บทที่ 14 สิ่งใดผ่านไปแล้ว ไม่อาจหวนคืน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 14 สิ่งใดผ่านไปแล้ว ไม่อาจหวนคืน
\"ถวายพระพรองค์ชายสิบหกเพคะ\" ฟางหลินที่เห็นดังนั้นก็สะดุ้งโหยง หยัดกายขึ้นก่อนจะหมุนตัวไปด้านหลังตามสัญชาติญาณ \"ถวายพระพรองค์ชายสิบหกเพคะ\" ฟางหลินทำความเคารพตามอย่างงง ๆ \"ฟางหลิน...กลับมาคราวนี้สดใสยิ่งกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก\" รอยยิ้มจากปากบาง ๆ ของชายหนุ่มที่ดูสดใสคนหนึ่งส่งมายังนาง \"เอ่อ...\" ฟางหลินอ้ำอึ้ง หันไปขอความช่วยเหลือจากสาวใช้ของตนด้วยสายตา \"ข้าอายุมากกว่าเจ้าสองสามปี หากแต่เราเป็นสหายกันจำได้หรือเปล่า\" เขาเอ่ยถาม ซึ่งถ้านางตอบว่าจำได้นั่นก็แปลว่านางบ้าไปแล้ว \"หม่อมฉันจำไม่ได้เพคะ\" \"ข้าน้อยใจนะ ทำไมเจ้าถึงจำข้าไม่ได้\" ปากพูดไปอย่างนั้น หากแต่นางเห็นแววตาของเขาเป็นประกายวิบวับ \"เอ่อ...หม่อมฉันจำไม่ได้\" ฟางหลินยืนยันคำพูด \"ห่างเหินนัก... แค่สองปีที่เจ้าหายไปเท่านั้น ทำไมถึงได้ลืมสหายอย่างข้าได้\" เขากางพัดออก พัดมันไปมาอย่างมีมาด \"เอ่อ ข..ข้ากับท่าน..เราเป็นสหายกันเหรอ\" ดูไม่น่าจะเป็นไปได้เลยแม้สักนิด \"ใช่น่ะสิ อย่างนี้ดีแล้ว พูดกับข้าไม่ต้องมากความ\" เขาเดินเขามาในศาลาทำท่าจะเดินเข้ามาใกล้ ฟางหลินถอยหนี หมอนี่เป็นสหายกับฟางหลินจริงเหรอเนี่ย \"เดินหนีทำไมเล่า เจ้าหายไปตั้งสองปี ข้าก็แค่อยากกอดให้หายคิดถึง\" หมอนี่ชีกอใส่นางซะแล้วมั้ยล่ะ ดูท่าจะเป็นเรื่องโป้ปดเสียแล้วสิ \"...มีคำกล่าวไว้ว่าเป็นเพื่อนสนิทเพียงใดก็ยังสมควรมีกำแพงกั้นนะเพคะ\" ฟางหลินถอยหลังออกไปอีกสองก้าว \"ทำไมเล่า...เดี๋ยวนี้เจ้าเปลี่ยนไปมากนะ\" \"หญิงสาวที่ดีไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวชายที่ไม่ใช่สามีไม่ใช่หรือ\" นางกล่าวเพิ่ม ยุคโบราณอย่างนี้ จะไทยหรือเทศก็สอนหญิงในแนวทางทำนองนี้ทั้งนั้น และหมอนี่ก็คงรู้ข้อปฏิบัติพวกนี้ดีด้วย \"ณ เมืองฉางอันนี้ จะมีสตรีนางไหนยังยึดถือข้อปฏิบัตินี้อยู่อีกเล่า\" องค์ชายสิบหกเอ่ยท้วง สมัยถังนี้เป็นสมัยที่เปิดกว้างทางเพศมากถึงขนาดที่การเสียบริสุทธิ์ก่อนการแต่งงานไม่ใช่เรื่องแปลก ผู้หญิงในสมัยถังจึงสามารถแต่งตัวด้วยเนื้อผ้าบางเบาและโชว์เนินอกที่เคยสงวนไว้ในสมัยก่อนหน้าได้ \"ท...ทำไมเล่าก็ไหนท่านว่าเราเป็นสหายกัน กว่าจะเป็นสหายใช้เวลาเป็นปี แต่เสียได้ง่ายๆภายในเค่อเดียว\" นางร่ายคำคมเพิ่ม ทั้งที่ยังไม่ค่อยเข้าใจคำท้วงติงของเขาเท่าใดนัก \"เจ้าบทเจ้ากลอนเหลือเกิน เอาเถอะ ๆ วันนี้ที่ข้ามาก็เพราะอยากจะมาชวนเจ้าไปเที่ยวเล่นข้างนอก\" \"วันนี้ข้าไม่ว่าง\" ฟางหลินปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย \"คนไม่ว่างที่ไหนมานั่งจิบชาชมสวนอยู่อย่างนี้\" องค์ชายสิบหกไม่เชื่อ \"ก็ข้าไม่ว่าง ไว้คราวหน้าละกันนะ\" ฟางหลินยังคงปฏิเสธ ก่อนจะนั่งลงดื่มชาและหยิบขนมเข้าปากอย่างไม่เกรงใจ \"อ้อเมื่อครู่ข้าเห็นพี่สิบห้าเดินออกจากจวนเจ้าไป เขามาง้อขอคืนดีเจ้าใช่หรือไม่\" องค์ชายสิบหกเห็นอย่างนั้นก็ฉุกคิดเรื่องที่เขาสงสัยทันที \"ก็ใช่...\" ฟางหลินตอบสั้นๆ \"แล้ว..แล้วเจ้าให้อภัยเขาไปรึไม่เปล่า!\" เขาคว้ามือของฟางหลินไปจับไว้ แววตาส่อความวิตกกังวล \"เปล่า! ข้าไม่ได้ใจอ่อนขนาดนั้นนะ\" นางตกใจ พยายามขืนมือออก \"ดีแล้ว ๆ ดีมาก เจ้าไม่ต้องกลับไปรักเขาอีกหรอกนะ พี่ชายข้าน่ะใจร้ายกับเจ้ามากเกินไป อย่าไปยอมเป็นชายารองให้เขาน่ะดีแล้ว\" ดู ๆแล้วหมอนี่ก็เข้าท่าเหมือนกันแฮะ \"จะชายารองของเขาหรือชายาเอกของท่าน ข้าก็ไม่เอาทั้งนั้นแหละ\" ดูเข้าท่าแต่ไม่ใช่เชิงชู้สาวแน่ๆ \"ทำไมเหมารวมข้าไปด้วยเล่า\" เขาถามเสียงขุ่น \"ข้ายังไม่อยากคิดเรื่องแต่งงาน\" ฟางหลินดึงมือทั้งสองของตัวเองกลับมาจากการกอบกุมของชายตรงหน้า \"ถึงแม้ว่าพี่สิบห้าจะทำให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจ แต่ข้าเปล่าเสียหน่อย ข้าทำหน้าที่สหายที่ดีของเจ้าเสมอมาเลยนะ\" เฮ้อ! ต้องให้นางหักหน้าจริงๆใช่ไหมเนี่ย \"หลิวอิง องค์ชายสิบหกเป็นสหายกับข้าจริงหรือเปล่า\" ฟางหลินยิ้มร้ายหันไปถามสาวใช้คนสนิทเสียงเย็น \"..ไม่ใช่เจ้าคะ...ท่านอ๋องเพิ่งกลับมาจากหางโจวเมื่อปีก่อน แล้วท่านทั้งสองจะเป็นสหายกันได้ยังไง\" นั่นประไร คนขี้จุ๊ \"ข้าว่าแล้ว...ท่านโกหกข้าจริง ๆ ด้วย ...เมื่อก่อนข้าแทบไม่ได้ออกไปไหนมาไหน จะมีสหายเป็นถึงอ๋องสิบหกได้ยังไง\" \"..นี่ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะโกหกเจ้านะ ข้าเพียงแค่อยากเป็นสหายกับเจ้าเท่านั้นเอง ในบรรดาพี่น้องก็มีเพียงแค่น้องสิบเจ็ดที่ข้าพอจะเที่ยวเล่นด้วยได้ น้องสิบเจ็ดเองก็ไม่ได้อยู่ฉางอันในตอนนี้ ข้าเองเห็นว่าเจ้ากลับมาคราวนี้ดูแปลกตาไป ข้าก็เพียงแค่...\" เขาพยายามแก้ต่าง เขามั่นใจว่าอย่างไรเขาก็บริสุทธิ์ใจมากกว่าพี่ชายร่วมมารดาของตัวเองเป็นแน่ และถ้าหากว่านางเกิดชอบพอเขาขึ้นมา ตำแหน่งชายาเอกที่ยังว่างอยู่ของเขาก็จะทำให้ฟางหลินมีหน้ามีตาได้มากกว่าตำแหน่งชายารองของพี่อี้ \"ท่านไม่ต้องอธิบายเสียยืดยาวอย่างนั้น ข้าไม่ได้โกรธท่านเสียหน่อย\" ฟางหลินเอ่ยปราม คบไว้เป็นเพื่อนก็คงไหวอยู่มั้ง ดูไม่มีพิษสงกับนางเท่าคนพี่นั่นเท่าไหร่ \"จริงนะ เจ้าไม่ได้โกรธข้าจริง ๆ นะ\" \"อื้ม ต่อไปนี้ข้าจะถือว่าท่านเป็นสหาย\" ฟางหลินกล่าว “ว่าแต่นามของท่านเล่า ข้ายังไม่รู้จักนามเดิมของท่านเลย” “ข้าหลี่หรง” เขาเอ่ยบอกสั้น ๆ “ข้าเหอฟางหลิน ยินดีที่ได้รู้จัก” ฟางหลินยิ้มแป้น ก่อนจะเห็นหลี่หรงยิ้มตอบกลับนางมา \"อ้อ อย่างนั้นข้ามีของจะมอบให้เจ้าด้วย\" หลี่หรงฉีกยิ้ม เตรียมจะหยิบของขวัญออกจากช่องเก็บของในแขนเสื้อ \"...\" ฟางหลินแบมือรอรับ ใบหน้ายิ้มน้อยๆ \"นี่เป็นหยกจากพม่าเชียวนะ เป็นของบรรณาการที่ฮ่องเต้มอบต่อให้แม่ข้า ข้าก็แบ่งมามอบให้เจ้า..เอาไว้เป็นของแทนใจ\" ใบหน้าของหรี่หลงดูเจ้าเล่ห์ขึ้นเมื่อเขาเอื้อนเอ่ยถึงตอนท้ายประโยค \"ของแทนใจเหรอ ของแทนใจมันเอาไว้สำหรับคู่รัก ข้าไม่ใช่คู่รักของท่านเสียหน่อย ข้าไม่เอาด้วยหรอกนะ\" ฟางหลินรีบยัดหยกในมือของตนกลับไปยังมือของหรี่หลง \"ทำไมเล่าเราเป็นสหายมีของแทนใจไว้จะต่างอะไร\" หรี่หลงก็หยิบมันมายัดใส่มือนางอีกหน \"ข้าไม่เอา ท่านเอากลับไปเถอะ ของล้ำค่าอย่างนี้เก็บไว้ให้นางในดวงใจท่านเสียเถอะ\" ฟางหลินก็ส่งมันคืนกลับไปอีก \"ทำไมเจ้าดื้ออย่างนี้\" หลี่หรงอดที่จะดุไม่ได้ \"ข้าก็ดื้ออย่างนี้แหละ ท่านจะเอาอย่างไร ถ้าข้ารับก็เลิกเป็นสหายกันเสียตอนนี้\" ฟางหลินยื่นคำขาด อีกนัยหนึ่งก็เพื่อที่จะปฏิเสธหลี่หรงในเรื่องชู้สาวอย่างอ้อมๆ \"เลิกเป็นสหายแล้วเลื่อนขั้นเป็นคนรักของข้าเลยดีไหม หรือจะเป็นชายาเอกของข้าก็คงจะดี\" หลี่หรงหยอกเย้า ดวงตาเป็นประกาย \"ท่านนี่ไว้ใจไม่ได้เลยจริงๆ ข้าไม่ควรเปิดช่องให้ท่านได้ทำอย่างนี้เลย\" ฟางหลินเริ่มดุ \"นิด ๆ หน่อย ๆข้าก็หาทางเกี้ยวเจ้าได้อยู่ดีแหละน่า แม้วันนี้จะเป็นแค่สหายก็เถอะ\" ไม่ใช่ว่าหลี่หรงไม่รู้ว่าฟางหลินตั้งใจจะเลี่ยงเขา หากแต่เขากับนางเพิ่งรู้จักกัน นิสัยใจคอของนางเขาก็ยังไม่รู้จักดีนัก เป็นสหายไปอย่างนี้ก่อนก็คงไม่เสียหาย \"เรื่องของวันหน้าก็คือเรื่องของวันหน้า ว่าแต่เรื่องของวันนี้น่ะ...\" ฟางหลินฉุกคิด \"ทำไมล่ะ\" หลี่หรงเร่งจะเอาคำตอบ \"เมื่อไหร่ท่านจะกลับไปเสียทีเล่า ท่านมาขัดขวางเวลาพักผ่อนของข้านานเกินไปแล้ว\" นางตัดสินใจที่จะพูดความต้องการของตนออกมาตรง ๆ \"ทีกับพี่สิบห้าเจ้าไม่กล้าไล่ แต่ทำไมกับข้าเจ้าถึงเอ่ยปาก\" หลี่หรงชักน้อยใจ \"ก็นั่นคือท่านอ๋องหลี่อี้ ส่วนท่านคือหลี่หรงสหายข้า เพราะว่าข้านับท่านเป็นสหาย ข้าถึงกล้าเอ่ยปากไล่ตรง ๆ อย่างนี้\" ฟางหลินอธิบายให้เขาเข้าใจ ถึงจะเป็นเหตุผลที่ข้าง ๆ คู ๆไปหน่อยก็เถอะ \"เอาเถอะ ๆ คำพูดของเจ้าเนี่ยจะดีหรือร้ายข้าก็ปฏิเสธไม่ได้ อย่างนั้นวันนี้ข้าขอตัวก่อน\" หลี่หรงส่ายหัวน้อย ๆ นางตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับน้องสาวตัวเล็กของเขาที่หางโจว ทำอะไรพูดอะไรก็ทำให้เขาเอ็นดูไปหมด \"กลับดี ๆ นะหลี่หรง\" ฟางหลินเอ่ยบอก น้ำเสียงร่าเริง \"ไว้คราวหน้าข้าจะพาไปเที่ยวเล่นข้างนอก\" หลี่หรงกล่าวประโยคทิ้งท้ายไว้ ก่อนจะเริ่มเดินออกไป \"ได้ ๆ ลาก่อนหลี่หรง\" หลี่หรงกางพัดเดินจากไปอย่างช้าๆ หลังจากเห็นว่าอีกฝ่ายพ้นสายตาไปแล้ว ฟางหลินก็นั่งลงถอนหายใจแรง ๆ อย่างเบื่อหน่าย นางไม่เคยรู้ตัวว่าตัวเองสวยขนาดนี้มาก่อน จู่ ๆในวันเดียวก็มีหนุ่มรูปงามถึงสองคนมาหาถึงจวนอย่างนี้ นางก็พอรู้ตัวว่าเป็นคนสวย แต่ถึงขนาดว่านางสวย ทำไมไอ้แฟนเก่าบ้านั่นถึงได้กล้านอกใจนางนะ อยากให้มาเห็นจริงๆว่านางน่ะฮอตขนาดไหนในฉางอัน ต้าเจิงผู้เป็นพี่ใหญ่เดินมาพร้อมกับอ๋องหยางจื้อ ใบหน้าของพี่ใหญ่ยิ้มแย้มแจ่มใสผิดกับอีกคนที่หน้าบึ้งมาตั้งแต่ร้อยเมตรก่อน \"พี่ใหญ่\" ใบหน้าเจือรอยยิ้มของฟางหลินกลับยิ่งทำให้หยางจื้อหงุดหงิดจนเผลอกัดกรามแน่นกว่าเดิม \"บุรุษเข้าจวนไม่ได้หยุด คนนู้นกลับไปคนนี้เข้ามา\" ต้าเจิงเอ่ยแซวน้องสาวของตนหนหนึ่ง \"แหม ก็น้องสาวของท่านสวยนี่นา ทำอย่างไรได้\" หากแต่คนน้องไม่ได้เหนียมอายแต่อย่างใด ทำหน้าตาระรื่นจนสหายของต้าเจิงที่มาด้วยเก็บอารมณ์ไม่อยู่ \"ฮึ\" หยางจื้อส่งเสียงไม่พอใจ ก่อนจะเสมองไปทางอื่น \"อ้าว ท่านก็อยู่ที่นี่ด้วย ฟางหลินคารวะท่านอ๋องหยางจื้อเจ้าค่ะ\" ฟางหลินที่เห็นปฏิกิริยาน่าหมั่นไส้ของหยางจื้อก็อดจะแกล้งไม่ได้ เขาไม่ตอบ ทั้งยังไม่แม้แต่จะหันมามองสตรีที่เริ่มสงสัยในกริยาของเขาเข้าให้แล้ว \"สงสัยวันนี้ฝนจะตก ท่านไม่ดุข้าเหมือนเคย\" ฟางหลินถามลอยๆ มองไปยังอีกคนที่ยังไม่ยอมหันกลับมามองตน \"เอ้อ เจ้าสองคนคุยกันไปก่อนแล้วกันนะ ข้าลืมถุงเงินขอกลับไปเอาที่ห้องก่อน\" คนลืมถุงเงินไม่ได้เดินไปไหนไกล หากแต่กลับมายืนสังเกตการณ์ เนื่องจากแอบสังเกตเห็นว่าหยางจื้อทำฟึดฟัดมาสักพักแล้ว คงเพราะลมหึงหวงที่พัดเข้ามาในจวนถึงสองครั้งสองครา \"ท่านจะไม่เข้ามานั่งรอในศาลาหน่อยเหรอ\" ฟางหลินถามกระเซ้าหยางจื้อไม่ตอบหากแต่ยืนทำท่าทีมึนตึง \"เป็นใบ้ไปแล้วหรืออย่างไร คนเขาถามทำไมท่านไม่ตอบ\" ฟางหลินชักไม่สนุก ทุกทีเวลานางกวนประสาทเขา เขาจะต้องต่อว่านางกลับ ไม่ก็ทำตาถลนใส่ หากแต่คราวนี้กลับนิ่งเงียบ ทั้งยังไม่หันมามองหน้านางด้วยซ้ำ \"ท่าน! อ่ะ ๆๆ ข้ายอมแพ้แล้ว บอกข้ามาหน่อยว่าท่านเป็นอะไร\" ฟางหลินความอดทนต่ำ ไม่ชอบให้ใครทำให้นางอึดอัดใจอย่างนี้ \"เจ้าสนใจคำพูดข้าด้วยหรือ นี่ข้าหยางจื้อ ไม่ใช่องค์ชายที่ไหน\" หยางจื้อหัน หน้ามาถาม น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจทำให้ฟางหลินรู้สึกประหลาด \"ท่านกำลังประชดประชันข้าเหรอเนี่ย ...ข้าไปทำอะไรให้กัน\" นางไม่เข้าใจนัก นี่ก็ร่วมเดือนแล้วที่นางไม่ได้เจอเขา แล้วมาน้อยใจนางเรื่องอะไร \"เจ้าสนใจด้วยรึ ว่าข้าเป็นอะไร\" เขาถามกลับ จนฟางหลินเริ่มเข้าใจ \"นี่ข้าก็...ข้าก็กำลังสนใจท่านอยู่\" ฟางหลินเผลอตัวตอบกลับไป “เจ้าชอบล่อลวงบุรุษด้วยรอยยิ้มและการยกให้เป็นสหายหรอกหรือ\" เขาว่าเข้าให้ “หา! ข้าไม่เคยทำแบบที่ท่านพูดเสียหน่อย” ฟางหลินปฏิเสธ นางโกรธอ๋องสิบห้าเพียงแต่ไม่ได้รังเกียจเขาถึงกับจะต้องปฏิบัติตนแย่ ๆ ใส่ ส่วนอ๋องสิบหกก็ดูขี้เล่นมากพอจะคบเป็นสหายได้จริง ๆนี่นา \"โตเป็นสาวแล้วยังเอาแต่คิดเรื่องเล่นสนุก น้องสาวของข้าคงไม่มีใครอยากสู่ขอไปเป็นฮูหยินเป็นแน่\" ต้าเจิงเดินควงถุงเงินที่แอบเอาออกมาจากเสื้อด้านในเดินบ่นเข้ามา พร้อมกับลอบมองหยางจื้ออย่างรู้ทัน \"...ไม่มีก็ไม่ต้องแต่ง อยู่ปรนนิบัติท่านแม่ไปอย่างนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร\" ฟางหลินเปลี่ยนโทนเสียง กล่าวกับต้าเจิงอย่างขำๆ \"ดูพูดเข้าสิ เจ้าว่าใครจะอยากได้นางเป็นฮูหยินกัน” ต้าเจิงแกล้งถามสหายที่เอาแต่จ้องมองน้องสาวของเขาอยู่นานสองนาน \"...ท่านพูดราวกับน้องสาวของท่านไม่ใช่สาวงาม\" หยางจื้อตอบสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเดินหนีออกมา ฟางหลินกล่าวลาหยางจื้อด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไร้เดียงสา จนหยางจื้ออดใจอ่อนไม่ได้ ทุกกริยาตกอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ของต้าเจิงทั้งหมด ดูท่าน้องสาวประหลาดๆของเขาก็ถูกตาต้องใจหนุ่มหล่อของฉางอันบ้างเหมือนกัน “เขาโกรธอะไรข้านะหลิวอิง” ฟางหลินเอ่ยถามสาวใช้ “ฮิฮิ คุณหนูล่ะก็ ทำไมท่านถึงดูไม่ออก” หลิวอิงตอบกลับ พลางยิ้มเขินอายให้ผู้เป็นนาย “หืม ดูอะไรไม่ออก” ฟางหลินถามต่อ ดูจากปฏิกิริยาของสาวใช้แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ “ข้าพูดไม่ได้ๆ” “แหน่ะ ดูพูดเข้า” หลิวอิงยิ้มเขินอาย คุณหนูของนางไม่ทันคนเอาเสียเลย ทีกับคนอื่นน่ะรู้ทันเขาไปเสียหมด แต่พอเป็นท่านอ๋องหยางจื้อคนนี้กลับกลายเป็นสตรีไร้เดียงสา ตามความคิดเขาไม่ทันไปเสียได้ ถ้าคุณหนูของนางได้ร่วมหอลงโลงกับท่านอ๋องหยางจื้อคนนี้ล่ะก็ หลิวอิงคนนี้ก็หมดห่วง
已经是最新一章了
加载中