บ้านของเราจบ   1/    
已经是第一章了
บ้านของเราจบ
“พวกท่านทำอันใดกันเจ้าคะ”สือซว่านที่ถูกทั้งสองหลอกให้ไปเอาน้ำชามาให้เดินออกมาเจอผู้เฒ่าทั้งสองกำลังเตรียมตัวลุกเดินไปทางหน้าผา “ข้าจะไปหานาง” “ใช่” “พวกท่านทั้งสองหยุดเลยเจ้าคะ” “ใช่หยุดเลยทั้งคู่ พวกท่านจะลงไปด้านล่างตอนนี้ไม่ได้ ต้องรอให้ถึงวันเทศกาลหยวนเซียวเสียก่อน*(เทศการโคมไฟ)”เทพชะตาเอ่ยพลางเดินตามหลังสือซว่านออกมาทันเวลาพอดี “แหมๆๆตาเฒ่าชะตาคราวที่แล้วเจ้ายังไม่เข็ดอีกหรือ ว่าแต่เหาข้าไปไหน”เสิ่นกวนกว๋อว่าพลางหากล่องไม้ที่ตัวเองใช้เลี้ยงเหาไว้ โป๊ก!!!พัดในมือตนถูกแย่งโดยสหายตนแล้วยังตีมาบนหัวตนอีก “เจ้าเฒ่าเลอะเลือนเป็นหมอเสียเปล่า เหามันอยู่ได้ด้วยเลือดแล้วเจ้าเอามาปล่อยบนหัวข้ามันจะเอาเลือดที่ใดกินมันก็ตายแล้วละสิ”ท่านยมบาลเอ่ยพลางล้วงซากเหาออกมาให้ดู เทพชะตากับสือซว่านมองหน้ากันพร้อมทั้งส่ายหัวให้กับ....ทั้งสองผู้เฒ่าสองผู้เฒ่ามีที่ใดเลี้ยงเหาไว้กับหัวคนของโลกวิญญาณแล้วเหาจะเอาเลือดที่ใดกิน ********************************** รุ่งเช้ายามเฉินเยี่ยเซียงและทุกคนตื่นกันพร้อมหมดแล้ว จางฮูหยินให้คนมาเชิญนางและครอบครัวไปทานอาหารที่เรือนก่อนทั้งหมดจะพากันเดินไปยังท้ายหมู่บ้านที่ด้านหลังติดกับภูเขาต้องสาปอีกฝั่งเดินมากันราวๆครึ่งเค่อ(7-8นาที)ก็มาถึงบ้านขนาดเล็กล้อมรอบด้วยรั้วไม้ไผ่มองดูร่มรื่นน่าอยู่ ด้านหน้าเรือนยังมีต้นมะม่วงที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาหน้าเรือนได้เป็นอย่างดี “บ้านท่านหมอนี้มีต้นไม้แปลกๆอยู่มากพวกข้าก็ไม่รู้ว่ามันคือต้นอันใด เพียงแต่มีคนบอกว่ามันเป็นต้นไม้มาจากทางใต้ แต่เจ้าอยู่ทางเหนือเจ้ารู้จักท่านหมอได้อย่างไร”จางหยี่ถามแม้พี่ชายจะส่งจดหมายยืนยันตัวตนมาให้นางแล้วแต่นางอดสงสัยมาได้จึงหาจังหวะเอ่ยถาม “เดิมทีข้าอยู่ดินแดนทางใต้ของแคว้นเหลียงแต่แต่งงานกับบุตรชายท่านแม่ที่เป็นพ่อค้าอยู่ดินแดนทางเหนือข้าจำเป็นต้องย้ายตามสามีไปอยู่ทางเหนือเจ้าคะ พอสิ้นสามีข้าก็อยากกลับมาอยู่บ้านเกิดท่านแม่ไม่เหลือใครแล้วที่นั่นพวกเราเลยเดินทางมาด้วยกันทั้งหมดโชคดีที่เจอสหายท่านพ่อท่านอา(อาจารย์)บอกมีบ้านอยู่เมืองนี้เลยให้ข้ามาพักให้คลอดลูกแข็งแรงแล้วค่อยเดินทางต่อเจ้าคะ”นางโกหกคำโตเลยหละ “บ้านหลังนี้ข้าให้คนมาทำความสะอาดอยู่เสมอท่านหมอมีบุญคุณกับครอบครัวข้าหากมีอันใดให้ข้าช่วยเหลือก็บอกแล้วกัน ยามต้นยามซื่อจะมีเกวียนธัญพืชในหมู่บ้านเข้าไปส่งในเมืองหากเจ้าต้องการเข้าเมืองก็ไปรอได้ที่หน้าหมู่บ้านข้ากลับละ”จางหยี่เดินมาส่งถึงประตูหน้าเรือนก่อนเอ่ยตัวขอกลับไปโดยที่ยังไม่ได้เล่าเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลังจากสามีนางเข้าไปขอร้องไห้ท่านเจ้าเมืองยื่นกีฎาเรื่องของหมู่บ้านที่สกุลหลี่ของหลี่กุ้ยเฟยทูลขอพระราชทานเอาไป นางรอให้สามีที่ไปเมืองหลวงกับท่านเจ้าเมืองกลับมาเสียก่อนค่อยบอกนางก็ยังไม่สายหากนางยังไม่มีที่ไป ก็ให้นางอยู่กับพวกตนและคนอื่น ๆก่อนคลอดแล้วค่อยว่ากันใหม่ดูท่านางคงอีกไม่กี่เดือนหรอกสตรีหม้ายกับแม่สามีที่แก่ชราพร้อมลูกยังเล็กอีกสองคนน่าสงสารยิ่งนัก “ขอบคุณท่านป้ารบกวนท่านแล้ว”เยี่ยเซียงโค้งคำนับพร้อมกล่าวขอบคุณตามหลังนางเพียงยกมือโบกให้โดยไม่หันหลังกลับมามอง “ท่านแม่รอท่านแม่คลอดน้องแล้วเราจะย้ายไปบ้านท่านแม่ที่ทางใต้หรือขอรับ”เจียงหู่ถามเขาสงสัยมานานแล้วท่านแม่มักบอกใครว่ามาอยู่ที่นี่แค่พักคลอดน้องเท่านั้นบ้านท่านแม่อยู่ที่ดินแดนทางใต้ “ไม่หรอกจ๊ะเราจะอยู่ที่นี่กัน” “แล้ว...” “บ้านหลังนี้ท่านตาหมอยกให้แม่แล้วมันเป็นบ้านของเรา”นางบอกพลางเปิดประตูเข้าไปด้านในตัวบ้านบ้านหลังนี้มีห้องนอนเพียงห้องเดียวตรงกลางเป็นโถงขนาดกำลังพอดีมีโต๊ะขนาดกลางหนึ่งตัวกับเก้าอี้อีกสี่ตัวตั้งอยู่กลางห้อง ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนส่วนฝั่งทางขวาเป็นห้องว่าเปล่าที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนเล็กน้อยนางเปิดเข้าไปดูยังมีกลิ่นสมุนไพรติดอยู่ห้องนี้อาจารย์คงใช้เป็นห้องเก็บสมุนไพรและปรุงยาเพราะผนังด้านข้างห้องยังมีร่องรอยเตาหลอมยาอยู่เลยออกจากห้องนี้นางเดินสำรวจไปด้านหลังพอประตูหลังเปิดออกก็มีเพิงเล็กๆใช้สำหรับทำครัวมีเตาที่ปั้นสูงขึ้นตั้งคู่กันสองอันด้านข้างมีกองฟืนที่ผ่าแล้วสำหรับทำเชื้อเพลิงกองอยู่ด้านผนังก็มีอุปกรณ์ทำครัวครบครันห้อยแขวนไว้เรียงราย นางมองออกไปด้านหลังสวนทุกอย่างทำเหมือนกับตอนที่นางอยู่บนเขา มีแปลงสมุนไพร แปลงผักปลูกกันเรียงรายเต็มสวนหลังเรือนแถมถัดไปยังมีต้นไม้ ผลไม้จากโลกเดิมนางหลายอย่าง “ขอบคุณเจ้าคะ ขอบคุณ..ฮึก..ฮึก..”นางกล่าวได้เพียงเท่านี้น้ำตาแห่งความดีใจตื้นตันใจเอ่อล้นจนนางพูดไม่ออกเลยทีเดียว ”ท่านแม่!ท่านร้องไห้ทำไมเจ้าคะ/ขอรับ”เด็กทั้งสองที่เดินตามมาทีหลังนางเห็นมารดาร้องไห้ก็ให้ตกใจยิ่ง “แม่ไม่เป็นไรแม่แค่ดีใจ ทุกอย่างที่บ้านท่านตาเหมือนบ้านเดิมที่แม่เคยอยู่(บนเขา)ก็แคนั้นเอง”นางเอ่ยตอบพลางยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนชวนเด็กๆเข้าบ้านไปดุท่านย่าที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้กลางห้องด้วยแผลยังปวดอยู่นางไม่อยากเดินมากกลัวมันอักเสบแล้วจะลำบากบุตรสาวตนอีก “ท่านแม่ข้าจะออกไปซื้อของใช้ท่านอยู่กับเด็กๆได้นะเจ้าคะ” “เจ้าไปเถอะข้าอยู่ได้คนเดียวพาเด็กๆไปด้วยจะได้ช่วยเจ้าถือของ” “แต่ท่านแม่อยู่คนเดียวได้จริงหรือเจ้าคะ”นางยังห่วงอยู่ดีมารดายังเดินเหินไม่สะดวกนัก “เช่นนั้นข้าอยู่เป็นเพื่อนท่านย่าเองขอรับ”เด็กชายเอ่ยอาสาเอง “ข้าอยู่เองเจ้าคะพี่ใหญ่โตกว่าข้าช่วยท่านแม่ได้เยอะกว่า”ซือถิงแม้นางจะอายุเพียงแค่สี่ขวบปีแต่นางกลับมีความคิดเกินตัวมากนัก “แต่เจ้าอยากเดินเที่ยวตลาดมิใช่รึ”พี่ชายแย้งถาม “ครั้งหน้าข้าค่อยไปกับท่านแม่ก็ได้พี่ใหญ่ไปเถอะ”นางว่าพลางดันหลังพี่ชายออกไปนอกบ้าน “ถิงเอ๋อเด็กดีไว้แม่จะซื้อขนมมาฝาก “เยี่ยเซียงเดินไปนั่งตรงหน้าบุตรสาวก่อนสวมกอดพลางเอ่ยบอกกับนางแล้วลุกเดินตามบุตรชายออกจากเรือนไป ซือถิงมองตามมารดาที่เดินจากไปพร้อมพี่ชายหน้าเศร้านางเองก็อยากไปตลาดเหมือนกันแต่นางตัวเล็กนิดเดียวช่วยท่านแม่ถือของไม่ไหว ก่อนจะรู้สึกตัวเหมือนมีอะไรมาสะกิดที่ขา “ถิงถิงทำดีแล้วใช่ไหม”นางพูดพลางอุ้มเจ้าหมั่นโถวขึ้นมาฟัดอย่างหมั่นเขียว ส่วนหมั่นโถวคราแรกมันกะจะมาปลอบใจเห็นนางยืนเศร้าแต่คราวนี้มันอยากหนีให้ไกลไม่น่ามาปลอบใจนางเลยมันไม่ชอบให้ใครหอมแก้มมันโดยเฉพาะนางมันรู้สึกเขินอายป็นที่สุดมันพยายามดิ้นจนหลุดจากมือนางก่อนจะวิ่งไปหลบอยู่ใต้โต๊ะน้ำชาที่ท่านย่านางนั่งอยู่ ส่วนซือถิงนางก็พยายามมุดใต้โต๊ะที่จะเอามันออกมา “ถิงเอ๋อ แม่เจ้าไม่อยู่เรามาทำความสะอาดบ้านรอแม่เจ้ากันดีกว่า” “ท่าย่านั่งเถอะถิงเอ๋อทำเอง ถิงเอ๋อทำได้”ซือถิงน้อยนางเอ่ยบอกก่อนวิ่งไปหาไม้กวาดเก่าด้านหลังบ้านมากวาด ทางด้านเยี่ยเซียงนางเดินมาถึงทางเข้าหมู่บ้านก็พอดีกับเขาขนธัญพืชใสเกวียนเสร็จพอดี มีชาวบ้านมายืนรออยู่ก่อนแล้วสองสามคน “อ้าว เกวียนนี้ไม่เข้าเมืองนะเราไปส่งธัญพืชแค่ท่าเรือใครจะไปก็มาขึ้นเกวียนได้เลยอีกครึ่งเค่อจะออกเดินทางแล้ววันนี้ไม่มีเกวียนส่งธัญพืชไปในเมืองนะ”ชายคนขับเกวียนเอ่ยร้องบอพี “พี่ชายข้าอยากได้ข้าวสารกับอาหารสดที่ท่าเรือพอจะมีขายหรือไม่”เยี่ยเซียงเอ่ยถาม “ข้าวอาจมีขายแต่ราคาสูงนัก ลองเอาเมล็ดธัญพืชพวกนี้ไปหุงก่อนมั้ย “ชายคนขับเกวียนมองดูนางแวบนึงก่อนเอ่ยตอบพร้อมเสนอขายธัญพืชไปด้วย “ข้าอยากได้เป็นข้าวมากกว่าเจ้าคะ” “เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า ลองไปดูละกัน ของขายที่ท่าเรือส่วนมากจะเป็นของต่างถิ่นเสียมากกว่า เจ้าไปดูเองละกัน”พูดจบเขาก็กะโดนขึ้นไปนั่งด้านหน้าทันที เยี่ยเซียงขึ้นไปนั่งด้านหลังเกวียนส่วนเจียงหู่นางให้ขยับเข้าไปด้านในส่วนด้านนอกสุดมีชาวบ้านอีกสองสามคนนั่งปิดท้ายมา พอเกวียนมาถึงท่าเรือทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปหาจับจ่ายซื้อของเยี่ยเซียงลงจากเกวียนได้นางยืนงงอยู่กับที่ไม่รู้จะเริ่มที่ใดก่อน ก่อนจะตัดสินใจถามคนขับเกวียนอีกที \"พี่ชายร้านขายข้าวไปทางไหนกัน\" “อ้าวเจ้ายังอยู่อีกรึ เดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวาตรงหัวมุม “เขาบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปเจรจาขายธัญพืชให้กับพ่อค้าต่างเมือง “อ้อ!ข้าจะรอแค่หนึ่งชั่วยามนะรีบซื้อและก็รีบออกมาเล่า” “เจ้าคะ ขอบคุณเจ้าคะ ไปกันเถอะเสี่ยวหู่”นางขอบคุณชายขับรถม้าก่อนที่จะจูงมือบุตรชายไปตามทิศทางที่คนขับเกวียนบอก สองข้างทางที่นางเดินไปมีข้าวของเครื่องใช้คล้ายกับโลกเดิมอยู่มากแม้ไม่เหมือนเลยทีเดียวแต่ก็ใช้แทนกันได้ อย่างซอสถั่วเหลืองหากที่นี่ไม่มีขายนางจะทำขึ้นมาเองวัตถุดิบพอมีบ้างตามข้างทางที่นางเดินผ่านมา พอถึงร้านข้าวสารนางสั่งเพียงแค่กระสอบเดียว ข้าวกระสอบนึงเป็นเงินถึงห้าสิบตำลึงเงินทีเดียวถือว่าแพงมากๆอย่างที่คนขับเกวียนบอกมา นางเดินซื้อของใช้หลายอย่างที่จำเป็นทั้งผ้าหลายพับราคาถึงหนึ่งตำลึงทองนางดูถุงเงินแล้วยังพอมีเหลืออยู่ส่วนที่อยู่ในห่อผ้าที่พี่สือซว่านห่อมาให้คราแรกนางเข้าใจว่าเป็นเสื้อผ้าแต่ที่ไหนได้กลับเป็นตำลึงทองเกือบทั้งหมดผ้านางจำเป็นต้องซื้อก่อนมันใกล้จะหนาวแล้วเด็กๆมีเสื้อผ้าติดกายมาคนสองชุดเท่านั้นและเก่ามากแล้วส่วนมารดานางเห็นเพียงชุดติดกายเพียงชุดเดียวดีที่ป้าจางนางเอาชุดเก่าที่นางใส่ไม่ได้มาให้เปลี่ยนส่วนอาหารสดนั้นไม่มีขายนางเลยซื้อปลาเค็มมาห่อนึงกับธัญพืชตระกูลถั่วอีกนิดหน่อยส่วนเครื่องปรุงรสนางได้เพียงเกลือกับน้ำตาลปึกที่ทำจากน้ำอ้อยเท่านั้น ของบางอย่างถึงแม้จะมีคล้ายกับโลกเดิมแต่ราคาก็แพงจนนางไม่กล้าซื้อ ส่วนน้ำมันโชคดีที่มีมันหมูป่าตากแห้งอยู่กลับไปนางจะไปเจียวเอาน้ำมันมันออกมาใช้ ส่วนขนมฝากถิงเอ๋อนางซื้อน้ำตาลปั้นกับหมั่นโถวไปอย่างละสามก้อนแค่นี้ก็พอแล้ว ให้เด็กๆคนละอันส่วนอีกอันของมารดาสำหรับนางเพียงเห็นหมั่นโถวนางก็เบื่อแล้ว นางกลับมาถึงเรือนก็ปลายยามเว่ย(13.00-14.59)เข้าไปแล้วเกวียนมาจอดส่งนางถึงหน้าเรือนช่วยนางขนของลงจนหมดก่อนที่นางจะจ่ายค่าโดยสารคนละสามอิแป๊ะให้คนขับเกวียน นางเปิดประตูเรือนเข้าไปจากที่ก่อนนางจะไปทุกอย่างยังมีฝุ่นบ้างเพราะป้าจางให้คนมาทำอาทิตย์ละครั้งเท่านั้นตอนนี้ดูสะอาดสะอ้านพื้นเรือนเงาวับ นางมองหน้ามารดาเชิงถามว่าท่านทำรึก่อนได้คำตอบมารดาพยักพเยิดไปยังมุมห้องที่มีก้อนเล็กสองก้อนนอนกองกันอยู่โดยซือถิงใช้ท้องของเจ้าหมั่นโถวแทนหมอน ลมหายใจสม่ำเสมอทั้งคนทั้งสุนัขทำให้นางอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้ “เหนื่อยจนหลับไปเลยหรือสาวน้อย ท่านแม่ทานหมั่นโถวรอก่อนนะเจ้าคะเดี๋ยวข้าทำอาหารให้ทานเลยมื้อเที่ยงมานานแล้ว”นางว่าพลางยื่นห่อหมั่นโถวไปให้ \"เจ้าไม่ทานด้วยกันก่อนหรือ\"นางรับมาแล้วถามบุตรสาวกลับพร้อมรินน้ำเปล่าส่งให้นางดื่ม \"ท่านแม่ทานไปก่อนเถิดเจ้าคะเสี่ยวหู่ก็มาทานรองท้องไปก่อนเดี๋ยวแม่เข้าครัวทำข้าวต้มให้ทาน\"พอดีกับเจียงหู่ยกของเดินผ่านมา นางเลยเรียกบุตรชายให้มาทานหมั่นโถวก่อนแต่เด็กชายกลับปฎิเสธเพราะอยากช่วยงานมารดาให้เสร็จก่อน \"ท่านแม่ข้าจะไปก่อไฟรอขอรับ\"ว่าแล้วเจียงหู่ก็ยกของเดินผ่านนางไปด้านหลังเรือนส่วนเยียเซียงหันมาอุ้มเด็กน้อยที่หลับอุตุอยู่กับเจ้าหมั่นโถวเข้าไปนอนในห้องแทนโดยมีเจ้าหมั่นโถวเดินโซเซตามไปนอนด้วยคน จัดแจงคนนอนเรียบร้อยนางก็เข้าครัวตามเจียงหู่ที่ขนของเข้าไปก่อนนางแล้วกำลังก่อไฟรอนางอยู่ก่อนแล้ว วันนี้นางทำกับข้าวง่ายๆเพียงข้าวต้มกับปลาเค็มย่างไฟเพียงเท่านั้น แม้จะเป็นเพียงอาหารพื้นๆเพียงแต่เมื่อได้ทานพร้อมหน้าทุกคนในครอบครัวก็เป็นอาหารเลิศรสได้เช่นกัน เม้นคุยกันบ้างน้าาาถึงไม่ได้ตอบแต่โม่ก็อ่านทุกคอมเม้นนะคะ ทุกคอมเม้นคือกำลังใจของโม่คะ ตอนหน้าจะเริ่มเปิดตัวร้ายทีละตัวแล้วนะคะ ตอนนี้เรื่อยเอื่อยไปก่อนน้าาา
已经是最新一章了
加载中