงหวัง ปกติแล้วมีใครอาศัยอยู่ในห้องที่มีกระดิ่งลมสีฟ้าบริเวณชั้นสี่หรือคะ” คุณลุงหวังส่ายหน้า ตอบกลับว่า “ไม่มีใครอยู่ครับ” เป็นไปได้อย่างไรกัน ถ้าหากว่าไม่มีคน แล้วเป็นใครกันที่ทำให้เธอได้ยินเสียงพวกนั้น ไหนจะชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าคนนั้นอีก เขาเป็นใครกัน คงไม่ใช่วิญญาณหรือผีหรอกนะ! ถึงแม้ว่าจะใช่จริง ก็ได้ยินมาว่าผีไม่มีร่างที่แท้จริง ตอนนั้นเธอไม่เพียงแต่เห็นเขาแล้ว ยังถูกเขาตบไหล่อีกด้วย เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็ถามต่ออย่างไม่ยอมแพ้ว่า “ตระกูลลู่มีคนตาสีฟ้าหรือไม่คะ”
已经是最新一章了
加载中