คดีหมั่นโถวจบ   1/    
已经是第一章了
คดีหมั่นโถวจบ
“นี่คือผลึกลูกแก้วสวรรค์ที่บรรพบุรุษตระกูลเจ้ามอบให้กองปราบเป็นผู้ดูแล” “ใต้เท้าแล้วมันจะพิสูจน์ได้จริงหรือ”หนึ่งในชาวบ้านเอ่ยถาม “ใช้เลือดของข้าพิสูจน์” ////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////// “ใช้เลือดของข้าพิสูจน์” “นี่คือคุณชายเจ้าหยวนเฟิ่ง พวกท่านคงรู้จักตระกูลเจ้าดีเช่นนั้นหากใช้เลือดของคุณชายพิสูจน์คงไม่มีใครสงสัยหรอกนะ” ใต้เท้าจะเชื่อได้อย่างไรว่าหนุ่มน้อยผู้นี้คือคนตระกูลเจ้า” “เลือดของข้ามีสีแดงเช่นเดียวกับพวกท่านแต่หากหยดลงบนผลึกหินลูกนี้แล้วจะกลายเป็นสีทอง” “ใช่ๆท่านปู่ข้าเคยเล่าให้ฟังทายาทตระกูลเจ้าถ้าคือตัวจริงหยดเลือดลงผลึกหินปราบมารเลือดจะกลายเป็นสีทองแต่หากเป็นปีศาจหรือมารเลือดจะกลายเป็นสีดำ”ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “ใช่ หากเป็นมนุษย์ธรรมดาจะเป็นเพียงสีเดียวเท่านั้นนั่นก็คือสีแดง” ถัดจากลานหน้ากองปราบขบวนรถม้าขนาดใหญ่ที่เดินทางมาจากเมืองหลวงชะลอลงเรื่อย ๆทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านในเอ่ยถาม “มีอันใดกันรึ”เสียงทุ่มต่ำติดจะแหบแห้งเอ่ยถามจากด้านในรถม้า “ทูล..เอ่อเรียนองค์..” “สือเว่ย”เสียงเอ่ยห้ามจากด้านใน “ขอประทานอภัยพะยะ..อุ้ย ขออภัยนายท่านข้างหน้ากองปราบมีการตัดสินคดีขอรับ” “อืม” “เช่นนั้นเราอ้อมไปอีกทางหรือไม่ขอรับดูท่าน่าอีกนานขอรับ” “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวข้าจะไปดูสักหน่อยเขาตัดสินคดีอันใดกัน”มือหนาเปิดม่านขึ้นเตรียมจะลงแต่ถูกห้ามโดยชายชราที่ยืนอยู่ข้างๆรถม้า “นายท่านข้างนอกแดดแรงนักยังงัยกระหม่อม...บ่าวไปดูให้เองขอรับ”พ่อบ้านตงหรืออีกนัยก็คือขันทีตงกงกงผู้ผันตัวเองออกจากวังหลวงมาเป็นพ่อบ้านให้กับชายตรงหน้าหลังจากที่ได้รับพิษประหลาดนั่นแม้จะถอนพิษไปแล้วแต่ทุกๆสิบห้าวันองค์ชายใหญ่หรือนายท่านในตอนนี้จะต้องกระอักเลือดพิษที่ยังหลงเหลืออยู่ออกมาเพราะพิษที่ได้รับนี้ทำให้พระองค์สละตำแหน่งรัชทายาทพร้อมหันหลังให้กับราชวงศ์โจวในเมื่อฝ่าบาทให้คำตอบเรื่องตระกูลหลี่กับพระองค์ไม่ได้ด้วยน้ำพระทัยในพระองค์นั้นมีให้หลี่กุ้ยเฟยมากมายเหลือเกินองค์ชายที่ไม่มีพระมารดาเช่นพระองค์จะถูกกระทำเยี่ยงนี้พระบิดายังหลับตาข้างหนึ่งเสมอ จนไทเฮาทรงทนไม่ไหวพระองค์ทรงให้คนนำจดหมายพระมารดามาให้หลังอ่านข้อความในจดหมายนั้นแล้วพระองค์จึงทรงไปขอลาออกจาฐานันดรศักดิ์ขอเป็นเพียงปถุชนคนธรรมดาไม่ขอรับยศถาบรรดาศักดิ์ใดในราชวงศ์นี้อีกโดยไม่ฟังคำทัดทานใดๆทั้งสิ้นอีกอย่างอีกอย่างทั้งที่รู้พิษนี้มาจากพิษที่ใดแต่มิอาจเอาผิดพวกเขาได้ พิษจากน้องสาว พี่ชายคือผู้รักษาหากขืนยังอยู่ที่เมืองหลวงมิแคล้วคงสิ้นพระชนก่อนจะตามหานางเมื่อเจ็ดวันก่อนเขาก็แอบหนีพ่อบ้านเข้าไปตามหาเบาะแสของนางนางในป่าต้องสาบจนทำให้พิษกำเริบขึ้นมาอีกก่อนจะกลับเมืองหลวงไปจัดการเรื่องของตนเองให้เรียบร้อยแล้วเดินทางกลับมาถึงที่นี่ในวันนี้ “อืม”สิ้นคำพ่อบ้านที่เห็นว่าชราแต่เรี่ยวแรงไม่เคยชราเลยเดินวับหายไปกับฝูงชนทันที ในเมื่อไม่ให้ลงจากรถม้าชายหนุ่มเพียงเปิดม่านมองดูเท่านั้นแม้เห็นจากที่ไกลๆสตรีที่ยืนอุ้มสุนัขอยู่ด้านบนลานตัดสินช่างคุ้นตาเขาเสียเหลือเกินไวเท่าความคิดร่างกายสูงใหญ่แม้ผ่านการทรมานมาอย่างยาวนานเมื่อราตรีที่ผ่านมาแต่เพราะเป็นผู้ฝึกยุทธมีปราณที่แข็งแกร่งแม้ยังอ่อนเพลียอยู่บ้างแต่เพื่อดูให้แน่ใจจำเป็นต้องไปดูด้วยตัวเอง “นายท่าน”สือเว่ยเอ่ยได้เพียงเท่านั้นเขาจำต้องวิ่งตามร่างสูงใหญ่นั้นให้ทัน “นายท่าน..” “ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่สตรีที่อยู่ด้านบนนางช่างเหมือนกับ..” “นายท่านหากต้องการชมการตัดสินอย่างไรเชิญด้านบนโรงเตี๊ยมเราได้ขอรับยังมีที่ว่างสำหรับสองที่อยู่ขอรับ”เสี่ยวเอ้อโรงเตี๊ยมออกมาเชื้อเชิญ//// “เช่นนั้นนำทาง”สือเว่ยมองหน้านายเหนือหัวเมื่อได้รับการพยักหน้าตอบเขาจึงหันไปเอ่ยกับเสี่ยวเอ้อทันที บนชั้นสองของโรงเตี๊ยมตรงระเบียงหากมองออกมาจะเห็นตรงลานกว้างพอดี หลังจากหาที่นั่งได้พอเหมาะพอดีตรงมุมเสาร์หากมองจากด้านล่างจะมีผ้าม่านบังอยู่นิดๆแต่จากด้านบนจะมองด้านล่างเห็นได้ชัดเจนเสี่ยวเอ้อชมไม่ขาดปากว่าพวกเขาเลือกมุมได้ดีก่อนที่จะออกไปน้ำชามาให้พร้อมซาลาเปาสามลูก ถัดออกจากตรงนี้ไปราวๆสามช่วงโต๊ะ ซึ่งโต๊ะแต่ละโต๊ะจะมีเพียงฉากกั้นความเป็นส่วนตัวของแขกให้ด้วยแม้ไม่ใช่ห้องพิเศษก็ตาม โจวเจี้ยนหยางหลังจากแยกย้ายกับนางในตอนนั้นยังวนเวียนอยู่ที่เมืองนี้เพราะสายข่าวของพระองค์ในเมืองหลวงรายงานมาว่าเสด็จพี่จะเสด็จมาประทับอยู่ที่เมืองนี้ยังงัยพระองค์ต้องตามเสด็จพี่กลับไปเมืองหลวงให้ได้ตามรับสั่งพระบิดา หาไม่ตำแหน่งรัชทายาทจะหล่นใส่หัวพระองค์ พระองค์ไม่อยากได้อีกอย่าโอรสพระองค์อื่นมีเยอะไปเหตุใดต้องเป็นพระองค์ด้วยพระมารดากระหม่อมเป็นเพียงซูเฟยนะพระยะคะพระบิดา พระองค์ทรงจำผิดหรือไม่ก่อนที่จะมีเขาพระองค์มีพระโอรสอยู่ก่อนแล้วถึงสี่พระองค์ หากกระหม่อมจำไม่ผิดเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะพระองค์เองมิใช่หรือพะยะคะแล้วพระมารดาก็อีกคนเสด็จพี่เป็นโอรสพระองค์หรือกระหม่อมกันแน่ที่เป็นโอรสของพระองค์ โจวเจี้ยนหยางนั่งนึกในใจก่อนที่จะได้สติเพราะองค์รักษ์ทั้งสองบ่นเรื่องอาหารของโรงเตี๊ยม “ไม่เห็นอร่อยเหมือนแม่นางบนเขาทำเลยเจ้าว่ามั้ยไห่เซิน”ไห่กุยเอ่ยถามแต่ปากยังกัดซาลาปาไม่หยุด “กินๆไปเถอะเจ้าอย่าพูดมากมีให้กินเจ้าก็กินๆเข้าไปเถอะ”ไห่เซินพูดเตือนหางตาเขามองดูเสี่ยงเอ้อกำลังมองมาทางนี้ตาเขียวปัด ถึงเขาจะอยากบอกว่าจริงเช่นไรก็ไม่กล้าด้วยตอนนี้นายเหนือหัวนั่งไม่สบอารมณ์อยู่หากมีเรื่องกับเสี่ยวเอ้อมีหวังกลับไปเมืองหลวงคราวนี้ถูกขังลืมแน่แท้ ณ ลานตัดสินคดีความตอนนี้ฟ่านหยูฟ่านเอาผลึกหินมาวางตรงโต๊ะด้านหน้าให้ทุกคนได้มองเห็นกันทั่วถึงผลึกหินลูกเท่าผลผิงกั่วส่องแสงสู้แสงอาทิตย์แวววาวสะท้อนออกเป็นวงกว้าง แม้ยามเว่ยแสงแดดจ้าเพียงใดแต่จู่ๆท้องฟ้ากลับมืดครึ้มสายฟ้าฟาดลงตรงกลางลูกแก้วหนึ่งครั้งก่อนที่ท้องฟ้าจะโปร่งโล่งตามเดิมเหมือนไม่มีอันใดเกิดขึ้น “ทุกท่านคงเห็นสวรรค์รับรู้ข้าเจ้าหยวนเฟิง(เฟิงหลงบุตรคนโตของเทพมังกรทองอันนี้เจ้าหยวนเฟิงเพียงเอ่ยในใจ)ทายาทเทพปราบมารขอหลั่งเลือดเพื่อพิสูตรความจริงให้ชาวเมืองซานเหลียงดู”กล่าวจบเจ้าหยวนเฟิงใช้มีดสะกิดปลายนิ้วหยดเลือดลงถ้วยไว้หนึ่งหยดก่อนที่จะหยดลงผลึกหิน ทันทีที่หยดเลือดบุตรมังกรทองหยุดลงผลึกหินหินก้อนโปร่งใสกลับกลายเป็นสีทองส่องแสงไปทั่วบริเวณเพียงแวบเดียวผลึกหินกลับเป็นสีโปร่งแสงตามเดิม “คราวนี้ทุกท่านคงเชื่อแล้วใช่หรือไม่ มีท่านใดยังสงสัยในตัวตนของข้าอีกหรือไม่”เจ้าหยวนเฟิงเอ่ยถาม “แม่นางข้าขอเลือดสุนัขของเจ้าหน่อย”ฟ่านหยูฟ่านเอ่ยขอเลือดเจ้าหมั่นโถกับนาง “หมั่นโถเพื่อความบริสุทธิ์ของเจ้าทนเจ็นนิดเดียวนะ”นางว่าพลางลูบหัวมันเบาๆก่อนที่จะยื่นขาหน้ามันไห้กับมือปราบอี้หยินเพื่อสะกิดเอาเลือดมันไปแม้จะเจ็บแต่เจ้าหมั่นโถวมันอดทนมันเพียงหันหน้าซบกับอกของนางไว้ไม่ยอมหันไปมองมันกลัวมันจะกัดมือปราบเอาได้ตามสัญชาตญาณของสัตว์ที่มันถูกทำร้าย “เก่งมากเลยหมั่นโถว ทำดีแล้วเจ้าทำดีแล้ว”นางว่าพลางลูบหัวมันเพื่อปลอบใจ หลังจากได้เลือดมันจากมือปราบอี้หยินมาแล้วเจ้าหยวนเฟิงก็หยดเลือดของมันลงบนผลึกหินปรากฎว่าผลึกหินไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอันใด แต่ว่าจะไม่มีก็ไม่เชิงแต่เป็นเขาเพียงผู้เดียวที่มองเห็นก่อนจะหันไปสื่อทางจิตกับมัน เจ้าถูกเลี้ยงมาโดยเสิ่นกวนกว๋อหมอปีศาจใช่หรือไม่ ท่านรู้ ท่านเป็นใคร หมั่นโถวมีปฎิกิริยากับคนตรงหน้าทันทีเขาเข้าใจภาษามันแถมยังรู้ว่ามันโตมาจากที่ใดหูมันตั้งหางชี้ขึ้นรู้สึกตื้นกลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้าเป็นผู้ใดไม่สำคัญแต่จงจำไว้ข้าไม่มีวันทำร้ายนางกับมารดาหรอกเจ้าไม่ต้องกังวล เพียงเจ้าหยวนเฟิงพูดกับมันแค่นั่นอาการตื่นกลัวเมื่อครู่ก็หายไปเยี่ยเซียงที่ตกใจเมือครู่กับกริยาของมันให้ใจชื้นขึ้นมา “เป็นอันว่าสุนัขนี้ไม่ใช่ปีศาจดังที่สามเหวินกล่าวหา”ฟ่างหยูฟ่างเอ่ยสรุปตัดตอนยามนี้แดดแรงมากเขาเองก็เห็นใจนาง นางกำลังตั้งครรภ์ยืนตากแดดเป็นเวลานานอาจเป็นลมแดดได้มันจะยุ่งยากพวกเขาอีกที่กองปราบยิ่งมีแต่บุรุษอีกด้วย “ใต้เท้าฟ่างถึงแม้สุนัขนางจะไม่เป็นปีศาจใช่ว่านางจะไปเป็นเสียหน่อยเพื่อความเป็นสบายใจท่านตรวจนางเสียหน่อยเป็นไร”ซุนเว่ยหมินบุตรชายคนโตของเจ้าเมืองซุนเว่ยเอ่ยขัดขึ้นด้วยสามเหวินคือลูกไล่ของตนจะให้โดนจองจำมิได้ “เจ้า...”เจ้าหยวนเฟิงโมโหหนาดำคล้ำแต่ยังยั้งสติได้อยู่หาไม่เเล้วเพียงปลายนิ้วเขาอาจสังหารมนุษย์ผู้นี้ได้ในพริบตา “ไม่เป็นไรเจ้าคะ เชิญท่านมือปราบ”นางว่าพลางยื่นมือออกไปให้มือปราบอี้หยิน แต่เพียงเลือดในกายนางหยดลงบนผลึกหินเท่านั้นหมู่มวลผีเสื้อไม่รู้ว่ามาจากที่ใดบินมาห้อมล้อมนางเอาไว้เลือดที่หยดลงนั้นค่อยๆไหลเป็นเส้นสายหลายๆสีรอบๆผลึกหินรวมกันกลายเป็นสีรุ้งขึ้นมา ทุกอย่างเหมือนหยุดอยู่กับที่ทันที่ทุกคนในที่นี้ตกตลึงกันหมดเจ้าหยวนเฟิงมองหน้านางตอนนี้ในใจเขาสับสน เทพธิดาหูเตี๋ยเช่นนั้นรึตอนนั้นนางปลิดชีตตนเองต่อหน้าข้าจนดวงจิตแตกสลายไปแล้วเหตุใดยังมีหลงเหลืออยู่ที่แห่งนี้ หากสังหารนางตอนนี้ชายาเขาเล่านางช่างแก้แค้นเขาได้เจ็บปวดยิ่งนักมาเกิดในครรภ์สตรีที่ต้องกำจัดเพื่อไม่ให้สงครามสามโลกถือกำเนิดดั่งเช่นพันปีก่อน หนทางที่จะได้นางคืนมามันช่างมืดมนเสียกระไรนี่ หรือเขาพลาดสิ่งใดกัน สามีนางบิดาว่าที่ชายาคือใครขออย่าให้เป็นเช่นอย่างที่เขาคิดเลยหากเป็นจริงเขาคงหมดหวังได้นางมาครองคู่ดังกาลก่อน แต่เพื่อชายาของเขาเขาจำเป็นต้องปกปิดนางจากเบื้องบนก่อน ก่อนที่ทุกอย่างจะลุกลามไปเจ้าหยวนเฟิงลบความทรงจำทุกคนที่เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ทันทีให้ทุกคนเข้าใจว่านางคือมนุษย์ธรรมดา แต่ยังช้ากว่าเงาร่างชายชราที่นั่งอยู่บนหลังคาโรงเตี๊ยมแม้แต่เจ้าหยวนเฟิงเองยังจับสัมผัสไม่ได้ อย่าได้โทษข้าเลยท่านแม่ทัพข้าเพียงทำตามคำขอของคนผู้หนึ่งก็เพียงเท่านั้น เอ่ยขอโทษแม่ทัพสวรรค์เสร็จชายชราเพียงปัดแส้หางม้าใส่พ่อบ้านตงให้ความจำที่ถูกเจ้าหยวนเฟิงลบไปกลับคืนมาดังเดิมก่อนที่ร่างกายค่อยๆหายไปกับอากาศทำเหมือนไม่มีอันใดเกิดขึ้น “เป็นอันว่านางก็ไม่ใช่ปีศาจเช่นเดียวกัน ส่วนเจ้าสามเหวินโทษฐานที่แจ้งความเท็จหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียหายโบยสามสิบไม้ส่วนเงินตำลึงที่รับของพวกนางมานั้นให้คืนพวกนางไปเสีย”ฟ่างหยูฟ่างเอ่ยตัดสินก่อนจะหันมาขอโทษนางโดยไม่ฟังคำร้องขอความเมตตาจากสามเหวินขนาดคุณชายใหญ่ซุนเว่ยหมินยังไม่กล้าออกหน้าแทนอีกเลยตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของเจ้าพวกนี้ไม่มีตาดูหรือไรเจ้าของนางคงเป็นคุณชายเจ้าผู้นี้เป็นแน่ใครเล่าจะกล้าหาเรื่องหนุ่มน้อยผู้นี้กัน ส่วนชาวบ้านหลังพิสูจน์ความจริงกันเรียบร้อยต่างแยกย้ายกันไปทำมาหากินไม่มีใครสนใจสามเหวินพี่น้องอีกเลยบ้างก่นด่าหาเรื่องได้แม้กระทั่งคนตั้งครรภ์และเด็ก คนชราโดนแบบนี้บ้างมันจะได้สำนึกไม่กล้ารังแกใครอีก “แม่นางเพื่อเป็นการไถ่โทษข้าจะให้เด็กๆเตรียมรถม้าไปส่งท่านที่หมู่บ้าน” “ไม่รบกวนใต้เท้าฟ่านหรอก ข้าเตรียมไว้ให้พวกนางแล้ว เชิญท่านแม่ขอรับ”เจ้าหยวนเฟิงเอ่ยบอกนางหน้านิ่ง “ห๊ะ! คุณชายเจ้าข้ากับท่านอายุห่างกันไม่เท่าไหร่ท่านอย่าเรียกข้าว่าท่านแม่เลยข้ามิอาจรับได้”นางกล่าวออกตัวในทันที “ไม่ได้หรอกอีกไม่นานข้าก็ต้องเรียกท่านว่าท่านแม่อยู่ดี”เจ้าหยวนเฟิงเดินนำหน้านางไปยังประตูกองปราบที่มีมารดาและลูกๆของนางยืนรออยู่กับมือปราบอีกคน “ท่านแม่/ท่านแม่”เด็กทั้งสองวิ่งมากอดนางซ้ายขวา “เซียงเอ่อ เป็นอย่างไรบ้าง”นางถามพลางดึงมือนางมาดูแผลที่นิ้วมีเพียงรอยแผลเล็กๆเพียงเท่านั้นส่วนหมั่นโถวในอ้อมแขนก็ไม่ยอมน้อยหน้ามันยกขาที่มีแผลยื่นให้หญิงชราดูเช่นกันเรียกรอยยิ้มให้คนที่ยืนดูอยู่ตรงนั้นกันทั่ว “ไม่เป็นไรเจ้าคะท่านแม่ หมั่นโถวเจ้าจะบอกว่าเจ้าก็มีแผลเช่นนั้นหรือ”นางว่าพลางเอามือขยี้หัวมันเบาๆก่อนที่มันจะดิ้นนขลุกขลักลงไปหาซือถิงเด็กน้อยที่ยืนมองมันตาแป๋วอยู่ข้างๆ พอดีกับรถม้าที่เจ้าหยวนเฟิงเตรียมมามาจอดด้านหน้าพอดีทั้งหมดจึงขึ้นรถม้าเดินทางไปหมู่บ้านจูทันที
已经是最新一章了
加载中